บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1829 หยั่งรู้แก่นแท้สสาร

บทที่ 1829 หยั่งรู้แก่นแท้สสาร

แรงกดดันนี้รุนแรงมาก!

เฉินซีรู้สึกราวกับว่าทั่วทุกอณูผิวถูกภูเขาศักดิ์สิทธิ์บดขยี้ ร่างของเขาจวนจะถูกแหลกเป็นชิ้น ๆ

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาเกือบจะทนไม่ไหว ความอบอุ่นหนึ่งก็จะกำจายออกมาจากภายในร่าง และช่วยชายหนุ่มจัดการกับแรงกดดันบางส่วน ซึ่งทำให้เขามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะก้าวต่อไป

ด้วยพลังนี้ เขาสามารถก้าวไปข้างหน้าได้เรื่อย ๆ แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะช้าและยากลำบาก กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะหยุดพักเลยสักครั้ง

ตลอดเส้นทางที่ผ่านไป จำนวนของดวงดาวเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ มีบางช่วงที่เขาไม่พบแม้ดาวสักดวง

อย่างไรก็ตาม เฉินซีไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย

ในขณะนี้ดวงจิตและหัวใจของเขาจดจ่ออยู่กับการก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น จนแม้แต่ตัวเฉินซีก็นึกแคลงใจว่าเหตุใดตนถึงยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้

มันก็เพียงความก้าวหน้า เพียงสิ่งที่ไม่ว่าที่ไหนก็เกิดขึ้นได้มิใช่หรือ?

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาคิดจะหยุด ร่องรอยแห่งความไม่พอใจเหลือคณนาก็เกิดขึ้นในใจของชายหนุ่มอย่างอดไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกที่กระตุ้นให้เขายังคงยืนหยัดต่อไป

บางทีมันคงเป็นนิสัยพื้นฐานของเฉินซีที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างในปัจจุบัน และทำให้เขามีพลังการต่อสู้ที่แม้แต่สหายเต๋าคนอื่น ๆ ยังเทียบไม่ติด

…

หลังจากเวลาผ่านไปนานเกินจะล่วงรู้ เฉินซีก็รู้สึกว่าเขาเป็นเพียงเส้นด้ายที่ทอดห่างจากความล่มสลาย ไม่มีเส้นทางข้างหน้าให้ก้าวเดินอีกต่อไป

มีเพียงดาวดวงเดียวเท่านั้น

มีเพียงดาวดวงเดียวในอวกาศอันกว้างใหญ่ มันกลมสนิท อาบด้วยแสงใสที่เจือความขุ่นพร่า

เมื่อเฉินซีมองผ่านชั้นของแสงนั้น เขาก็ต้องประหลาดใจของเขาที่พื้นผิวของมันถูกปกคลุมไปด้วยโซ่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งหนาและใหญ่โตจำนวนมาก!

มันเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูเหมือนกับใยแมงมุมซึ่งห่อหุ้มดาวทั้งดวงเอาไว้!

พวกมันเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเต๋า แต่ละเส้นล้วนเป็นตัวแทนของกฎมหาเต๋า มีความลึกซึ้งที่เป็นแก่นแท้สสารของมหาเต๋า

ยากจะจินตนาการได้อย่างแน่ชัดว่าเหตุการณ์น่าตกใจนี้ได้บังเกิดขึ้นบนพื้นผิวของดวงดาว

เมื่อมองจากระยะไกล มันเหมือนกับว่าดาวทั้งดวงถูกโซ่ศักดิ์สิทธิ์แห่งมหาเต๋าพันธนาการ รัศมีเรืองรองของมหาเต๋าและโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายและเจิดจ้าถูกผสานเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่น่าอัศจรรย์ซึ่งหาได้ยากยิ่ง

ใครก็ตามที่ได้เห็นฉากนี้ ย่อมต้องรู้สึกว่ามันลึกลับและมีเพียงความยำเกรงในจิตใจ

แม้แต่เฉินซีก็ไม่มีข้อยกเว้น

เขาไม่รู้ว่าดาวดวงนี้ชื่ออะไร แต่ชายหนุ่มรู้อย่างชัดเจนว่ามันแตกต่างจากดวงดาวทั้งหมดที่เขาเคยเห็นมาตลอดทางที่นี่!

