บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1140 ลมกำลังมา
หมาป่าเปาจื่อเข้าใจสิ่งที่หยวนชิงหลิงพูดทันที ร้องอยู่หลายครั้ง บอกว่าสามารถไปได้เลย
หยวนชิงหลิงกำชับว่า แค่ไปสืบดู ห้ามลงมือ เพราะว่ามันไม่สามารถที่จะพาสองแม่ลูกลงมาจากเขาได้
หมาป่าหิมะหมุนวนอยู่บนพื้น ดีใจเป็นอย่างที่สุด หยวนชิงหลิงไม่เคยเห็นหมาป่าหิมะดีใจขนาดนี้มาก่อน จึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอย่างบอกไม่ถูก
และไม่เพียงหมาป่าเปาจื่อไป หมาป่าทังหยวนกับหมาป่าข้าวเหนียวก็ล้วนตามไปด้วยแล้ว เมื่อพากันออกไปจากประตู ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หยวนชิงหลิงเคยเห็นพวกมันดีใจขนาดนี้เสียเมื่อไหร่ อดไม่ได้ที่จะกลัว กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ถึงแม้พวกมันจะฟังที่นางพูดรู้เรื่อง แต่พวกมันไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
นางนิ่งอึ้งอยู่สักพัก แล้วค่อยหันกลับมา ตอนที่เข้าไปรักษาบาดแผลให้กับหยู่เหวินเห้า นางพูดขึ้นว่า “หมาป่าหิมะตื่นเต้นดีใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าทำไม?”
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจอยู่อย่างเจ็บปวด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ็บ เบาหน่อย”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอดทนหน่อย หน้าผากของเจ้าถลอก จะต้องฆ่าเชื้อ ที่ผ่านมาเจ็บแค่ไหนเจ้าก็อดทนได้ ทำไมตอนนี้แค่หนังถลอกนิดเดียวก็ลองเจ็บแล้ว?”
“ถ้าไม่ร้องว่าเจ็บ เจ้าจะเป็นห่วงหรือ?” หยู่เหวินเห้าโน้มไปจูบนาง รอยยิ้มเปล่งประกายขึ้นมา
“ข้าเป็นห่วง” หยวนชิงหลิงมองดูเขา ใช้แอลกอฮอล์เช็ดหน้าให้กับเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ต่อไประวังหน่อย อย่าต่อยหน้า ดูใบหน้าหล่อเหลานี้สิ ตอนนี้กลายเป็นอะไรไปแล้ว?”
“งั้นต่อไปข้าจะเตือนคู่ต่อสู้ก่อน ต่อยตรงไหนก็ได้ แต่ห้ามต่อยหน้า” หยู่เหวินเห้าบีบตรงโหนกแก้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ตรงนี้ก็แตกหรือเปล่า?”
“ไม่แตก” หยวนชิงหลิงค่อยๆปักมือเขาออก จากนั้นก็ใช้นิ้วกดเบาเบา พร้อมถามขึ้นว่า “เจ็บไหม?”
