บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1716 กล้าแกร่งเกินใคร
บทที่ 1716 กล้าแกร่งเกินใคร
เจ้านี่บ้าไปแล้วหรือ?
ทุกคนประหลาดใจยามได้ยินคำพูดของเฉินซี และรู้สึกยากจะเชื่อหูตนนัก
เล่ออู๋เหินและคณะก็เช่นกัน พวกเขาอดตะลึงในใจกันสุดขีดไม่ได้ ใช่ว่าไม่เชื่อเฉินซี แต่เป็นเพราะเชื่อหมดใจเลยนี่แหละ จึงเป็นกังวลว่าเขาจะเสี่ยงทุกสิ่งที่มี ทิ้งการไว้หน้าใด ๆ กับผู้ยิ่งใหญ่จากเอกภพจักรวรรดิเหล่านี้!
หากทำเช่นนั้น ต่อให้พวกเขาวอนผู้อาวุโสฝ่ายตนให้ช่วยเหลือ ก็อาจไม่สามารถช่วยเฉินซีได้
เพราะถึงอย่างไร หนึ่งตัวตนขอบเขตมหาราชเทวาจากตระกูลลั่วก็อยู่ที่นี่!
“เฮอะ! มิคาดเลยว่าเจ้าหนูนี่จะดื้อด้าน” ใครบางคนแค่นยิ้ม
“ก็แค่เจ้าเด็กเขลาไร้หัวนอนปลายเท้า ไม่รู้จักประมาณตน ตะกายท้าทายอำนาจตระกูลใหญ่จากเอกภพจักรวรรดิ วอนตายเปล่าแท้” ใครอีกคนพูดอย่างดูแคลน
“คราวนี้ กระทั่งเล่อเป่ยโหยว เซินถูเป้า และคนอื่น ๆ ก็คงคุ้มกะลาหัวเจ้าเด็กนี่ไม่ได้แล้ว” บางบุคคลปรีดาในความทุกข์ของเฉินซี
“เช่นนี้ เจ้าก็ตั้งใจจะขัดขืนถึงที่สุดสินะ?” ตี้อวิ๋นชิวเอ่ยด้วยเสียงน่าขนลุก จิตสังหารในดวงตาเรืองรอง ยิ่งกว่านั้น อำนาจกดดันยังพลุ่งพล่านออกมาเช่นพายุ
นี่คือแรงกดดันของบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอันสะท้านทั่วฟ้าดิน ป่วนสรรพสิ่งรอบข้างรวนเร น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
“ข้าแค่ปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง และขีดเส้นสิ่งที่ข้าเต็มใจทำเท่านั้น” เฉินซีพูดเสียงเรียบ
“ศักดิ์ศรี?” ตี้อวิ๋นชิวหัวเราะลั่นอย่างเจือความเยาะเย้ย “ไอ้หนูขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณอย่างเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงศักดิ์ศรีกับข้า?”
เฉินซียังคงเงียบเฉย เพราะไม่มีสิ่งใดจะพูดกับไอ้แก่งี่เง่าเหิมเกริมบ้าอำนาจสุดขีดเช่นนี้
“ไอ้หนู เห็นแก่หน้าสหายเต๋าเล่อเป่ยโหยวและคนอื่น ๆ ข้าจะให้โอกาสสุดท้ายกับเจ้า เจ้าจะรับมันไว้หรือไม่? ทุกอย่างขึ้นกับการตัดสินใจเดียวของเจ้าแล้ว!” ตี้อวิ๋นชิวกล่าวเสียงเบา
เล่ออู๋เหินและคณะมองไปยังเฉินซีเป็นตาเดียวอย่างแสนเป็นห่วง ขณะนี้หัวใจของพวกเขาก็ปั่นป่วนเช่นกัน และไม่รู้จะกระทำเช่นไร
“ทุกท่าน ยังจำข้อตกลงของเราก่อนหน้านี้ได้หรือไม่? ที่เหลือให้ข้าจัดการเถอะ ภายหน้าโปรดสะบั้นทุกสัมพันธ์กับข้าเสีย จะได้ไม่ถูกข้าลากไปพัวพัน” เฉินซีปลอบพวกเขาด้วยน้ำเสียงอบอุ่นผ่านกระแสปราณ ก่อนจะพลันหันไปจ้องตาตี้อวิ๋นชิวตรง ๆ “สักวัน ข้าจะให้ตัวเลือกเช่นนี้กับพวกเจ้าเช่นกัน ถึงยามนั้น เดี๋ยวก็รู้ว่าศักดิ์ศรีของพวกเจ้ามีค่าเพียงไร”
“สารเลว! วอนตายเสียแล้ว!” ยามได้ยินวาจาเย้ยเยาะเหล่านี้ ตี้อวิ๋นชิวก็เดือดดาล แค่นเสียงเย็นก่อนจะขย้ำมือเข้าใส่เฉินซีอย่างรุนแรง
มิติระเบิดแหลกเป็นชิ้นเสี่ยง หนึ่งหัตถ์ใหญ่ปรกนภาอันโอบล้อมด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์ของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลฟาดลงมาสกัดทางหนีของเฉินซีไว้
ทันทีที่ยอดฝีมือขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลโจมตี เหตุการณ์ที่เกิดก็ชวนผวาโดยแท้จริง การโจมตีเผยสัญญาณหวนสู่รากบรรพชน สัมฤทธิ์สรรพสิ่งได้ เหมือนจะควบคุมมหาเต๋าดุจผู้สร้างมหาเต๋า!
