บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1782 สมบัติวิญญาณทะยานฟ้า
บทที่ 1782 สมบัติวิญญาณทะยานฟ้า
ร่มกรอบทองแสงคราม!
สมบัติวิญญาณธรรมชาติอันตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลคุนอู๋ เมื่อกาลก่อน คุนอู๋ชิงเคยนำมันไปยังซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ และตกมาอยู่ในมือเฉินซีหลังจากที่ถูกอีกฝ่ายสังหาร
วิ้ง!
ขณะนี้สมบัติดังกล่าวถูกเฉินซีเรียกใช้ เผยปราณโกลาหลและรัศมีสีคราม จรัสจ้าไร้ขอบเขต สาดส่องทั่วฟ้าดินใกล้เคียง
มันสั่นสะท้านไม่แน่นอน เผยอักขระอันคลุมเครือแล่นพล่านทั่วพื้นผิวร่ม ทำให้มันดูศักดิ์สิทธิ์เกินธรรมดา
ตู้ม!
ขณะเดียวกันนั้นเอง จักรพรรดิหนานตู้ก็พุ่งเข้ามาพร้อมอัสนีสีเงินเรืองฟาดเกินนับสาย พวกมันดูประหนึ่งฝูงอสรพิษสีเงินร่ายรำเต้นกระตุก เหวี่ยงตัวลงใส่ร่มกรอบทองแสงครามอย่างรุนแรงจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้างกัมปนาทสะเทือนสรวง
เพียงพริบตา ร่มก็ถูกฟาดกระเด็นไป
“ร่มกรอบทองแสงคราม ไม่ใช่ว่านั่นคือสมบัติวิญญาณธรรมชาติของตกทอดในตระกูลคุนอู๋หรอกหรือ? เหตุใดมันจึงมาอยู่ในมือเจ้าเด็กบ้านี่ได้?” สายตาของจักรพรรดิหนานตู้กวาดมองมาอย่างอดไม่ได้ ก่อนที่ความสนใจจะถูกสมบัติอันปลิวกระเด็นเมื่อครู่ดึงไปทันที
“หือ? เด็กบ้านี่คงมิใช่เฉินซีหรอกกระมัง?” ทันใดนั้น จักรพรรดิหนานตู้ก็หวนนึกถึงข่าวลือหนึ่งเมื่อไม่กี่ปีก่อนขึ้นมา กล่าวกันว่าศิษย์สายตรงของเขาเทพพยากรณ์ เฉินซีได้สังหารลั่วฉ่าวหนง กงเหย่เจ๋อฟู และมหาเทวาวิญญาณอีกสี่คนลงที่ซากโบราณสถานรกร้างหมานกู่ ท้ายที่สุด เรื่องนี้กระทั่งทำให้จักรพรรดิชงโตว จักรพรรดินีอวี้เชอ และนายใหญ่แห่งเขาเทพพยากรณ์ อู๋เซวี่ยฉานปรากฏตัวขึ้นตามกันจึงสะท้านสะเทือนไปทั่วโลกา
และยามนั้นเองที่ชื่อของเฉินซีโด่งดังไปทั่วแดนเทพโบราณดุจติดปีกบิน
หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ เกรงว่าคงไม่สามารถทำให้ตัวตนอย่างจักรพรรดิหนานตู้สนใจได้ แต่เมื่อเฉินซีเป็นศิษย์สายตรงผู้หนึ่งของเขาเทพพยากรณ์ และยังเป็นศิษย์น้องเล็กของนายใหญ่อู๋เซวี่ยฉาน กระทั่งจักรพรรดิหนานตู้ยังต้องให้ความสนใจอย่างช่วยไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ได้คาดคิดเลย ว่าเจ้าเด็กบ้าที่กำลังสู้อยู่ในขณะนี้จะมีความเป็นไปได้มากว่าคือเฉินซี!