มันทั้งพิเศษ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเปล่งรัศมีที่ก่อให้เกิดความยำเกรง

ตอนนี้เองเฉินซีหยุดการเดินทางลง

เพราะนี่คือจุดสิ้นสุดของระยะทางหกพันลี้ภายในเจดีย์แห่งการเริ่มต้น!

ดาวที่มีเอกลักษณ์แสนลึกลับนี้กลายเป็นจุดหมายเดียวของเฉินซีเนื่องด้วยไม่มีทางเลือกอื่น

โครม!

เมื่อเยื้องย่างไปถึงดาวดวงนั้นอย่างแช่มช้า รัศมีที่น่าสะพรึงกลัวของมหาเต๋าก็พุ่งเข้ามาปะทะร่างของเขา

ผั้วะ!

เฉินซีไม่อาจต้านทานต่อแรงปะทะ เขาล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกับเลือกที่กระอักออกมาเต็มปาก

อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มโคจรพลังอย่างไม่ลังเล เขาตัดความคิดที่กวนใจทิ้งไป และเข้าสู่สภาวะการบ่มเพาะในทันที

ตึ้ง!

ปัจจัยสำคัญแห่งพัฒนาการที่สั่นสะท้านและจวนจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุด พลังชีวิตของเขาก็ส่งเสียงกึกก้องอย่างฟ้าคำรามขณะที่มันหมุนวนไปทั่วร่างกาย

ตอนนี้เองทั้งพลังศักดิ์สิทธิ์ในจักรวาลร่างกาย เต๋าศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในครอบครอง ทารกดวงใจที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในดวงจิตแห่งเต๋า…

รวมไปถึงพลังทั้งหมดกำลังโคจรไปพร้อม ๆ กันอย่างที่เกิดขึ้นได้ยากยิ่ง!

เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเฉินซีกำลังลุกไหม้ แสงศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังที่พัดพายดั่งพายุและส่องไขไปท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเปล่งประกายระยับ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ โซ่ศักดิ์สิทธิ์อันแวววาวจำนวนมากก็พุ่งออกมาจากดาวดวงนั้น พวกมันเป็นเหมือนเถาวัลย์ที่อำพรางร่างของเฉินซีไว้ภายใน ปิดกั้นไม่ให้สิ่งที่ชายหนุ่มสำแดงออกมาปรากฏขึ้น

ขวับ! ขวับ!

โซ่ศักดิ์สิทธิ์แผ่ขยายออกและขดตัวอยู่รอบตัวเขาอย่างต่อเนื่อง พวกมันเปล่งรัศมีที่พร่ามัวของเต๋าศักดิ์สิทธิ์ออกมา ก่อนจะพุ่งตัวไปในทิศทางที่เฉินซีกำลังบ่มเพาะ นับเป็นภาพที่เกินจินตการอย่างมาก

ในเวลาไม่นาน แม้แต่โซ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เกิดขึ้นจากพวกมันอีก และดูเหมือนว่าเฉินซีจะปลาสนาการไปจากดาวดวงนี้ ไม่มีแม้แต่ร่องรอยใดของเขาปรากฏอยู่

…

“ตลอดเส้นทางหกพันลี้ ในที่สุดศิษย์เจ้าก็ได้ก้าวไปสู่ขั้นนั้นแล้ว!” บนดอกบัวสีเขียวซึ่งลอยเหนือท้องฟ้า บรรพชนผู้ก่อตั้งตี้ซุนยืนมือไพล่หลังพลางถอนหายใจเบา ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง

เจดีย์แห่งการเริ่มต้นเป็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติที่เกิดจากแก่นแท้สสารแห่งความโกลาหลในสมัยโบราณ หลังจากนั้น มันก็ถูกครอบครองโดยผู้อาวุโสฝูซี

