บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1603 บำเหน็จอย่างงาม
บทที่ 1603 บำเหน็จอย่างงาม
อาภรณ์ประณีตสีแดงฉานนั้นดูเหมือนชุดแต่งงานอันงามวิจิตร เจิดจรัสจัดจ้านอย่างยิ่ง ทำให้ดูเหมือนอาภรณ์เจ้าสาวแต่งงานใหม่ ทว่าเมื่อมาอยู่บนกายจักรพรรดินีอวี้เชอ มันกลับทำให้นางยิ่งดูเย็นชา พาให้ผู้อื่นเพียงเห็นก็หนาวสะท้าน
ผลกระทบทางสายตาอย่างแรงกล้านี้ทำให้หัวใจฝูงชนสั่นสะท้าน ไม่มีผู้ใดกล้าสบตานาง
ในเอกภพมสิหิมมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับจักรพรรดินีอวี้เชอ นางมีการบ่มเพาะเกินประมาณ ที่มาลึกลับสุดขั้ว จนบัดนี้ยังไร้ผู้ใดได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงของนาง
เพราะนางสวมมงกุฎหงส์ ซ่อนใบหน้าในชั้นผ้าแดงเยี่ยงเจ้าสาวเตรียมออกเรือน ปกปิดรูปลักษณ์มิดชิด จึงดูลึกลับยิ่ง
ข่าวลืออันโด่งดังที่สุดคือ สาเหตุที่จักรพรรดินีอวี้เชอแต่งกายเช่นนี้เป็นเพราะนางกำลังรอคอยคู่บำเพ็ญเพียรอันเป็นที่รักมาแสนนาน รอวันที่เขาจะกลับมาปลดชั้นผ้าแดงคลุมใบหน้าของนางในสักวัน
แน่นอน นี่เป็นเพียงข่าวลือ มีเพียงตัวจักรพรรดินีอวี้เชอเองเท่านั้นที่ทราบสัจธรรม
ปักษาวายุทั้งสองส่งวจีกังวานชัด ลากรถม้าสำริดมาถึงอย่างแช่มช้า ร่อนลงในหมู่บ้านเมฆาวารี จากนั้นภายใต้สายตายำเกรงทุกคู่ จักรพรรดินีอวี้เชอก็ลุกขึ้นเดินลงจากรถม้า เข้าสู่โถงหลักในหมู่บ้าน
ผู้ติดตามซึ่งมารอที่นี่นานแล้วเปิดประตูโถงหลัก จากนั้นก็ต้อนรับจักรพรรดินีอวี้เชอเข้าไปอย่างนอบน้อมพินอบพิเทา
วูบ!
ขณะเดียวกัน หนึ่งคลื่นมิติก็บังเกิดขึ้นไกล ๆ ผู้คนมากมายซึ่งมีปราณยิ่งใหญ่ร้ายกาจปรากฏขึ้น และทันทีที่เผยโฉม พวกเขาก็สาวเท้าเดินมายังหมู่บ้านเมฆาวารีกันทันที
“แม่เจ้าโว้ย! นั่นมันผู้อาวุโสระดับสูงของนิกายศักดิ์สิทธิ์หยกนภา ผู้อาวุโสโม่จ้านนี่!”
“ผู้อาวุโสอี้เหวินจากตระกูลอี้ก็มา เขาเป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอันสร้างชื่อเสียงให้ตนมาเนิ่นนาน ไม่ปรากฏตัวมาเกินนับปีแล้ว”
“ดูนั่นเร็ว! นั่นมันประมุขอารามเต๋าสัจวิญญาณ เสวียนซงจื่อ!”
“นิกายกระบี่วิถีราชา คนเถื่อนจากผาเมฆา นิกายศักดิ์สิทธิ์ทุคตินีลโลหิตก็มา….”
