บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1719 ภัยร้ายที่ประชิดใกล้
บทที่ 1719 ภัยร้ายที่ประชิดใกล้
ยามที่พวกเขาเห็นกงล้อแห่งแสงที่ศักดิ์สิทธิ์ บริสุทธิ์ และยิ่งใหญ่ซึ่งลอยอยู่ด้านหลังเฉินซี และเมื่อเห็นแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่ในกงล้อแห่งแสง ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็ตะลึงลาน ทั้งยังอุทานด้วยความประหลาดใจโดยไม่รู้ตัว
แท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง!
นี่คือสุดยอดขอบเขตในตำนาน มันสูงสุด ไร้ที่ติ และครองอำนาจสูงสุดเหนือมหาเทวาวิญญาณทั้งหมด ซึ่งท่ามกลางเทวารู้แจ้งวิญญาณที่มีอยู่มากมายเกินคณนานับ ไม่มีสักคนเดียวที่บรรลุสิ่งนี้ในตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน!
เป็นเพราะมันหาได้ยากเกินไป มันจึงกลายเป็นดั่งตำนานในจินตนาการของผู้คน แม้แต่ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ก็ยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับตำนานเช่นนี้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้ยิ่งใหญ่บนชายฝั่งมหาสมุทรนั้นแตกต่างออกไป และพวกเขาตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่ตำนานในจินตนาการ แต่เป็นความจริง!
เนื่องจากมีมหาเทวาวิญญาณซึ่งเป็นที่รู้จักในเอกภพจักรวรรดิที่บรรลุสภาวะสูงสุดนี้ และเขาคือ เย่เฉิน ผู้ที่ครองอันดับหนึ่งในเทียบอันดับรู้แจ้งวิญญาณ!
ชายหนุ่มในตำนานที่มาจากสำนักเต๋าในเอกภพจักรวรรดิ และมีชื่อเสียงในด้านพรสวรรค์โดยกำเนิด!
ในที่สุดพวกเขาล้วนเข้าใจว่าทำไมพลังฝีมือของเฉินซีถึงท้าทายสวรรค์เป็นอย่างมาก ครอบครองพลังบ่มเพาะของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ระดับแรก ทั้งยังบรรลุแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง นี่จะเป็นสิ่งที่มหาเทวาวิญญาณคนอื่น ๆ จะสามารถเทียบเคียงได้อย่างไร?
ในขณะนี้ คลื่นพายุยังพลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของเล่ออู๋เหินและคนอื่น ๆ พวกเขารู้มานานแล้วว่า ลั่วฉ่าวหนงและคนอื่น ๆ ถูกเฉินซีสังหาร แต่จวบจนบัดนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าเฉินซีได้ควบแน่นแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงได้สำเร็จแล้ว!
…
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาในการอธิบายพอสมควร แต่แท้จริงมันเสร็จสิ้นในชั่วพริบตา
เมื่อเฉินซีใช้พลังของแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงเพื่อประหัตประหารปราณกระบี่ที่โปรยปรายลงมาอย่างรุนแรงดุจพายุโหม สีหน้าของผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่รอบข้างก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ทั้งยังรู้สึกตะลึงในใจอย่างมาก
“ซวยแล้ว!”
“ถอยก่อน!”
“เราไม่อาจต่อกรกับเขาที่ขอบเขตการบ่มเพาะนี้ได้!”
พวกเขาต่างตวาดด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว ทั้งยังตัดสินใจล่าถอยอย่างเด็ดเดี่ยวและหยุดต่อสู้กับกับเฉินซีโดยสัญชาตญาณ
ท้ายที่สุด นี่คือมหาสมุทรสุสานเทวะที่สะกดพลังบ่มเพาะของคนคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้พวกเขาทำได้เพียงต่อสู้กับเฉินซีอย่างสูสี ดังนั้นตอนนี้จะนับเป็นอะไรได้?
เพราะฉะนั้น การล่าถอยจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“พวกเจ้าทุกคนคิดจะไปไหน? ไม่มีทาง!” ปราณกระบี่จำนวนมากมายส่งเสียงหวีดหวิวพร้อมกับเสียงที่ไม่แยแสและอาฆาตของเฉินซี มวลปราณกระบี่ได้ปิดเส้นทางล่าถอยของพวกมันทันควัน
โครม โครม โครม
ทันใดนั้น เสียงการปะทะกันอันน่าสะพรึงกลัวก็ดังขึ้น เบาลง และพุ่งผ่านฟ้า สมบัติศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากถูกระเบิดและส่งเสียงคร่ำครวญไปในอากาศ
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดได้รับหายนะพร้อม ๆ กัน พวกเขาล้วนได้รับบาดเจ็บจากปราณกระบี่หรือถูกโจมตีจนกระอักเลือดขณะที่ถอยกลับ จนตกอยู่ในสภาพที่ไม่ยุ่งเหยิงอย่างยิ่ง
นี่คือพลังของแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง!
