บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1721 ไข่มุกแดนเทวะ
บทที่ 1721 ไข่มุกแดนเทวะ
ความประหลาดใจทั้งหลายทำให้พวกเขารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
หากกล่าวว่าจักรพรรดินีอวี้เชอเป็นสตรีผู้คมในฝัก ยามนี้ก็นับว่ากระบี่นั้นได้ชักคมอันไร้เทียมทานสำแดงแก่สายตาผู้คนแล้ว!
หวือ~ หวือ~ หวือ~
ฟ้าดินส่งเสียงครวญคร่ำในทันทีที่รัศมีสังหารเอ่อล้นออกมาจากจักรพรรดินีอวี้เชอ ทั่วทั้งพื้นดินตกอยู่ในความโกลาหลขณะที่มหาเต๋าเริ่มพังครืน
มันเหมือนกับรัศมีอันสง่างามแห่งจักรพรรดิ เพียงหนึ่งความคิด โลกก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ใจนึกฝัน พลังศักดิ์สิทธิ์เหลือล้นเกินจินตนาการ
“จะไปจากที่นี่? ไม่ง่ายนักหรอก” จักรพรรดิชงโตวถอนหายใจเบา ๆ ทันใดที่เสียงนั้นกึกก้องไปทั้งฟ้าดิน ฝนแห่งแสงก็ฉายวาบวนภาพเหมือนของปราชญ์ จากนั้นเสียงแห่งการสวดภาวนาดังกังวานพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างลึกลับโบราณมากมายที่ออกมาจากในภาพเขียนนั้น
ร่างเหล่านั้นค่อย ๆ แปรสภาพเป็นรูปลักษณ์ของปราชญ์
ร่างที่กลายเป็นปราชญ์ยืนอยู่อย่างเคร่งขรึมท่ามกลางเสียงภาวนาแห่งเต๋าที่สั่นสะเทือนจิตวิญญาณของผู้คน
กระแสแห่งความหวาดหวั่นค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ ผู้คนที่อยู่โดยรอบ พวกเขารับรู้ได้ในทันทีว่าตนได้สูญเสียความสามารถในการสัมผัสถึงฟ้าดินไปสิ้น ราวกับกำลังอาศัยอยู่ในกรงขังที่แยกออกมาจากโลกอย่างสิ้นเชิงด้วยถูกเต๋าแห่งสวรรค์เนรเทศ!
“พิภพปราชญ์อย่างนั้นหรือ?” ท่าทางเยือกเย็นกระจ่างในดวงตาของจักรพรรดินีอวี้เชอ มันแอบซ่อนความสุขุมไว้ในเบื้องลึก “เพื่อที่จะฆ่าผู้น้อยคนหนึ่ง ท่านยินดีจะทุ่มสุดตัวเพียงนี้เชียวรึ?”
“เปล่าเลย จริงอยู่ที่ข้าต้องการจะฆ่าเด็กคนนี้ แต่ที่สำคัญที่สุด…” จักรพรรดิชงโตวพูดเสียงเรียบ “มันจะทำให้เจ้าติดอยู่ที่นี่!”
ชิ้ง!
กระบี่ในมือจักรพรรดินีอวี้เชอส่งเสียงเกรียวกราวขณะกำจายเจตจำนงกระบี่ลึกล้ำ คล้ายกับไม่อาจควบคุมความปรารถนาที่จะได้ดื่มกินเลือด
“ยังไม่ยอมแพ้อย่างนั้นสินะ? เจ้าควรตระหนักไว้อย่าง พิภพปราชญ์นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้านึกอยากจะออกไปก็ออกได้เลย ภายในแดนเทพโบราณนี้ มีเพียงไม่กี่คนในขอบเขตมหาราชเทวาเท่านั้นที่สามารถผ่านข้อจำกัดนี้ออกมาได้ แต่ว่านะอวี้เชอ เจ้าไม่ใช่คนที่ข้ากล่าวถึงเมื่อครู่หรอก” จักรพรรดิชงโตวมองจักรพรรดินีอวี้เชออย่างเย็นชา “ยอมแพ้ซะ คู่ต่อสู้ของเจ้าคือนิกายอำนาจเทวะ ข้าน่ะไม่อยากจะทำลายความเป็นปฏิปักษ์ของพวกเจ้าทั้งสองหรอกนะ”
วาจาของเขากึกก้องไปด้วยมหาเต๋า มันสั่นสะเทือนไปทั้งจิตวิญญาณ!