ความเป็นเอกลักษณ์ของสมบัตินี้สะท้อนให้เห็นได้จากการที่มันสั่งสมพลังของมหาเต๋าไว้ถึงสามพันประการ เป็นสิ่งที่ยังประโยชน์อย่างเหลือเชื่อให้แก่การหยั่งรู้เต๋าและการบ่มเพาะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งลึกลับที่สุดของมันก็คือ ดาวดวงสุดท้ายของปลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ซึ่งทอดยาวกว่าหกพันลี้ภายในเจดีย์

ดาวดวงนี้ถูกปกคลุมไปด้วยบรรดาเต๋าทั้งหลายในสากลโลก มันกอปรไปด้วยรัศมีที่ไร้ขอบเขตของเต๋า เพื่อใครสักคนเข้าไปอาศัยอยู่บนนั้น มันก็เหมือนกับการอาศัยอยู่ภายในแก่นแท้สสารแห่งความโกลาหล ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าใจความลึกซึ้งดั้งเดิมของมหาเต๋าได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด!

และใช่ สถานที่ที่เฉินซีกำลังบ่มเพาะอยู่คือดาวดวงสุดท้ายนั่นเอง!

นอกจากนี้ เขายังเป็นศิษย์คนแรกของเขาเทพพยากรณ์ที่ก้าวเท้าเข้าไปในเจดีย์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ดังนั้นเมื่อตี้ซุนเห็นเหตุการณ์นี้ แม้เขาจะเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจด้วยอารมณ์คราวแล้วคราวเล่า

อันที่จริงมันเป็นเพียงความก้าวหน้าสู่ขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลขั้นสมบูรณ์ ในแง่ของความสำคัญ มันไม่ได้ยิ่งใหญ่นัก แต่ตีซุนตระหนักดีว่าหลังจากที่เฉินซีสำเร็จการบ่มเพาะนี้ มันจะยังประโยชน์อย่างมหาศาลแก่เส้นทางสู่เต๋าของเฉินซีในอนาคต!

นี่คือจุดสำคัญของเรื่องนี้

…

เฉินซีรู้สึกตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในความรู้สึกของเขา เวลาดูคล้ายหยุดลง หากความแข็งแกร่งของเขาเองกลับเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ฝ่าฟันอุปสรรคแห่งกาลเวลาและถอยห่างจากโลกออกไป

ไม่เพียงเท่านั้น เขารู้สึกราวกับว่าตนดำดิ่งลงไปในเต๋าทั้งหลายที่มีอยู่มากมายในโลก หรือไม่ก็กำลังเวียนว่ายอยู่ในมหาสมุทรแห่งมหาเต๋า ชายหนุ่มสามารถสัมผัสได้ถึงความล้ำลึกแห่งมหาเต๋าที่มีทั้งหมดได้อย่างชัดเจน

การเปลี่ยนผ่าน!

เฉินซีสัมผัสได้ว่าพลังงานทั้งหมดที่เขาครอบครองนั้นกำลังเข้าสู่สภาวะเปลี่ยนผันที่ยากจะอธิบาย

ในยามนี้ คล้ายกับว่าเขาได้กลับไปสู่แก่นสสารแห่งความโกลาหล และกำลังสร้างตัวเองใหม่พร้อมกับขัดเกลาตัวตน

เส้นทางแห่งการบ่มเพาะเป็นเส้นทางเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการอย่างไม่สิ้นสุด เป็นการปล่อยให้ชีวิตได้ลิ้มรสการขัดเกลา หลบหนีจากโซ่ตรวนและพันธนาการทั้งปวง เป็นการท้าทายฟ้าดิน ท้าทายดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ถึงแสงส่อง ท้าทายเพื่อเป็นใหญ่ในมหาเต๋า และท้าทายกับอายุขัยเพื่อจะดำรงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์

นี่คือเป้าหมายสุดท้ายของการบ่มเพาะ มันถูกเรียกว่ามหาวิถี!

