บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1751 สมบัติแห่งยุค
บทที่ 1751 สมบัติแห่งยุค
หลังจากตัดสินใจเข้าตลาดมืด เฉินซีก็ออกเดินทางเพื่อมุ่งหน้าสู่โถงแลกเปลี่ยนเพื่อหารือเรื่องนี้กับเฉียนอัน
เท่าที่รู้ หากต้องการเข้าตลาดมืดก็ต้องมีคนนำทาง พร้อมกับจ่ายเป็นผลึกศักดิ์สิทธิ์หนึ่งล้านก้อน
เฉินซีไม่ได้ขาดผลึกศักดิ์สิทธิ์ แต่เขาขาดคนนำทาง
“สำหรับคุณชาย การเข้าตลาดมืดก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ข้าจะช่วยท่านเอง”
หลังจากทราบเจตนาของเฉินซี เฉียนอันก็ตอบตกลงโดยไม่ลังเล
เนื่องจากความสัมพันธ์กับเฉินซีเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ไม่เพียงได้รับความมั่งคั่งอันน่าอัศจรรย์ แต่ยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้จัดการของโถงแลกเปลี่ยน อาจกล่าวได้ว่าเขาได้รับทั้งชื่อเสียงและความมั่งคั่ง ก่อเกิดเป็นความภาคภูมิใจ
ประกอบกับคำแนะนำจาก “จ้าวโถงเผิง” ไม่ว่าครั้งนี้เฉินซีจะได้รับคำขอแบบใด เกรงว่าเฉียนอันจะตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
เฉินซียิ้มแล้วเอ่ยคำ “ขอบคุณ”
“คุณชายอาจจะเพิ่งเคยมาตลาดมืดครั้งแรก ท่านต้องการคนนำทางหรือไม่?”
“กำลังต้องการอยู่พอดี”
เฉียนอันเอ่ยอย่างมีความสุข “คุณชายรอสักครู่ อีกเดี๋ยวข้ากลับมา”
เฉินซีพยักหน้า
…
หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา
เฉียนอันนำเฉินซีเข้าไปในห้องอันเงียบสงบ จากนั้นหยิบตะกร้าหยกที่มีลวดลายเต๋าออกมาก่อนจะทำการบดขยี้
วิ้ง ~
แสงสว่างสาดส่องพร้อมประตูที่ค่อย ๆ ก่อเค้าโครงในห้วงอากาศ มันเต็มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเปี่ยมด้วยมนต์ขลัง
“คุณชาย นี่คือเส้นทางไปสู่ตลาดมืด มันถูกสร้างในแดนเต๋า หากไม่มีคนนำทาง ย่อมไม่อาจเข้าไปได้”
เฉียนอันแย้มยิ้มพลางอธิบาย
เฉินซีรู้สึกเย็นยะเยือกอยู่ภายใน
นี่คือพื้นที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีเพียงระดับมหาเทพเต๋าเท่านั้นที่สามารถเปิดได้ มันเทียบเท่ากับหนึ่งดินแดนที่สามารถแยกจากบัญชาเต๋าสวรรค์ได้
ยกตัวอย่างเช่นวิหารศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์เซวียนในซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ รวมถึง “สวนศักดิ์สิทธิ์ไท่ชู” ซึ่งเป็นที่ตั้งของอารามไท่ชู พวกมันล้วนอยู่ในแดนเต๋าทั้งสิ้น
“ถูกต้อง แดนเต๋าที่ตลาดมืดแห่งนี้ตั้งอยู่ตกทอดกันมาเนิ่นนาน การแลกเปลี่ยนภายในนั้นปลอดภัยที่สุด”
เฉียนอันอธิบายพร้อมประสานมือเอ่ยคำ “เชิญคุณชาย”
เฉินซีพยักหน้าโดยไม่ลังเล ก่อนจะก้าวเข้าไปในประตูพร้อมเฉียนอัน
วิ้ง ~
พวกเขาทั้งสองหายไปท่ามกลางแสงวาบในพริบตา
…
นี่คือเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่
การเดินเข้าไปย่อมไม่ต่างกันมุ่งหน้าสู่โบราณกาลด้วยบรรยากาศอันหนักอึ้ง
ยามนี้มีบุคคลมากมายรวมตัวอยู่ในเมืองนี้
ไม่เหมือนกับโลกภายนอก ผู้คนที่สามารถมาถึงสถานที่แห่งนี้แทบทุกคนต่างมีภูมิหลังและอำนาจอันล้นหลาม
เมื่อเฉินซีและเฉียนอันมาถึง พวกเขาเห็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลมากมาย มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่ขอบเขตเทวารู้แจ้งวิญญาณ ส่วนขอบเขตเทวารู้แจ้งโลกาแทบจะไม่เห็นเลย
สิ่งเหล่านี้ทำให้เฉินซีถอนหายใจยาวแรง แน่นอนว่าตลาดมืดแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ใครจะสามารถเข้ามาได้ตามอำเภอใจ
ตู้ม!
