บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1689 ภาพเหมือนของปราชญ์
บทที่ 1689 ภาพเหมือนของปราชญ์
โอม!
ระฆังวิเวกโลหิตศักดิ์สิทธิ์คร่ำครวญอย่างไม่มีสิ้นสุด และประกายแสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากมันก็จวนเจียนสลายหายไปแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เป่ยเหวินไม่กล้าปักใจเชื่อสายตาตนเอง และร้องโพล่งโดยไม่ตั้งใจ “จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดภายในประตูแห่งมหาเต๋าบานนี้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นสมบัติของข้าคงไม่อ่อนแรงเช่นนี้!”
นี่เป็นความจริง เพราะในขณะนี้ ไม่ใช่แค่ระฆังวิเวกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ที่สูญเสียประสิทธิภาพ แม้แต่หนอนวิญญาณรากบรรพชนที่อยู่ในการครอบครองของคุนอู๋ชิงก็เป็นเช่นเดียวกัน
สีหน้าของทุกคนกลายเป็นมืดมน ไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่
ทว่าพวกเขารู้ดีว่า หากสูญเสียการคุ้มครองของระฆังวิเวกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ และไม่มีหนอนวิญญาณรากบรรพชนคอยนำทาง พวกเขาจะต้องต้านทานจิตสังหารทั้งหมดบนถนนสายนี้ด้วยตัวเอง!
นี่คือถนนแห่งมหาเต๋า
ในกลุ่มของพวกเขามีทั้งหมดแปดคน และแต่ละคนมีมหาเต๋าที่แตกต่างกันมากมาย นั่นหมายความว่าในขณะที่อยู่บนถนนนี้ พวกเขาต้องเผชิญกับแรงกดดันจากมหาเต๋าทั้งหมดที่ทุกคนครอบครอง!
จากข้อมูลที่ได้รับมา ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ไม่มีผู้ใดสามารถพึ่งพาพละกำลังของตัวเองเพื่อเอาชนะถนนเส้นนี้ได้!
หากไม่เป็นเช่นนั้นรากเต๋าวิภูจักรวรรดิคงถูกยึดครองไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แล้วจะยังคงอยู่เพื่อให้พวกเขาถอนได้อย่างไร?
“เราควรทำอย่างไรดี?” ทั้งหมดต่างมองหน้ากันและกัน
“เก็บสมบัติของเจ้าไปก่อน จากนี้ไป… ข้าจะเป็นผู้นำ” ในขณะนี้ ลั่วฉ่าวหนงสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาเรียวยาวทอประกายเด็ดเดี่ยว ประหนึ่งตัดสินใจเป็นมั่นเหมาะ
คนอื่น ๆ ล้วนตกตะลึงกันถ้วนหน้า จากนั้นจึงเห็นลั่วฉ่าวหนงสืบเท้าก้าวไปข้างหน้าทันที และก้าวมายืนอยู่หน้ากลุ่ม ก่อนที่จะโบกแขนเสื้อวูบหนึ่ง
โอม!
หนังสัตว์ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่มันเปล่งประกายแสงเจิดจ้า จากนั้นเสียงสวดภาวนาและเสียงท่องพระคัมภีร์ก็ก้องออกมาจากมัน
หลังจากนั้น ภาพของสิ่งมีชีวิตมากมายก็ลอยขึ้นมาจากหนังสัตว์ ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าปลาบปลื้ม และคุกเข่าลงกับพื้นราวกับกำลังสักการบูชา
ในเวลาเดียวกัน ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สุกใสก็แผ่พุ่งออกมา กลายเป็นสายฝนที่โปรยปรายลงมา ทุกหยดที่ตกลงสู่พื้นได้กลายร่างเป็นแผ่นหน้ากระดาษของคัมภีร์เต๋า และคัมภีร์เหล่านี้ถูกจารึกด้วยอักษรโบราณที่คลุมเครือมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคำเหล่านี้เป็นเหมือนอัญมณีที่เปล่งประกายเจิดจ้า
หยดทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนได้ก่อตัวเป็นแผ่นหน้ากระดาษของคัมภีร์เต๋า และถ้อยคำโบราณมากมายเหลือคณานับ ชั่วขณะหนึ่ง ถ้อยคำต่าง ๆ ได้ลอยละล่องผ่านฟ้าดินอันกว้างใหญ่ ขณะที่เสียงท่องคัมภีร์และเสียงเทศน์ของปราชญ์โบราณดังก้องกังวาน
เหตุดังกล่าวสามารถอธิบายได้ว่า เป็นปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์อันสูงสุด ทำให้คนอื่นตกใจและไม่หวังสิ่งอื่นใดนอกจากนั่งขัดสมาธิฟังคำสอนนี้
“ภาพเหมือนของปราชญ์!?”