ผู้คนในหมู่บ้านกระสับกระส่าย เอ็ดอึงกันขึ้นทันที พวกเขาเพิ่งสังเกตยามนี้เองว่ามีกลุ่มตัวตนยิ่งใหญ่ติดตามมาด้วย
ขณะนี้ เฉินซีก็อดขมวดคิ้วมิได้เช่นกัน เขาสังเกตเห็นแล้วว่าปราณของตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ส่วนใหญ่หนักแน่นเกินเข้าใจ เต็มไปด้วยบรรยากาศการคืนสู่รากเหง้า พวกเขาทั้งหมดต่างเป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอันเรืองอำนาจ!
เหลือเชื่อนัก เพียงหนึ่งงานใหญ่ซึ่งจัดไว้ให้เทวารู้แจ้งโลกากลับนำบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลมาเข้าร่วมด้วยตนเองได้มากมาย ทั้งหมดนี้คงเป็นเพราะจักรพรรดินีอวี้เชอ… เฉินซีเหมือนจมในภวังค์ความคิด สำหรับเขา จักรพรรดินีอวี้เชอยิ่งให้ความรู้สึกลึกลับไปใหญ่
“ทุกท่าน จักรพรรดินีเชิญพบ” ขณะเดียวกัน ชายชราชุดเทาคนหนึ่งเดินออกมาจากในโถง กวาดมองคนทั้งหลายด้วยสายตา ก่อนจะพูดขึ้นเสียงเรียบ
คนทั้งหมดเผยสีหน้าเคร่งขรึม ตามชายชราเข้าไปในโถงกันทันที
…
โถงแห่งนี้ยิ่งใหญ่กว้างขวางอย่างยิ่ง เสาศิลาค้ำเพดาน ขณะที่บนอากาศปกคลุมด้วยหมอกศักดิ์สิทธิ์พร่ามัวอันขดม้วนเหนือนภา
จักรพรรดินีอวี้เชอนั่งลำพังบนบัลลังก์เจ้าภาพ ให้บรรยากาศสูงส่งเหนือใคร เจือด้วยความลึกลับของนาง
ตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายนั่งลงตามกันทางซ้ายขวาของนาง ต่างคนล้วนมีบรรยากาศกล้าแกร่ง หากคนธรรมดามาอยู่ที่นี่ คนผู้นั้นคงตื่นกลัวจนแทบสลบไปแล้ว
เมื่อเฉินซีและเถี่ยอวิ๋นผิงเข้ามาถึงโถง นี่ก็คือสิ่งที่พวกเขาเห็น
“ถวายบังคมจักรพรรดินี!” เหล่าผู้เข้าร่วมชุมนุมประสานกำปั้นก้มหัวคารวะ
จักรพรรดินีอวี้เชอเบนสายตาอันกระจ่างใสเช่นริ้วธารมองมา พริบตานั้น ดุจหนึ่งเทพีอันยืนตระหง่านท่ามกลางธารนทีแห่งกาลเวลาฟื้นตื่นจากนิทรา บรรยากาศเคร่งขรึมน่าสะพรึงกลัวปกคลุมทั่วโถงทันใด
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก” จักรพรรดินีอวี้เชอพูดด้วยน้ำเสียงกังวานอันเย็นเยียบดุจสายนที ทุกถ้อยคำซอกซอนถึงหัวใจ ทำให้คนทั้งหลายอดรู้สึกยำเกรงไม่ได้ “อวิ๋นชิงประกาศกฎ”
ชายชราชุดเทาข้างกายนางประสานกำปั้นรับบัญชา จากนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึม กวาดสายตามองเหล่าผู้เข้าร่วมชุมนุมในโถง และกล่าวว่า “ชุมนุมล่าดาราครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นในกลุ่มดาวถาวอู้ และกฎก็เหมือนครั้งก่อน ๆ กำหนดเวลาสามเดือน ยิ่งฆ่าเหยื่อได้มาก ผลงานในตอนท้ายยิ่งโดดเด่น”
“ระหว่างการล่า ผู้นำแต่ละกลุ่มห้ามช่วยเหลือศิษย์ตนล่าเหยื่อ และผู้ฝ่าฝืนกฎจะถูกตัดสิทธิ์ทันที” เขาเว้นช่วงเล็กน้อย จึงพูดต่อ “สิ่งที่แตกต่างจากอดีตคือ รางวัลในชุมนุมล่าดาราหนนี้เลิศล้ำกว่าครั้งใด ผู้ใดอยู่ได้จนจบและติดอยู่ในร้อยอันดับแรก จะได้รับรางวัลเป็นโอสถทวิวิญญาณที่สร้างโดยปรมาจารย์ชิงจากเอกภพจักรวรรดิ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ขวัญกำลังใจของผู้เข้าร่วมมากมายก็ลุกโหม แม้จะทราบอยู่แล้วว่ามีรางวัลเช่นนี้อยู่ แต่พวกเขาก็ยังอดรู้สึกโหยหามิได้ยามได้ยินกับสองหู
มันคือโอสถทิพย์ซึ่งสร้างโดยผู้เลิศล้ำสูงสุดในเต๋าแห่งโอสถจากเอกภพจักรวรรดิ ปรมาจารย์ชิง กล่าวได้ว่ามูลค่าไม่อาจประเมินได้!
