บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1172 คิดจะชิงเจ้าหยวนของข้า
หวงกุ้ยเฟยพึมพำ “นี่ข้าอายุเช่นนี้แล้วยังตั้งครรภ์อีกหรือนี่?”
หยวนชิงหลิงตลกกับการเยาะตัวเองของนาง “ท่านแม่ ดีพระทัยไหมเพคะ?”
“ดีใจสิ!” หวงกุ้ยเฟยค่อยๆ นั่งลง ตัวสั่นเทิ้ม ชีวิตที่เหมือนอยู่ในวังวน จู่ๆ ก็ถูกเรื่องยินดีทำลาย นางไม่กล้าเชื่อ รู้สึกว่าตอนนี้เหมือนอยู่ในความฝัน นางตั้งสติมองหยวนชิงหลิง “จะผิดพลาดหรือเปล่า?”
“งั้นก็เรียกหมอหลวงมาตรวจสอบอีกสิเพคะ!” หยวนชิงหลิงเอ่ย
นี่เป็นเรื่องใหญ่ หวงกุ้ยเฟยไม่กล้าหละหลวม ต้องให้หมอหลายคนตรวจสอบจึงจะดี มิเช่นนั้นนางก็ไม่กล้าเชื่อ นางต่อว่าแม่นมเฟิงที่รีบไปรายงาน หากถึงเวลาไม่ใช่ดังนั้น นางได้กลายเป็นตัวตลกแน่
ย่วนพ่านนำหมอลวงมาสองสามคน ผลัดเปลี่ยนกับจับชีพจร ระหว่างนั้นฮ่องเต้หมิงหยวนก็มาถึงด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี มองหวงกุ้ยเฟยด้วยความประหลาดใจ
ท้ายที่สุด ย่วนพ่านก็ประกาศว่าหวงกุ้ยเฟยตั้งครรภ์จริงๆ ทั้งยังสองเดือนแล้ว ขนาดว่าตั้งครรภ์ก่อนฮู่เฟยเสียอีก
ฮ่องเต้หมิงหยวนดีใจยกใหญ่ ผู้ชายน่ะ เป็นพ่อคนบ่อยแค่ไหนก็ไม่คิดว่าเยอะ ถึงอย่างไรก็เลี้ยงได้
ขณะที่หวงกุ้ยเฟยดีใจหนักก็กลับร้องไห้ออกมา ย่วนพ่านบอกว่านี่เป็นเรื่องปกติ หญิงมีครรภ์ประเดี๋ยวหัวเราะ ประเดี๋ยวร้องไห้ ห้ามถือสา
หวงกุ้ยเฟยดีใจจนน้ำตาไหล และเป็นห่วงจนร้องไห้ด้วย เพราะช่วงนี้นางท้องเสียอยู่ตลอด นางกลัวว่าเด็กจะไหลออกมา
ดีที่หยวนชิงหลิงอธิบาย บอกว่าตอนนี้ไม่เป็นไร ให้นางกินดื่มของอ่อน แพล็บเดียวก็หาย
หวงกุ้ยเฟยจับมือหยวนชิงหลิง น้ำตาในเบ้าไม่จางหาย เอาแต่พูดว่า “ต้องขอบคุณฮูหยินใหญ่ นางเขียนสูตรมาให้ข้า เพิ่งกินไปสองเดือนกว่า ไม่คิดว่าจะตั้งครรภ์แล้ว ฮูหยินใหญ่เป็นกวนอิมประทานบุตรจริงๆ”
เรื่องนี้หวงกุ้ยเฟยเป็นคนพูด ไม่ถึงสามวันก็แพร่สะพัดรู้ไปทั่วเมืองหลวง พริบตาเดียวชื่อเสียงย่าหยวนก็ดังกระฉ่อน หญิงวัยมีบุตรที่มีลูกยากพากันมาหานาง ถึงนางจะยุ่งกับการสอน แต่ก็หาเวลามาตรวจครึ่งวัน ต้อนรับผู้ที่มาเพราะชื่อเสียง
ย่าหยวนชอบความยุ่ง รักษาผู้ป่วยเป็นงานที่นางไม่เคยแหนงหน่ายทั้งชีวิต ชาติที่แล้วเพราะความสูงวัย ลูกชายเอาแต่อยากให้นางปลดเกษียณพักผ่อน แต่นางกลับรู้สึกว่าความมุ่งหวังยังไม่เป็นจริง ดีที่ตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่กว่าเดิมมาก
บางครั้งหยวนชิงหลิงก็พาลูกไปเยี่ยมนาง แต่ก็ไม่ได้พูดมาก ในใจย่าหยวนคนไข้มาเป็นอันดับหนึ่ง