หากไม่ได้เห็นพลังฝีมือที่น่าสะพรึงกลัวและท้าทายสวรรค์ด้วยสองตาของตนเอง พวกเขาคงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเทวารู้แจ้งวิญญาณจะสามารถครอบครองพลังดังกล่าวได้
ฟึ่บ!
แต่ในขณะที่เขาเพิ่งลงมือ ความหวาดกลัวที่อธิบายไม่ได้ก็พลุ่งพล่านออกมาจากใจเฉินซี มันเหมือนกับมีดที่จ่อบนแผ่นหลัง และสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามร้ายแรง
ในขณะนี้เองที่เสียงทุ้มลึกและไม่แยแสดังก้องขึ้น “ไอ้สารเลว เจ้ายังคิดฆ่าคนอีกหรือ?! รนหาที่ตายแล้ว!”
เสียงนี้เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีอันไร้ขอบเขต เหมือนกับประกาศิตของจักรพรรดิ ทุกถ้อยคำแฝงกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อหัวใจ ทะลวงลึกไปถึงจิตวิญญาณ
เมื่อมันกระทบโสตประสาทของเฉินซี มันทำให้ชายหนุ่มสั่นสะเทือนจนเลือดลมพลุ่งพล่าน แม้แต่พลังชีวิตก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่ยวาย!
นี่เป็นเพียงพลังที่เกิดจากเสียงของคนผู้นั้นเท่านั้น!
ไม่ได้การ!
หัวใจของเฉินซีดิ่งวูบ เลือกถอยกลับอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าสู่ส่วนลึกของมหาสมุทรสุสานเทวะโดยสัญชาตญาณ
เขารู้แน่ชัดว่านี่เป็นฝีมือของ ‘จักรพรรดิชงโตว’ ที่ยืนคุมเชิงอยู่เงียบ ๆ ใจกลางชายฝั่งมาจนถึงตอนนี้!
ยิ่งไปกว่านั้น พลังที่เปี่ยมล้นอยู่ในน้ำเสียงนี้ ทำให้เฉินตระหนักดีว่าหากเขาเผชิญกับร่างที่ร้ายกาจเช่นนี้บนชายฝั่ง เขาก็จะหมดทางสู้และจะต้องพินาศเป็นแน่แท้
แน่นอนว่า เขาพบว่าบนชายฝั่ง มีมังกรฟ้าที่ยืนตระหง่านราวกับภูเขากำลังแหงนหน้าขึ้นเพื่อคำราม ทั้งอ้างว้างและสง่างามซึ่งสะเทือนไปทุกทิศทุกทาง
ในทางกลับกัน ร่างที่นั่งขัดสมาธิบนหัวมังกรฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้า และดูเหมือนจักรพรรดิที่ลุกยืนขึ้นโดยเอามือไพล่หลัง
ดวงตาราวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่สาดแสงส่องสว่างไปชั่วนิรันดร์ แม้จะยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับ แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมา กลับทำให้รัศมีในระยะสองแสนห้าหมื่นลี้ ตกอยู่ในบรรยากาศที่เงียบงันและน่าสะพรึงกลัว
ไม่ว่าจะอวกาศ แสงสว่าง น้ำทะเล ฝุ่นธุลี การไหลเวียนของกระแสอากาศ…. ทุกอย่างสั่นเทาและยอมจำนนต่อหน้าคนผู้นี้
ความโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิ จะทำให้เกิดภูเขาศพกองพะเนิน และโลหิตจะหลั่งไหลออกมาดุจสายน้ำ
ลั่วชงเป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ในหมู่ทวยเทพ! เขาควบคุมพลังของเต๋ามากมาย และครอบครองพลังที่จะพลิกโลกให้กลับตาลปัตร ทั้งยังสามารถบัญชาโลกได้!
เหล่าผู้บ่มเพาะที่อยู่ใต้ขอบเขตมหาราชเทวา ล้วนทำได้เพียงคำนับต่อหน้าเขาเท่านั้น!
