บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] - บทที่ 1859 วันสุดท้าย
บทที่ 1859 วันสุดท้าย
วันที่ยี่สิบห้าของเดือนที่สาม
เหลือเวลาอีกเพียงห้าวันก่อนจะสิ้นสุด
บรรยากาศในพิภพกุมภเต๋าตึงเครียดยิ่ง แม้แต่ในโลกภายนอก ผู้บ่มเพาะทั้งหลายก็มีความรู้สึกเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่จนแทบจะหายใจไม่ออก
ทุกวันนี้ ศิษย์ที่สามารถอยู่รอดได้ในพิภพกุมภเต๋าต่างก็เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ในหมู่ผู้เยี่ยมยุทธ์ พวกเขาทั้งหมดมีพลังที่ไร้ใครเทียบประหนึ่งอัจฉริยะที่เป็นผู้นำแห่งยุค
ในเวลาเดียวกัน สถานการณ์ในพิภพกุมภเต๋าก็ชัดเจนมากขึ้น มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาคู่ต่อสู้เมื่อเหมือนก่อนอีกต่อไป
ทั้งหมดเป็นเพราะหม้อจารึกเต๋าโบราณ
สมบัติชิ้นนี้ไม่สามารถเก็บซ่อนได้ และกลิ่นอายเต๋าอันคลุมเครือซึ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างก็ไม่อาจปกปิดได้ การเคลื่อนย้ายไปพร้อมกับมันก็เหมือนกับประภาคารในตอนกลางคืน ไม่เพียงแต่ไม่สามารถซ่อนที่อยู่ของมันได้ แต่ยังดึงดูดสายตาที่สอดรู้สอดเห็นมากมายได้อีกด้วย
ตอนนี้หม้อจารึกเต๋าโบราณทั้งยี่สิบห้าอันได้ถูกครอบครองโดยห้ามหาอำนาจของเอกภพจักรวรรดิ ซึ่งหมายความว่าเมื่อศิษย์เหล่านี้ลงมือ อีกฝ่ายจะถูกค้นพบได้อย่างง่ายดาย
อาจกล่าวได้ว่าในพิภพกุมภเต๋าทุกวันนี้ การต่อสู้อันโหดร้ายเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าแทบจะทุกวัน!
…
วันที่ยี่สิบห้าของเดือนที่สามในการแข่งขันใหญ่นี้นับว่าควรค่าแก่การกล่าวถึง
การต่อสู้อุบัติขึ้นระหว่างพวกหลี่หลูเฟิงจากสำนักเต๋ากับพวกตงหวงอิ่นเซวียนจากสำนักศักดิ์สิทธิ์ สร้างความสนใจให้กับผู้บ่มเพาะทุกคนจากโลกภายนอก
นับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับเฉินซีกับคงโหยวหราน หลี่หลูเฟิงยังเหลือพวกอีกสิบแปดคน แต่น่าเสียดายที่พละกำลังนี้ไม่มีข้อได้เปรียบอีกต่อไป
ในช่วงที่ลงมือนี้ พวกหลี่หลูเฟิงจากสำนักเต๋าผ่านการต่อสู้หลายครั้ง บ้างชนะบ้างแพ้ จนถึงตอนนี้ หลี่หลูเฟิงกับศิษย์เหลือเพียงสิบสี่คน
อีกด้าน ตงหวงอิ่นเซวียน รวมถึงศิษย์ผนึกฤทธิ์มือจากสำนักศักดิ์สิทธิ์มีทั้งสิ้นสิบสามคน แม้ดูเหมือนว่าจะน้อยกว่าสำนักเต๋าเพียงคนเดียว แต่พลังการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นสูงกว่ามาก
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่เพียงแต่ตงหวงอิ่นเซวียนผู้นำสำนักศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังมีบุคคลโดดเด่น เช่น จูเชี่ยนอวี้และกงซุนมู่ที่ตามติดมาด้วย
ทางฝั่งสำนักเต๋ามีเพียงหลี่หลูเฟิงเป็นผู้นำ แม้ว่าศิษย์คนอื่นจะมีพลังการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่มีใครเทียบกับบุคคลอย่างจูเชี่ยนอวี้และกงซุนมู่ได้
แน่นอนว่าถ้าเย่เฉินและอวี้จิ่วหุยอยู่ที่นี่ สถานการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่พวกเย่เฉินไม่อยู่
