บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1854 ใช้กำลังสกัดศัตรู
บทที่ 1854 ใช้กำลังสกัดศัตรู
ศึกปะทุขึ้น
คงโหยวหรานแปรลักษณ์เป็นนกยูง เรืองรัศมีศักดิ์สิทธิ์ห้าสี โฉบลงอย่างอหังการชวนตะลึง ขณะเดียวกับที่สารพัดความคลุมเครือเผยออกมาจากในกระบี่เปลื้องมลทินซึ่งถูกเฉินซีเงื้อขึ้น แผ่ปราณกระบี่รวนโลกา
ทั้งสองล้วนเป็นตัวตนสูงสุด ใช้สุดยอดวิชากันทันทีที่เปิดฉากประชัน อำนาจการโจมตีของทั้งสองร้ายกาจ แต่ก็สง่างามเหนือใด
เปรี้ยง!
มิติรอบข้างเดือดพล่าน ขณะที่สารพัดสุดยอดวิชาพริบพรายเต็มไปหมด
ศิษย์สำนักเต๋ายี่สิบกว่าคนเหล่านั้นต่างก็ไม่ธรรมดา พวกเขาใช้สมบัติศักดิ์สิทธิ์สารพัดสี ใช้วิชาอันลึกล้ำโจมตีประสาน ทำให้เผยอำนาจไร้ขอบเขต
ชั่วขณะนั้น บริเวณแสนกว่าลี้รอบทิศต่างปกคลุมด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์ ธารเพลิง รัศมีเต๋า และปราณสมบัติ ละอองแสงพร่างพรม วจีสนั่นกึกก้อง เผยนิมิตน่าสะพรึงกลัวยามเทพอสูรกู่ก้อง มิติพังทลาย สรรพสิ่งแหลกเป็นผุยผงดุจสิ้นโลกา
ยามผู้บ่มเพาะในโลกภายนอกซึ่งพินิจศึกนี้อยู่เห็นเหตุการณ์อหังการไร้ใดเทียบตรงหน้า พวกเขาก็ล้วนตกตะลึงยากหายใจ
ถึงขนาดที่ทั่วจารึกประวัติศาสตร์ ศึกเช่นนี้ยังกล่าวได้ว่าชวนตะลึงอย่างไม่เคยมี!
ไร้ผู้ใดคาดคิดว่าคงโหยวหรานและเฉินซีจะสามารถต่อกรกับเหล่าศิษย์จากสำนักเต๋าได้
นอกจากนั้น ยังไร้ผู้ใดคาดฝันว่าภาพสะท้านโลกาเช่นนี้จะปรากฏขึ้นทันทีที่เริ่มศึก
ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นในโถงบรรจบ จัตุรัสแห่งการประชันหรือทั่วเมืองทศทิศ โลกภายนอกต่างเงียบกริบ
ไร้ผู้ใดปริปากเสวนา ทุกคนล้วนเบิกตากว้างจ้องมองศึกตรงหน้าเขม็งด้วยหัวใจแปรปรวน หวาดนักว่าจะพลาดรายละเอียดใด ๆ
พวกเขารู้สึกว่า ศึกนี้อาจเป็นศึกอันดุเดือดสูงสุดในการถกวิถีเต๋ารอบแรก
ศึกนี้ยังจะถูกจารึกสู่ประวัติศาสตร์ตราบนิรันดร์ เป็นเกียรติประวัติสะท้านกาลเวลา ส่งอิทธิพลต่อหลายรุ่นสมัยต่อจากนี้!
…
ในสมรภูมิ เฉินซีสู้กับศิษย์สิบเอ็ดคนจากสำนักเต๋าตามลำพัง ขณะที่ศิษย์สำนักเต๋าอีกสิบห้าคนรุมโจมตีคงโหยวหราน
เห็นได้ชัดว่าในใจเหล่าศิษย์จากสำนักเต๋า คงโหยวหรานผู้ลือนามแต่เนิ่นนานเป็นภัยกว่าเฉินซีผู้เพิ่งมีชื่อเสียงไม่กี่สิบปีอย่างชัดเจน
เฉินซีหาถือสาไม่ ทันทีที่ศึกเริ่ม เขาก็ตั้งใจจบมันโดยเร็วที่สุดอยู่แล้ว จึงมิได้สนใจรายละเอียดเหล่านี้
เคร้ง!
ทันใดนั้น ร่างของศิษย์สำนักเต๋าผู้หนึ่งก็โผนทะยาน แปรสภาพเป็นปักษาวายุสีทองกู่ก้องขยี้สรวง ฟาดปีกลงเช่นมีดเทวะ กรงเล็บคมกริบขย้ำเข้าใส่ศีรษะของเฉินซีอย่างดุดันไร้ปรานี การโจมตีนี้พัวพันด้วยเพลิงเต๋าสีทอง!