…
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่านางคิดสิ่งใดอยู่
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง ความเงียบก็ถือเป็นการยอมจำนนในสายตาของคนบางคน อย่างที่จักรพรรดิชงโตวได้ว่าไว้ พวกเขารู้สึกว่านางกำลังยอมรับว่าตนนั้นไม่อาจทะลุผ่านพิภพปราชญ์ไปได้!
สิ่งนี้ทำให้คนทั้งหลายจากมหาอำนาจต่าง ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นบนมุมปากของพวกเขาอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ ตอนที่จักรพรรดินีอวี้เชอมาถึง พวกเขาก็อดกังวลไม่ได้ว่าสถานการณ์คงจะถึงคราวพลิกผัน อย่างไรก็ดี เมื่อได้เห็นกับดักที่จักรพรรดิชงโตวจัดเตรียมไว้ พวกเขาก็เริ่มกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
ใช่แล้ว ในความคิดของพวกเขา ไม่ใช่แค่เฉินซีเท่านั้นที่ไม่อาจหลีกหนีไปจากภัยพิบัติได้ แม้แต่จักรพรรดินี้อวี้เชอเองก็อยู่สถานการณ์ที่ไม่สู้ดี!
อีกฟากหนึ่ง เมื่อเล่ออู๋เหินและคนอื่น ๆ เห็นเหตุการณ์นี้ หัวใจของพวกเขาก็แทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มในทันที ประหนึ่งจิตวิญญาณถูกพรากจาก ไม่คิดมาก่อนเลยว่าแม้แต่การมาถึงของจักรพรรดินีอวี้เชอก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ใดได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะจักรพรรดิชงโตว!
เพื่อที่จะสังหารเฉินซีและแก้แค้นให้กับลั่วฉ่าวหนงซึ่งเป็นคนในตระกูลของตน เขาไม่ลังเลที่จะยอมแลกทุกสิ่งไปกับการวางกับดักต่าง ๆ เอาไว้!
“อวี้เชอ หากตระกูลกงเหย่ของข้าไม่ปล่อยเจ้าไปเมื่อหลายปีก่อน เจ้าก็คงจะถูกนิกายอำนาจเทวะจัดการไปนานแล้ว ไม่มีทางที่เจ้าจะมีชีวิตรอดมาปกครองเอกภพมสิหิมได้ถึงตอนนี้หรอก” กงเหย่หนานลี่กัดฟันกรอด “คงจะดีกว่านี้หากเจ้าจะใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ที่เอกภพมสิหิมต่อไป สุดท้าย เจ้าก็ยังไม่ยอมที่จะเรียนรู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง และใช้เด็กคนนี้เป็นเครื่องมือทำลายทายาทสายตรงของตระกูลกงเหย่ กงเหย่เจ๋อฟูอีก! ความผิดที่เจ้าได้ก่อ ไม่อาจได้รับการอภัย!” เสียงของเขาเดือดดาลยิ่ง
“คราวนี้ของข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะหลบหนีไปได้อย่างไร!” เสียงนั้นไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง หากยังเจือซึ่งความยินดียิ่ง
จักรพรรดินีอวี้เชอเหลือบมองสายตาเยือกเย็น “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบนโลกนี้จะมีคนที่ไร้ยางอายอย่างเจ้าอยู่ด้วยจริง ๆ เมื่อวันที่ข้าสามารถกวาดล้างตระกูลกงเหย่ของเจ้ามาถึง ข้าจะให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่ต้องเสียสหายและคนที่รักไปอย่างสาสม!”
“นี่เจ้า…” กงเหย่หนานลี่โกรธจัด เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ผู้หญิงคนนั้นยังคงหยิ่งผยองได้ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
ฟึ่บ!