หยวนชิงหลิงยังเจอหรงเยว่อยู่ในโรงเรียนแพทย์ หรงเยว่ทำหน้าบูดบึ้ง ท่าทางหมดอาลัยตายอยาก นางทำตามวิธีของจิ้งเหอจวิ้นจู่ ตอนนี้ก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว ประจำเดือนไม่มี แต่พอหาหมอจับชีพจรก็ไม่ได้ตั้งครรภ์ ดังนั้นนางจึงอยากมาให้ย่าหยวนตรวจสักหน่อย กินยากสักสองสามเทียบ
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะปลอบนางอย่างไร คำพูดพวกนั้นหรงเยว่ก็ฟังจนเบื่อแล้ว ดังนั้นจึงจูงมือนางออกไป “อย่ากินยาอีกเลย เจ้าทำตามวิธีของจิ้งเหอ ทำอีกสักสองสามครั้งเถอะ”
“ใช้ได้จริงหรือ?” ครั้งนี้หรงเยว่หมดหวังแล้ว หลักๆ คือลองมาหมดทุกวิธีแล้ว นางฝืนยิ้ม “ขนาดหวงกุ้ยเฟยยังทรงพระครรภ์ได้เลย พระนางสี่สิบกว่าแล้ว ทำไมแม้แต่พระนางข้าก็ยังสู้ไม่ได้?”
ว่าแล้วนางก็โบกมือ “ช่างเถอะ ไม่พูดแล้ว พูดจนข้าท้อแท้สิ้นหวัง ข้ากลับล่ะ”
ว่าแล้วนางก็ปล่อยมือหยวนชิงหลิง สาวเท้าจากไป
หยวนชิงหลังมองแผ่นหลังของนาง รู้สึกหมองใจจริงๆ จากชีพจรร่างกายของหรงเยว่กับน้องหกก็ไม่มีปัญหาอะไร คุณย่าก็เคยจับชีพจรพวกเขาแล้ว แต่ก็นะ หากดูจากชีพจรไม่มีปัญหา แต่ทางน้องหก…ใครจะรู้ว่าเจ้าลูกอ๊อดจะแข็งแรงพอหรือเปล่า? ถ้าเป็นปัญหานี้ วิธีของจิ้งเหอจวิ้นจู่ในบางระดับก็ถือว่าใช้ได้
เมื่อนางกลับจวนอ๋องก็ไขปริศนาของทะเลสาบจิ้งต่อ ตอนนี้จะมีธุระหรือไม่หงเย่ก็ชอบมาวนเวียนอยู่ในจวนอ๋อง โดยมากเพื่อมาดูความคืบหน้า หยวนชิงหลิงอธิบายกับเขา ถึงจะดูง่ายแต่เมื่อคำนวณกลับซับซ้อนมาก ปีสองปีก็อาจคำนวณไม่เสร็จ เมื่อนั้นท่าทางหงเย่ก็แสดงความผิดหวังออกมา
เพียงแต่เขายังมาทุกวัน ทุกครั้งที่มาก็มอบน้ำซุปให้หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิง บอกว่าเป็นฝีมือทำครัวที่เพิ่งเรียนใหม่ของอะโฉ่ว อร่อยมาก
หยู่เหวินเห้าไม่กล้าดื่ม เททิ้งทุกครั้ง เพราะซุปเหล่านี้นอกจากน้ำซุปแล้วก็ไม่มีอย่างอื่น ไม่รู้ว่าตุ๋นด้วยอะไร
หลังจากมาได้หลายวัน หงเย่ก็ถามพวกเขาว่าดื่มซุปแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง สวีอีพูดตรงปากไว “ไม่ได้ดื่ม เททิ้งหมด”
“เททิ้งหมด?” หงเย่โมโหหนัก “น้ำใจของอะโฉ่ว เหตุใดพวกท่านถึงทิ้งเสียล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”
หยู่เหวินเห้ากรอกตาขาวใส่สวีอี จากนั้นก็พูดกับหงเย่ว่า “ไม่รู้ว่าตุ๋นจากอะไร ใครจะกล้าดื่ม? แถมอะโฉ่ว…ก็เห็นเจ้าหยวนเป็นศัตรู ใครไปรู้ว่านางจะแอบเล่นตุกติกอะไรหรือเปล่า?”