นี่คือกลิ่นอายอันน่าเกรงขามของจักรพรรดิ เพียงประโยคเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เฉินซีตกใจ และการยืนคุมเชิงเฉย ๆ ตรงนั้น ก็เพียงพอที่จะสร้างความหวาดกลัวในรัศมีสองแสนห้าหมื่นลี้ ซึ่งมีเขาเป็นศูนย์กลาง
ในขณะนี้ ใบหน้าของเฉินซีดูเคร่งขรึมถึงขีดสุด ร่างกายก็ตึงเครียดอย่างยิ่ง แม้ว่ามหาสมุทรสุสานเทวะจะสะกดพลังบ่มเพาะ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งการโจมตีของจักรพรรดิชงโตวที่มาจากชายฝั่งได้
ในทางกลับกัน หัวใจกลับถูกกัดกินด้วยความรู้สึกอันตราย และยังคงสั่นระริกด้วยความกลัว
กงเหย่หนานลี่และผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ ล้วนคว้าโอกาสนี้ในการกลับสู่ชายฝั่งในสภาพที่น่าอับอาย ยามนี้กำลังมองเฉินซีด้วยสีหน้าซีดเซียวจากระยะไกล และจิตสังหารในดวงตาของพวกมันก็น่ากลัวอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ หากจักรพรรดิชงโตวไม่ลงมือ พวกมันคงต้องพินาศภายใต้เงื้อมมือเฉินซีไปแล้ว
ยามนี้เมื่อหลบหนีกลับไปที่ชายฝั่งได้ และฟื้นฟูพลังบ่มเพาะของตนแล้ว ความเกลียดชังในหัวใจก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่อาจหยุดยั้ง
อย่างไรก็ตาม พวกมันทราบชัดเจนว่า ไม่จำเป็นต้องลงมือในตอนนี้ เมื่อจักรพรรดิชงโตวอยู่ที่นี่ พวกมันก็ไม่จำเป็นต้องลงมือ
ในทางกลับกัน ตามความคิดเห็นของเล่ออู๋เหินและคนอื่น ๆ หากจักรพรรดิชงโตวลงมือแล้วละก็ มันย่อมเป็นเหตุการณ์อันเลวร้ายเหลือคณนาซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากเห็น
หากตัวตนร้ายกาจเช่นนี้ลงมือเต็มกำลัง แล้ว… เฉินซีจะรอดได้อย่างไร?
ในขณะนี้ รอบข้างล้วนเงียบกริบ หลายคนเผยรอยยิ้มเย็น ในขณะที่สีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม ประหนึ่งกำลังมองคนตาย “ต่อให้พรสวรรค์ของเจ้าจะท้าทายสวรรค์แล้วจะทำไม? การที่เจ้ามีแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดแล้วจะทำไม? เจ้ามันก็แค่มดเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิ!
…
นี่เป็นคำแรกที่จักรพรรดิชงโตวกล่าวกับเฉินซี
“คุกเข่าลงและปลิดชีวิตตนเองซะ”
นี่เป็นประโยคที่สอง
“จักรพรรดิผู้นี้จะปล่อยให้เจ้าตายครบสามสิบสอง”
นี่คือประโยคที่สาม
แท้จริงแล้วนี่เป็นประโยคที่รวบรัดยิ่ง แต่สุ้มเสียงของจักรพรรดิชงโตวกลับเปี่ยมล้นด้วยกลิ่นอันเกรงขามและพลังที่ไม่อาจอธิบายได้ ทุกถ้อยคำเหมือนกับท่วงทำนองเต๋าของประกาศิตอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่สิ้นคำ ฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้ก็ท่วมท้นไปด้วยจิตสังหารซึ่งกดดันวิญญาณเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนว่าตราบใดที่จักรพรรดิชงโตวขุ่นเคือง ท้องฟ้าและแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ก็จะพังทลายเป็นผุยผง
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของผู้คนที่อยู่ในบริเวณโดยรอบเปลี่ยนไป มีเพียงผู้ยิ่งใหญ่จากเอกภพจักรวรรดิเท่านั้น ที่ยังคงรักษาท่าทางที่สงบสุขุมไว้ได้
เนื่องจากไม่ขาดจักรพรรดิในตระกูลของพวกเขา ดังนั้นจึงทราบดีว่าอำนาจของจักรพรรดินั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
หลังจากที่จักรพรรดิชงโตวกล่าวจบ พลังที่มองไม่เห็นก็จู่โจมจากข้างหน้า บดขยี้ลงบนร่างกายและหัวใจ ทำให้เลือดใกล้ถึงจุดเยือกแข็ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินซีเผชิญกับแรงกดดันเช่นนี้ มันเหมือนกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนที่กดทับลงมา ทำให้กระดูกแทบป่นปี้ แม้แต่วิญญาณในร่างก็ยังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น สีหน้าของเฉินซีก็ซีดลง และบิดเบี้ยวเล็กน้อย คล้ายกำลังต้านทานความเจ็บปวดและแรงกดดันอย่างสุดกำลัง
โครม!
