บัลลังก์ชายาหมอเทวดา - บทที่ 28 สตรีที่ใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อเกียรติยศ
บทที่ 28 สตรีที่ใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อเกียรติยศ
การคัดค้านของนางโจว ทำให้สีหน้าของท่านรองเย่และนางเสิ่นไม่สบอารมณ์
เย่เจียหยูกำผ้าเช็ดหน้าแน่น ก้มหน้าลงเพื่อซ่อนเร้นความขุ่นเคืองของนาง
“วันนี้ต้องเปิดคลังสมบัติให้ได้ หากท่านแม่ไม่ฟื้นขึ้นมา ข้าคือคนตัดสินใจเรื่องทุกอย่างของตระกูลเย่ สตรีเช่นเจ้าไม่มีสิทธิ์พูด!”
ท่านรองเย่พูดเสียงเยือกเย็น
สำหรับเพลิงพิลึกในงานประมูลผานหลง เขาต้องได้มาครอบครองให้ได้ ต้องได้เพลิงพิลึก ให้น้องหยูเข้าสู่นักกลั่นยาขั้นสองโดยเร็ว
รอนางกลายเป็นนักกลั่นยาขั้นสอง แล้วให้ลูกสาวสคนโตน้องหรงหาเส้นสายในเฉินตู ส่งน้องหยูเข้าไปในศูนย์สำนักนักกลั่นยาของเฉินตู
เมื่อถึงเวลา ลูกสาวทั้งสองคนลืมตาอ้าปากได้ สร้างความรุ่งโรจน์ให้กับวงศ์ตระกูล
“พี่รองพูดเกินไปแล้ว อะไรคือการบอกว่าข้าเป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง ข้าเป็นฮูหยินที่ท่านสามเย่ตบแต่งอย่างถูกต้อง เหตุใดข้าจึงไม่มีสิทธิ์พูด?”
นางโจวก็ไม่ใช่คนอ่อนแอแต่อย่างใด นางไม่ยอมให้ผู้อื่นบงการนาง นางขวางอยู่ตรงหน้าเตียงฮูหยินเฒ่า ไม่ยอมให้คนของบ้านรองได้กุญแจไป
“พี่สะใภ้สาม ท่านพ่อไม่ได้หมายความเช่นนี้ ท่านเพียงเป็นห่วงสุขภาพของท่านย่า ดังนั้นจึงพูดไม่คิด ท่านอย่าเก็บมาใส่ใจ สิ่งสำคัญในตอนนี้ เชิญทหมอมาดูอาการก่อนค่อยว่ากันเถอะ”
เย่เจียหยูทำสีหน้าอ่อนโยนแล้วพูดกับนางโจว
นางต้องจัดการนางโจวก่อน หลังจากนั้นค่อยคิดหาวิธี หากท่านย่ายังคงไม่ฟื้น เช่นนั้นต้องขโมยกุญแจมาจากท่านย่าแล้ว
นางโจวหัวเราะเยือกเย็น
เพียงครู่หนึ่งหมอก็มาถึง
หลังจากจับชีพจรให้ฮูหยินเฒ่าแล้ว หมอขมวดคิ้วเป็นปมแล้วส่ายหน้า:
“ไม่น่าจะเป็นเช่นนี้ ฮูหยินเฒ่าปกติดีทุกอย่าง เหตุใดเวลานี้จึงยังไม่ฟื้น ข้ารักษาไม่ได้จริงๆ เช่นนี้แล้วกัน หมอเทวดาลั่วแห่งเฉินตูอยู่ที่โรงเตี๊ยมเถิงหยุนตรงข้ามกับจวนอ๋องเซ่อเจิ้ง พวกท่านเชิญหมอเทวดามาดูอาการดีหรือไม่”
“แต่ว่าหมอเทวดาลั่วเป็นคนสันโดษ ไม่รักษาให้ทุกคน หากไม่อาจเชิญมารักษาจะทำเช่นไร?”
เย่เจียหยูพูดด้วยความกังวล
หมอเทวดาลั่วเลื่องชื่อ แม้เขาจะยังหนุ่มมาก แต่วิชาการแพทย์ของเขานั้นเหนือชั้น ทั้งยังเป็นปรมาจารย์ใหญ่ในศูนย์สำนักนักกลั่นยา เป็นคนมีพรสวรรค์
แต่เขารักษาคนโดยขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจเท่านั้น คนทั่วไปยากจะทำให้เขาไหวติงได้
“ทำได้เพียงลองดูเท่านั้น ชีพจรของฮูหยินเฒ่าปกติ ร่างกายก็ไม่มีสิ่งใดเสียหาย ยิ่งไม่เหมือนคนถูกวางยาพิษ บางทีหมอเทวดาลั่วอาจจะดูออกก็ได้”
หมอสะพายกล่องยาแล้วเดินออกไป
ท่านรองเย่พูดด้วยความโมโห: “ช่างเป็นหมอที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ จ่ายค่ารักษาไปสูญเปล่า!”