“เจ็บมาก” หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้ว
“กระดูกร้าวแล้วหรือเปล่า?” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“งั้นก็โชคร้ายมากจริงๆ” หยู่เหวินเห้าพูดบ่น คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่ง เพื่อเจ้าสี่แล้ว เขาต้องแลกกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา
หยวนชิงหลิงช่วยทายาให้กับเขาอย่างระมัดระวัง ยาที่เย็นทาอยู่บนหัว หยู่เหวินเห้ารู้สึกสบายขึ้นบ้าง แล้วก็คิดถึง เรื่องที่เมื่อกี้นางพูดถึงหมาป่าหิมะ จึงพูดขึ้นว่า “พวกมันจะต้องดีใจอยู่แล้ว ยอดเขาหมาป่าหิมะเป็นบ้านเกิดของพวกเขา”
“จริงหรือ?” หยวนชิงหลิงหันไปทางด้านหลัง ดูตรงท้ายทอยให้กับเขา เห็นเขาเงยหน้าตลอด ก็รู้ว่าตรงท้ายทอยของเขาต้องไม่สบายแน่ พอหันไปดูก็เห็นต้องด้านหลังมีรอยบวมโตหนึ่งลูก
“โอ้พระเจ้า นี่สมองของเจ้ากระทบกระเทือนหรือเปล่า?” คราวนี้หยวนชิงหลิงเป็นห่วงขึ้นมาจริงๆแล้ว
เมื่อภรรยาเป็นห่วงขึ้นมาจริงๆ หยู่เหวินเห้าก็ทนไม่ได้ โอบนางกอด พร้อมพูดขึ้นว่า “วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ที่บอกเจ้าว่าเจ็บ ก็แค่สำออย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างรักใคร่ว่า “ข้าหวังอยากที่จะให้เจ้าพูดกับข้าว่าลำบาก กดดัน ไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้ในใจคนเดียว”
หยู่เหวินเห้าซบตรงหน้าอกของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ลำบาก ในใจมีความหวัง กลับมาบ้านแล้วสามารถไปเห็นเจ้า ได้เห็นลูก ก็ไม่รู้สึกลำบากแล้ว”
หยวนชิงหลิงกอดเขาไว้ ช่วงนี้ นางมองเห็นเจ้าห้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทั้งภูมิใจทั้งเป็นห่วง
ทางด้านแม่ทัพหลู่หม่าง เมื่อไปสืบมาแล้ว ก็กลับมาบอกหยู่เหวินเห้าว่า หลังจากที่จ้าวหงฟ่างถูกขับไล่ออกไป ก็ไปจากเมืองหลวง เพิ่งกลับมาเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้อาศัยอยู่ที่ถนนเล่ออาน เปิดร้านร้านหนึ่ง ทำการค้าขายเล็กๆ ถ่อมตัวอย่างมาก
“ค้าขายอะไร?” หยู่เหวินเห้าถามขึ้น
“เปิดร้านขายยา”
ในใจหยู่เหวินเห้าพอรู้แล้ว จึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ เรื่องนี้สืบแค่นี้ก็พอแล้ว เจ้ากลับไปที่ค่ายทหารเถอะ เรื่องนี้ห้ามพูดให้ใครฟัง”
“ขอรับ หากมีความต้องการใช้ข้า สั่งการมาได้เลย” แม่ทัพหลู่หม่างยกมือประสาน แล้วก็จากไป
หยู่เหวินเห้าสั่งคนค่อยจับตาดูจ้าวหงฟ่างคนนี้ ทางด้านหมาป่าหิมะก็สืบกลับมาแล้ว พูดอยู่กับหยวนชิงหลิงสักพัก หยวนชิงหลิงเงยหน้ามองดูหยู่เหวินเห้า ส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่อยู่บนยอดเขาหมาป่าหิมะ”
หยู่เหวินเห้ากลับค่อยวางใจ เพราะถ้าคนอยู่บนยอดเขาหมาป่าหิมะ จะช่วยออกมายาก อีกอย่างอากาศก็ไม่ดี ลูกสาวจะทนไม่ได้
หยู่เหวินเห้าก็เริ่มมีชีวิตที่ออกไปแต่เช้าแล้วก็กลับมาดึก และเรื่องภายนอกก็บอกหยวนชิงหลิงน้อยลงแล้ว
ผ่านไปหลายวัน ภายในวังมีพระราชโองการมา ให้หยวนชิงหลิงพาพวกลูกๆไปอยู่เป็นเพื่อนไท่ซ่างหวงในพระที่นั่งในวังระยะหนึ่ง พระราชโองการมาอย่างกะทันหัน หยวนชิงหลิงรอเจ้าห้ากลับมาแล้วจึงถามขึ้น เจ้าห้าตอบว่า “วันก่อนได้ยินว่าไท่ซ่างหวงสุขภาพไม่ดี จึงไปรักษาตัวอยู่ที่พระที่นั่ง เจ้าก็รู้ที่จริงเขากลัวเหงา”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “แต่ตอนนี้เขาก็มีคนอยู่เป็นเพื่อนด้วยนี่ อ๋องผิงหนานก็อยู่ในวังไม่ใช่หรือ?”
