บัลลังก์ชายาหมอเทวดา - บทที่ 39 อสูรศักดิ์สิทธิ์เด็ก
บทที่ 39 อสูรศักดิ์สิทธิ์เด็ก
จวินหยวนเพิ่งถามนางว่าอยากได้จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงหรือไม่ นักประมูลที่อยู่ด้านล่างก็เสนอราคาเริ่มประมูลที่สูงลิ่ว
“อสูรศักดิ์สิทธิ์เด็กตัวนี้ราคาประมูลเริ่มที่สิบล้านตำลึงทอง!”
เย่จายซิงไม่ได้อยากได้อสูรโหดตัวนี้เท่าใดนักเป็นทุนเดิม หลังจากได้ยินราคานางก็โบกมือ:
“ขอบคุณเสด็จอามากเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าไม่ชอบเท่าใดนัก ช่างเถอะ”
คิ้วดั่งกระบี่ของจวินหยวนเลิกขึ้นเล็กน้อย :”ข้าคิดว่าเจ้าชอบสัตว์ตัวเล็กขนปุยเช่นนี้เสียอีก”
สัตว์ตัวเล็กขนปุย ทุกคนล้วนชอบ แต่ปัญหาคือสัตว์ตัวนี้ไม่ได้น่ารัก แต่เป็นอสูรโหดที่กินวิญญาณของมนุษย์ ไม่แน่ว่าจะแอบดูดวิญญาณไปเมื่อใด ทั้งยังเจ้าเล่ห์ ป้องกันไม่หวั่นไม่ไหว
นางควรจะพูดอย่างไรดี หากนางบอกว่าจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงคืออสูรโหด เขาต้องไม่เชื่อแน่นอน
ครุ่นคิด นางจึงทำได้เพียงบอกว่า: “แพงเกินไป ข้าไม่อยากให้เสด็จอาต้องฟุ่มเฟือยเงินทอง”
ทว่าผู้ใดจะคาดคิดเมื่อนางพูดเช่นนี้ เขาก็คลายคิ้วทันที
“น้องซิงคงไม่รู้ว่าข้ามีสมบัติมหาศาลเพียงใด เพียงอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่ง สำหรับข้าแล้วเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย น้องซิงไม่ต้องช่วยข้าประหยัดเงิน เจ้าอยากได้สิ่งใด ข้าล้วนให้เจ้าได้ทุกอย่าง”
เย่จายซิง:……
การอวดรวยที่ไร้รูปร่าง เอาชีวิตที่สุด
ถึงแม้จะรู้ว่าเขาน่าจะร่ำรวยปาก แต่นางคิดไม่ถึงว่าเขาจะร่ำรวยเช่นนี้
นางอยากจะปฏิเสธ แต่จวินหยวนกลับพูดขึ้น
“ยี่สิบล้าน”
คนเบื้องล่างเพิ่มราคาครั้งละห้าแสนครั้งละหนึ่งล้าน เพิ่มอยู่นานครู่หนึ่ง กว่าจะไปถึงสิบสี่ล้านกว่า
แต่จู่ๆ เสียงของจวินหยวนก็ดังขึ้น งานประมูลเงียบสงัด หลังจากนั้นค่อยดึงสติกลับมา อ๋องเซ่อเจิ้งเป็นคนเรียกราคาด้วยตนเอง
“เจ้าพระยา!”
เย่เจียหยูเกือบจะกัดริมฝีปากล่างของนางจนฉีกขาดแล้ว รีบมองไปที่เซี่ยซือห้าวด้วยแววตาที่เคล้าไปด้วยความเขินอาย หลังจากนั้นกระตุกแขนเสื้อของเขาเล็กน้อย
“น้องหยู อ๋องเซ่อเจิ้งเพิ่มราคา!”