“ท่านพ่อ ท่านอย่าโมโห ข้าไปเชิญหมอเทวดาลั่วด้วยตนเอง ข้าเชื่อว่าหมอเทวดาลั่วจะเห็นแก่ความกตัญญูของน้องหยู ยอมมารักษาท่านย่าเจ้าค่ะ”
เย่เจียหยูพูดเสียงอ่อนโยน
ภายในใจของนางมีอีกความคิดหนึ่ง ได้ยินว่าหมอเทวดาลั่วคือนายน้อยของตระกูลลั่วซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเฉินตู
เฉินตู คือพระนครของแคว้นเทพมังกร ทั้งยังเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในแผ่นดินเทียนเหย้า มีผู้มากความสามาถมากมาย อยากจะไปที่นั่น
ส่วนแคว้นหงส์แดง เป็นเพียงหนึ่งในแคว้นของแคว้นเทพมังกรเท่านั้น
ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลของเฉินตูสืบทอดกันมากว่าพันปี มากอำนาจ เทียบกับแคว้นเล็กๆ แล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าเพียงใด
แม้แต่ฝ่าบาทของแคว้นหงส์แดงยามพบเจอเจ้าบ้านสี่ตระกูลใหญ่ของเฉินตู ล้วนต้องนอบน้อม สี่ตระกูลใหญ่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว
ดังนั้นเย่เจียหยูอยากจะฉวยโอกาสนี้ ผูกมิตรกับหมอเทวดาลั่ว
หากหมอเทวดาลั่วพ่ายแพ้ให้กับใต้กระโปรงของนาง หากวันหนึ่งนางกลายเป็นฮูหยินน้อยของตระกูลลั่ว เช่นนั้นอ๋องเซ่อเจิ้งจวินหยวนจะเป็นตัวอะไร ยามพบเจอนาง ต้องคุกเข่าให้นาง!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางหัวใจเต้นแรงยิ่งนัก
เห็นชัดว่านางเสิ่นก็คิดถึงข้อนี้เช่นเดียวกัน พูดด้วยดวงตาทอประกาย: “น้องหยูกตัญญูที่สุด รีบไปเถอะ อย่าลืมเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย!”
นางโจวลอบเบ้ปาก ไปเชิญหมอเทวดาก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ด้วย ผู้ใดไม่รู้ความคิดของสองแม่ลูกคู่นั้น หน้าตาดูใสซื่อ แต่แท้จริงแล้วคือจิ้งจอก!
แต่ว่านางไม่ได้พูดสิ่งใด หากเย่เจียนหยูมีความสามารถทำให้หมอเทวดาลั่วลุ่มหลงได้ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีต่อตระกูลเย่ บ้านสามของพวกเขาก็ได้บารมีไปด้วย
เย่เจียหยูกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงสีขาว แต่ว่ากระโปรงตัวนี้น่าสนใจเล็กน้อย ภายใต้แสงแดดตกกระทบ สามารถสะท้อนแสงสีรุ้งได้ เป็นที่ดึงดูดสายตาของบุรุษได้อย่างแน่นอน
นางแต่งหน้าน่าสงสารตรงหน้ากระจก แล้วค่อยออกจากจวน
โรงเตี๊ยมเถิงหยุนคือโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมืองหลวง ในทางเดียวกัน ราคาก็แพงที่สุดด้วยคนที่สามารถพักที่นี่ ล้วนเป็นคนร่ำรวย
เย่เจียหยูไปดึงโรงเตี๊ยม ด้านนอกล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ซึ่งทั้งหมดล้วนมาหาหมอเทวดาลั่ว
“ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปเถอะ หมอเทวดาลั่วบอกแล้ว ไม่อยากพบเจอผู้ใด!”