ตึ้ง!

โซ่ศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากที่ถูกสร้างขึ้นจากมหาเต๋าซึ่งเหมือนกับม่านน้ำตกพร่างพราวปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเฉินซี รัศมีที่ซ่อนแทรกภายในนั้นซึมเข้าสู่ร่างกายเขาและเปลี่ยนเป็นพลังของกฎแห่งมหาเต๋าที่พลุ่งพล่าน ทั้งยังเปลี่ยนแปลงและหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง

นี่เป็นการเปลี่ยนผ่านความหยั่งรู้ในมหาเต๋า จักรวาลร่างกายของเขาและเต๋าแห่งโลกสอดประสานสั่นพ้องจากระยะไกลก่อนจะสะท้อนซึ่งกันและกัน สิ่งนี้ช่วยให้การควบคุมเต๋าของเฉินซีสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

เต๋าศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกแบ่งออกเป็นขั้นพื้นฐาน ขั้นต้น ขั้นสูง ขั้นชั้นยอด และขั้นสมบูรณ์ แต่ละขั้นเป็นเหมือนธรณีประตูที่ยากต่อการก้าวข้ามยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์ ดังนั้นแล้วทุกย่างก้าวจึงเป็นไปอย่างยากเย็น และเป็นไปไม่ได้ที่คนที่ไม่มีความมุ่งมั่นและโชคชะตาจะทำสำเร็จ

ทว่าตอนนี้เฉินซีได้บรรลุถึงขั้นสูงในการหยั่งรู้มหาเต๋าแล้ว ถือได้ว่าเขาเป็นยอดฝีมือระดับสูงในหมู่สหายขอบเขตเดียวกัน

แน่นอน โดยทั่วไปแล้ว บรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลส่วนใหญ่ยังคงมีความเข้าใจต่อเต๋าอยู่ในขั้นต้นเท่านั้น

มีเพียงบุคคลพิเศษเท่านั้นที่สามารถบรรลุขั้นสูงในขณะที่อยู่ในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาล

และใช่ เฉินซีนั้นแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

เต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่เขาครอบครองนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของเต๋าแห่งยันต์อักขระ โดยเขาได้ใช้ความล้ำลึกแห่งมหาเต๋าสูงสุดมากกว่าสิบประการเป็นแกนกลางของเส้นทางการบ่มเพาะ

มหาเต๋าเหล่านี้ประกอบด้วยมหาเต๋าเบญจธาตุ มหาเต๋าแห่งหยิน มหาเต๋าแห่งหยาง มหาเต๋าวายุ มหาเต๋าแห่งสายฟ้า มหาเต๋าแห่งดารา มหาเต๋าแห่งการลืมเลือน มหาเต๋าแห่งการทำลายล้าง มหาเต๋าแห่งแสงสว่าง มหาเต๋าแห่งความมืด มหาเต๋าแห่งปารมิตา มหาเต๋าแห่งการรังสรรค์ มหาเต๋านิรันดร์ มหาเต๋าแห่งการกลืนกิน และอื่น ๆ อีกมากมาย

เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ฝึกฝนคนอื่นดูด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกัน แน่นอนพวกเขาไม่ใช่คู่มือของเฉินซี

แต่เพราะเหตุนี้ ความก้าวหน้าในการหยั่งรู้เต๋าของเฉินซีจึงยากและคลุมเครือมากกว่าผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ

ไม่อย่างนั้นแล้ว ด้วยความสามารถในการเข้าใจและพรสวรรค์ที่มากเป็นพิเศษของเขา กอปรกับโชคลาภและโอกาสทั้งหลายที่เขาได้พบพาน เฉินซีไม่มีทางจะมีระดับความเข้าใจในมหาเต๋าอยู่เพียงระดับสูงเช่นนี้อย่างแน่นอน

แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้ วิถีแห่งเต๋าของเฉินซีจึงมั่นคงยิ่งขึ้น มันทอดไกลและกว้างใหญ่กว่าคนอื่น ๆ มาก

ที่สำคัญที่สุดก็คือ มันทำให้ชายหนุ่มสามารถดึงเอาความแข็งแกร่งในการต่อสู้ที่เกินกว่าคนรอบข้างออกมาใช้ได้!

