บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1672 สองต่อหนึ่ง
บทที่ 1672 สองต่อหนึ่ง
………………..
บทที่ 1672 สองต่อหนึ่ง
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวก็ทำให้เยว่หรูฮวาและคนอื่น ๆ โกรธขึ้นมาได้แล้ว
“ไอ้บัดซบ! คิดว่าเป็นคนโปรดของคุณหนูเยียนหรานแล้วจะจองหองได้อย่างนั้นหรือ? คุกเข่าลงเสีย!” ผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่งตะโกนขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้ามาออกหมัดใส่เฉินซี
ชายคนนั้นอยู่ในชุดสง่างาม ท่าทีเย่อหยิ่ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความศักดิ์สิทธิ์ทั่วร่าง ดูไม่ธรรมดายิ่ง เขาก็คือเลี่ยวคงจากตระกูลเลี่ยวแห่งเอกภพจักรวรรดิ
ครืน!
เมื่อท่าฝ่ามือนี้ประทับลงมา กระแสแสงทองศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากก็พุ่งออกมาอย่างรุนแรง เหมือนมังกรทองแหวกห้วงอากาศมาด้วยแรงพลังกล้าแข็ง
“เจ้าโง่!” ตอนนี้กระทั่งเถาตงที่มีอคติกับเฉินซียังด่าออกมา เจ้ากล้าอวดดีต่อหน้าเฉินซีทั้งที่มีฝีมืออยู่เท่านั้นเนี่ยนะ?
เวยจื่อฝูส่ายหน้าหัวเราะเยาะเย้ยไม่หยุด
เห็นเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้เยว่หรูฮวาและคนอื่นชะงักไป
หลังจากนั้น พวกเขาก็เห็นชายหนุ่มมาถึงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เฉินซีทำเพียงสะบัดแขนเสื้อ กระแสพลังที่มองไม่เห็นก็พุ่งออกมา ดีดร่างอีกฝ่ายลอยกระเด็นไป อีกทั้งยังร้องเสียงแหลมร่างกระแทกลงบนพื้นอย่างหมดมาด เลือดออกทั้งปากทั้งจมูก ตัวกระตุก เหมือนเป็นโรคลมชักอย่างไรก็อย่างนั้น
เยว่หรูฮวา จินชิงหยาง และคนอื่น ๆ เบิกตาด้วยความตกใจ ไม่คิดเลยว่าเลี่ยวคงจะอ่อนแอกว่าเฉินซีเช่นนี้!
อย่างไรเลี่ยวคงก็เป็นเทวารู้แจ้งวิญญาณขั้นสูงสุดในกลุ่มพวกเขา คนธรรมดาเทียบไม่ติดเลยทีเดียว
แต่ตอนนี้กลับถูกอัดเละอยู่กับพื้นจนบาดเจ็บหนัก ยืนไม่ขึ้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!
ก็หมายความว่าเฉินซีมีพลังต่อสู้ไม่ธรรมดา จนเลี่ยวคงไม่อาจเทียบได้เลยงั้นหรือ?
“โง่เง่า” เฉินซีอดส่ายหัวไม่ได้ จากนั้นก็ไม่สนใจเลี่ยวคงอีก
เยว่หรูฮวากวาดสายตามองมาดั่งสายฟ้าฟาด จากนั้นก็โบกมือกล่าวกับคนข้างกาย “พวกเจ้าทุกคนโจมตีพร้อมกัน ดูหน่อยว่าเด็กนี่จะแกร่งสักแค่ไหนเชียว”
ฟึบ! ฟึบ! ฟึบ!
กลุ่มเยว่หรูฮวามีคนกว่าสิบ พอได้ยินดังนี้พวกเขาก็เข้ามากดดันเฉินซีจากทุกทิศทางทันที
ใบหน้าพวกเขาแฝงแววสังหารเคร่งขรึม พากันโคจรพลังจนร่างส่องแสงคล้ายกับเป็นเทพลงมาจุติ เผยกลิ่นอายดุดันน่าเกรงขาม
ดังนั้นเมื่อเริ่มลงมือ ทุกคนจึงใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์และวิชามากมายออกมาทันที!
ครืน! ครืน!