ในช่วงเวลาถัดมา แรงดึงดูดที่ทรงพลังก็พุ่งตรงมา เหมือนฝ่ามือล่องหนได้คว้าร่างกายของเฉินซีไว้ ซึ่งสร้างแรงดึงที่ไม่อาจต้านทานได้ กระชากร่างให้บินไปยังชายฝั่งอย่างควบคุมไม่ได้!
เหตุนี้น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง!
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิชงโตวไม่ได้โจมตี แต่เพียงเพราะเขากล่าวคำว่า ‘มานี่’ ก็เหมือนมีอำนาจสูงสุดที่ควบคุมร่างกายเฉินซีและลากเขาไป!
ราวกับฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้เชื่อฟังคำสั่งของจักรพรรดิชงโตวแต่เพียงผู้เดียว
ความสามารถดังกล่าวช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง และทำให้คนอื่น ๆ บนชายฝั่งตกตะลึงจนหัวใจสั่นไหวไม่รู้จบ
ไม่ว่าจะเป็นแท่นบูชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ การบ่มเพาะในเต๋าแห่งกระบี่ หรือประสบการณ์การต่อสู้ที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้กลับไม่มีความหมายใด ๆ!
“ไม่!” เฉินซีคำรามอย่างเดือดดาลในใจ ไม่ว่าจะวิญญาณ พลังบ่มเพาะ และแก่นแท้ภายในร่างกายล้วนเผาไหม้ราวกับหินหลอมเหลว ทั้งยังต่อสู้ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง
โครม!
พื้นที่ในบริเวณนั้นพลันระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ คล้ายพลังที่มองไม่เห็นถูกระเบิดออกจากกัน
“หืม?” เสียงทุ้มลึกและไม่แยแสดังก้อง มันเป็นเพียงคำเดียว แต่กลับทำให้พื้นที่อันกว้างใหญ่นี้มีกลับมามั่นคงอีกครั้ง!
ในเวลาเดียวกัน สนามพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ได้สะกดเฉินซีไว้อย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าจะเส้นเอ็น กระดูก จุดชีพจร และจักรวาลภายในร่างกาย ล้วนถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ตรวน ทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลย!
ฟิ่ว!
ในช่วงเวลาถัดมา ร่างของเฉินซีก็วูบไหวอย่างควบคุมไม่ได้ พุ่งผ่านอากาศไปยังชายฝั่งด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเกือบเท่าตัว
สองพันห้าร้อยลี้
สองพันลี้
หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบลี้
…
ระยะทางเริ่มสั้นลงเรื่อย ๆ และถึงขั้นที่เฉินซีสามารถมองเห็นการเยาะเย้ยและจิตสังหารบนใบหน้าของผู้ยิ่งใหญ่บนชายฝั่งได้อย่างชัดเจน
เห็นแม้แต่สีหน้าไม่สบายใจและกังวลสุดขีดของพวกเล่ออู๋เหิน
รวมถึงร่างที่ยืนหยัดอย่างภาคภูมิราวกับจักรพรรดิเหนือหัวมังกรฟ้า….
ไม่!
เฉินซีคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวในใจ ในขณะที่ความแค้นและความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายราวกับหินหลอมเหลวที่กำลังลุกไหม้ แต่สุดท้ายมันก็ไร้ผล
ท้ายที่สุดแล้ว ความผิดพลาดเพียงประการเดียวในครั้งนี้ คือการประเมินพลังที่ครอบครองโดยจักรพรรดิต่ำไป
เมื่อเผชิญกับตัวตนอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ผู้บ่มเพาะขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณทุกคนได้แต่ร้องขอความเมตตา และมิอาจพลิกสถานการณ์ได้
………………..