คนอื่น ๆ ล้วนตะลึงลาน และดูเหมือนจะไม่เชื่อกับสิ่งที่ตาเห็น นี่เป็นหนึ่งในสมบัติวิญญาณธรรมชาติที่ลึกลับที่สุดในเอกภพจักรวรรดิ เดิมทีมันเป็นหนังสัตว์ลึกลับที่ถือกำเนิดจากภายในความโกลาหล แต่หลังจากที่มันถูกขัดเกลาด้วยเคล็ดวิชาลับเทพโดยกำเนิดมากมาย มันหลอมรวมชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและแก่นโลหิตของปราชญ์ ทรงพลังถึงขั้นท้าทายสวรรค์!
ตามข่าวลือ บรรพบุรุษของตระกูลหลัวเมื่อในอดีตได้อาศัยสมบัตินี้เพื่อทำความเข้าใจเต๋า ส่งผลให้พวกเขาสามารถก่อตั้งตระกูลจนยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ไปชั่วนิรันดร์ ซึ่งยังตั้งตระหง่านอยู่ในเอกภพจักรวรรดิจวบจนทุกวันนี้
นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับพลังที่สมบัตินี้ครอบครอง แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ความสำเร็จและกองกำลังในปัจจุบันที่ถูกครอบครองโดยตระกูลหลัวแห่งเอกภพจักรวรรดินั้น มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับสมบัตินี้
บัดนี้ลั่วฉ่าวหนงได้นำสมบัติดังกล่าวติดตัวมาด้วยจริง ๆ และมันก็ทำให้คนอื่น ๆ ตกตะลึงทันที แต่หลังจากนั้น ความมั่นใจอันแข็งกล้าก็ทะลักจากใจของพวกเขา ทั้งยังรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ยามนี้เข้าใจแล้วว่า ลั่วฉ่าวหนงได้ตระเตรียมมาอย่างสมบูรณ์ แล้วเพื่อเดินทางข้ามเส้นทางนี้และได้รับรากเต๋าวิภูจักรวรรดินั้น
“ทุกคนไปกันเถอะ” ลั่วฉ่าวหนงยิ้มอย่างอดไม่ได้ ในขณะที่สัมผัสได้ถึงสายตาแปลก ๆ จากบริเวณโดยรอบ และเขาก็ออกคำสั่งอย่างสบาย ๆ ก่อนที่จะสืบเท้าก้าวไปข้างหน้า
ภาพเหมือนของปราชญ์เปล่งประกายแสงเจิดจ้า ทั้งยังหลั่งไหลด้วยหน้ากระดาษของคัมภีร์เต๋าและข้อความโบราณจำนวนมากมาย มันดังก้องกังวานด้วยเสียงของเทพที่สวดภาวนาและอ่านคัมภีร์
พลังที่มองไม่เห็นได้พัดพาออกไป และมันสลายแรงกดดันที่พุ่งออกมาจากถนนได้อย่างง่ายดาย ซึ่งน่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง
คนอื่น ๆ ล้วนรู้สึกตื่นเต้นอีกระลอกหนึ่งในใจเมื่อได้เห็นเหตุการณ์นี้ ที่มีภาพเหมือนปราชญ์อยู่เคียงข้าง แล้วไยต้องกังวลว่าจะไม่สามารถผ่านอุปสรรคนี้ไปได้?
