บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1081 แอบซ่อนเงินไว้
อ๋องฉีเอามือไขว่หลังเดินไปเดินมาหนึ่งรอบ อ๋องอานพูดเสร็จพอดี เขาจึงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ข้ากลับเห็นว่าสมเหตุสมผล เพราะ ทุกคนต่างก็คิดว่า เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะโง่เขลาได้ขนาดนี้ ลงมือทำร้ายพี่สะใภ้ห้าที่หน้าประตูจวน ยังไงก็ไม่มีใครสงสัยเจ้า”
อ๋องอานฟังเช่นนี้แล้ว ก็โกรธกระโดดขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหัวสมองลาโง่ ในหัวมีแต่หญ้าหรือ? หากเป็นเช่นนี้ ทำไมข้าไม่ลักพาตัวนางตั้งแต่อยู่ในจวน? ถึงตอนนั้นเจ้าห้ามาตามหาคน ข้าปฏิเสธไปไม่ยอมรับ แล้วใครจะทำอะไรข้าได้?”
อ๋องฉีเบิกตามองอย่างโศกเศร้า พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สี่ เจ้าร้อนใจอะไร? ข้าก็แค่พูดไปเรื่อยแค่นั้นเอง จะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้เลยหรือ? ยังบอกว่าเป็นลาโง่ เจ้าสิลาโง่”
อ๋องอานกลับโกรธจนสีหน้าขาวซีด ยกมือประสานให้กับหยวนชิงหลิง แล้วก็พากลับจวนไป
อ๋องฉีมองดูเงาหลังของเขา สายตาแฝงไปด้วยความสงสัย ดูท่าแล้วก็ไม่เหมือนเป็นเจ้าสี่ หากเป็นเขา เขาจะสามารถเผชิญหน้าได้อย่างสงบ จะก่นด่าได้อย่างไร?
เขาหันไปมองดูหงเย่อีกครั้ง หงเย่ก็หันตัวจากไปแล้ว
อ๋องฉีมีคำสั่ง ให้นำตัวนักฆ่าทั้งหมดกลับมาที่กรมการพระนคร เขาพาหยวนชิงหลิงกลับมาส่งถึงจวนด้วยตนเอง
พอกลับมาถึงจวน ได้รู้ว่าถูกลอบทำร้าย ทังหยางกับแม่นมสี่ตกใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเห็นหมันเอ๋อ ได้รับบาดเจ็บที่แขนกับไหล่ อาการสาหัสไม่เบา ก็ยิ่งเป็นห่วง แม่นมสี่พูดขึ้นว่า “ทำไมอยู่ดีๆถึงมีคนต้องการฆ่าพวกเจ้า? เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว? เฮ้อ ตอนนี้สถานการณ์ไม่สงบ แล้วองค์ชายรัชทายาทก็ไม่อยู่จวนพอดี”
ในใจหยวนชิงหลิงกลับเป็นห่วงเจ้าห้าอย่างมาก คนพวกนี้ต้องการที่จะลักพาตัวนางกับหมันเอ๋อ เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะควบคุมเจ้าห้ากับหนานเจียง พวกเขาจะต้องพรั่งพรูออกมา ลอบฆ่าเจ้าห้าแน่
ในใจยิ่งไม่สงบสุขขึ้นมา
นางเรียกทังหยางไปคุยที่ห้องหนังสือ แล้วถามขั้นว่า “เจ้าห้าออกไปครั้งนี้ พาคนไปด้วยเยอะไหม?”
ทังหยางรู้ว่านางเป็นห่วง จึงพูดปลอบว่า “พระชายารัชทายาทวางใจ องค์ชายรัชทายาทแผนไว้อย่างดีแต่แรกแล้ว ตลอดทางมีคนขององครักษ์ลับผีคอยคุ้มกัน และมีคนของสำนักเหลิ่งหลังติดตามไปด้วย ยังไงก็ไม่เป็นอันตราย”
“เอาตัวเองไปตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ช่าง….” เดิมหยวนชิงหลิงอยากพูดว่าโง่ วิธีนี้เป็นวิธีที่แย่ที่สุดจริงๆ
ทังหยางรู้ความหมายของนาง จึงพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท นี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเลือก ยังไงศัตรูก็ต้องเดินมาตรงหน้าพวกเรา ถึงจะสามารถรับมือได้ ไม่เช่นนั้น ต่อให้เตรียมการป้องกันอีกมากแค่ไหนก็ล้วนไม่มีประโยชน์”
หยวนชิงหลิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “หวังว่าเจ้าเจ็ดจะสามารถเปิดปากนักฆ่าพวกนั้น แล้วรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้าง”
ทังหยางส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ยาก เมื่อกี้ข้าได้คุยกับอ๋องฉี ฝีมือการต่อสู้ของคนพวกนี้ แทบไม่สามารถจัดอันดับอยู่ในยุทธจักรได้ เพียงแค่ถูกว่าจ้างมา และก็ใช่ว่าจะต้องการลักพาตัวท่านกับหมันเอ๋อจริง เหมือนเป็นการก่อเรื่องให้เกิดขึ้นในจวนอ๋องอานมากกว่า”
“เกิดขึ้นในจวนอ๋องอาน?” หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “แสดงว่า เจ้าก็คิดว่าไม่ใช่อ๋องอาน?”