เป็นเขาแน่ ๆ!
ยันต์เทวะที่เจ้าเด็กนี่เผยในศึกเมื่อครู่คือเคล็ดที่เขาเทพพยากรณ์ไม่เผยแก่คนนอก ประกอบกับอำนาจต่อสู้ท้าทายสวรรค์ที่เจ้าเด็กนี่มีทั้ง ๆ ที่ยังอายุน้อย สัตว์ประหลาดเช่นนี้ มีเพียงที่อย่างเขาเทพพยากรณ์เท่านั้นที่เลี้ยงขึ้นมาได้….
ความคิดเหล่านี้แล่นทะลวงเข้ามาในใจของจักรพรรดิหนานตู้อย่างเฉียบพลัน ทำให้เขาอดรู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้
หากเฉินซีเป็นเพียงศิษย์ทั่วไปของเขาเทพพยากรณ์ เขาก็ไม่น่ารู้สึกพรั่นพรึง และคงฆ่าอย่างเฉียบขาด
ในฐานะผู้อาวุโสตระกูลเยี่ย จักรพรรดิหนานตู้ย่อมตระหนักดีว่าทรัพยากรและความสามารถของเขาเทพพยากรณ์น่าสะพรึงกลัวเพียงไร
นั่นแหละเหตุผลที่เขาเกิดความพรั่นพรึงเล็กน้อยในขณะนี้
ทว่าเพียงพริบตาต่อมา เมื่อเห็นร่มกรอบทองแสงครามซึ่งถูกฟาดกระเด็นไปและนึกถึงเยี่ยเฟิงผู้เป็นบุตรชายซึ่งตกตายอย่างน่าเวทนา รวมถึงสมาชิกตระกูลในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลของตนซึ่งถูกสังหารไปก่อนหน้านี้ ความกลัวเสี้ยวสุดท้ายในใจจักรพรรดิหนานตู้ก็หายลับไร้ร่องรอย
โทสะและความโลภแผดผลาญดุจไฟป่าในใจ ทำให้จิตสังหารพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกหน หมายมาดจะสังหารเฉินซีให้จงได้
ขอเพียงข้าทำลงไปอย่างลับ ๆ ใครเล่าจะรู้ว่าเป็นฝีมือข้า?
อีกอย่าง เด็กเวรนี่ฆ่าลูกข้า! ข้าจะไว้ชีวิตเขาได้อย่างไร?
…
“ฮึ! ขอข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะยังเล่นลูกไม้ใดได้ ไอ้เด็กเวร!” แม้เขาไม่อาจสัมผัสร่องรอยของเฉินซีได้ จักรพรรดิหนานตู้ก็พึ่งสัญชาตญาณเล็งพลังชีวิตของเขาไปที่ร่มกรอบทองแสงคราม
ยิ่งกว่านั้น เขากล้าประกันว่าเฉินซีไม่ได้หนีไปไหน เพราะบริเวณล้านลี้รอบข้างถูกปราณของเขาผนึกไว้แต่แรกแล้ว!
จักรพรรดิหนานตู้ยื่นมือออกมา คิดตะครุบร่มกรอบทองแสงคราม เพราะหากเขาฉวยโอกาสนี้ฉวยสมบัติวิญญาณธรรมชาติมาได้ชิ้นหนึ่ง มันก็จะเป็นผลประโยชน์อันเกินคาดคิด
วิ้ง!
ทว่าขณะที่เขาขยับตัวนั้นเอง ธงสีเหลืองส้มผืนหนึ่งพลันทะยานสู่เวหา เรืองรัศมีศักดิ์สิทธิ์แผ่ไพศาล สร้างเป็นค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ครอบลงใส่จักรพรรดิหนานตู้อย่างไร้ปรานี
ธงพิทักษ์ปฐพีที่ห้า! สมบัติวิญญาณธรรมชาติที่สืบทอดกันมาจากบรรพชนตระกูลตี้
ม่านตาของจักรพรรดิหนานตู้หดตัว แผดเสียงสนั่นเฉียบพลัน ก้อนอัสนีสีเงินพุ่งขึ้นจากมือ เข้าปะทะค่ายกลศักดิ์สิทธิ์ตรง ๆ
เปรี้ยง!