ฟ้าดินร้องลั่น สายฟ้าร้องครืน พลังเหล่านั้นทำลายห้วงอากาศ ทิวทัศน์โดยรอบ แปรเปลี่ยนให้อาณาเขตนั้นกลายเป็นวังวนแห่งการทำลายล้าง
เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีกระแสกฎแห่งเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ลั่นครืนอยู่ในฟ้าดิน เกิดเป็นปรากฏการณ์น่าผวาหลากหลายอย่าง มีทั้งภาพเทพอสูรคลั่ง เสียงทำนองเต๋าร้องระงม และเลือดทวยเทพโปรยลงมา
นี่คือกลิ่นอายอันน่าดุดันของเทวารู้แจ้งวิญญาณชั้นยอดเหล่านี้ หากอยู่ในโลกภายนอก การโจมตีผสานเมื่อครู่คงทำลายล้างดาราได้ทั้งดวง เกิดความวิบัติขึ้นทั่วโลกาได้
มันเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวยิ่ง ถึงกับทำให้สีหน้าเถาตงกับเวยจื่อฝูเปลี่ยนไปทันที รู้สึกหายใจไม่เต็มปอด
เยว่หรูฮวากับจินชิงหยางเหลือบมองกัน จากนั้นก็พยักหน้า เป็นไปได้ว่าแม้จะเป็นพลังขนาดนี้ก็อาจยังทำอะไรเด็กนั้นไม่ได้หรอก
……
ตอนนี้เฉินซียังคงสีหน้าสุขุมไว้ดังเดิม มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเร่าร้อน แทบจะจุดเพลิงโหมขึ้นฟ้าได้แล้ว!
“หากยังไม่ยอมแพ้ เช่นนั้นก็ต้องแลกด้วยชีวิต….” เมื่อเห็นอีกฝ่ายโจมตีเต็มกำลัง เฉินซีก็เอ่ยคำเสียงเบา จากนั้นประทับฝ่ามือลงบนห้วงอากาศด้านหน้า
ฟ่าว!
กระแสปราณกระบี่จำนวนมากพุ่งออกมาจากร่างอย่างรุนแรง พวกมันเกิดมาจากกระแสยันต์ แต่ละยันต์มีพลังดวงใจอยู่ ตอนนี้มันพากันพุ่งออกมาจากร่าง เห็นเหมือนฝนปราณกระบี่กำลังโปรยลงจากฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
พริบตาเดียวรอบข้างเฉินซีก็ถูกฉีกกระชากจนแทบล่มสลาย กระแสปราณกระบี่กระจายตัวออกรอบทิศ
วิ้ง~ วิ้ง~ วิ้ง~
ราวกับว่าฟ้าดินกำลังร้องเสียงโหยหวน กระแสปราณกระบี่จำนวนมากลอยอยู่กลางอากาศ บีบให้ฟ้าดินตกอยู่ในความโกลาหล พร้อมทำลายทุกสิ่งอย่างทุกตัวตน
มันคืออำนาจกระบี่ดวงใจลี้ลับ!
อีกทั้งอำนาจอันน่าเกรงขามนี้ยังเป็นอำนาจของผู้อยู่ขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ขั้นแรกอีกด้วย!
ตอนนี้มันปรากฏตัวขึ้นแล้ว ภาพปรากฏการณ์น่าเกรงขามทั้งหลายทำให้เยว่หรูฮวากับจินชิงหยางตกตะลึง เบิกตามองร้องออกมาไม่ทันรู้ตัว “เวรแล้ว!”
กระแสปราณกระบี่พุ่งออกมารอบทิศ บดขยี้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นแล้วชิ้นเล่า ทำลายวิชามากมายหลายอย่างจนสิ้น เสียงการปะทะกันเหมือนตะวันปะทะจันทรา สั่นสะท้านไปทั่วทั้งโลกาจนปวดแก้วหู
อั่ก! อั่ก! อั่ก!
ได้ยินเสียงร้องลั่นดังขึ้น หากไม่ถูกปราณกระบี่แยกร่างก็ถูกบั่นศีรษะ ถูกกระแสปราณกระบี่ฟันร่างจนไม่มีชิ้นดี…. และไม่มีใครรอดไปสักคน!
เสียงร้องแหลม
เสียงร้องโหยหวน
เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวก่อนสิ้นใจ
เสียงทั้งหลายตามมาด้วยหยาดเลือดทวยเทพที่โปรยลงมา พร้อมกับซากร่างกระจัดกระจายทั่วฟ้าดิน
เป็นเหมือนภาพแห่งแดนชำระล้างปรากฏขึ้นอีกครั้ง เป็นภาพนองเลือดยิ่งกว่าภาพไหน
ในพริบตาเดียว การต่อสู้ก็จบลง ผู้เยี่ยมยุทธ์พวกนั้นสิ้นใจไม่เหลือแม้สักคนเดียว!