ทันใดนั้น โลกพลันเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับรถม้าสมบัติสัมฤทธิ์ก็ทะลวงผ่านท้องนภาเข้ามา
สิ่งที่ดึงรถม้าสมบัติคือซวนหนี่สีทองแปดตัว มันดุร้ายน่าสะพรึง โดยจิตสังหารแผ่ซ่านออกมา
“รถม้าสมบัติซวนหนี่!”
“จักรพรรดิจ้านเซียวแห่งเอกภพนพตันตริมาที่นี่เหมือนกัน!”
จักรพรรดิจ้านเซียวคือจ้าวเอกภพนพตันตริ นิสัยแข็งกร้าว ชอบการเข่นฆ่า ครอบครองพลังสุดหยั่ง
ไม่นานหลังจากนั้น ก่อนผู้คนจะหายจากอาการตกตะลึง เมฆเจิดจ้าก็ลอยสู่ท้องนภา มันพร่างพราวประหนึ่งดวงอาทิตย์แผดเผา รูปร่างโอ่อ่าปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นการยากที่จะมองเห็นโฉมหน้าของอีกฝ่าย แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาไม่อาจหยั่งถึง ยามสายตากวาดมองขุนเขาธารา ทำให้สีสันของฟ้าดินแปรเปลี่ยน
“อะไรน่ะ?”
“หากข้าเดาไม่ผิด น่าจะเป็นจักรพรรดิเมี่ยวเฟิงแห่งเอกภพสมุทรทักษิณาจากเกาะนภาเมฆินทร์!”
“จักรพรรดิเมี่ยวเฟิง? โอ้สวรรค์ ข้าได้ยินมาว่าเขาเก็บตัวมานับหมื่นปี แล้ววันนี้เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?”
มีเสียงอุทานดังตามท้องถนน ทำให้เกิดคลื่นแห่งความไม่สงบอีกระลอก
ในขณะนี้ แม้กระทั่งเฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ จักรพรรดิมาตลาดมืดในครั้งนี้ด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่?
ทันใดนั้น เฉินซีก็รู้สึกดวงตามืดบอดขณะท้องนภาถูกปกคลุมด้วยเงาสีดำ จนกระทั่งบดบังดวงอาทิตย์
หากมองอย่างละเอียดก็จะพบว่ามันไม่ใช่เมฆสีดำ แต่เป็นร่างขนาดใหญ่ของเต่าดำซึ่งปกคลุมพื้นที่ไปหลายหมื่นลี้ มันเคลื่อนตัวข้ามผ่านท้องนภาประหนึ่งทวีปลอยฟ้าขณะปลดปล่อยกลิ่นอายน่าสะพรึงยิ่ง
“จักรพรรดิเจิ้นอู่!”
“เขายังอยู่จริง ๆ!”
ความเงียบสงบในเมืองโบราณถูกทำลายสิ้นก่อนจะเกิดความโกลาหลไร้ที่สิ้นสุด ผู้คนต่างตกตะลึงกับเหตุดังกล่าวจนไม่อาจสงบสติลงได้
เพียงชั่วขณะ จักรพรรดิทรงพลังทั้งสามต่างปรากฏตัว นับว่าเป็นเรื่องพิเศษที่ไม่ปกตินัก
อึดใจต่อมา กลุ่มผู้บ่มเพาะต่างไหลหลั่งเข้ามา รวมถึงผู้ยิ่งใหญ่ขอบเขตมหาเทพเทวาและผู้เยี่ยมยุทธ์จากเอกภพอื่น ๆ ช่างเป็นเหตุชวนให้ตกตะลึงไม่น้อย
เฉินซีอยู่นิ่งด้วยความรู้สึกว่าการเดินทางในครั้งนี้ช่างคุ้มค่านัก เขายังได้รู้เกี่ยวกับจักรพรรดิบางส่วนจนเป็นการเปิดโลกให้กว้างขวางผ่านการสนทนาของผู้อื่น
“คุณชาย ตอนพวกเรามาถึงที่นี่ ข้าสืบทราบมาว่าวันนี้จะมีการประมูลในตลาดมืด ถึงตอนนั้น สมบัติน่าทึ่งเกินกว่าที่จะคาดเดาจำนวนมากจะปรากฏขึ้น พอมาลองคิดดู ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นน่าจะมาด้วยเหตุผลนี้”
เฉียนอันอธิบายเสียงต่ำ
การประมูลหรือ?