เสียงกระทบดังสนั่น ค่ายกลอันเกิดจากธงพิทักษ์ปฐพีที่ห้าพังทลายลง สาดรัศมีศักดิ์สิทธิ์ทุกหนแห่ง
“สมบัติดี! น่าเสียดายที่มาอยู่ในมือเด็กเวรอย่างเจ้า ทำเสียของหมด ภายหน้าข้าจะดูแลมันให้เอง!” จักรพรรดิหนานตู้แสยะยิ้มขณะยื่นมือคว้าใส่ธงพิทักษ์ปฐพีที่ห้า
ขณะนี้จักรพรรดิหนานตู้ยืนยันได้แล้วว่าเฉินซีอยู่ใกล้ ๆ และใช้วิชาอำพรางตัวหลอกสัมผัสของเขา
ขณะที่มือของจักรพรรดิหนานตู้กำลังจะเอื้อมถึง เสียงคำรนเลื่อนลั่นดุจมังกรคำรามพลันสะท้านสะเทือน ดุจมาจากขณะที่ความโกลาหลระเบิดตัว ดังสนั่นเกินใดเทียบ
ขณะเดียวกันนั้นเอง ไข่มุกสีครามอันเรืองรองทะยานขึ้นหมุนวน พื้นผิวของมันจารึกอักขระเต๋าลึกลับมากมาย มีเสียงมังกรคำรนดังออกมาจากภายใน
วิ้ง!
เสียงมังกรคำรนดังสนั่นปะทะจักรพรรดิหนานตู้โดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้เขาสะท้านเสียจนแก้วหูลั่นเสียด นอกจากนั้น ศีรษะมึนตึง แก่นโลหิตในร่างสะท้านเทิ้ม ครั่นคร้ามไปทั้งกาย
“ไข่มุกต้นกำเนิดมังกร!” จักรพรรดิหนานตู้ตกตะลึง มองออกว่านี่คือสมบัติวิญญาณธรรมชาติซึ่งตกทอดกันในตระกูลจิน นอกจากจะทำให้เขาตกตะลึงเดือดดาลแล้ว ความโลภอันแผดผลาญก็พลุ่งพล่านในใจอย่างช่วยไม่ได้
ร่มกรอบทองแสงคราม ธงพิทักษ์ปฐพีที่ห้า ไข่มุกต้นกำเนิดมังกร สมบัติวิญญาณธรรมชาติถึงสามชิ้น!
ตัวตนอย่างจักรพรรดิหนานตู้ย่อมมีสมบัติวิญญาณธรรมชาติชิ้นสองชิ้นเป็นธรรมดา ดังนั้นเขาหรือจะคาดคิดว่าผู้น้อยสักคนจะมีสมบัติวิญญาณธรรมชาติอยู่มากมายเพียงนี้?
“ฮ่า ๆ ๆ! ขอข้าประจักษ์หน่อยเถอะว่าเจ้ายังมีสิ่งใดอีก!” จักรพรรดิหนานตู้หัวเราะร่า เมื่อคิดไปว่าตนจะได้สมบัติวิญญาณธรรมชาติมากมายในกำมือหลังสังหารเฉินซี ก็อดรู้สึกลิงโลดสุดตื่นเต้นไม่ได้
วูบ!
คันฉ่องสำริดซึ่งดูเรียบง่ายบานหนึ่งปรากฏกลางอากาศ พร่างพรมรัศมีศักดิ์สิทธิ์สีม่วงเรืองรอง
วิ้ง!