ด้านหนึ่ง จักรพรรดินี้อวี้เชอไม่ต้องการจะฟังเรื่องไร้สาระจากพวกเขาอีกต่อไป นางตวัดกระบี่ออกไปอย่างสบาย ๆ ก่อนที่เจตจำนงกระบี่จะพุ่งออกไปราวกับสายฟ้าและโจมตีกงเหย่หนานลี่ที่อยู่เบื้องหน้า
กงเหย่หนานลี่ประหลาดใจ ความหวาดกลัวบีบคั้นให้ร่างกายสั่นเทา ราวกับจิตวิญญาณนั้นจะหลุดออกจากร่าง
เมื่อผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตมหาราชเทวาเปิดการโจมตี รัศมีที่สง่างามของมันก็พร่างพรายไปทั่วบริเวณก่อนจะกดลงยังร่างของกงเหย่หนานลี่จนถึงจุดที่ตกอยู่ใต้การควบคุม แม้ว่าเขาจะมีอำนาจยิ่งใหญ่ล้นฟ้าในหมู่บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล แต่หากก็ยังคงอ่อนแอราวมดปลวกเพื่อเทียบกับจักรพรรดิ
“หึ!” จักรพรรดิชงโตวแค่นเสียงเย็น พื้นที่มิติภายในฟ้าดินพังทลายลง มันทำลายล้างปราณกระบี่ของจักรพรรดินีอวี้เชอในทันที
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง จักรพรรดินีอวี้เชอก็พุ่งทะยานออกไปผ่านพื้นที่มิติโดยมีเฉินซีอยู่ข้าง ๆ นางเปลี่ยนตัวเองเป็นลำแสงซึ่งพุ่งออกไปในระยะไกลด้วยความรวดเร็ว
ตู้ม!
ห้วงมิติระเบิดเป็นจุณ ทุกสิ่งที่อยู่โดยรอบตกอยู่ในความวุ่นวาย ตอนนี้เองจักรพรรดินีอวี้เชอได้ใช้พละกำลังทั้งหมดที่ตนมีไปกับการณ์นี้ ส่งผลให้ทั้งฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เห็นได้ชัดว่าการโจมตีใส่กงเหย่หนานลี่เป็นเพียงตัวหลอก แท้จริงแล้วนางต้องการที่จะฉวยโอกาสนี้หนีไปพร้อมกับเฉินซี!
“บัดซบ!”
“ถอย!”
ความโกลาหลปกคลุมไปทั่วบริเวณ ผู้ที่ยืนเกะกะขวางทางจักรพรรดินีอวี้เชอล้วนแต่อุทานออกมาอย่างประหลาดใจ ไม่กล้าที่จะรับมือกับพลังอันรุนแรงของนาง
“อวี้เชอ ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย!” เสียงของจักรพรรดิชงโตวเต็มไปด้วยจิตสังหาร ภาพของปราชญ์จำนวนมากทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตพลางส่งเสียงภาวนาลึกล้ำ ตอนนั้นเองที่ภาพอันน่าสะพรึงได้เข้าโจมตีจักรพรรดินีอวี้เชอ
“โอกาส? เก็บไว้ใช้กับตัวเองเถอะ!” ดวงตาของนางอาบแสงเยือกเย็น
ทันทีที่นางยกมือขึ้น กระบี่พิฆาตฟ้าและกระบี่มลทินอเวจีก็พุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้าอย่างพร้อมเพรียง
โครม!
พลังของพิภพปราชญ์ปะทะเข้ากับกระบี่คู่นั้น ก่อนจะสร้างกระแสพลังที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งกวาดไปทั่วบริเวณโดยรอบ ทุกที่ที่มันพัดผ่าน ทุกสรรพสิ่งในฟ้าดินจะพลันตกสู่ความโกลาหล
หากฟ้าดินนี้เป็นเพียงกระดาษแผ่นบาง ภาพที่ถูกวาดลงไปก็คงขาดยุ่ยเป็นเศษ ๆ นับเป็นเหตุการณ์ที่ชวนให้ประหลาดใจยิ่ง
นี่คือการปะทะกันระหว่างสองจักรพรรดิ
หากภาพเหมือนของปราชญ์ไม่ได้โอบล้อมบริเวณโดยรอบและปิดกั้นพลังที่เกิดขึ้นภายในเอาไว้ การปะทะกันเมื่อครู่เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ก่อภัยพิบัติขึ้นในเมืองเฟิงฉีแล้ว!
