บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1107 เป็นแผน
หยวนชิงหลิงเห็นรอบๆไม่มีคน จึงถามขึ้นว่า “เจ้าพูดความจริงกับข้า โสวฝู่ถูกวางยาพิษในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจใช่ไหม? พวกเจ้าวางแผนไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องแล้วใช่ไหม”
หยู่เหวินเห้านั่งลงด้านข้างนาง จับมือของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เรื่องนี้ที่ไม่ได้บอกเจ้าก่อน เพราะยังต้องการให้เจ้ามาทำการรักษา ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง”
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ ค่อยโล่งอก พร้อมพูดขึ้นว่า “นั่นก็หมายความว่า โสวฝู่ไม่เป็นไร?”
“เจ้าวางใจ ไม่เป็นไร คืนนี้หลังจากกลับจวนแล้ว ข้าค่อยเล่ารายละเอียดให้เจ้าฟัง ให้เจ้าเจ็ดสืบสวนก่อน สิ่งที่ควรจะทำก็ยังต้องทำ” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ายังเติมน้ำเกลือให้โสวฝู่”
“ไม่เป็นไร เขาถูกวางยาจริงๆ แต่อย่าพิษนี้พวกเรามียาถอนพิษ เจ้าเติมน้ำเกลือให้เขากำลังดี อีกฝ่ายคิดว่าเขาจะต้องตาย แต่เจ้าเติมน้ำเกลือให้เขา อย่างน้อยพวกเราก็สามารถป่าวประกาศว่า เพราะเจ้าเคยทำการรักษา ดังนั้นเขาจึงสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ไม่เช่นนั้น พวกเขาอาจจะสงสัยว่าเป็นแผน”
หยวนชิงหลิงมองดูเขา เห็นคิ้วคมๆของเขา เหมือนมีแผนไว้แล้ว ถึงก็ไม่เป็นกังวลแล้ว
เฝ้าอยู่ที่จวนฉู่หนึ่งชั่วโมงกว่า ระหว่างนั้นย่วนพ่านก็มาแล้ว ทำอะไรไม่ถูกกับยาพิษเช่นนี้ หยวนชิงหลิงมองดูท่าทีอ๋องผิงหนานกับเซียวเหยากง ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้เรื่อง แสดงว่าถูกหลอกเหมือนกัน
ไท่ซ่างหวงส่งราชรถมารับอ๋องผิงหนานเข้าวัง เดิมอ๋องผิงหนานไม่ยินยอมที่จะจากไปเร็วขนาดนี้ แต่หยู่เหวินเห้าพูดหว่านล้อม ให้เขาเข้าวังไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยออกมา ไท่ซ่างหวงจะได้ไม่เป็นห่วง เรื่องนี้ไท่ซ่างหวงยังไม่รู้เรื่อง
อ๋องผิงหนานรู้ว่าสุขภาพไท่ซ่างหวงไม่ดี เพื่อให้เขาไม่เป็นกังวล จึงเข้าวังไป
อ๋องฉียังคงสอบสวนต่อไป หยู่เหวินเห้าสั่งคนส่งหยวนชิงหลิงกลับจวนก่อน
หยวนชิงหลิงตามแม่นมสี่มาก่อน บอกเรื่องนี้ให้กับนางเป็นการส่วนตัว เพื่อป้องกันหากเรื่องถูกเปิดเผยขึ้นมา นางไม่รู้ที่มาที่ไปแล้วจะร้อนใจเป็นกังวล
แต่แม่นมสี่ยังคงเป็นห่วง ถามย้ำหยวนชิงหลิงว่าไม่เป็นไรจริงๆใช่ไหม หยวนชิงหลิงก็พูดรับประกันย้ำว่า นี่เป็นแผนของโสวฝู่กับเจ้าห้า แม่นมสี่ค่อยโล่งอก
เกือบเที่ยงคืนแล้วเจ้าห้าค่อยกลับมาถึงจวน หยวนชิงหลิงสั่งคนเก็บกับข้าวไว้ให้เขา นางเองก็ยังไม่ได้ทาน รอเขากลับมาแล้ว ค่อยสั่งคนเอาไปอุ่นแล้วเอามาให้
หยู่เหวินเห้าจับมือของนางวาง สายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องรอข้า หิวก็ทานก่อนได้เลย”
“ข้าไม่หิว รอเจ้ากลับมาทานด้วยกันพอดี” หยวนชิงหลิงชักมือกลับ ไล่คนใช้ออกไป ตักน้ำแกงให้เขาหนึ่งถ้วย พร้อมรีบถามขึ้นว่า “เจ้ารีบบอกข้ามา พวกเจ้าตั้งใจจะทำอย่างไร?”