“ผู้เข้าร่วมที่ได้สามอันดับแรก ยิ่งได้บำเหน็จอย่างงามเพิ่มเติม” ชายชราชุดเทากล่าวต่อ
“ผู้เข้าร่วมซึ่งได้อันดับสาม จะได้รับชิ้นส่วนแผนภาพลับอันมีมูลค่าเกินประมาณ และต้องอาศัยความสามารถตนเพื่อหาว่ามันคือสิ่งใดกันแน่”
ชิ้นส่วนแผนภาพลับ!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าผู้เข้าร่วมก็กระสับกระส่ายกันอีกครั้ง ตัวตนยิ่งใหญ่บางคนยังผงะไปเล็กน้อย เพราะจนบัดนี้ พวกเขาก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่าลำดับสามจะได้รับรางวัลเป็นชิ้นส่วนแผนภาพลับ
มันเป็นแผนภาพเช่นไรกันแน่? ซ่อนปริศนาใดเอาไว้? เป็นโอกาสหรือไม่? หรือจะเป็นแผนที่สมบัติ?
ความใคร่รู้ของพวกเขาทั้งมวลถูกกระตุ้นโดยพลัน ยิ่งรู้สึกลุ้นรอไปใหญ่
“ผู้เข้าร่วมซึ่งได้ลำดับสองจะได้สมบัติวิญญาณธรรมชาติหนึ่งชิ้น ซึ่งก็คือกุหลาบโลหิตอันเบ่งบานจากในความโกลาหลแห่งเอกภพมสิหิม อำนาจของมันเกินคะเน ซ่อนเคล็ดปริศนามากมาย เป็นสมบัติที่จักรพรรดินีอวี้เชอบังเอิญได้มาในซากปรักหักพังแห่งความโกลาหลแห่งหนึ่ง”
กล่าวได้ว่าชายชราชุดเทาเหวี่ยงระเบิดอีกลูกเข้าไปในฝูงชน ทำให้คนมากมายหายใจถี่กระชั้น
สมบัติวิญญาณธรรมชาติ!
แค่ได้ยินคำนี้ลำพังก็เพียงพอให้รู้ได้แล้วว่ามันล้ำค่าเกินธรรมดาเพียงไร เพราะสมบัติเช่นนี้ไม่อาจสร้างขึ้นเองได้เลย มีแต่ต้องเกิดขึ้นเองจากในความโกลาหลเท่านั้น ในสามพันดาราจักรทั่วเอกภพมสิหิมมีผู้บ่มเพาะมากมาย แต่มีเพียงกองกำลังสูงสุดเท่านั้นที่จะมีสมบัติวิญญาณธรรมชาติ
ทว่ายามนี้ จักรพรรดินีอวี้เชอกลับนำสมบัติวิญญาณธรรมชาติชิ้นหนึ่งมาเป็นรางวัลในชุมนุมล่าดาราครั้งนี้ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง
ณ จุดนี้ ความสนใจของฝูงชนถูกกระตุ้นเต็มที่ ยิ่งอยากรู้ไปใหญ่ว่ารางวัลอันดับที่หนึ่งเป็นเช่นไร
ชายชราชุดเทาไม่ได้ปิดบัง เขาพูดตรง ๆ “ผู้เข้าร่วมอันดับหนึ่งในครั้งนี้ จะสามารถรับการชี้แนะจากจักรพรรดินีได้”
มันเป็นประโยคสุดเรียบง่าย พูดออกมาอย่างเรียบเฉย ทว่ายามกระทบโสต มันกลับทำให้หัวใจของคนเหล่านั้นกระตุกเต้นรัว ดวงตาเผยเค้าโหยหาอย่างช่วยไม่ได้!