กระบี่เปลื้องมลทินสั่นสะท้าน เรืองรองด้วยอักขระยันต์ เจตจำนงกระบี่โผนทะยานดุจหุบเหวไร้สิ้นสุด ฟาดฟันเพลิงเต๋าสีทองแหลกเป็นเสี่ยง ขณะที่ปราณกระบี่กวาดเข้าปะทะปีกและกรงเล็บสีทองนั้นเป็นเสียงเคร้งสนั่น
ตู้ม!
ขณะเดียวกัน หม้อสีแดงสดใบหนึ่งพลันพุ่งเข้าโจมตีเฉินซี มันเป็นสมบัติวิญญาณธรรมชาติอย่างชัดเจน เผยปราณหยินหยางยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต โถมกระแทกลงใส่เฉินซีดุจคิดกลืนกินโลกา
เฉินซีสะบัดแขนเสื้อซ้าย ส่งอักขระยันต์เรืองรองชุดหนึ่งสานตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นยันต์เทวะลึกลับ มันหมุนวนส่งเสียงครืนโครม แล้วออกแรงกระแทกเข้าใส่หม้อสีแดงสด ทำให้มันกระเด็นไปพร้อมเสียงสั่นสะท้าน
ทั่วทิศปั่นป่วน ศิษย์สำนักเต๋าผู้หนึ่งจำแลงเป็นต้าเผิงเหลืองทอง ขณะที่อีกหนึ่งใช้สมบัติวิญญาณธรรมชาติล้อมโจมตีเฉินซีจากทั่วทิศ
ต้าเผิงเหลืองทองเป็นหนึ่งในสิบอสูรมีปีกยิ่งใหญ่ในบรรพกาล ครอบครองเพลิงเต๋าระลอกทองจากในแก่นแท้โกลาหล นอกจากนั้น มันยังมีอำนาจร้ายกาจบ้าคลั่ง
เห็นได้ชัดว่าสำนักเต๋าผู้นี้เป็นทายาทเผ่าต้าเผิงเหลืองทอง บรรลุมรดกสูงสุดในเผ่าแล้ว มีเพียงตัวตนอย่างเฉินซีผู้บรรลุจุดสูงเหนือใครในขอบเขตบรรพเทวารู้แจ้งจักรวาลเท่านั้นที่สู้กับเขาได้อย่างไร้ความกลัว
ความแข็งแกร่งของศิษย์สำนักเต๋าคนอื่น ๆ ก็เสมอเหมือนต้าเผิงเหลืองทองนี้เช่นกัน พวกเขาจู่โจมเฉินซีจากต่างทิศอย่างสุดฝีมือ น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง
ตู้ม!
ขณะนี้ เฉินซีสู้กับพวกเขาโดยลำพัง รัศมีสมบัติเรืองรองทั่วทิศ ปราณกระบี่โรจน์รุ่งแผ่ทั่วแดนดิน เผยอำนาจแท้จริงของเขาออกมา
นับแต่การถกวิถีเต๋าเปิดฉาก นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินซีประสบเหตุเช่นนี้ ย่อมไม่กล้าเผชิญหน้าอย่างเลินเล่อ
สถานการณ์นี้ เขาถูกล้อมไว้อย่างสมบูรณ์ โทสะที่สั่งสมในใจอยู่เนิ่นนานจึงปะทุออก เขาต่อสู้สุดกำลังโดยไม่ออมมือ จึงยิ่งเรืองอำนาจยามศึกดำเนิน!
ปราณร้ายกาจโผนทะยานตามกาล ยิ่งเข้มข้นขึ้นทุกที แม้จะอยู่ในวงล้อม ก็ยังไร้ผู้ใดกลบรัศมีเขาลง
“ฮึ!” หนึ่งเสียงแค่นขึ้นเย็นเยียบ ดังสนั่นเช่นฟ้าผ่า หลี่หลูเฟิงผู้อาวุโสที่สุดในเหล่าศิษย์สำนักเต๋าลงมือ ร่างของเขาสะท้าน รัศมีเต๋าเรืองโรจน์ทั่วกาย ย่างสามขุมเข้ามาขณะบดขยี้มิติแหลกเป็นเสี่ยง
สมบัติวิญญาณธรรมชาติ ขวดหยินหยางทวิปราณ!
เฉินซีหรี่ตาลง ขณะที่กระบี่เปลื้องมลทินกู่ร้องเสียงใส ก่อนจะโจมตีด้วยผาสมุทร เจตจำนงกระบี่ไหลบ่าเช่นสมุทรคลั่ง ถาโถมเปี่ยมกำลัง ให้ความรู้สึกหาญตะบึงบดขยี้สรรพสิ่ง
เปรี้ยง!