“คุณชาย ท่านเพียงต้องการวัตถุเทวะหายากสองชิ้นเท่านั้น ‘น้ำค้างเพลิงทมิฬศักดิ์สิทธิ์’ กับ ‘หนามลายทองคำ’ ท่านอาจจะสามารถลองเสี่ยงโชคจากการประมูลดูก็ได้”
เฉียนอันแนะนำด้วยเสียงแผ่วเบา
“ไปกันเถอะ! ข้าอยากเห็นนักว่าสมบัติที่จะปรากฏในการประมูลครั้งนี้จะมีอะไรบ้าง” ดวงตาของเหล่าไป๋ทอประกายคล้ายกับให้ความสนใจต่อเรื่องนี้
“ได้อยู่แล้ว”
เฉินซีพยักหน้า
“แต่ว่าท่านต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ในการประมูลครั้งนี้ แค่ผลึกศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียวไม่มีทางทำให้ได้สมบัติมาครอบครอง แต่หากท่านใช้รากเต๋ากำเนิดบรรพชนเพื่อแย่งชิงสมบัติ เกรงว่าตัวตนของท่านจะถูกเปิดโปง”
เฉียนอันลังเลชั่วขณะ จากนั้นจึงอธิบายเพิ่ม
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นไปหรอก”
เฉินซียิ้ม ไม่เพียงเขาครอบครองรากเต๋าบรรพชน แต่ยังมีวัตถุเทวะไร้ใครเทียบอีกมากมาย แต่เขาไม่เต็มใจขายเพราะพวกมันหายากเกินไป
เฉียนอันยิ้ม
เนื่องจากเป็นช่วงเช้าตรู่ เฉินซีจึงไม่รีบร้อนขณะเดินไปตามท้องถนนพร้อมกับเฉียนอัน
ระหว่างทาง พวกเขาพบเห็นผู้คนมากมายกำลังมุ่งหน้าไปทิศเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าทุกคนมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประมูลดังกล่าว
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ยิ่งใหญ่ขอบเขตมหาเทพเทวาทั้งหลายมาที่นี่ในครั้งนี้เพื่อ ‘บรรทัดชะตาเต๋าเทวะ’ ข้าได้ยินมาว่ามันคือสมบัติวิญญาณธรรมชาติที่น่าทึ่ง”
“ไม่ใช่แค่สมบัติชิ้นนี้เท่านั้น ข้าได้ยินมาว่ามีสมบัติอีกมากมายที่ทำให้จักรพรรดิมาเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ หาไม่แล้วคงไม่สามารถดึงดูดผู้ยิ่งใหญ่ได้มากมายขนาดนี้”
“ข้ายังได้ยินมาอีกว่าของประมูลชิ้นสุดท้ายคือสมบัติแห่งยุค ข้าไม่ทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่สมบัติชิ้นนี้สร้างความอิจฉาให้กับสวรรค์มากที่สุด หากบัญชาเต๋าสวรรค์พบเข้า ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมไม่ต่างจากหายนะ”
“สมบัติแห่งยุคหรือ? เหลวไหล! ใครในโลกนี้จะโง่พอเอามันมาประมูลกันเล่า?”
ระหว่างทาง เฉินซีได้ยินบทสนทนามากมาย ซึ่งทั้งหมดข้องเกี่ยวกับการประมูล มันยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกประหลาดใจ
สมบัติแห่งยุคหรือ?
“เหอะ มีแต่พวกโง่เท่านั้นที่สนใจสมบัติแห่งยุค” เหล่าไป๋ซึ่งยืนอยู่บนบ่าของเฉินซีเย้ยหยัน แสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย
“เหตุใดถึงพูดเช่นนั้น?”