หยู่เหวินเห้าดื่มน้ำแกงไปหนึ่งคำ พร้อมพูดขึ้นว่า “หลินเซียวหลอกใช้ให้ฉู่หมิงหยางทำร้ายโสวฝู่ เรื่องนี้หลังจากฉู่หมิงหยางกลับมาอยู่ตระกูลฉู่ ข้ากับโสวฝู่ก็คิดเห็นกับเรื่องเหมือนกัน ดังนั้น ความเคลื่อนไหวของฉู่หมิงหยางที่อยู่ในตระกูลฉู่ทุกอย่าง ล้วนมีคนแอบจับตาเฝ้าดูอยู่ แต่ช่วงนี้นางไม่ยอมลงมือ พวกเราจึงคาดเดาว่า คงจะรอหลังจากที่อ๋องผิงหนานเข้ามาเมืองหลวงแล้วค่อยลงมือ พอดีกับที่ในราชสำนักก็มีคนพูดว่า อ๋องผิงหนานยังหวังที่จะยึดครองตำแหน่งฮ่องเต้ ยังแอบพาอ๋องชินเฟิงอันออกมา ทุกคนต่างก็รู้ อ๋องผิงหนานเป็นพระราชนัดดาองค์ใหญ่ของฮ่องเต้เซี่ยน เดิมอ๋องชินเฟิงอันก็สามารถที่จะ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นองค์ชายรัชทายาท แต่ด้วยสาเหตุหลายอย่าง สุดท้ายพวกเขาเลือกที่จะไปจากราชสำนัก คนปกติยากที่จะเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้ ดังนั้นจึงคิดว่าที่พวกเขาจากไปเพราะความจนใจ ยังคงระแวดระวังสงสัยในตัวพวกเขาคนปกติล้วนคิดเช่นนี้ ดังนั้น ในเวลาแบบนี้พอมีคนพูดยั่วยุขึ้นมา ความระแวงสงสัยเช่นนี้ก็ยิ่งฝังลึก”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าคนในราชสำนักคิดเช่นนี้ หรืออาจจะพูดได้ว่า ประชาชนต่างก็ไม่สามารถที่จะเข้าใจ ทำไมตอนนั้นอ๋องชินเฟิงอันถึงไม่ยอมเป็นฮ่องเต้ ทำไมถึงไปจากราชสำนัก ดังนั้น จึงง่ายที่จะถูกศัตรู นำไปใช้ประโยชน์
“อาการป่วยของเสด็จพ่อไม่หนักหนา ข้อนี้เจ้าก็รู้ เสด็จพ่อทำเช่นนี้ เพราะต้องการให้อ๋องผิงหนานมาเมืองหลวง ในขณะเดียวกันก็ให้ข้าสำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้ามีความรู้ประสบการณ์น้อย ขุนนางเก่าแก่มากมายข้าไม่สามารถรับมือได้ ในช่วงเวลานี้ พวกเขาโน้มน้าวขุนนางข้าราชการมากมาย และขุนนางเก่าแก่พวกมีความคิดดักดานและดื้อรั้น ถูกปลุกระดมได้ง่ายที่สุด หลังจากอ๋องผิงหนานเข้ามาในเมืองหลวง ก็เกิดเรื่องกับโสวฝู่ทันที ศัตรูจะต้องฉวยโอกาสนี้ ทำอะไรบางอย่างแน่นอน จะลุกลามไปทั่วทั้งในราชสำนักและภายนอกราชวัง บวกกับเจ้ากับข้าต่างก็เคยถูกลอบทำร้าย ล้วนต่างยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายออกมาได้ มีคนตั้งใจจะโยนความผิดให้กับอ๋องผิงหนานกับอ๋องชินเฟิงอัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด”
หยวนชิงหลิงพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ดังนั้นพวกเจ้าจึงวางแผนซ้อนแผน”
หยู่เหวินเห้าคีบกับข้าวให้นาง ตอนเองก็ดื่มน้ำแกงลงไปกว่าครึ่งถ้วย พร้อมพูดต่อว่า “พวกเราถูกกดดันอยู่ตลอด ศัตรูแอบอยู่ในที่ลับ ความคับอกคับใจนี้ อดทนมานานมากแล้ว จะต้องพลิกสถานการณ์ ควบคุมคุมสถานการณ์ กุมทุกอย่างอยู่ในมือ ก็จะต้องสร้างชัยชนะอย่างน่าประหลาดใจ พลิกสถานการณ์ครั้งใหญ่ ยิ่งสามารถฉวยโอกาสดู คนพวกไหนที่จะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ติดตามไปตามเถาวัลย์แล้วดึงขึ้นมาทั้งรากทั้งโคน ต่อไปก็จะไม่ต้องถูกศัตรูกดขี่อยู่ในที่ลับ แต่เป็นการเผชิญพวกเขาอย่างแท้จริง”