ระฆังสีเหลืองใบหนึ่งส่งเสียงสะท้าน แผ่อำนาจศักดิ์สิทธิ์เป็นวงเช่นคลื่นกระเพื่อม
วูบ!
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์สีดำขลับราวคลุมด้วยม่านรัตติกาลทะยานสู่เวหา รัดพันด้วยอัสนีเรืองรอง ฟาดฟันลงดุจธารดาราทะลักล้น
เพียงพริบตา สมบัติวิญญาณธรรมชาติอีกสามชิ้นก็ทะยานฟ้า พุ่งทะลวงเข้าใส่จักรพรรดิหนานตู้จากทิศทางอันแตกต่าง
“กระจกกร่อนวิญญาณของตระกูลเยว่! ระฆังวิเวกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเป่ย! แล้วยังกระบี่วิญญาณทมิฬ… ของตระกูลลั่ว!” เมื่อเห็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งสามชิ้นนี้ แม้สภาพความคิดของจักรพรรดิหนานตู้จะกล้าแกร่ง หัวใจก็ยังอดกระตุกอย่างรุนแรง ผงะไปชั่วขณะไม่ได้
สมบัติวิญญาณธรรมชาติเยอะเหลือเกิน!
จักรพรรดิหนานตู้หรือจะคาดคิดว่าตนจะได้มาเห็นสมบัติล้ำค่า พบได้แต่ไม่อาจแสวงมากมายเพียงนี้ขณะพยายามสังหารผู้น้อยขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเพียงหนึ่ง!
แสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงซึ่งระเบิดออกจากกระจกกร่อนวิญญาณคมกริบดุจมีด ฉีกบ่าซ้ายของจักรพรรดิหนานตู้เป็นแผลเลือดโชก มีกระดูกโผล่มารำไร
การโจมตีนี้ทำให้จักรพรรดิหนานตู้คืนสติอย่างสมบูรณ์ และทำให้ดวงตาแดงฉานด้วยความโลภ
บาดแผลเล็กน้อยแค่นี้ย่อมไม่อาจทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้า เหตุผลที่แท้จริงอันทำให้เขาตื่นเต้นนักเป็นเพราะว่าหลังศึกนี้จบลง เขาจะได้สมบัติวิญญาณธรรมชาติมาครอบถึงหกชิ้นในคราวเดียว!
เมื่อเผชิญผลประโยชน์มหาศาลโดยไม่คาดคิด จักรพรรดิผู้ใดคงไม่พ้นเป็นบ้าด้วยความริษยา!
ตู้ม!
จักรพรรดิหนานตู้สูดหายใจลึก ๆ แล้วหอกสีทองสว่างเล่มหนึ่งก็พลันปรากฏในมือ แทงทะลวงไปในท้องนภาพร่างพราว
เพียงพริบตา เขาก็ขยี้การโจมตีประสานของกระบี่วิญญาณทมิฬ กระจกกร่อนวิญญาณและระฆังวิเวกโลหิตศักดิ์สิทธิ์ลง สะท้านสมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งสามสั่นคลอนรุนแรงเจียนร่วงหล่น
“ฮ่า ๆ ๆ! ไอ้หนู ทรัพย์สินเป็นบ่อเกิดความอับจน ฝีมือต่ำต้อยอย่างเจ้า มีสมบัติวิญญาณธรรมชาติกี่ชิ้นก็ไร้ประโยชน์!” จักรพรรดิหนานตู้หัวเราะร่าอย่างแสนลำพอง สะบัดแขนเสื้อคิดจะริบสมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งหกไป
และเหมือนกาลก่อน ดาบสีเลือดอีกเล่มทะยานสู่เวหาในพริบตา ดุจจันทร์เพ็ญสีเลือดโรยลงสู่แดนหล้า
ดาบโลหิตปรโลก! สมบัติวิญญาณธรรมชาติตกทอดของตระกูลกงเหย่! จักรพรรดิหนานตู้เกือบเต้นแร้งเต้นกาด้วยความดีใจยามได้เห็น เขาล่ะอยากแผดเสียงขอให้เฉินซีใช้สมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งหมดที่มีออกมาเหลือเกิน
ขณะนี้ เขาไม่อาจสะกดความตื่นเต้นไว้ในใจ ร่างวูบไหวพุ่งทะยาน มือเผยอำนาจน่าสะพรึงกลัว ฝืนคว้าดาบโลหิตปรโลกเอาไว้!