รางวัลนี้ไม่ใช่สิ่งของใด ๆ มันเป็นเพียงรางวัลการชี้แนะ หากเป็นผู้มองการณ์ใกล้ คนผู้นั้นต้องรู้สึกงุนงงระคนผิดหวังแน่แท้
แต่ตัวตนยิ่งใหญ่และเหล่าศิษย์จากกองกำลังใหญ่เหล่านี้ต่างตระหนักชัด ว่าโอกาสเช่นนี้ล้ำค่าหายากเพียงไร มันเลิศล้ำเหนือกว่าสมบัติวิญญาณธรรมชาติไปไกลนัก!
เพราะนี่คือการชี้แนะจากจักรพรรดินีอวี้เชอ และจักรพรรดินีอวี้เชอก็เป็นผู้นำของทั้งเอกภพมสิหิม!
หากพวกเขาได้รับคำชี้แนะจากนาง แม้จะมิใช่ศิษย์อาจารย์กันในนาม แต่พวกเขาก็ยังมีสัมพันธ์เป็นศิษย์อาจารย์กัน แค่นี้ลำพังก็ทำให้ผู้คนทั่วเอกภพมสิหิมไม่กล้าล่วงเกินประเมินต่ำแล้ว
สิ่งนี้น่ากลัวยิ่งกว่าอำนาจจากสมบัติวิญญาณธรรมชาติสักชิ้นอีก เพราะแม้สมบัติวิญญาณธรรมชาติจะร้ายกาจ แต่สุดท้ายมันก็เป็นเพียงวัตถุ ขณะที่ความสัมพันธ์นี้แตกต่าง มันหมายความว่า ขอเพียงยังอยู่ในเอกภพมสิหิม ก็จะไร้ผู้ใดกล้าล่วงเกินคนผู้นี้ เพราะมันเทียบเท่ากับล่วงเกินจักรพรรดินีอวี้เชอ!
ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดบ้างจะกล้าก่อกวน?
โดยเฉพาะเหล่าตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลาย พวกเขาต่างตระหนักชัดเจนว่าหากศิษย์จากนิกายตนได้โอกาสนี้ กองกำลังของพวกเขาก็จะได้ประโยชน์มหาศาลเช่นกัน
ดังนั้นในขณะนี้ สภาพจิตใจของทุกคนจึงไม่ค่อยสงบนัก มิคาดคิดเลยว่าจักรพรรดินีอวี้เชอจะปูนบำเหน็จอันไม่อาจปฏิเสธเช่นนี้ หากรู้แต่แรก พวกเขาคงยิ่งเตรียมตัวเหล่าศิษย์ของตนมาให้พรั่งพร้อมก่อนเข้าร่วมชุมนุมล่าดารากว่านี้แล้ว
ในหมู่ผู้คนทั้งหลายรายล้อม มีเพียงเฉินซีที่ดูสงบยิ่ง เขาย่อมหวังว่าเถี่ยอวิ๋นผิงจะได้อันดับแรกมาครอง เพราะหากทำเช่นนี้ เขาก็จะฉวยโอกาสถามจักรพรรดินีอวี้เชอถึงเขาเทพพยากรณ์และตำหนักเต๋าหนี่หวาได้
ส่วนจะสามารถพึ่งใบบุญจักรพรรดินีอวี้เชอเลี่ยงปัญหาในเอกภพมสิหิมได้หรือไม่ เฉินซีไม่อาจสนใจพินิจมันได้
ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ใช่คนของเอกภพมสิหิม ไม่ช้าก็เร็วต้องจากไป ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเฉยชาต่อมัน
หลังประกาศกฎเสร็จสิ้น ชายชุดเทาก็ถอยไปยืนข้างจักรพรรดินีอวี้เชอทันที
“ข้าถือว่าพวกเจ้าทั้งหลายตระหนักถึงกฎและรางวัลกันชัดเจนแล้ว เช่นนั้น ก็ตามข้ามา” ว่าพลาง จักรพรรดินีอวี้เชอก็ลุกขึ้น อาภรณ์แดงพลิ้วไสว เดินออกไปนอกโถงอย่างรวดเร็ว
วู้ม!