ในเวลาไม่นาน จักรพรรดิอวี้เชอก็หยุดลงตรงหน้าม่านพลัง
ตู้ม!
กระบี่ทั้งสองพาดตัดกันเป็นกากบาท พวกมันเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวระดับจักรพรรดิขณะที่ฟันลงไปยังม่านพลังนั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้นางต้องตกใจก็เกิดขึ้น การโจมตีที่เต็มอัตราไม่ต่างอะไรกับการถ่มดินลงผืนทะเลกว้าง มิติปราชญ์นี้บังเกิดเพียงคลื่นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงสั้น ๆ ก่อนจะกลืบคืนสู่สภาพเดิม
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
นางโจมตีอีกครั้งโดยปราศจากความลังเล ตอนนั้นเองนางก็พลันปลดปล่อยปราณกระบี่จำนวนมากมายให้ตัดผ่าอากาศราวกับแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ความรุนแรงของพวกมันน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ภาพของปราชญ์จำนวนมากปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกมันยืนอยู่ภายใต้แนวการโจมตีทั้งหมดของนาง
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
แม้ว่าภาพเหล่านั้นจะถูกลบเลือนไปทีละภาพ แต่ก็คล้ายจำนวนของพวกมันจะไม่มีที่สิ้นสุด พวกมันปรากฏตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง
สิ่งนี้ทำให้การประกายในดวงตาของจักรพรรดินีอวี้เชอยิ่งเคร่งขรึมมากขึ้นและเจือด้วยความกังวล นางไม่คิดเลยว่าภาพเหมือนของปราชญ์ที่สืบทอดมาจากกันมาในตระกูลลั่วจะรับมือยากถึงเพียงนี้
นางเปิดการโจมตีอีกครั้ง
เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ลุกโชนไปทั่วร่างกายขณะที่พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า รัศมีอันสง่างามและไร้ขอบเขตทวีแสงจ้ายิ่งขึ้น แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของขอบเขตมหาราชเทวาอย่างชัดแจ้ง
ตึง!
ในที่สุด พิภพปราชญ์ก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและแสดงสัญญาณของการพังทลายออกมาอย่างแผ่วเบา
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จักรพรรดินีอวี้เชอจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างของจักรพรรดิชงโตวก็ปรากฏตัวขึ้นในอากาศพร้อมกับภาพเหมือนปราชญ์ที่ลอยอยู่บนฝ่ามือ จากนั้นฝนแสงก็ไหลออกมาจากร่างนั้น และทำลายการโจมตีของจักรพรรดินีอวี้เชอไปจนหมด
“เหตุใดจึงดึงดันอย่างไร้ประโยชน์เช่นนี้อยู่ได้? ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้แท้ ๆ” ตอนนี้เอง จักรพรรดิชงโตวเป็นเหมือนภูเขาสูงตระหง่าน อาศัยภาพเหมือนของปราชญ์ในมือเพื่อต่อสู้กับจักรพรรดินีอวี้เชออย่างทัดเทียม
จักรพรรดินีอวี้เชอยังคงนิ่งเงียบ และทำเพียงโจมตีด้วยกระบี่ที่อยู่ในมือ
อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด แม้ว่านางจะอาศัยพลังของกระบี่พิฆาตฟ้าและกระบี่มลทินอเวจี ทว่ากลับสามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้พอเสมอตัวเท่านั้น โดยที่คนทั้งสองไม่สามารถทำร้ายกันและกันได้เลย
ถึงอย่างนั้น จักรพรรดินีอวี้เชอก็ตระหนักดีว่าแม้นี่จะดูเหมือนเป็นการต่อสู้ที่เท่าเทียมกัน แต่ถ้าพวกเขายังคงอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มันก็จะเสียเปรียบมากขึ้นสำหรับเฉินซีและตัวนางเอง!
แค่ก!
ทันใดนั้น ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวพลับแวบขึ้นมาผ่านดวงตาใสกระจ่าง นางอ้าปากและพ่นแก่นโลหิตออกมาเต็มปาก ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางใช้กระบวนท่าลับอะไร ทว่ารัศมีอันสง่างามในยามนี้ปะทุรุนแรงยิ่งขึ้น
โครม!