เถ้าแก่เดินออกมา บอกกับทุกคน
สีหน้าของทุกคนผิดหวังยิ่งนัก แต่นี่ก็อยู่ในความคาดหมายของทุกคน หมอเทวดาลั่วเลื่องชื่อเรื่องนิสัยประหลาด น้อยคนนักที่จะเชิญเขาได้
เย่เจียหยูครุ่นคิดในใจ หากนางสามารถเชิญหมอเทวดาลั่วได้ เช่นนั้นคนรอบข้างต้องอิจฉานางแน่นอน
“เถ้าแก่เจ้าคะ ข้าคือเย่เจียหยูคุณหนูรองจากจวนแม่ทัพเจ้าค่ะ วันนี้ข้ามา เป็นเพราะท่านย่าป่วยกะทันหัน หมดสติ อาการน่าเป็นห่วง ข้าคัดบทสวดและสวดมนต์ให้กับท่านย่าตลอดทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่ท่านย่ากลับไม่ดีขึ้น ช่างน่าเป็นห่วงยิ่งนัก ข้าได้ยินว่าหมอเทวดาลั่วอยู่ที่นี่ จึงอยากรบกวนเถ้าแก่บอกหมอเทวดาสักหน่อย จวนแม่ทัพซาบซึ้งในน้ำใจยิ่งนัก”
เย่เจียหยูพูดด้วยสีหน้าเศร้าสลด แสดงความกตัญญูของนางออกมา
เห็นสีหน้าเศร้าสลดของนาง คนที่ไม่รู้ คงคิดว่าฮูหยินเฒ่าใกล้ตายแล้ว
คนรอบข้างต่างตื้นตัน ล้วนชื่นชมนางว่ากตัญญู
ทว่าเถ้าแก่กลับสีหน้านิ่งเฉย พูดเสียงทุ้ม:
“หมอเทวดาลั่วบอกแล้ว ไม่อยากพบเจอผู้ใด คุณหนูเองก็ไม่ยกเว้น หากคุณหนูอยากรอ เช่นนั้นก็รอเถอะ”
พูดจบ เถ้าแก่ก็กลับเข้าไปทำงานของตนเอง
เย่เจียหยูรู้สึกเสียหย้าอย่างมาก ปกติแล้วไม่ว่าผู้ใดพบเจอนาง ล้วนเกรงอกเกรงใจ ทว่าคิดไม่ถึงเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเถิงหยุนกลับไม่สนใจนาง!
นางกำหมัดแน่น กัดฟัน แล้วคุกเข่าลงบนพื้น
“ท่านย่าป่วยหนัก ข้านอนไม่หลับ วันนี้ข้าจะคุกเข่าอยู่ที่นี่ไม่ไปไหน หมอเทวดาลั่วรับปากที่จะรักษาท่านย่าเมื่อใด ข้าก็จะลุกขึ้นเมื่อนั้น!”
เมื่อนางคุกเข่า ทุกคนยิ่งชื่นชมนางมากกว่าเดิม รู้สึกว่านางเป็นคนดียิ่งนัก กตัญญูอย่างมาก
รอเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของนางต้องดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
แต่จุดประสงค์สำคัญของนาง คือให้หมอเทวดาลั่วมองหน้าใหม่ หากไม่ใจร้ายกับตน หมอเทวดาลั่วจะสังเกตเห็นนางได้อย่างไร
ลั่วกูหยุนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมย่อมรู้สถานการณ์ด้านนอก เขาหาวฟอดใหญ่ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความรำคาญ
“ข้าเกลียดสตรีเช่นนี้ที่สุด คิดเอาเอง ทำทุกอย่างเพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศ คนที่คุกเข่าให้ข้ามีมากมาย นางเป็นคนที่เท่าใด”
“นายน้อยพูดถูก เช่นนั้นให้คนไล่นางไปดีหรือไม่?”
บ่าวรับใช้ถาม
“ไม่ต้อง นางอยากจะคุกเข่าก็ปล่อยนางคุกเข่าไป ข้ากำลังหงุดหงิดอยู่ เจ้าว่าเหตุใดอยากจะพบเจอเย่จายซิงจึงยากเช่นนี้ เวลานี้จวินหยวนไม่ให้ข้าเข้าไปในจวนแล้ว!”
ลั่วกูหยุนพูดโอดครวญ
เขาตามหาเย่จายซิง เป็นเพราะเรื่องตำรับยา ไม่ได้ชมชอบหมายตาสตรีของจวินหยวน แต่จวินหยวนกลับทำเหมือนเขาเป็นโจร ช่างน่าโมโหยิ่งนัก
“เอ่อ นายน้อย ความเป็นจริงคุณหนูสี่เย่กลับจวนแม่ทัพตั้งแต่เมื่อวานแล้วขอรับ ท่านสามารถไปหานางที่จวนแม่ทัพได้”
บ่าวรับใช้พูด เขาเองก็เพิ่งได้ยิน
“เหตุใดเจ้าจึงไม่บอกเร็วกว่านี้!”
ลั่วกูหยุนลุกขึ้นทันที
“ช้าก่อน เมื่อครู่เจ้าบอกว่า สตรีที่คุกเข่าคนนั้นก็เป็นคนของจวนแม่ทัพ?”