ผลของการต่อสู้ไม่ได้เกินคาดมากนัก ในท้ายที่สุดฝั่งสำนักเต๋าก็สูญเสียศิษย์ไปเจ็ดคน สูญเสียหม้อจารึกเต๋าโบราณไปสองอัน ส่วนอีกสิบเอ็ดคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหนี
ทางฝั่งสำนักศักดิ์สิทธิ์ ศิษย์ผนึกฤทธิ์ถูกกำจัด ทำให้เหลือศิษย์เพียงเก้าคน
การต่อสู้ครั้งนี้โหดร้ายยิ่ง ทำให้สำนักเต๋าสูญเสียความได้เปรียบก่อนหน้าไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกวันนี้ จำนวนหม้อจารึกเต๋าโบราณที่อยู่ในมือของศิษย์ของสำนักเต๋าลดลงจากหกเป็นสี่อัน ซึ่งสองอันยังคงอยู่ในมือของเย่เฉินและอวี้จิ่วหุยตามลำดับ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการโจมตีอย่างหนักต่อหลี่หลูเฟิง
แต่ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ การถกวิถีเต๋ายังคงดำเนินต่อไป นอกจากเขาเทพพยากรณ์แล้ว สี่กองกำลังใหญ่ทั้งหมดพยายามที่จะยึดหม้อจารึกเต๋าโบราณให้มากขึ้น แม้พวกเขาจะอ้างว่าเป็นกลางมาโดยตลอด แต่สำนักเต๋าก็เลี่ยงเรื่องนี้ไม่ได้
…
วันที่ยี่สิบเจ็ดของเดือนที่สามในการถกวิถีเต๋า
นี่เป็นการเผชิญหน้าที่เกือบจะทัดเทียมกัน ในท้ายที่สุดศิษย์คนหนึ่งจากตำหนักเต๋าหนี่หวาก็ถูกกำจัดจนเหลือเจ็ดคน
ทางฝั่งนิกายอำนาจเทวะ ศิษย์หนึ่งคนก็ถูกกำจัดจนเหลือแปดคน
ในวันเดียวกัน
พวกเหลิ่งซิงหุนจากนิกายอำนาจเทวะและพวกตงหวงอิ่นเซวียนจากสำนักศักดิ์สิทธิ์ลงมือร่วมกัน
…
วันที่ยี่สิบเก้าของเดือนที่สามในการถกวิถีเต๋า
โชคของหลี่หลูเฟิงดูเหมือนจะแย่ลง ภายใต้การนำของเขา พวกศิษย์จากสำนักเต๋าโชคไม่ดีที่เผชิญกับการโจมตีร่วมกันจากศิษย์ของสองกองกำลังใหญ่อย่างนิกายอำนาจเทวะกับสำนักศักดิ์สิทธิ์
ในท้ายที่สุด เย่เฉินและอวี้จิ่วหุยผู้มาถึงทันเวลาช่วยกันหลีกเลี่ยงการทำลายล้างกองทัพได้อย่างเฉียดฉิว
แต่ในการต่อสู้ครั้งนี้ ศิษย์สี่คนจากสำนักเต๋าถูกกำจัดอีกครั้ง หากรวมเย่เฉินและอวี้จิ่วหุยเข้าไปก็จะเหลือเพียงเก้าคนเท่านั้น
…
การต่อสู้อันโหดร้ายเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งพร้อมกับสร้างความตกตะลึง ทำให้เกิดความโกลาหลและความปั่นป่วนจากโลกภายนอกนับครั้งไม่ถ้วน
ในเวลาต่อมา แม้แต่บุคคลสำคัญในโถงบรรจบก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ พวกเขาต่างกังวลเกี่ยวกับศิษย์ของตน
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!
เมื่อเวลาสิ้นสุดใกล้เข้ามา พิภพกุมภเต๋าก็ปั่นป่วนไปหมด บรรยากาศอันเย็นยะเยือกอบอวลไปในอากาศธาตุ พร้อมกับจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวพลุ่งพล่านไปทั่วทุกแห่ง
ไม่ว่าจะศิษย์ของสำนักใด พวกเขาล้วนใช้อุบายทั้งหลายโดยไม่กล้าที่จะกั๊กไว้อีกแล้ว
ทุกสิ่งเพื่อหม้อจารึกเต๋าโบราณเท่านั้น
ตราบใดที่ครอบครองหม้อจารึกเต๋าโบราณ นั่นหมายความว่ามีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่รอบที่สองของการถกวิถีเต๋าและมีโอกาสที่จะเข้าสู่แดนรวนเรลืมเลือน!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ใครเล่าจะกล้ายั้งมือ?
“เหลืออีกเพียงหนึ่งวันเท่านั้น ผู้ชนะจะถูกเปิดเผยในวันพรุ่งนี้!”