……
ครืนนนนน!
ณ อีกบริเวณ เฉินซีนั่งขัดสมาธิในขณะที่ดวงแสงอันศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ได้ถ้วนผุดขึ้นมาจากร่างกาย และกลายเป็นอักขระยันต์ที่ลึกลับและพร่างพรายอย่างยิ่ง ซึ่งหมุนวนอยู่รอบตัวอย่างไม่มีสิ้นสุด
ท่าทางสงบ ในขณะที่ร่างกายถูกห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายดั้งเดิมของมหาเต๋าจากภายในสู่ภายนอก โดยที่หล่อเลี้ยงและขัดเกลารากฐานเต๋าอย่างไม่หยุดยั้ง
ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดนี้ ความเข้าใจต่อเต๋าศักดิ์สิทธิ์ได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน และดูเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
นี่คือพลังงานของมหาเต๋าที่อยู่ในรากบรรพชนโกลาหล มันเก่าแก่ ดั้งเดิม และใกล้เคียงกับกลิ่นอายของแก่นแท้มหาเต๋าอย่างไร้ขอบเขต
ทุกสรรพสิ่งล้วนมาจากแก่นแท้ของพลังเต๋าที่มาจากในความโกลาหล!
ภายในประตูแห่งมหาเต๋านั่น เป็นสถานที่ที่รากบรรพชนโกลาหลได้ถูกเหล่าเทพโดยกำเนิดในยุคหม่านกู่ปิดผนึกไว้ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าพลังงานของมหาเต๋าที่อยู่ภายในนั้นบริสุทธิ์ และเก่าแก่เพียงใด
บัดนี้ เนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดของกระบี่ราชาเซวียน มันทำให้เฉินซีบังเอิญได้รับโอกาสที่พลังแห่งมหาเต๋านี้ได้เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นความเข้าใจและการบ่มเพาะจึงได้รับประโยชน์อย่างมากจากมัน และดีขึ้นตามไปด้วย
ครืน!
พลังงานศักดิ์สิทธิ์พุ่งสูงขึ้นและไหลเวียนไปทั่วจักรวาลภายในร่างกายของเขา ในขณะที่เต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเขาเดือดพล่าน ทั้งยังถูกขัดเกลาและปรับปรุงอย่างไม่หยุดยั้ง กระบวนการทั้งหมดนี้ดำเนินต่อไปอีกหลายชั่วยาม
เมื่อเฉินซีลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าได้รับการสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด เส้นลมปราณและจุดชีพจรภายในร่างนั่นถูกปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ ในขณะที่กระดูกยังเปี่ยมประกายด้วยแสงสีทองสดใส และพวกมันแสดงปาฏิหาริย์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะเต๋าศักดิ์สิทธิ์ยันต์อักขระ แท้จริงแล้วอยู่ห่างจากขั้นต้นไปสู่ขั้นสูงเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น!
การบ่มเพาะในเต๋าศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งออกเป็นขั้นพื้นฐาน ขั้นต้น ขั้นสูง ขั้นสูงสุด และขั้นสมบูรณ์ การบรรลุไปสู่แต่ละขั้นนั่นเป็นเรื่องยากและคลุมเครือมาก ซึ่งเทียบได้กับความยากลำบากสำหรับคนธรรมดาที่จะขึ้นสู่สวรรค์
ทว่ายามนี้ เฉินซีกลับบรรลุความเข้าใจในเต๋าศักดิ์สิทธิ์อย่างถ่องแท้ ในขณะที่มีการบ่มเพาะที่ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณขั้นสมบูรณ์ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สะท้านโลกาแล้ว
ไม่ว่าพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเทวารู้แจ้งวิญญาณจะโดดเด่นเพียงใด ก็ไม่มีทางที่จะทำสิ่งนี้ให้สำเร็จได้ หากไร้วาสนาเสริมส่ง
ไม่นึกเลย ข้าจะได้โชคลาภก้อนโตจากความโชคร้าย ในระหว่างฝ่าบททดสอบนี้ และมันทำให้ความแข็งแกร่งของข้าพัฒนาขึ้นอย่างมาก… เฉินซีสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในพลังของตน และอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจ
แต่กระนั้น เขาทราบแน่ชัดว่าทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับ ‘เซวียน’ อย่างแน่นอน หากเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกระบี่ราชาเซวียน เฉินซีก็คงไม่สามารถประสบกับโชคลาภเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน
ไม่ต้องกล่าวถึงว่าสถานที่แห่งนี้… เคยเป็นที่พำนักของเซวียน ทั้งยังเป็นที่บ่มเพาะในอดีต!
เฉินซีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนลุกขึ้นยืนและก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง
ไม่เหมือนที่ผ่านมา แม้เขายังต้องฝืนทนต่อแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวจากโดยรอบอยู่ตลอดเวลา แต่เฉินซีก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป
ชายหนุ่มรู้สึกชัดเจนว่า หลังจากที่ถูกขัดเกลาและสร้างตัวเองขึ้นใหม่ จนถึงจุดที่ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ดูเหมือนสามารถเดินไปตามถนนเส้นนี้ได้อย่างมั่นใจและสงบมากขึ้น
…
เฉินซีรู้สึกถึงแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งอีกครั้ง และพลังงานของมหาเต๋าที่เปี่ยมล้นอยู่บนถนนสายนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ
โครม!
ทันใดนั้น วิญญาณบริสุทธิ์ก็ลอยขึ้นมาปรากฏข้างหน้า มันสูงราวสิบห้าจั้ง และปกคลุมไปด้วยสายฟ้าสีม่วง ทันทีที่ปรากฏ มันก็แผดเสียงคำรามดังสนั่น จากนั้นก็โถมเข้าหาเฉินซีทันที
นี่คือพลังที่กำเนิดจากภายในมหาเต๋าแห่งสายฟ้า และมันถูกควบแน่นเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นทวยเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ และตั้งใจที่จะขัดขวางเส้นทางของเฉินซี
เฉินซีหรี่ตาลง และตกตะลึงในใจอย่างอดไม่ได้ พลังงานของมหาเต๋านั้นมีสติปัญญาของตัวเองจริง ๆ นี่มันไม่น่าสะพรึงกลัวไปหน่อยเหรอ!?
โครม!
เฉินซีชักยันต์ศัสตราเพื่อต้านทานวิญญาณดวงนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากปะทะกันครั้งเดียว ชายหนุ่มก็ถูกกระแทกจนเลือดลมปั่นป่วน พลันโซเซกลับไปและแทบกระอักเลือดออกมา
สิ่งนี้ทำให้เฉินซีต้องตกใจอีกครั้ง ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้กับเยี่ยเหยียนแห่งนิกายอำนาจเทวะ ซึ่งมีการบ่มเพาะขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล และการโจมตีของวิญญาณสายฟ้าที่อยู่ตรงหน้า ก็ไม่ต่างจากบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล!
ก่อนที่เฉินซีจะหายจากอาการตกใจ วิญญาณสายฟ้าก็โจมตีอีกครั้ง มันควบคุมอสนีบาต แล้วแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่ หอก ดาบ ง้าว เจดีย์ ภูเขา ผนึก…. ถึงขนาดที่ควบแน่นนครสายฟ้า ที่ฟาดใส่เฉินซีอย่างดุเดือด และตั้งใจที่จะบดขยี้ให้กลายเป็นผุยผง
ในทางกลับกัน ระหว่างกระบวนการทั้งหมดนี้ อันที่จริงเฉินซีไม่มีพลังพอที่จะต้านทานได้ แม้จะด้วยพลังยุทธ์ในปัจจุบันก็ตาม ชายหนุ่มถูกโจมตีจนกระอักเลือด กระดูกทั่วทั้งร่างถูกกระแทกจนแทบกระจุย และมีสภาพที่เลวร้ายอย่างยิ่ง
มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
หากวิญญาณสายฟ้านี้เกิดจากภายในมหาเต๋าแห่งสายฟ้าเป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล มันก็เป็นการดำรงอยู่อันดับหนึ่งในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอย่างแน่นอน!