“เจ้ายอมทำลายฐานพลังของตัวเพื่อเจ้าสารเลวนี่โดยไม่ลังเลเลยหรือ!?” จักรพรรดิชงโตวทั้งตกใจระคนโมโห ไม่คาดคิดเลยว่าจักรพรรดินีอวี้เชอจะบ้าดีเดือดได้ถึงเพียงนี้
จักรพรรดินีอวี้เชอยังคงไม่พูดสิ่งใด โอกาสสำคัญเช่นนี้อย่างไรนางก็ต้องคว้าเอาไว้ อาภรณ์สีแดงพัดกระพือ ร่างกายเปล่งประกายเจิดจ้า บัดนั้นนางไขว้กระบี่ในมือก่อนจะฟาดฟันลงด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวเกินต้านทาน
มันน่ากลัวเสียจนโลกทั้งใบสั่นสะท้าน!
ตอนนี้เอง คนทั้งหลายที่อยู่ในระยะไกลต่างก็ตกตะลึง รู้สึกราวกับว่าตนกำลังตกลงไปในหลุมน้ำแข็งขนาดยักษ์ เข่าเกือบจะทรุดลงสู่พื้นดินด้วยนึกหวาดกลัวต่อรัศมีอันสง่างามของนาง
นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่สิ้นหวังของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตมหาราชเทวา มีหรือที่มันจะธรรมดาได้?
ตึง!
ครู่ถัดมา แผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมแผดเสียงก้อง ราวกับว่าดาราจักรได้ถูกระเบิดออกจากกันอย่างแท้จริง ฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้ถูกเหวี่ยงไปสู่ความโกลาหลอย่างรุนแรง กลายเป็นเพียงมิติที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายยากจัดระเบียบดังเดิม
ถึงขนาดที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ซึ่งมีความแข็งแกร่งไม่มากนักได้รับผลกระทบต่อทวารทั้งเจ็ด สีหน้าของพวกเขาซีดลงอย่างน่าใจหายขณะที่ความหวาดกลัวเข้าเติมเต็มภายในหัวใจ
“ไข่มุกแดนเทวะยี่สิบสี่ประการ! ไม่นึกเลยว่าเจ้า ลั่วชงจะวางแผนลึกล้ำถึงขนาดที่นำสมบัติล้ำค่าสูงสุดแห่งตระกูลลั่วของเจ้ามาด้วย!” ทันใดนั้น เสียงของจักรพรรดินีอวี้เชอซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธขึ้งก็ดังก้องท่ามกลางแสงที่พลุ่งพล่านนี้ ดูเหมือนนางจะประหลาดใจและโมโหอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกัน คนอื่น ๆ อีกหลายคนสามารถสังเกตเห็นว่าพิภพปราชญ์นั้นไม่ได้ขาดออกจากกัน ซึ่งเหตุผลก็เป็นเพราะไข่มุกที่สุกใส กลมกลึง และโปร่งแสงทั้งยี่สิบสี่เม็ดที่หมุนวนอยู่ในอากาศ
ไข่มุกเหล่านี้มีขนาดเพียงกำปั้นของเด็กทารกเท่านั้น และเปี่ยมไปด้วยประกายอันศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนระลอกคลื่นสีน้ำเงินเข้ม พวกมันเอ่อล้นด้วยรัศมีของเต๋าและโซ่ศักดิ์สิทธิ์บัญชาที่ยื่นออกมา เมื่อไข่มุกทั้งยี่สิบสี่เม็ดนี้เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน พวกมันก็เหมือนกับโซ่เหล็กที่ห้อมล้อมธารน้ำเอาไว้ ส่งผลให้ให้คนอื่น ๆ ที่ได้เห็นรู้สึกตัวเล็กในทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมัน คล้ายกับว่าไม่อาจต้านทานมันได้เลย
นี่ไข่มุกแดนเทวะยี่สิบสี่ประการซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของตระกูลลั่ว เมื่อพวกมันถูกนำมาใช้ ก็จะสามารถขจัดเขตแดนของพิภพและขัดขวางการโคจรของพลังงานด้วยพลังที่ยากจะทำลายลง
………………..