ทังหยางพูดวิเคราะห์ขึ้นว่า “ไม่เหมือนเป็นเขา ในสถานการณ์เช่นนี้ ค่อนข้างเสี่ยงเกินไป องค์ชายรัชทายาทเพิ่งออกจากเมืองหลวง เขาก็ลงมือทำร้ายเจ้า และเป็นเขาที่สั่งคนมาเชิญเจ้าไปดูอาการป่วยให้กับลูกของเขาด้วยตนเอง หากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ใครๆก็ล้วนสงสัยเขา หากเป็นเมื่อก่อน อ๋องอานอาจจะทำเช่นนี้ แต่ตอนนี้เขาอยู่ในเมืองหลวงเปรียบเหมือนคนที่ตกอับ ไม่มีอำนาจเพียงพอที่จะสนับสนุนให้เขากระทำเช่นนี้ กลับจะเป็นการนำภัยมาสู่ตัว ไม่คุ้มค่า”
หยวนชิงหลิงก็คิดว่าไม่ใช่อ๋องอานแน่ ดูท่าทีเขาในวันนี้ ถึงแม้จะมาถึงอย่างเชื่องช้า แต่ท่าทีก็เหมือนถูกใส่ร้ายจริงๆ การที่เขามาช้า ที่จริงหยวนชิงหลิงก็รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นในจวนอ๋องอาน
วันนี้จวนอ๋องอานมีทหารจวนไม่มาก และตอนนี้เหตุวุ่นวายในเมืองหรือไม่เคยหยุด ดังนั้น ส่วนมากแล้วเขาจะเก็บตัวไม่รับแขก ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวาย กลัวจะกลายเป็นภัยมาถึงตัว จนไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
บางทีเขาอาจจะรู้ว่ามีคนมาลอบฆ่า แต่กลับครุ่นคิดอยู่ว่าควรหรือไม่ควรที่จะไล่ไป ต่อมาเห็นหงเย่ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ได้แล้ว ดังนั้นจึงค่อยพาคนรีบออกมา เหมือนเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องตนเองมากกว่า
ที่จริงก็สามารถมองเห็นความระมัดระวังของอ๋องอาน
เมื่อคุยกับใต้เท้าทังเสร็จ หยวนชิงหลิงก็กลับไปที่เรือนด้านหลัง เจ้าเสือน้อยกลับไปแล้ว เฝ้าอยู่ข้างกายเจ้าแฝด
หยวนชิงหลิงอุ้มเจ้าแฝดที่สงบนิ่งขึ้นมา ทั้งสองคนยังนอนหลับอยู่ หยวนชิงหลิงอุ้มไว้อยู่ในมือ พวกเขาค่อยฝืนลืมตาขึ้นแปบหนึ่ง เห็นว่าเป็นแม่ของตนเอง ก็หลับลึกลงไปครั้ง
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เจ้าแฝดตื่นขึ้นมาอย่างจริงๆน้อยครั้งมาก ต่อให้ตื่นขึ้นมาก็อยู่ในอาการเหมือนนอนไม่อิ่ม แม้แต่พวกเด็กๆยังตั้งชื่อเล่นให้พวกเขาว่าเป็นเทพที่หลับใหล
“ลูก วันนี้รู้ว่าแม่มีอันตรายใช่ไหม? จึงใช้ให้เจ้าเสือน้อยไปใช่ไหม?” หยวนชิงหลิงจูบแก้มพวกเขาหนึ่งที ตั้งใจอยากที่จะทำให้พวกเขาตื่น
แต่เจ้าแฝดไม่ขยับเขยื้อน ยังคงนอนหลับต่อไป
“หากพ่อของเจ้ามีอันตราย พวกเจ้าจะรู้ไหม?” หยวนชิงหลิงถามขึ้นอีก
หนังตาเจ้าแฝดขยับ แต่ไม่ลืมตา
หยวนชิงหลิงวางพวกเขาลง ตอนนี้ตัวหนักมากแล้ว อุ้มสักพักก็เมื่อยมือ