เฉินซีถามด้วยความสงสัย
“สหายน้อย เจ้าอาจจะยังไม่ทราบ สมบัติแห่งยุคคืออะไร หากสรุปให้เข้าใจง่ายก็คือเป็นสมบัติที่อยู่เหนือขอบเขตของบัญชาเต๋าสวรรค์และมีพลังในการขัดขืนข้อจำกัดแห่งสวรรค์ โดยทั่วไปแล้ว สมบัติเหล่านี้ล้วนสืบทอดมาจากยุคก่อนทั้งสิ้น แต่เพราะมันขัดกับสวรรค์มากเกินไป ทำให้กลายเป็นข้อห้ามของบัญชาเต๋าสวรรค์ในยุคสมัยนี้ หากถูกค้นพบก็จะนำไปสู่หายนะไร้ที่สิ้นสุดจากทวยเทพอย่างแน่นอน”
เหล่าไป๋เอ่ยคำต่อ “ต่อให้เป็นจักรพรรดิก็ไม่สามารถควบคุมสมบัติเช่นนี้ได้ หากเกิดการปนเปื้อนจากการสัมผัสสิ่งนี้ พวกเขาก็จะเข้ามาพัวพันกับมันจนไม่เป็นที่ยอมรับจากบัญชาเต๋าสวรรค์”
เฉินซีลอบตกตะลึงอยู่ภายใน ไม่คาดคิดว่าจะมีสิ่งต้องห้ามเช่นนั้นอยู่บนโลกใบนี้ มันทำให้ตนนึกถึงระเบียนแดนมรณะกับพู่กันพิพากษามารซึ่งเป็นสมบัติต้องห้ามจนไม่สามารถเปิดเผยบนโลกได้เช่นกัน
“หากเข้าใจเรื่องนี้ เจ้าก็จะเข้าใจว่าผู้บ่มเพาะธรรมดาที่ครอบครองสมบัติแห่งยุคจะประสบกับเคราะห์ร้ายมากกว่าเคราะห์ดีจนนำหายนะมาสู่ตนได้อย่างง่ายดาย”
น้ำลายของเหล่าไป๋กระเซ็นพลางเอ่ยคำ “ข้าถึงได้บอกว่าผู้บ่มเพาะเหล่านี้โง่เขลาและไม่เข้าใจความร้ายกาจของสมบัติแห่งยุค… เดี๋ยวนะ ไม่สิ ถ้ามันปรากฏขึ้นมาจริง หรือว่าจะเป็น…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
เฉินซีสังเกตเห็นว่าอารมณ์ของเหล่าไป๋ไม่มั่นคง ดังนั้นจึงอดคิ้วขมวดไม่ได้
“ไม่มีอะไร ไปที่งานประมูลกันก่อนดีกว่า”
แม้เหล่าไป๋จะส่ายหน้า แต่สีหน้ากลับดูแปลกประหลาดยิ่ง
ระหว่างทาง มันอยู่ในอาการเงียบสงบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนราวกับตกอยู่ในภวังค์
เฉินซีไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว วิหคเฒ่าตัวนี้มีจุดกำเนิดลึกลับและคล้ายกับรู้ทุกอย่าง แม้แต่เขาก็ไม่ทราบว่าเหล่าไป๋กุมความลับไว้เท่าไหร่กันแน่
ไม่ช้า สิ่งปลูกสร้างโบราณก็ปรากฏตรงหน้า มันดูยิ่งใหญ่โอ่อ่าประหนึ่งหอคอยตั้งตระหง่านบนขอบฟ้า สภาพเหมือนกับหอดูดาวที่สร้างโดยบรรพชนในอดีตกาล
ตอนนี้เองที่กลุ่มผู้บ่มเพาะมาถึงจุดหมายคนแล้วคนเล่า แม้พวกเขาคล้ายกับมีชีวิตชีวา แต่บรรยากาศกลับชวนให้อึดอัดยิ่ง
เฉินซีเห็นรถม้าสมบัติซวนหนี่กับพาหนะของผู้ยิ่งใหญ่ แสดงว่าพวกเขาต่างเดินทางมาถึงก่อนแล้ว
นี่คือห้องประมูลสมุทรทักษิณา สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดมืดของเทศกาลหลินหลางเป่าที่เลื่องลือเรื่องความลึกลับ