“ตอนนี้เขาเทพพยากรณ์เหลือสามคน ตำหนักเต๋าหนี่หวาเหลือเจ็ดคน นิกายอำนาจเทวะเหลือแปดคน สำนักศักดิ์สิทธิ์เหลือเก้าคนและสำนักเต๋าเหลือเก้าคน นอกจากเขาเทพพยากรณ์แล้ว ศิษย์ของสี่กองกำลังใหญ่ก็อยากเข้าร่วมรอบที่สองของการถกวิถีเต๋า พวกเขายังพอมีหม้อจารึกเต๋าโบราณอยู่บ้าง พรุ่งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว!”
“ถูกต้อง ศิษย์ทั้งสามคนของเขาเทพพยากรณ์ต่างมีหม้อจารึกเต๋าโบราณ ตำหนักเต๋าหนี่หวามีหม้อจารึกเต๋าโบราณห้าอัน นิกายอำนาจเทวะมีหม้อจารึกเต๋าโบราณหกอัน สำนักเต๋ามีหม้อจารึกเต๋าโบราณเจ็ดอันและสำนักศักดิ์สิทธิ์มีหม้อจารึกเต๋าโบราณสี่อัน หมายความว่าสำนักศักดิ์สิทธิ์ได้เปรียบค่อนข้างมาก”
“ตอนนี้ศิษย์ของสำนักศักดิ์สิทธิ์และนิกายอำนาจเทวะรวมตัวกันอีกครั้ง ข้าเกรงว่าจะมีการโจมตีเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้เพื่อแย่งชิงหม้อจารึกเต๋าโบราณเพิ่ม”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพรุ่งนี้!”
ในคืนนั้น ผู้บ่มเพาะทั้งหลายกำลังสนทนาขณะตั้งตารอวันพรุ่งนี้กับผลลัพธ์สุดท้ายของการถกวิถีเต๋านี้
ในโถงบรรจบ
“คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงจริง ๆ”
เล่ยฝู มหาปุโรหิตชุดแดงของนิกายอำนาจเทวะถอนหายใจยาวแรง เสียงของเขาดังก้องอยู่ในห้องโถง
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฉือซงจื่อ เหวินถิง อวี่เจิน แม้กระทั่งพวกไฮว่คงจื่อก็ไม่คาดคิดว่าการถกวิถีเต๋าซึ่งกินเวลาเกือบสามเดือนจะพัฒนามาจนถึงขนาดนี้
เพียงแต่ความคิดแต่ละคนล้วนต่างกันออกไป
ตามความคาดหวังของพวกเขา ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่เขาเทพพยากรณ์และตำหนักเต๋าหนี่หวาจะยังมีศิษย์จำนวนมากที่ยังคงอยู่ในพิภพกุมภเต๋า
แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น
มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันดังกล่าว แต่ในความเห็นของเล่ยฝูและฉือซงจื่อ ตัวแปรส่วนใหญ่อยู่ที่เฉินซี
ใช่แล้ว พวกเขาไม่รู้ว่าเฉินซีจะมีพลังในการต่อสู้มากขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงวิกฤตมากมายเท่านั้น แต่ยังทำให้นิกายอำนาจเทวะและสำนักศักดิ์สิทธิ์สูญเสียศิษย์เป็นจำนวนมาก
แต่เรื่องราวทั้งหลายได้พัฒนามาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งเดียวที่พวกเขาหวังในตอนนี้คือกำจัดศิษย์ทั้งสามของเขาเทพพยากรณ์ให้สิ้นซากก่อนที่การถกวิถีเต๋าจะสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้!
สำหรับเหวินถิงและอวี่เจิน พวกเขาไม่คาดคิดเช่นกันว่าทายาทของตนเองจะประสบความสูญเสียอย่างหนักเช่นนี้
พวกเขาเชื่อว่านี่เป็นการสมรู้ร่วมคิด ทำให้ไม่สามารถยอมรับคำอธิบายของไฮว่คงจื่อได้ บางทีเมื่อการถกวิถีเต๋าสิ้นสุดลง พวกเขาจะไปขอคำอธิบายจากสำนักเต๋า!