เฉินซีพร่ำบ่นในใจ การทดสอบในประตูแห่งมหาเต๋านี้ไม่ผิดปกติเกินหรือ? แม้แต่บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลก็ไม่อาจต้านทานการทดสอบเช่นนี้ได้กระมัง
ไม่น่าแปลกใจที่ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงขณะนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถครอบครองรากเต๋าวิภูจักรวรรดินั้นได้ ด้วยการทดสอบอันโหดร้ายและรุนแรงที่อยู่ตรงหน้า เทวารู้แจ้งวิญญาณคนใดจะพิชิตการทดสอบและมาถึงหน้ามันได้?
ครืน!
สายฟ้าโหมกระหน่ำและกลายเป็นมหาสมุทรอสนีบาต จากนั้นก็โจมตีเฉินซีอย่างดุเดือด
เฉินซีหยิบฉวยเหรียญทองแดงโปรยสมบัติออกมา
แต่มันแทบจะไม่สร้างผลกระทบใด ๆ เลย!
เพราะวิญญาณสายฟ้านั้นก่อตัวขึ้นจากพลังงานของมหาเต๋า และมันไม่ได้ครอบครองกายหยาบ ดังนั้นไม่ว่าเหรียญทองแดงโปรยสมบัติตกจะทรงพลังเพียงใด แต่มันก็ไม่สามารถทำอันใดต่อวิญญาณสายฟ้าได้!
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็หยิบฉวยตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ออกมา ว่ากันว่าสมบัติชิ้นนี้ยังสามารถจับชะตากรรมของเต๋าสวรรค์ และร่องรอยของมหาเต๋าได้ หากมันยังไม่สามารถสร้างผลกระทบใด ๆ ได้ เฉินซีก็จนปัญญาอย่างแท้จริง
ฟิ่ว!
ตาข่ายขนาดใหญ่ที่เยือกเย็นและเป็นภาพลวงตาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และมันพันรอบวิญญาณสายฟ้าทันที สิ่งนี้ทำให้เฉินซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก และตระหนักดีว่าเขาพบวิธีการที่ถูกต้องแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะรู้สึกยินดี ร่างกายพลันสั่นสะท้าน วิญญาณสายฟ้าสั่นสะเทือนไปทั่วร่างกาย และพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการของตาข่ายครอบคลุมสวรรค์ในคราวเดียว!
เฉินซีได้รับผลสะท้อนกลับด้วยเหตุนี้ และจู่ ๆ ชายหนุ่มก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก สีหน้าซีดเผือดลง
บัดซบ!
ครืน!
วิญญาณสายฟ้าสืบเท้าก้าวยาว ๆ เข้ามา และไม่ได้คลายแรงกดดันเลยสักนิด
เคร้ง!
ทันใดนั้น เฉินซีก็กัดฟันแนบแน่น และเรียกหากระบี่ราชาเซวียนที่ลอยอยู่ในห้วงจิตสำนึก ก่อนจะฟันกระบี่นั้นออกไป
เขาไม่สามารถคิดหาวิธีอื่นได้ ดังนั้นจึงได้เพียงทดลองใช้กระบี่ราชาเซวียนเท่านั้น ถ้ามันล้มเหลว เขาก็ทำได้แค่เผ่นหนีไปทันที
โอม!
ทว่าเหตุการณ์อันน่าตกใจปรากฏขึ้น
ทันทีที่กระบี่ราชาเซวียนปรากฏขึ้น หยดแสงที่คลุมเครือก็ลอยออกมาจากกระบี่
ฟึ่บ!
มันฟันวิญญาณสายฟ้าออกเป็นสองท่อนด้วยการฟาดฟันเพียงครั้งเดียว และมันง่ายพอ ๆ กับการฉีกกระดาษหรือการเป่าฝุ่น!
………………..