“ไม่นะ!”
“เวรเอ๊ย!”
“เฉินซี! ระวัง!”
เล่ออู๋เหินและคณะต่างทั้งตกใจและพรั่นพรึง พวกเขาตะโกนลั่นตั้งใจช่วย แต่ผู้อาวุโสของพวกตนต่างเข้ามาขัดขวางไว้
ชั่วขณะนี้ ตัวตนยิ่งใหญ่ทั้งหลายต่างหัวเราะเย้ยไม่จบสิ้น เจ้านั่นเป็นเพียงมดตัวหนึ่ง แต่กลับหาญกล้ามาพูดถึงศักดิ์ศรี ในเมื่อไม่ยอมทำตามกันดี ๆ ก็สมควรถูกบดขยี้แล้ว!
วูบ!
ขณะนั้นเอง เฉินซีก็เคลื่อนไหวเช่นกัน มือหนาเรืองรองรัศมี หนึ่งโลกหล้าแห่งกระบี่ลอยเด่นขึ้นในฝ่ามือ ก่อนจะเข้าปะทะตี้อวิ๋นชิวตรง ๆ
ตู้ม!
ประกายแสงระเบิดขึ้น ทั่วฟ้าดินสั่นสะท้าน น้ำทะเลในละแวกสะท้านครืนโครม แยกเป็นแนวร้าวมหึมา
ขณะเดียวกัน หนึ่งร่างถูกฟาดกระเด็นปลิว อาภรณ์แหว่งวิ่นเป็นชิ้นริ้ว ริมฝีปากกระอักเลือด เส้นผมซึ่งหวีอย่างประณีตยุ่งเหยิง
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของร่างนั้นชัดเต็มตา รอยยิ้มหยันที่มุมปากเหล่าผู้ยิ่งใหญ่พลันชะงักค้าง ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
ตี้อวิ๋นชิว!
เป็นไปได้อย่างไรกัน? ไม่ว่าอย่างไร ตี้อวิ๋นชิวก็เป็นบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลสูงสุดผู้หนึ่งจากตระกูลตี้แห่งเอกภพจักรวรรดิ ตัวตนเช่นนี้เพียงพอที่จะบดขยี้เทวารู้แจ้งวิญญาณใด ๆ ได้แล้ว และต่อหน้ายอดฝีมือเช่นนี้ กระทั่งมหาเทวาวิญญาณยังปกป้องตนเองแทบไม่ได้ ไม่มีทางเลยที่จะมีมหาเทวาวิญญาณคนใดจะสั่นคลอนยอดฝีมือเช่นนี้ได้!
แต่… เขากลับบาดเจ็บและถูกฟาดกระเด็นในหนึ่งการโจมตี!
ชั่วขณะนั้น ทั่วทิศเงียบกริบ เหล่าผู้สูงส่งที่นี่ต่างเผชิญสารพัดมรสุม ประสบการณ์มากมาย ไหนเลยจะเคยได้ประจักษ์เรื่องเกินเข้าใจได้เช่นนี้?
ฝุ่นโคลนกระเซ็นทั่วทิศ เฉินซียืนลำพังที่เดิม สูงส่งไม่ธรรมดา ดวงตาลึกล้ำดุจหุบเหวเรียบเฉยไร้อารมณ์
“ไอ้เวร!” เทียบกับคนอื่นแล้ว ตี้อวิ๋นชิวดูเดือดดาลกว่าใคร ไม่เคยคาดฝันเลยว่าทันทีที่ลงมือ เขาจะเป็นฝ่ายยับเยินเสียเอง เสียหน้าอัปยศกลางที่สาธารณะโดยแท้
ตู้ม!