บัดนี้ ณ ปลายทางของพื้นที่ซึ่งทอดยาวหกพันลี้ภายในเจดีย์แห่งการเริ่มต้น และบนยอดดาวปริศนาซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความล้ำลึกของมหาเต๋า ระดับความหยั่งรู้เต๋าของชายหนุ่มจึงเป็นสิ่งแรกที่ได้รับการขัดเกลา มันเริ่มเข้าสู่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นผลลัพธ์ที่แม้แต่เขาเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน

ในขณะนี้จิตใจและหัวใจของเขากระจ่างชัดและไร้ซึ่งความปรารถนา เขามุ่งความสนใจไปที่การเข้าใจและแสวงหาการเปลี่ยนผันในกฎเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างเต็มที่

โซ่แห่งมหาเต๋าที่ขดพันอยู่รอบตัวสะท้อนอยู่ในใจของเขา มันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความลับแต่ปางบรรพ์ซึ่งเต็มไปด้วยความเรียบง่าย และความเที่ยงแท้ของมหาเต๋าอย่างชัดเจน

เมื่อกำลังภายในของฟ้าดินสะท้อนก้องอยู่ในจิตใจของผู้คน พวกมันก็จะดูซับซ้อน แน่นขนัด และคลุมเครือเป็นพิเศษ

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะพวกมันเต็มไปด้วยความหลากหลาย พวกมันสามารถจัดกลุ่มใหม่เพื่อสร้างลม เมฆ สายฟ้า ไฟฟ้า พื้นดิน ไฟ หยิน หยาง แม้กระทั่งภูเขา ทะเลสาบ รวมไปถึงสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ความเข้าใจเกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ ก็จะสังเกตเห็นว่ากำลังภายในของพวกมันนั้นเป็นสิ่งพื้นฐานที่มีพื้นเพดั้งเดิมและโบราณอย่างถึงที่สุด!

ในขณะนี้ ด้านที่อยู่ลึกสุดของมหาเต๋าสะท้อนอยู่ภายในหัวใจของเฉินซี รัศมีที่เรียบง่ายและเก่าแก่ของเต๋าทำให้เขาหลงอยู่ภายใน

กาลเวลาย่ำเดินไปอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางสภาวะแห่งความเข้าใจลึกซึ้ง เขาลืมเลือนแม้กระทั่งตัวตนไปอย่างสิ้นเชิง

ในปีแรกของการบ่มเพาะ ระดับความเข้าใจเต๋าของเฉินซีได้เปลี่ยนไป เขาบรรลุถึงขีดสุดขั้นสูง และในปีเดียวกันนี้เอง การบ่มเพาะของเขาบรรลุขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลอย่างสมบูรณ์

ในปีที่สามของการบ่มเพาะ การบ่มเพาะดวงจิตแห่งเต๋าของเขาได้สำเร็จการหลอมสัจหฤทัยสูตรเป็นครั้งที่สาม ทารกดวงใจที่ยังเหมือนเด็กได้เติบโตขึ้นเป็นหนุ่มสาว สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ธรรมดาเพียงไหน

ในปีที่ห้าของการบ่มเพาะ เต๋าแห่งกระบี่ของเขาบรรลุระดับที่สามของขอบเขตจักรพรรดิกระบี่ ส่งผลให้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

และในปีที่ห้านี้เองที่ข่าวว่าห้าสุดยอดแห่งเอกภพจักรวรรดิกำลังจัดงานถกวิถีเต๋า ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกราวกับพายุ มันกระตุ้นความสนใจผู้คนในแดนเทพโบราณไม่น้อย

ภายในชั่วขณะหนึ่ง ข่าวคราวถึงการถกวิถีเต๋าก็ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงที่สุด!

………………..