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนแก่หลายคนอยู่ด้วยกัน มากสุดก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมา ตั้งนานขนาดนี้แล้ว เรื่องอะไรต่างก็พูดหมดแล้วมั้ง? เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนเขา ยังไงในจวนก็ไม่มีงานอะไร”
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม? เจ้าต้องบอกข้า”
หยู่เหวินเห้าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้? หงเล่ยังไม่เข้ามาในเมืองหลวงเลย เป็นช่วงวันเวลาที่ว่างอย่างหาได้ยาก เจ้าไปเถอะ”
“แต่ถ้าว่าง ช่วงนี้เจ้าก็ยุ่งอย่างมากนี่” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าไม่ง่ายขนาดนั้นแม่ ไท่ซ่างหวงให้นางพาลูกไปในเวลาแบบนี้ จะต้องมีเรื่องอะไรแน่
“ข้าต้องจัดการเรื่องงานภายในราชสำนัก แต่นี่หงเล่ก็จะมาเมืองหลวงแล้ว ต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เจ้าวางใจ หากมีอันตรายข้าจะต้องบอกเจ้าก่อนแน่ เจ้าจะได้เตรียมตัวด้วยไง จะปิดบังเจ้าได้อย่างไรล่ะ?” หยู่เหวินเห้าพูดปลอบ
หยวนชิงหลิงได้ยินเขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว จึงทำได้เพียงพูดขึ้นว่า “ก็ได้ ข้ากลับไปเก็บของ”
“ข้าช่วยเจ้า” หยู่เหวินเห้าจูงมือของนาง แล้วก็พวกบ่นขึ้นว่า “เฮ้อ เจ้าไปอยู่ในพระที่นั่งแล้ว ข้าก็ไม่ได้เห็นเจ้าบ่อยแล้ว”
“งั้นข้าไม่ไปแล้วไหม?”
“เจ้าไปเถอะ เมื่อข้าคิดถึงเจ้าข้าจะไปหาเจ้า” หยู่เหวินเห้ารีบพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว รู้สึกว่ายังไงก็ผิดปกติ จึงถามขึ้นอีกว่า “มีข่าวพระชายาอานหรือยัง?”
“มีบ้างแล้ว ตอนนี้กำลังคิดหาวิธีช่วยออกมา” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ ค่อยรู้สึกวางใจบ้าง
เพราะไปพระที่นั่งครั้งนี้ พาลูกไปด้วย ดังนั้นแม่นมกับมามาล้วนต้องไปด้วย อะซี่กับฉี่หลอลู่หยาก็ไปด้วย อย่างกับย้ายบ้าน ทอดทิ้งหยู่เหวินเห้ากับสวีอี
หยู่เหวินเห้าส่งพวกนางไปด้วยตนเอง มาถึงพระที่นั่ง เมื่อจัดการที่อยู่เรียบร้อยแล้ว ค่อยไปกราบถวายบังคมไท่ซ่างหวง
ผู้อาวุโสสามท่านของเป่ยถัง กับอ๋องผิงหนานก็ล้วนอยู่ในพระที่นั่ง ฉางกงกงก็มา แต่ไม่เห็นอ๋องผิงหนานซื่อจื่อ หยวนชิงหลิงถวายพระพรทุกคน แล้วก็เห็นพวกเด็กๆ วิ่งเล่นทั่วลาน หมาป่าหิมะก็วิ่งไล่ตาม จวนที่ดูเงียบเหงานี้ ก็คึกคักขึ้นมาในทันใด
ไท่ซ่างหวงดูสีหน้าไม่ค่อยดีจริง ริมฝีปากค่อนข้างม่วง หยวนชิงหลิงถามดูอาการ ค่อยรู้ว่าที่แท้ เมื่อสองวันก่อนมีอาการเวียนหัว เกือบเป็นลมไป คงเป็นเพราะภายในวังน่าเบื่อเกินไป จึงมาพักรักษาตัวอยู่ในพระที่นั่ง
หยวนชิงหลิงประคองเขาเข้าไป ตรวจดูเรียบร้อยแล้ว ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่ความดันสูงไปบ้าง คงเพราะไม่ได้ทานยา เมื่อถามแล้วค่อยรู้ว่าไม่เพียงหยุดยา ช่วงไม่กี่วันนี้ดื่มสุรากับอ๋องผิงหนานผู้อาวุโสสามคนอยู่ในวังไม่น้อย ถึงว่าความดันถึงได้สูงขึ้น