เขาโจมตีอีกครั้ง แสงศักดิ์สิทธิ์เรืองรองทั่วกาย พุ่งทะลวงสู่เก้าชั้นสรวง ดูประหนึ่งเทพสงครามไร้เทียมทาน หยิ่งผยองดุร้ายถึงขีดสุด
มือของเขาฟาดลงปิดนภา
ทว่าขณะเดียวกันนั้นเอง หนึ่งปราณกระบี่ก็อุบัติเฉียบพลัน ทะลวงการโจมตีของเขา ทำให้เส้นขนทั่วกายลุกซู่
แย่แล้ว! ตี้อวิ๋นชิวตั้งใจหลบโดยสัญชาตญาณ แต่กลับรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือ แล้วร่างของเขาก็ถูกบีบคั้นเสียจนกระดูกแทบแหลก
เปรี้ยง!
พริบตาต่อมา ร่างของเขาก็ถูกยกขึ้นเหวี่ยงลงพื้นดุจหลาวไม้ พื้นดินแหลกเป็นเสี่ยงส่งสะเก็ดหินปลิวกระเด็นทั่วทิศทาง ใบหน้ายับเยินจากแรงกระแทกนี้ ทำให้ไม่อาจหยุดเสียงแผดร้องโหยหวนดุจสุกรถูกเชือดไว้ได้
หลังจากนั้น เท้าข้างหนึ่งก็เหยียบลงบนตัวเขาอย่างแรงประหนึ่งเทือกเขากดกระแทก ทำให้อึดอัดจนไม่อาจกระเสือกกระสนลุกได้อีก
หนนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายล้วนเห็นทุกสิ่งชัดเจน พวกเขาเห็นเฉินซีปราบตี้อวิ๋นชิวลงอย่างง่ายดาย ก่อนจะฟาดร่างของตี้อวิ๋นชิวลงพื้นดุจขว้างหลาวไม้….
เฮือก!
หลายบุคคลสูดหายใจแรงอย่างช่วยไม่ได้
ทุกคนต่างนั่งไม่ติด พวกเขาผุดลุกรวดเร็วขณะมองเรื่องทั้งหมดอย่างไม่อยากเชื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง
ชายหนุ่มผู้หนึ่งในขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณบดขยี้บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลสูงสุดได้ในไม่กี่กระบวนท่า!?
เหตุเหลือเชื่อเช่นนี้น่าจะไม่เคยปรากฏตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของแดนเทพโบราณกระมัง?
อันที่จริง พวกเขาล้วนหารู้ไม่ว่าเฉินซีเคยประมือกับเยี่ยเหยียนแห่งนิกายอำนาจเทวะผู้อยู่ในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลมาตั้งแต่ยังอยู่ในขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกา แม้จะสะบักสะบอมจากการไล่ล่าของนาง แต่สุดท้ายก็ยังพลิกสถานการณ์ได้อยู่ดี
ขณะนี้ เฉินซีไม่อาจเทียบกับอดีตได้แล้ว ไม่เพียงมีแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงและบรรลุขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณขั้นสูงเกินใคร เขากระทั่งขัดเกลาจนบรรลุแก่นความลึกล้ำของเคล็ดกระบี่ลึกล้ำฤทัยยามอยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์เซวียน
ด้วยเหตุเช่นนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ตี้อวิ๋นชิวจะพ่ายเร็วนักหากระวังตัวกว่านี้สักหน่อย แต่พอดีว่าตี้อวิ๋นชิวไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องทั้งหมดนี้เลย เห็นเฉินซีเป็นเทวารู้แจ้งวิญญาณทั่วไปคนหนึ่ง จึงต้องรับผลเช่นนี้
จริงอยู่ ความต่างชั้นระหว่างขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณและขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลมหาศาลนัก และการบ่มเพาะขั้นสูงสุดของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลก็เพียงพอให้เขาเมินมหาเทวาวิญญาณทั้งปวงได้แล้ว
“บังอาจนัก!”
“รีบปล่อยนายข้าเสีย!”