ในทำนองเดียวกัน พวกเขายังหวังว่าศิษย์ของสำนักตนจะสามารถคงอยู่ได้จนถึงท้ายที่สุดก่อนจะเข้าสู่รอบที่สองของการถกวิถีเต๋า
สำหรับไฮว่คงจื่อและหัวหน้าอาจารย์อาวุโสคนอื่น ก็ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์ในการถกวิถีเต๋าจะพัฒนามาถึงจุดนี้เช่นกัน
ไม่เพียงศิษย์ของสำนักเต๋าจะประสบความสูญเสียอย่างหนักเท่านั้น แต่ในกระบวนการดังกล่าว พวกเขาได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับเขาเทพพยากรณ์ ตำหนักเต๋าหนี่หวา นิกายอำนาจเทวะและสำนักเต๋าโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ดังนั้นสำหรับไฮว่คงจื่อในตอนนี้ อารมณ์ของพวกเขาไม่ได้ดีเลยและต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก
สิ่งเดียวที่พวกเขาหวังในตอนนี้คือจะไม่มีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดอีก!
…
“เจ้าสังเกตหรือไม่ว่าเฉินซีจากเขาเทพพยากรณ์ค่อนข้างโชคดี ตั้งแต่เดือนที่สามหลังจากเข้าร่วมการถกวิถีเต๋า คนอื่นต่อสู้กันนับครั้งไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่พบคู่ต่อสู้ระหว่างทาง!”
“หืม? พอเจ้าพูดแบบนี้ ข้าก็พบว่าโชคของเฉินซีช่างเหลือเชื่อนัก”
“น่าเสียดายที่โชคของศิษย์คนอื่นจากเขาเทพพยากรณ์ไม่ค่อยดีนัก ไม่อย่างนั้นจะเหลือศิษย์สามคนได้อย่างไร? เมื่อเทียบกับสี่กองกำลังใหญ่แล้ว ผลลัพธ์ของเขาเทพพยากรณ์ในการถกวิถีเต๋ารอบแรกนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง”
“น่าผิดหวังหรือ? มันไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป อย่าลืมว่าครั้งนี้มีศิษย์จากเขาเทพพยากรณ์เพียงสิบคนเท่านั้นที่เข้าร่วมในการถกวิถีเต๋า มันไม่ง่ายเลยที่จะบรรลุเป้าหมายมาถึงขั้นนี้ได้”
“หยุดเถียงกันได้แล้ว เจ้าไม่ได้สังเกตหรือว่าการถกวิถีเต๋ารอบแรกนี้มีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่เริ่ม ทั้งยังมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้?”
“ข้าขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเรื่องนี้ ตอนนี้ข้าแค่ตั้งตารอการถกวิถีเต๋ารอบที่สอง เพื่อจะได้เป็นสักขีพยานในการต่อสู้ตัวต่อตัวอย่างแท้จริงแทนที่จะเป็นการต่อสู้แบบกลุ่มที่ชุลมุนวุ่นวายแบบนี้”
แม้จะมีการสนทนาอย่างต่อเนื่องในโลกภายนอก แต่ในพิภพกุมภเต๋ากลับเงียบสงัด ซึ่งการต่อสู้ทั้งหมดก็ตกอยู่ในความสงบในคืนสุดท้ายนี้
ราวกับมีความเข้าใจโดยปริยาย ศิษย์ของกองห้ากำลังใหญ่เลือกที่จะสั่งสมกำลังในคืนนี้แทนที่จะออกไปตามหาหม้อจารึกเต๋าโบราณ
พวกเขาทุกคนทราบดีว่าการถกวิถีเต๋าจะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ แต่ช่วงก่อนที่จะสิ้นสุดถูกกำหนดให้เป็นช่วงที่อันตรายมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา!
“พรุ่งนี้คือวันสุดท้าย…”
ภายใต้ม่านราตรี เฉินซีคิ้วขมวดขณะพึมพำอยู่ข้างลำธารในป่าทึบ “จนถึงตอนนี้ ข้าไม่เห็นศิษย์คนอื่นในสำนักเลย หรือว่าพวกเขาจะถูกกำจัดหมดแล้ว?”
กู่เยี่ยนผู้อยู่ข้างกายเปิดปาก แต่เขาไม่ทราบว่าจะพูดอะไรขณะภายในก็รู้สึกหนักอึ้ง
“ช่างเถอะ ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อการแข่งขันจบลง”
เฉินซีส่ายหน้าแล้วหยุดคิดถึงเรื่องนี้ เขาลอบตัดสินใจว่าจะไม่มีวันละทิ้งการค้นหาศิษย์ร่วมสำนักจนถึงที่สุด
ทว่าเฉินซีทราบเช่นกันว่าการหาทางยืนหยัดต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดการถกวิถีเต๋าในวันพรุ่งนี้จะเป็นการทดสอบที่หนักหนาสำหรับตนเองและกู่เยี่ยนอย่างแน่นอน