หรืออาจเรียกได้ว่านี่ไม่ใช่การต่อสู้ด้วยซ้ำ แต่เป็นการฆ่าสังหารต่างหาก!
แม้ไม่ใช้ยันต์ศัสตรา แต่คนพวกนี้ไม่ใช่มหาเทวาวิญญาณด้วยซ้ำ อย่างไรก็เทียบเขาไม่ติดอยู่แล้ว
……
เถาตงกับเวยจื่อฝูอ้าปากค้าง ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าเฉินซีแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ยังอดรู้สึกตกใจไม่ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์นองเลือดเช่นนี้
เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าคนผู้นี้ที่เก็บตัวเงียบมีท่าทีสงบเสงี่ยมมาตลอดจะสังหารคนได้เช่นนี้ ทั้งยังโหดเหี้ยมไร้ความปรานีอีกต่างหาก!
พร้อมกันนั้นนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเฉินซีลงมือฆ่าโดยไม่ยั้งมือ จึงทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบความคิดของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
ในอดีต ถึงเป็นตอนเฉินซีต่อสู้กับอวี๋ชิวจิง ก็ยังไม่นองเลือดเท่านี้ เพราะนั่นแค่ประลองฝีมือ… แต่นี่คือการต่อสู้จริง!
นั่นหมายความว่าคนผู้นี้ฝึกฝนฝีมือผ่านกองเลือดและซากศพมานับไม่ถ้วน! เมื่อเถาตงนึกได้ว่าตนเองไปล่วงเกินเฉินซีไว้ก่อนหน้านี้ ใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันที
……
เยว่หรูฮวากับจินชิงหยางเปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึม
พวกเขารีบมาแล้ว ทว่าตอนนี้ก็เหลือเพียงพวกเขาสองคนและเลี่ยวคงซึ่งบาดเจ็บหนักจนลุกไม่ขึ้น!
ตอนนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าสบประมาทเด็กตรงหน้ามากเกินไป เดิมทีคิดว่าเห็นไม่มีชื่ออยู่บนเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ คงไม่ต้องกลัวอะไรมาก
สภาพความจริงตรงหน้าทำให้พวกเขาอึ้งตะลึงไป จนรับรู้ความจริงขึ้นมา อีกทั้งยังเกิดความสงสัยต่อเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณขึ้นมาอีกด้วย
เพราะหากเด็กตรงหน้าไม่ใช่มหาเทวาวิญญาณ และไม่สามารถขึ้นอันดับเทวารู้แจ้งวิญญาณได้จริง ใครเชื่อก็บ้าแล้ว!
“ไม่ว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์อย่างไรกับเชินถูเยียนหราน แต่ครั้งนี้….” เยว่หรูฮวาสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้ากลายเป็นเย็นชา เอ่ยย้ำคำออกมาเสียงเข้ม “ไม่มีใครช่วยเจ้าได้แล้ว!”
ตู้ม!
จันทราสีเลือดสองดวงพลันพุ่งออกมาจากดวงตา มันกลมเกลี้ยง ใสกระจ่าง ปลดปล่อยแสงเรืองสีแดงจนย้อมท้องฟ้าให้กลายเป็นสีเลือด มองแล้วเป็นภาพน่ากลัวยิ่ง
เคร้ง!
เฉินซีหรี่ตาลง เขาไม่ลังเล เงื้อยันต์ศัสตราซัดออกไปทันที
เพราะกลิ่นอายของมันแปลกประหลาดยิ่ง ดวงหนึ่งเป็นหยิน อีกดวงเป็นหยาง ภายในเหมือนมีโลกเป็นของตัวเองอยู่ ทั้งยังดูทรงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง
ตู้ม!
ยันต์ศัสตราเรืองแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาก่อนเข้าปะทะกับสองจันทราเลือด
“ตายเสีย!” ทันใดนั้น เพลิงสว่างโชติช่วงก็เข้าโจมตีเฉินซีจากด้านข้าง เผาพื้นที่ทุกสิ่งอย่างขณะมุ่งเข้าหาเฉินซี
เป็นจินชิงหยาง เขาใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์นามว่าผ้าคลุมมังกรเพลิง เป็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติ สามารถใช้ ‘เพลิงมังกรวิบัติ’ ได้ อำนาจของเพลิงเหล่านี้ดุดันเป็นอย่างยิ่ง
ฟึบ!
เฉินซีแวบร่างหายไป พร้อมกับฟาดฟันยันต์ศัสตราออกมา
ตู้ม!