มันบังคับสลายการโจมตีของหลี่หลูเฟิง ส่งสะเก็ดแสงกระจายทั่วทิศ
ฟิ่ว!
ขณะเดียวกัน ร่างของเฉินซีก็เป็นประหนึ่งมังกรร้ายละจากรัง กระบี่เปลื้องมลทินสาดปราณกระบี่มหึมาสะบั้นพัดหยกด้ามหนึ่งซึ่งจู่โจมเข้ามาเป็นเสี่ยง ๆ!
ตู้ม!
การที่พัดหยกถูกทำลายทำให้เจ้าของมันเผชิญผลข้างเคียง เขาพลันกระอักโลหิตหนึ่งคำ ร่างซวนเซถอยหลัง
“หือ?” หลี่หลูเฟิงหน้าง้ำ มิคาดคิดว่าเฉินซีจะร้ายกาจจนสามารถโจมตีทำร้ายสหายผู้หนึ่งของตนขณะถูกล้อมโจมตีเช่นนี้
“เปิดค่ายกลสังหาร!” หลี่หลูเฟิงแผดเสียง
ขวดหยินหยางทวิปราณในมือยิ่งเรืองรองเจิดจรัส พ่นปราณหยินหยางขาวดำออกมามากกว่าเก่า แปรสภาพเป็นมังกรสะบัดร่างยามปรากฏ
ขณะเดียวกัน ศิษย์สำนักเต๋าใกล้เคียงล้วนแผดเสียงกึกก้อง ยืนกระจายตามจุดต่าง ๆ และสร้างเป็นผังค่ายกลยันต์อักขระอันลึกล้ำ ปราณของพวกเขาสนองรับกันจากไกล ๆ จึงดูประหนึ่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ทำให้ปราณยิ่งทะลักรวมเข้ากับหลี่หลูเฟิง
เพียงพริบตา ฟ้าดินต่างกำสรวลโหยไห้ หนึ่งปราณอันยิ่งใหญ่ชวนสะพรึงแผ่ปกคลุมทุกหนแห่ง
เฉินซีเห็นชัดเจนว่าปราณหยินหยางทั้งสองจากร่างของหลี่หลูเฟิงก่อตัวเป็นทะเลเพลิงสีเทา พุ่งเข้าใส่เฉินซีอย่างรวดเร็ว!
“เพลิงกรรมโกลาหล!” ใครบางคนอุทานอย่างตกใจจากโลกภายนอก สีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างมหันต์
เพลิงกรรมนั้นสามารถแผดผลาญกรรมบาปทั้งปวงในโลกหล้า ชำระความชั่วร้ายทั้งปวง ผลาญบาปกรรมทั้งหลายสู่สุญตา ฤทธาของเพลิงกรรมโกลาหลไร้คู่เปรียบ เกิดจากในมหาเต๋าแห่งความโกลาหล เกิดเป็นเพลิงกรรมแห่งมหาเต๋า!
เพลิงสีเทานี้ไร้เสียงใด ๆ พลุ่งพล่านด้วยกระแสอำนาจลึกลับคลุมเครือ อาบร่างของเฉินซีทั่วกาย ขณะที่ทำให้ฟ้าดินมัวหมอง!
ผู้บ่มเพาะมากมายในโลกภายนอกร่างสะท้าน พวกเขาไม่เชื่อว่าศิษย์ระดับสูงสุดของเขาเทพพยากรณ์อย่างเฉินซีจะเผชิญเหตุหายนะเจียนตายเช่นนี้
แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้ประเมินสถานการณ์ของเฉินซีและคงโหยวหรานดีนักแต่ต้น ยามเห็นเช่นนี้ พวกเขาหลายคนก็ยังอดเผยความสงสาร ทนมองมิได้กันอยู่ดี
ทว่าผลลัพธ์นั้นเกินคาดผู้ใดทั้งปวง บริเวณนั้นพลันพังทลาย ขณะที่ปราณอันน่าสะพรึงกลัวสายหนึ่งปะทุออกมา เห็นได้ว่าหนึ่งร่างทรงพลังดุจเทพอสูรทะยานออกจากที่นั่น
ร่างของเฉินซีผ่าเผย อักขระยันต์สารพัดโคจรทั่วร่าง แปรเปลี่ยนเป็นอักขระยันต์เทวะมากมาย ลบเพลิงกรรมโกลาหลทั้งหลายไปจนไม่อาจเข้าใกล้ร่างของเขาได้เลย
ดุจมีมหาเต๋าคุ้มกาย ไร้สิ่งใดสัมผัสได้!