ใต้ท้องนภา กุหลาบแดงดุจโลหิตอันจรัสงามยิ่งลอยขึ้นจากบนมือของจักรพรรดินีอวี้เชอ แปรเปลี่ยนเป็นบุปผางามกระจ่าง พาฝูงชนรอบทิศทะยานขึ้นสู่นภา ไปยังจักรวาลพร่างดาวอย่างรวดเร็ว
เมื่อยืนอยู่ที่นั่น พวกเขาก็สามารถเห็นกลุ่มดาวถาวอู้ได้อย่างครบถ้วน มันเต็มไปด้วยหมู่ดาราหนาแน่น โอฬารใหญ่ดุจมหาสมุทร
“อวิ๋นชิง แจกแผ่นเทวะให้พวกเขาด้วย” จักรพรรดินีอวี้เชอสั่งการ ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ
ขวับ!
ทางเชื่อมอันยาวไกลก่อตัวขึ้นบนจักรวาลพร่างดาวอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนหลุมดำที่ทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นปลายทาง
ขณะเดียวกัน ชายชราชุดเทาก็แจกจ่ายแผ่นหยกสีทองมากมายให้เหล่าผู้เข้าร่วมชุมนุมล่าดารา
แผ่นหยกสีทองเหล่านั้นคือแผ่นเทวะ สลักพลังศักดิ์สิทธิ์อันทรงอำนาจสายหนึ่งไว้ภายใน ยามผู้เข้าร่วมชุมนุมล่าดาราเผชิญอันตรายถึงตาย มันจะระเบิดเป็นเสี่ยง เคลื่อนย้ายช่วยชีวิตผู้เข้าร่วมคนนั้นออกไปทันที
สิ่งนี้น่าสนใจเอาการ เฉินซีพินิจแผ่นเทวะในมือตน สังเกตเห็นชัดเจนว่ามันสลักอำนาจลึกลับเกินเข้าใจไว้มากมาย ห่างไกลเกินกว่าสิ่งที่ตัวเขาตอนนี้จะทำความเข้าใจได้
“เอาละ พาผู้นำกลุ่มและทาสเทพของพวกเจ้าเข้าทางเชื่อมนี่ได้แล้ว อีกฝั่งของมันคือพื้นที่ล่าของพวกเจ้าในครานี้” จักรพรรดินีอวี้เชอกวาดสายตามองเหล่าผู้เข้าร่วม ก่อนจะชี้ทางเชื่อมอันยาวไกลในจักรวาลพร่างดาว เอ่ยปากช้าชัด
โฮก!
เพิ่งสิ้นคำ เสียงคำรามของอสูรร้ายก็กึกก้องเช่นอัสนี เลื่อนลั่นในจักรวาล หลังจากนั้น กระทิงเพลิงตัวหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่ดุจขุนเขาก็สาวเท้าอันมีเปลวเพลิงลุกไหม้เบื้องใต้เข้ามา มันสง่าโดดเด่น เต็มไปด้วยบรรยากาศกดดันยิ่งใหญ่
…………….