ไพร่พลที่ตี้อวิ๋นชิวนำมาด้วยในหนนี้กล่าวได้ว่ามากมายมหาศาล เขามิได้เพียงนั่งรถม้าสมบัติสำริดเทียมไก่ฟ้าอัคคีเจ็ดหางสี่ตัว ยังมีทาสเทพบริวารมากมายข้างกาย ขณะนี้ เมื่อเห็นนายของตนถูกเหยียบย่ำ พวกเขาจึงเดือดดาล พุ่งตัวเข้ามากันโดยพร้อมเพรียง
เปรี้ยง!
เฉินซีเตะตี้อวิ๋นชิวกระเด็นไป ก่อนจะใช้แก่นความลึกล้ำของผาสมุทรออกมา
ตู้ม!
เจตจำนงกระบี่สาดซัดรุนแรงดุจสมุทรโถม ดุจธารดาราสารพัดถล่มลง สาดซัดไพศาลสุดตา เผยปราณยิ่งใหญ่ร้ายกาจ
ในพริบตา เหล่าทาสเทพที่พุ่งเข้ามาว่าเร็วแล้ว ขากลับกลับเร็วยิ่งกว่า พวกเขาทั้งมวลถูกคลื่นเจตจำนงกระบี่ซัดกระเด็นกระดอนลงพื้น กระอักเลือดไปตาม ๆ กัน
“เจ้าเด็กนี่เหยียบย่างสู่เส้นทางแสวงมหาวิถีกระบี่แล้ว!” ขณะนี้ในที่สุดเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายก็ประจักษ์เรื่องนี้ชัดเจน พวกเขาตกตะลึงในใจยิ่งนัก เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินชื่อชายหนุ่มผู้สะท้านโลกาท้าทายสวรรค์เช่นนี้มาก่อน? กระทั่งไม่มีชื่อในเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณด้วย?
เจ้าของคำพูดนี้คือกงเหย่หนานลี่ และทำให้คนทั้งหลายรอบทิศสะดุ้ง ตระหนักรู้แจ้งกันเฉียบพลันทันที
ชั่วขณะนั้น สีหน้าของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่จากตระกูลลั่ว ตระกูลเยว่ ตระกูลจิน ตระกูลคุนอู๋ ตระกูลเป่ย และอื่น ๆ ต่างดำคล้ำเป็นอย่างยิ่ง เพลิงโทสะเรืองรองในดวงตา
แย่แล้ว! เล่ออู๋เหินและคณะร้องลั่นในใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนกันในที่สุด มิคาดคิดว่าเฉินซีจะถูกเปิดโปงในขณะนี้
ทว่าเมื่อพวกเขามองไปยังเฉินซี กลับพบว่าอีกฝ่ายยังคงมีสีหน้าสำรวมเยือกเย็น เหมือนคาดคิดถึงสถานการณ์เช่นนี้ไว้แล้ว
และพวกเขาก็คิดถูก เฉินซีพิจารณาเรื่องนี้ไว้นานแล้ว แต่ขณะนี้ เขาไม่สนใจอีกต่อไป
โลกหล้าไร้สิ่งใดสมบูรณ์แบบ เรื่องผิดพลาดและอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
เหมือนเช่นขณะนี้ ต่อให้พวกเล่ออู๋เหินอาศัยกำลังตระกูลตนเข้าช่วย ผลที่เกิดกับสถานการณ์นี้ก็น้อยเหลือเกิน
ประกอบกับสัจธรรมที่ตี้อวิ๋นชิวและผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายกร่างอำนาจกดขี่ไม่หยุดหย่อน หากเฉินซียังไม่ขัดขืนเต็มกำลัง ก็คงไม่พ้นจบเห่แน่
ทว่าแม้สถานการณ์ตรงหน้าจะย่ำแย่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เฉินซีรู้สึกสิ้นหวัง จึงไม่ไขว้เขว
“ไอ้เลว! ตายซะ!”
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาสาธยายนานนัก ทว่าแท้จริงเกิดขึ้นในพริบตา หลังกล่าวจบ กงเหย่หนานลี่ก็ขี่คางคกหยกเก้าเนตรกระโจนลงมาจากกลางเวหา
สีหน้าเย็นเยียบ สายตาคมปลาบเช่นอัสนี ยามนี้เมื่อโจมตีด้วยโทสะ เขาก็เหมือนดาวหางอันเฉิดฉันจากท้องฟ้า ร่างปกคลุมด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์แผดผลาญเรืองรองของขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล ทำให้ปราณยิ่งใหญ่กดดันถึงขีดสุด
………………..