ปราณกระบี่จากยันต์ศัสตราซัดลงใส่เพลิงจนแยกออก เกิดสะเก็ดไฟกระจายออกรอบข้าง
“หึ! ยังพยายามอย่างไร้ประโยชน์อยู่อีกหรือ!?” เยว่หรูฮวาโจมตีจากด้านข้างอีกครั้ง
เฉินซีถูกการโจมตีขนาบจากสองมหาเทวาวิญญาณ สามคนเข้าต่อสู้พัวพัน ตั้งแต่บนผืนดินจนถึงบนฟ้า เปลี่ยนพื้นที่กว่าแสนลี้ให้กลายเป็นสมรภูมิ สะเทือนเลือนลั่นจนฟ้าดินหมดแสง ฝุ่นดินคลุ้งตลบ ตะวันจันทราหม่นแสงลงกันทีเดียว
การต่อสู้เช่นนี้เทียบได้กับการต่อสู้ของทวยเทพเมื่อครั้งบรรพกาล ทุกท่วงท่ามีอำนาจทำลายฟ้าดิน เหตุการณ์นี้ทำให้เถาตงกับเวยจื่อฝูใจสั่นจนไม่อาจระงับอารมณ์ลงได้
นี่คือศึกของมหาเทวาวิญญาณ และยังเป็นการต่อสู้ของขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณชั้นยอดด้วย นับว่าหาชมได้ยากยิ่ง
อีกทั้งเหตุการณ์ตรงหน้านี้ยังเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ได้ยาก เพราะหนึ่งมหาเทวาวิญญาณกำลังปะทะสองมหาเทวาวิญญาณไปพร้อมกัน นับว่าไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในแดนเทพโบราณ
ตู้ม!
บนฟากฟ้า ผ้าคลุมมังกรเพลิงของจินชิงหยางปกคลุมลงมา พร้อมกับปล่อยเพลิงศักดิ์สิทธิ์คลั่งออกมาด้วย เพลิงมังกรลุกโชติช่วงไปถึงสวรรค์ทั้งเก้า เหมือนเป็นเทพแห่งเปลวเพลิงก็มิปาน
เหมือนรอบกายกลายเป็นแดนเพลิงชำระไปเสียแล้ว
ฟ่าว!
แต่พริบตานั้น เฉินซีก็ใช้ท่ากระบี่หนึ่งออกมา ฟันลงกลางทะเลเพลิงนั่นจนมันสลายไป แรงกระแทกส่งผลให้จินชิงหยางถอยไปหลายสิบก้าว เลือดในกายโคจรผิดแผกไป
“คนพูดนี้สามารถติดยี่สิบอันดับแรกบนเทียบอันดับรู้แจ้งงิญญาณได้เลย!” จินชิงหยางทั้งโกรธทั้งตกตะลึง ยิ่งระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม
ไม่นานเฉินซีก็ถูกเยว่หรูฮวาบีบคั้นให้ถอยร่น นั่นก็เพราะจันทราสีเลือดของเยว่หรูฮวาเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่ง เหมือนจะเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็เหมือนเป็นวิชาเช่นกัน มันมีพลังไม่ธรรมดาแฝงอยู่ อีกทั้งจันทราสองดวงยังทำงานสอดประสานกันอยู่ไกล ๆ ทำให้เขาเสียเปรียบอยู่บ้างเพราะเผอเรอเพียงชั่วครู่
“หึ!” เฉินซีมีสีหน้าเย็นชา รู้สึกโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว ชายหนุ่มย่ำเท้าผ่านโลกาพร้อมยันต์ศัสตราที่ปลดปล่อยแสงจ้า แล้วซัดกระแสปราณกระบี่อันเหี้ยมโหดออกมา
ทลายเบญจธาตุ!
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวเยว่หรูฮวา จินชิงหยางก็โจมตีจากด้านข้างเข้ามาอีกครั้ง
“ไสหัวไป!” เฉินซียกมือซ้ายขึ้น เจตจำนงกระบี่อันทรงพลังแผ่ออกมาจากกลางฝ่ามือ แล้วซัดเข้าใส่จินชิงหยางอย่างรุนแรง
ครืน!
จินชิงหยางรู้สึกเหมือนถูกภูเขาซัดเข้าใส่ กระดูกทั่วร่างแทบแหลกจนหมด กระอักเลือดออกมาก่อนร่างลอยปลิวออกไป
แต่ก็เพราะการโจมตีที่ทำให้ไหล่ซ้ายของเฉินซีถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์เผาเนื้อและเลือดในกาย เผยให้เห็นแผลลึกถึงกระดูก!
………………..