ตอนนี้เจ้าแฝดก็ไม่แสดงอารมณ์ของตนออกมา แต่รูปร่างใบหน้าน้อยๆยิ่งอยู่ก็ยิ่งเหมือนเจ้าห้า เดิมหน้าตาพวกเขาไม่ได้เหมือนกันอย่างมาก แต่ตอนนี้ยิ่งโต ก็เหมือนเจ้าห้าน้อย
กลับไปที่ห้องนอน ฉี่หลอเข้ามาปรนนิบัติ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “วันนี้หลังจากที่ท่านออกไป เถ้าแก่ของร้านแลกเงินจินเซิ่งมาหาท่านด้วยตนเอง บอกว่าท่านชายรองจะแลกเงิน พรุ่งนี้จะไปเอา จากนั้นก็ได้ยินแม่นมพูดว่า วันนี้เขาใช้ให้แม่น้องไปซื้อขวดโหลมาเยอะมาก ยังสั่งให้หกเกอเอ๋อกับหูหมิง ไปขุดหลุมในพื้นที่ด้านหลังเรือน บอกว่าจะขุดหลุมใต้ดิน”
หยวนชิงหลิงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาไปแลกเงิน? เขามีเงินหรือ?”
“ไม่รู้ เขาแอบไปเอง แอบหนีแม่นมไป แม่นมบอกว่าแปบเดียวก็ไม่เห็นเขาแล้ว”
“เขานอนหรือยัง?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“คิดว่าตอนนี้น่าจะยังไม่นอน”
“เขาจะแลกเงินเท่าไหร่? ยังจะไปแลกพรุ่งนี้” หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว เขาไปเอาเงินมาจากไหน? ยังจะแลกเงินจำนวนหนึ่ง
ฉี่หลอพูดขึ้นว่า “เถ้าแก่บอกว่าเป็นตั๋วเงินหนึ่งหมื่นตำลึง จะแลกทั้งหมดเป็นเงิน พรุ่งนี้จะส่งคนไปขนมา”
“หนึ่งหมื่นตำลึง? รับไปตามเขามา” หยวนชิงหลิงพรวดลุกขึ้นมา จริงๆเลย เด็กคนนี้คงไม่ได้ไปขโมยเงินห้องการเงินนะ?
ฉี่หลอถวายทำความเคารพ แล้วก็ออกไป สักพัก ก็จูงมือทังหยวนเข้ามา
“ท่านแม่” เข้าประตูมาก็ร้องเรียกขึ้น ทังหยวนยังมีมารยาทอย่างมาก
“หยวน มานั่งลง” หยวนชิงหลิงชี้ไปที่เก้าอี้ด้านข้าง แสดงท่าทีออกมาอย่างเคร่งขรึม
ทังหยวนนั่งลงอย่างว่าง่าย ใช้สายตากลมโตมันวาวมองดูหยวนชิงหลิง กลับถามขึ้นอย่างไม่มีชีวิตชีวาว่า “ตามลูกมาค่ำขนาดนี้ มีเรื่องอะไรหรือ?”
“วันนี้เถ้าแก่ร้านแลกเงินมาบอกว่า เจ้าบอกว่าพรุ่งนี้จะแลกเงิน ใช่ไหม?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
ทังหยวนอึ้ง จากนั้นก็แสดงท่าทีโกรธ พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาไม่รักษาคำพูด บอกแล้วว่าไม่ให้บอกที่บ้าน”
หยวนชิงหลิงมองดูเขาอย่างโมโห พร้อมพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าไปเอาตั๋วเงินมาจากไหน? ตั้งหนึ่งหมื่นตำลึง ไปเอามาจากไหน?”
ทังหยวนพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ไม่ได้เอามาจากไหน เงินนี้เป็นของข้า ข้าคิดว่าฝากไว้ที่ร้านแลกเงิน ยังไงก็ไม่ปลอดภัย ตั้งเก็บไว้ในมือตัวเอง ดังนั้นข้าจึงให้คนไปขุดหลุมใต้ดิน ถึงตอนนั้นก็เอาเงินทั้งหมดใส่ไว้ในขวดโหล เอาไปซ่อนไว้ในห้องใต้ดิน ข้าเห็นฮูหยินทังก็ทำเช่นนี้ นางซ่อนของไว้เยอะมาก”