ตู้ม!
รัศมีศักดิ์สิทธิ์สีเลือดพุ่งทะยาน ดาบโลหิตปรโลกแผดร้องดังสนั่น ถูกมือของจักรพรรดิหนานตู้ฝืนตะครุบไว้
“ฮ่า ๆ ๆ! ดาบนี้ไม่เลว ข้าจะรับของขวัญนี้ของเจ้าไว้….” จักรพรรดิหนานตู้อดแผดเสียงหัวเราะอย่างยินดีมิได้ แต่อึดใจต่อมา ม่านตาของเขาก็พลันหดตัว สังเกตได้ทันทีว่าเหมือนจะมีปราณอันตรายอย่างยิ่งสายหนึ่งแผ่ออกมาจากดาบโลหิตปรโลกในมือ
หือ? จักรพรรดิหนานตู้ผงะไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะฟื้นจากความจังงัง หนึ่งเสียงระเบิดเปรี้ยงสะท้านโลกาก็เลื่อนลั่น ดาบโลหิตปรโลกระเบิดคามือ เผยอำนาจน่าสะพรึงกลัวเกินบรรยาย
เพียงพริบตา ท้องนภาพร่างพราวจุดที่จักรพรรดิหนานตู้ยืนก็ถูกระเบิดเป็นจุณ พังทลายลงก่อหลุมดำขึ้นอย่างรวดเร็ว
เหตุนี้ชวนตะลึงถึงขีดสุด
“อ๊าก!!!!” หนึ่งเสียงโหยหวนดังลั่น ที่แห่งนั้นปั่นป่วนไร้ระเบียบ แสงศักดิ์สิทธิ์แดงเลือดพร่างพรม ไม่อาจเห็นร่างของจักรพรรดิหนานตู้ได้อีก
วูบ!
ขณะนั้นเอง ร่างสูงของเฉินซีก็ปรากฏขึ้นจากแสนไกล สะบัดแขนเสื้อเก็บสมบัติวิญญาณธรรมชาติทั้งหกชิ้นกลับไป
“หนนี้ สุนัขเฒ่านั่นคงตายไปแล้วกระมัง?” เฉินซีหอบหายใจด้วยใบหน้าซีดขาว ก่อนหน้านี้ เขาใช้อักขระผนึกเต๋าอำพรางกายในสุญญะ แล้วใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นแล้วชิ้นเล่าโจมตีจักรพรรดิหนานตู้ แทบไม่อาจทานทนการสิ้นเปลืองพลังจากการทำเช่นนี้ได้
และเพื่อโจมตีสังหารจักรพรรดิหนานตู้ทีเผลอ เฉินซีถึงขนาดใช้เต๋ารู้แจ้งแห่งจุดจบเพื่อสร้างความเสียหายแก่โครงสร้างภายในของดาบโลหิตปรโลกยามเร้นกายอยู่ เพื่อฉวยโอกาสยามอีกฝ่ายไม่ทันระวัง ใช้แรงระเบิดของดาบโลหิตปรโลกมาสังหารจักรพรรดิหนานตู้!
โชคยังดีที่แผนของเขาลุล่วงด้วยดี แม้จะเสียสมบัติวิญญาณธรรมชาติไปหนึ่งชิ้น แต่แลกมาด้วยการฆ่าจักรพรรดิผู้หนึ่ง นับว่าคุ้มค่าแล้ว
………………..