“ทรงคาดเดาคนอื่นอย่างนี้ได้ยังไงพ่ะย่ะค่ะ? ถ้าเกรงว่าจะมีพิษ หม่อมฉันจะดื่มให้ดู ถึงอะโฉ่วจะอัปลักษณ์ แต่ก็จิตใจงาม” หงเย่กล่าวด้วยความโมโห
“ได้ นางจิตใจงาม แต่ทำไมต้องมอบซุปให้พวกเราด้วย? นางอยากเรียนทำอาหาร ท่านก็ดื่มเองสิ” เดิมหยู่เหวินเห้าก็รู้สึกแปลก ตอนนี้พอพูดเปิดอกแล้วเขาจึงถามข้อสงสัยไปตรงๆ
หงเย่เป็นใบ้พูดไม่ออก ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ย “มีประโยชน์กับพวกท่านแล้วกัน เสวยไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้ามองเขา เห็นบางสิ่งจากแววตาที่หลบลี้ “ท่านพูดมาให้ชัด นี่มันซุปอะไร? ทำไมถึงมีประโยชน์กับพวกเรา?”
หงเย่อึกๆ อักๆ พูดสาเหตุไม่ออก ดังนั้นจึงคิดจะไปเสีย
หยู่เหวินเห้าเห็นท่าทางมีชนักติดหลัง ไหนเลยจะให้เขาหนีได้? ดังนั้นจึงตามไปทันที ตามตัวเขากลับมา ขวางอยู่ในจวนอ๋องคั้นถาม เมื่อนั้นหงเย่ถึงพูดความจริง
ที่แท้ตอนที่ไปเจียงเป่ย อะโฉ่วแอบใช้เวทหมอผีกับพวกเขา เวทหมอผีชนิดนี้ก็เหมือนกับที่กู้จือใช้กับอ๋องเว่ย ทำให้คนขี้ระแวงสงสัย ใช้สำหรับแยกพวกเขาสามีภรรยา
แต่ไม่ได้ร้ายกาจอย่างที่กู้จือใช้
เมื่อหยู่เหวินเห้าได้ฟังแล้วก็โมโหซัดเข้าตาหงเย่ไปหมัดหนึ่ง หงเย่กุมดวงตาถอยไปสองสามเก้า “เกี่ยวอะไรกับกระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมได้ให้นางทำสักหน่อย กระหม่อมไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางทำ อีกอย่าง ตอนนี้ความรักของพวกท่านก็ไม่ได้มั่นคงดั่งทองหรือ? ไม่ได้รับผลกระทบสักนิด”
หยู่เหวินเห้ากัดฟันกรอด “ไม่มีผลอะไร? มิน่าล่ะ ขากลับข้ากับเจ้าหยวนถึงทะเลาะกันแบบไม่มีเหตุไม่มีผล เกือบแบ่งลูกกันแล้ว ที่แท้ก็เป็นฝีมือพวกเจ้า จุดประสงค์ที่นางทำคืออะไร? จะแยกข้ากับเจ้าหยวน แล้วเจ้าจะได้ฉวยโอกาสเข้าแทรกใช่ไหม?”
หงเย่ถอยหลังพลางเอ่ย “นางเห็นกระหม่อมสนใจพระชายารัชทายาทมาก ก็เลยคิดว่ากระหม่อมมีใจเสน่หา แต่นางก็รู้แล้วว่าเข้าใจผิด นางถึงได้ทำยาถอน ให้พวกท่านดื่มทีละนิด”
“เจ้ามันชายโฉด ไสหัวไปซะ! ต่อไปไม่ต้องมาอีก!” หยู่เหวินเห้าโมโหหนัก “ข้าว่าแล้วเชียว เดี๋ยวเจ้าก็จะปลอมตัวเป็นข้า เดี๋ยวก็บอกว่าให้ข้าเอาลูกเมียประเคนให้เจ้าในสองปีอีก ที่แท้ก็ใช้เวทหมอผีเช่นนี้ ทำดีนัก เสียทีที่ข้าเชื่อเจ้าขนาดนี้ เจ้ากลับคิดจะชิงเจ้าหยวน?