หยู่เหวินเห้าพูดอยู่เช่นนี้ แทบจะเป็นการกัดฟันพูดออกมา เป็นความจริง ช่วงเวลานี้ช่างคับอกคับใจยิ่งนัก ถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ถูกโจมตีจนเวียนหัวไปไม่ถูก ตอนนี้สามารถจับคนบงการได้ ก็ถือเป็นการได้ระบายความแค้นเสียที
ฟังเขาพูดอธิบายแล้ว หยวนชิงหลิงค่อยโล่งอก ตักกับข้าวให้กับเขา พร้อมยิ้มพูดว่า “ลำบากเจ้าแล้ว ทานเยอะๆหน่อย”
หยู่เหวินเห้าจับมือของนางไว้ สายตานิ่งจับจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าหยวน อีกไม่นาน ข้าก็จะสามารถอยู่กับเจ้าได้ตลอด พวกเราไปทะเลสาบจิ้ง ไปแคว้นต้าโจว ไปเมืองเม่า ไปสถานที่ที่เจ้าอยากไป”
ในใจหยวนชิงหลิงอบอุ่น พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ดี”
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ ทั้งสองคนถือถ้วยข้าวขึ้นมาทานข้าว ตอนที่กำลังทานอยู่ หยู่เหวินเห้ากลับพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ฉู่หมิงหยาง ทั้งนี้เก็บไว้ไม่ได้แล้ว”
หยวนชิงหลิงมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ความคิดของโสวฝู่?”
หยู่เหวินเห้าอืมหนึ่งคำ พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาเยือกเย็นว่า “โสวฝู่พูดว่า หากนางไม่ถูกหลินเซียวหลอกใช้ ก็จะลืมเรื่องที่เคยเกิดขึ้น หากนางวางยาพิษจริง ยังสามารถให้โอกาสนางอีกครั้ง นั่นก็คือสารภาพความผิดของหลินเซียว เรื่องที่นางไปมาหาสู่หลินเซียว มีคนจับตาดูแต่แรกแล้ว ขอเพียงนางสารภาพ หลินเซียวเป็นไส้ศึกที่หงเล่ส่งมา ความน่าเชื่อถือมีมาก เช่นนี้ก็สามารถเข้าเรื่องที่หงเล่ยังไม่ตาย ลักรอบเข้ามา ก่อความวุ่นวายในราชสำนักเป่ยถัง เปิดเผยออกมา ดังนั้น พรุ่งนี้เจ้าเจ็ดจะสอบสวนนางโดยเฉพาะ หากนางยังดื้อรั้น นั่นเท่ากับเป็นการเดินไปหาความตาย ตามที่ข้ารู้จักนาง นางไม่มีทางสารภาพหลินเซียวออกมา เพราะเมื่อสารภาพว่าหลินเซียว เป็นสายลับของประเทศที่เป็นศัตรู เท่ากับนางก็มีส่วนร่วมในการทรยศคิดกบฏ นางก็ไม่มีทางเชื่อว่าโสวฝู่ จะยอมปกป้องนางไว้ ด้วยอุปนิสัยของนาง นางจะพูดเพียงว่าตนเองไม่รู้เรื่องอะไร คิดว่าหากปฏิเสธไม่ยอมรับ ก็จะไม่มีใครสามารถทำอะไรนางได้”
หยวนชิงหลิงเห็นว่าเขาวิเคราะห์ฉู่หมิงหยางได้อย่างมีเหตุผล ฉู่หมิงหยางไม่ใช่คนที่มีความรับผิดชอบ นางไม่มีทางยอมรับความผิดของตนเอง และนางก็ไม่เชื่อถือใคร เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด
สำหรับฉู่หมิงหยาง หยวนชิงหลิงไม่ได้เกลียดอย่างที่สุด แต่นางมักจะมีเสน่ห์ที่ทำให้คนอื่นเกลียดได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ความเป็นความตายของนาง จึงไม่มีใครให้ความสำคัญ
ทานข้าวเสร็จแล้ว หยู่เหวินเห้ากับนางไปดูลูกๆด้วยกัน ช่วงเวลานี้ไม่ค่อยได้อยู่กับลูกเลย ตอนนี้สถานการณ์กำหนดไว้แล้ว รอหลังจากเสร็จสิ้นเรื่องนี้ จิตใจของเขาก็จะสงบลง