เซี่ยซือห้าวลังเลเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เพื่อซื้อยาทลายหล้า เขาเพิ่มราคาไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ครั้งนี้อ๋องเซ่อเจิ้งเรียกราคาด้วยตนเอง หากเขาเรียกราคาอีกครั้ง จะเท่ากับการมีปัญหากับอ๋องเซ่อเจิ้ง เขาจะกล้าได้อย่างาไร
ทั่วทั้งแคว้นหงส์แดง ไม่มีผู้ใดกล้ามีเรื่องกับอ๋องเซ่อเจิ้ง
“แต่ว่า……เจ้าพระยา อสูรศักดิ์สิทธิ์สำคัญกับน้องหยูมากจริงๆ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทันทีที่ข้าเห็นมัน ข้าก็รู้สึกถูกชะตายิ่งนัก คล้ายต้องเป็นมันให้ได้ ข้าคิดว่าหากครั้งนี้ข้าไม่คว้าโอกาสเอาไว้ ให้มันตกอยู่ในมือของผู้อื่น บางทีข้าอาจจะเสียใจตลอดชีวิตเจ้าค่ะ”
เย่เจียหยูพูดด้วยความเสียใจ ตั้งใจมองเซี่ยซือห้าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า
ท่านพี่เคยบอกว่า บุรุษไม่อาจต้านทานแววตาเช่นนี้ของสตรี
นางต้องได้จิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงมาครอบครองให้ได้
วันข้างหน้าหากนางไปเฉินตู มีอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่เคียงข้าง ก็จะไม่มีผู้ใดกล้าดูถูกนาง เดินไปที่ใด ล้วนมีสง่าราศี
แคว้นหงส์แดงเป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ที่ห่างไกล เฉินตูคือแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินเทียนเหย้า อ๋องเซ่อเจิ้งอยู่ที่นี่จะเก่งกาจเพียงใด เมื่อไปถึงเฉินตูก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น จะกลัวเขาทำไม
เซี่ยซือห้าวได้ยินนางพูดเช่นนี้ เขาหวั่นไหวเล็กน้อย:
“ที่แท้น้องหยูก็สัมผัสกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ได้ สมแล้วที่น้องหยูคือสตรีผู้มีพรสวรรค์ ไม่แน่นี่อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงของวิถีแห่งสวรรค์ แค่ว่า……”
เขาเคยเห็นความเลือดเย็นของอ๋องเซ่อเจิ้ง ถึงอย่างไรก็หวาดกลัวเล็กน้อย
เย่เจียหยูก่นด่าเขาในใจว่าขวัญอ่อนราวกับหนู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน:
“เจ้าพระยา ประเดี๋ยวประมูลอสูรศักดิ์สิทธิ์เสร็จ น้องหยูจะไปขอโทษท่านอ๋องด้วยตนเอง เจ้าพระยาวางใจเถอะ น้องหยูจะไม่ยอมให้ท่านอ๋องโกรธเคืองเจ้าพระยาเด็ดขาด”
“ให้เจ้าไปขอโทษได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าอยากได้ เช่นนั้นข้าย่อมช่วยเจ้า”
เซี่ยซือห้าวให้ความสำคัญกับเกียรติของตนเอง เขาจะยอมให้สตรีคนรักกลัวนั่นกลัวนี่ได้อย่างไร เขาจับมือของนาง แล้วเพิ่มราคา:
“ข้าเสนอราคาที่ยี่สิบห้าล้าน!”
พูดจบ เขาเงยหน้าขึ้นมองห้องรับรอง
“อ่องเซ่อเจิ้ง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ น้องหยูถูกชะตากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ น้องหยูรู้สึกว่ามันควรจะเป็นสัตว์เลี้ยงของนาง ข้าไม่อาจทนเห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์คลาดกับนางได้ ดังนั้นจึงอยากจะประมูลให้นาง อ๋องเซ่อเจิ้งโปรดอภัยให้ด้วย”
ถูกชะตา?
เย่จายซิงหัวเราะ นางมองไปยังจิ้งจอกน้อยสีแดงในกรง เห็นมันมองบนเหมือนมนุษย์ เผยสีหน้ารังเกียจ
ถูกชะตาจริงๆ
“สามสิบล้าน”
จวินหยวนขี้คร้านจะสนใจเซี่ยซือห้าว ดวงตาของเขาเยือกเย็น เพิ่มราคาต่อ
สีหน้าของเย่เจียหยูแข็งทื่อทันที นางไม่อาจควบคุมตนเองได้ ใช้แรง หยิกมือของเซี่ยซือห้าวที่จับมือนางเอาไว้พอดี
“โอ๊ย น้องหยู เจ้าปล่อยมือข้า”
เซี่ยซือห้าวถอนมือกลับ มือของเขามีรอยเล็บและเลือดซิบออกมา
สีหน้าของเขาไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก เย่เจียหยูดึงสติกลับมา รีบเอาผ้าพันแผลของเขา พูดด้วยความน้อยอกน้อยใจ:
“เจ้าพระยา ข้าขอโทษเจ้าค่ะ น้องหยูตกใจเกินไป ไม่ได้เจตนาเจ้าค่ะ”
เซี่ยซือห้าวคลายความขุ่นเคือง เห็นน้ำตาไหลอาบแก้มของนาง อดไม่ได้ที่จะปวดใจ เขากัดฟันแน่น พูดเสียงดัง:
“สามสิบสองล้าน!”