ขณะเดียวกัน ร่างของเฉินซีก็โฉบลง ใช้วิชาศักดิ์สิทธิ์คุนเผิงรวนสุญตา เหวี่ยงกระบี่เปลื้องมลทินส่งปราณกระบี่เจิดจรัสโผนทะยาน!
เปรี้ยง!
หลี่หลูเฟิงหลบด้วยสัญชาตญาณ แต่ต้าเผิงเหลืองทองข้างกายมิได้โชคดีนัก ร่างของมันถูกปราณกระบี่ฟาดฟันเกิดรอยแผลนับไม่ถ้วนบนปีก ก่อนที่ปีกนั้นจะถูกสับแหลกพร้อมเสียงกัมปนาท
“อ๊าก!!” ท่ามกลางเสียงแผดสนั่น ต้าเผิงเหลืองทองถูกส่งตัวออกจากการถกวิถีเต๋าทันที!
“เวรเอ๊ย!” หลี่หลูเฟิงตวาดอย่างเดือดดาล เขาหรือจะคาดคิดว่าหลังใช้ค่ายกลสังหาร มิเพียงไม่อาจทำร้ายเฉินซี ทว่าอีกฝ่ายยังสามารถทำลายเพลิงกรรมโกลาหล กำจัดสหายของพวกตนไปได้หนึ่งคน
วูบ!
รัศมีเต๋าทะยานเวหาจากทั่วร่างของหลี่หลูเฟิง เขาเดือดดาลสุดขีด ใช้ขวดหยินหยางทวิปราณเข้าปะทะเฉินซีตรง ๆ
เปรี้ยง!
พริบตาต่อมา หลี่หลูเฟิงก็ถูกฟาดกระเด็น ไม่อาจขัดขืนการโจมตีของเฉินซีได้เลย
แต่ศิษย์จากสำนักเต๋าอีกคนก็อาศัยจังหวะการปะทะนี้เหวี่ยงกระบองหนามสีทองเข้าใส่ศีรษะของเฉินซีอย่างรุนแรง
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ราวคาดไว้แล้ว เฉินซีสะบัดแขนเสื้อ ส่งเหรียญทองแดงเรืองจรัสสามเหรียญพุ่งทะยานไปเป็นรูปตัว ‘品’ พร้อมเสียงกังวานใส เพียงพริบตา พวกมันก็สกัดกระบองหนามไว้กลางอากาศ ไม่อาจดิ้นหลุดการจองจำของเหรียญทั้งสามได้ ทำให้จะเดินหน้าก็มิอาจ จะถอยก็มิได้
“เหรียญทองแดงโปรยสมบัติของนิกายอำนาจเทวะ!” สีหน้าของศิษย์สำนักเต๋าผู้นั้นแปรเปลี่ยนเฉียบพลัน
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ตอบโต้ ปราณกระบี่สายหนึ่งก็ฟาดฟันลงปกคลุมทั่วร่าง อึดใจต่อมา คนผู้นั้นก็ถูกอำนาจฟ้าดินส่งตัวออกไปทันที!
ผู้บ่มเพาะทั้งมวลในโลกภายนอกต่างตกตะลึงใจสะท้านกับเหตุการณ์นี้
แต่ศิษย์สองคนจากสำนักเต๋าถูกกำจัดออกไปในช่วงเวลาอันสั้นนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ ใครจะกล้าเชื่อว่าเหตุนี้จะเกิดได้?
เฉินซีถูกศิษย์สำนักเต๋ารุมอยู่ถึงสิบเอ็ดคน!
แต่กลับยังสามารถทำเช่นนี้ได้โดยลำพัง เป็นเรื่องเกินเข้าใจอย่างยิ่ง จึงเห็นได้ชัดว่ามันสร้างความตกใจมหาศาลแก่ฝูงชนผู้รับชม
“เจ้าเด็กนี่รับมือยาก รีบเข้ามาเสริมกำลังทุ่มสุดฝีมือจัดการเขาก่อน!” หลี่หลูเฟิงแผดเสียงสนั่น ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าเมื่อเทียบกับคงโหยวหราน เฉินซีก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน
ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว! ฟิ่ว!
พริบตานั้น ศิษย์สี่คนพลันทะยานออกจากกลุ่มศิษย์ที่ล้อมโจมตีคงโหยวหรานอยู่ มาเสริมกำลังทางหลี่หลูเฟิง ล้อมโจมตีเฉินซีอย่างสุดกำลัง
สถานการณ์ศึกแปรเปลี่ยนเฉียบพลัน กลายเป็นศิษย์สิบสามคนจากสำนักเต๋าล้อมโจมตีเฉินซี ขณะที่อีกสิบเอ็ดคนล้อมโจมตีคงโหยวหราน!
………………..