จิๆ เย่จายซิงเห็นภาพนี้ นับถือวิธีการของดอกบัวขาวเยี่ยงเย่เจียหยูจริงๆ
ด้นาหลังเงียบสงัด คิดไม่ถึงว่าเจ้าพระยาซย่าจะต่อกรกับอ๋องเซ่อเจิ้ง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน
เย่เจียหยูลุกขึ้น พูดกับคนในห้องรับรองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:
“อ๋องเซ่อเจิ้ง ท่านมีอสูรเทพแล้วไม่ใช่หรือ สำหรับท่านแล้ว อสูรศักดิ์สิทธิ์น่าจะไม่ค่อยมีประโยชน์กระมังเจ้าคะ? แต่จิ้งจอกน้อยตัวนี้ น้องหยูชอบยิ่งนัก โชคชะตาฟ้าลิขิต น้องหยูรู้สึกว่ามันคือพรหมลิขิตของน้องหยูเมื่อชาติภพก่อน คล้ายชักนำด้วยความมหัศจรรย์บางอย่าง ดังนั้น น้องหยูหวังว่าอ๋องเซ่อเจิ้งจะยอมเสียสละ น้องหยูจะซาบซึ้งใจยิ่งนักเจ้าค่ะ”
จิ้งจอกน้อยหันหลัง หันกั้นไปทางเย่เจียหยู แค่ว่าสายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังเย่เจียหยูและห้องรับรอง จึงไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นการปฏิเสธของจิ้งจอกน้อย
จู่ๆ เย่จายซิงก็รู้สึกว่าอสูรโหดตัวนี้ช่างมีความหมาย ไม่ชอบผู้ใดก็แสดงออกมาชัดเจน ทำให้นางชอบมันมากขึ้น
เย่เจียหยู ทำตัวอ้อนแอ้น หน้าหนายิ่งนัก
นางเงยหน้าขึ้นมองจวินหยวน ไม่รู้ว่าเขาจะหวั่นไหวกับคำพูดของเย่เจียหยูหรือไม่
แต่ผลสุดท้ายกลับได้ยินเขาพูดเสียงเยือกเย็น:
“สี่สิบล้าน”
ไม่มีความทะนุถนอมสตรีแม้แต่น้อย
สี่สิบล้านออกจากปากเขา ราวกับแค่สี่พันเท่านั้น เป็นจริงตามที่ว่าเงินมากความมั่นใจมาก!
คือทองคำชิ้นใหญ่
คำพูดนี้เท่ากับตบหน้าเย่เจียหยู ไม่เพียงขี้คร้านจะตอบคำถามนาง ทั้งยังไม่ให้เกียรตินางแม้แต่น้อย ไม่ว่านางจะทำเช่นไร ล้วนไม่อาจทำให้เขาสั่นครอน
เย่จายซิงเม้มปากแล้วคลี่ยิ้มบางๆ จวินหยวนดูมารยาหญิงเก่งจริงๆ
เย่เจียหยูคิดไม่ถึงว่าตนพล่ามยาวเช่นนี้ จวินหยวนกลับไม่มีปฏิกิริยาแม้แต่น้อย ทั้งยังเพิ่มราคามากถึงแปดล้านในคราเดียว!
นางโมโหจนแทบจะกระอักเลือด สิ่งสำคัญที่สุดคือนางรู้สึกว่าตนขายหน้า
“น้องหยู ช่างเถอะ ดูเหมือนว่าอ๋องเซ่อเจิ้งคงไม่ยอม”
เซี่ยซือห้าวพูดเสียงเบา
เย่เจียหยูโมโห รู้สึกว่าเซี่ยซือห้าวไม่ได้เรื่องเกินไป คราวหน้านางหาบุรุษ ต้องหาคนที่มีอำนาจ
นางกัดฟัน นั่งลงด้วยความเจ็บใจ
ในงานประมูลไม่มีผู้ใดกล้าเพิ่มราคาอีก สุดท้ายจิ้งจอกทิพย์จิ่วอิงเด็กถูกประมูลในราคาสูงลิ่วถึงสี่สิบล้าน จวินหยวนเป็นคนประมูลได้
ไม่นาน จิ้งจอกสีแดงตัวนี้ก็ถูกส่งไปตรงหน้าจวินหยวน
จิ้งจอกน้อยขนตั้งชัน มองจวินหยวนด้วยความระมัดระวัง แยกเขี้ยวยิงฟันเล็กๆ ของมัน ดุเหมือนเด็ก
มือใหญ่จับหลังคอของมันแล้วยกขึ้น ดวงตาลุ่มลึกสีดำสนิทของจวินหยวนมองไปที่มัน พูดเสียงเยือกเย็น:
“ต่อไปนี้นางคือเจ้านายของเจ้า หากเจ้าไม่ทำตัวดีๆ ประจวบเหมาะข้ากำลังขาดแคลนผ้าพันคอพอดี”