บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1206 ท่านชายสี่เหลิ่งเป็นพ่อค้า
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1206 ท่านชายสี่เหลิ่งเป็นพ่อค้า
หยู่เหวินเห้าได้ยินคำพูดนี้แล้ว มองใบหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยวหนักแน่น ทันใดนั้นก็ทำให้คิดถึงเรื่องเก่าๆขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ข้าพูดจริงจัง ท่านหัวเราะอะไร”หยวนชิงหลิงถลึงตามองเขา
หยู่เหวินเห้าหยุดลง ยื่นมือไปประคองหน้าของนางเอาไว้ รอยยิ้มในแววตายังไม่ลดลงไป “เจ้ายังจำได้หรือไม่ ตอนนั้นที่เสด็จปู่ไม่สบาย พวกเราได้รับบัญชาให้เข้าวังไปเฝ้าไข้ ตอนนั้นข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเลวร้ายมาก ในขณะที่เจ้าบาดเจ็บหนักได้เอาปิ่นปักผมออกมาป้องกันตัวเอง ไม่มีท่าทีกลัวข้าเลยสักนิด แต่พอข้าเข้าใกล้ เจ้าก็รีบดีดตัวลุกขึ้นมาใช้ปิ่นปักผมชี้มาที่ข้า”
เขาหัวเราะ แต่แววตากลับเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเสียใจและสงสาร “ข้าในตอนนั้น เป็นคนเลวจริงๆ”
หยวนชิงหลิงยิ้มขม “ทำไมจะจำไม่ได้ ช่วงเวลานั้นชีวิตข้าทุกข์ยากลำบากราวกับตกนรกทั้งเป็น คิดอยู่เสมอว่าไร้ทางรอดแล้ว อยู่อย่างหวาดกลัว เหมือนเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ยังดี ที่มีไท่ซ่างหวงเป็นที่พึ่งของข้า จึงค่อยเหมือนผู้เหมือนคนขึ้นมาบ้าง”
“ขอโทษ”หยู่เหวินเห้าถอนหายใจหนักๆหนึ่งเฮือก “นี่เป็นเรื่องที่ข้าทำผิดที่สุดในชีวิตนี้”
ที่หยวนชิงหลิงรู้สึกหดหู่ที่สุดก็คือ คนที่ทำผิดในตอนแรกเป็นหยวนชิงหลิงอีกคน แต่เป็นนางที่ต้องมารับกรรม
“ช่างเถอะ เห็นแก่ท่านที่หลายปีมานี้ท่านก็ดีกับข้าไม่เลวเลย อภัยให้ท่าน”หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างใจกว้าง
“ไม่เลว”หยู่เหวินเห้าไม่เห็นด้วย “นี่เรียกว่าไม่เลวหรือ นี่เรียกว่าดีมากดีมากๆแล้ว หลายปีมานี้นอกจากเจ้าแล้ว ข้าก็ไม่เคยชายตามองหญิงอื่นเลย ”
“นั่นเป็นเรื่องที่ท่านควรทำ ไม่นับว่าดีกับข้า”นางยิ้มจนตาหยี เจ้าห้ามีความน่ารักอยู่บ้าง เขาแยกแยะบุญคุณความแค้นได้ชัดเจน รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ตอนแรกที่รู้ว่าฉู่หมิงชุ่ยเป็นหญิงที่เปี่ยมไปด้วยแผนการ ก็สามารถตัดขาดความสัมพันธ์ฉันคู่รักแต่เก่าก่อนได้ทันที ไม่มีการเกี่ยวพันที่เหนือไปกว่านั้นอย่างเด็ดขาด
และตอนที่รู้จักกับเขา เขาไม่ค่อยจะเชี่ยวชาญเรื่องแผนการนัก แต่หลายปีมานี้ได้เดินผ่านคลื่นลมแห่งปัญหาต่างๆและได้ก้าวข้ามแผนการร้ายที่เป็นอุปสรรคจนมาสู่ความสำเร็จ ไม่ง่ายเลยจริงๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก เรื่องราวเหล่านั้นราวกับเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่พวกเขาได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่สามแล้ว
“เมียจ๋า เดินช้าหน่อย มองทางด้วย”หยู่เหวินเห้าจูงมือของนาง พูดยิ้มๆด้วยท่าทีเกินจริง
หยวนชิงหลิงมองใบหน้าที่หล่อเหลามีชีวิตชีวา ชีวิตที่มีแต่เสียงหัวเราะเช่นนี้ หลายปีนี้น้อยลงไปมาก ก่อนหน้านี้พวกเขามีชีวิตที่หนักอึ้งอยู่บ้าง
มีคำพูดหนึ่ง พุ่งขึ้นมาในทันใด นางจ้องมองเขานิ่ง พูดว่า “เจ้าห้า ข้ารักท่าน”
หยู่เหวินเห้านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ค่อยๆหันหน้ามามองดวงตาที่ดำขลับของนาง หัวใจรู้สึกอบอุ่น ยื่นมือไปโอบกอดนางเอาไว้ รอยยิ้มหยอกล้อบนใบหน้าค่อยๆถูกเก็บกลับไป กลายเป็นเคร่งเครียดจริงจัง พูดเสียงเบาว่า “เมียจ๋า ข้าก็รักเจ้า”
ทั้งสองคนโอบกอดกันอยู่ในลานบ้าน ต่างก็ฟังเสียงหัวใจและเสียงลมหายใจของกันและกัน พระอาทิตย์ค่อยๆคล้อยต่ำลง ราวกับกำลังเคลือบแสงสีทองอร่ามให้กับคนสองคนและลานบ้านแห่งนี้
วันรุ่งขึ้นหยู่เหวินเห้าไปหาท่านชายสี่เหลิ่ง ทางเขาจะเอาเงินจำนวนห้าแสนตำลึงออกมาก่อนเป็นการชั่วคราว ที่เหลือให้น้องสาวยืมให้เขา ท่านชายสี่เหลิ่งยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไม่ ข้าคิดดูแล้ว ท่านไม่ต้องออกเงินแม้แต่อีแปะเดียว ข้าจะออกเองทั้งหมด”
หยู่เหวินเห้ารู้สึกงงงัน ใต้หล้านี้มีเรื่องที่ดีขนาดนี้เชียวหรือ เขาคงไม่ได้ถูกเอาเปรียบจนโง่ไปแล้วกระมัง
ท่านชายสี่เหลิ่งพูดว่า “แน่นอน ข้าก็ไม่ได้ออกเงินไปอย่างเสียเปล่า อาวุธเหล่านี้ทั้งหมดที่จะทำการสร้างออกมา ตอนที่ทำการผลิตจำนวนมาก ราชสำนักต้องการใช้ ก็ต้องซื้อกับข้า แม้ว่าภายหน้าที่พวกเราศึกษาพัฒนาออกมาจะใช้หมดแล้ว ราชสำนักยังต้องการให้หล่อขึ้นอีก ก็ต้องมีข้าเป็นผู้รับทำ ”
หยู่เหวินเห้าสูดลมหายใจเข้าหนึ่งเฮือก “เจ้าเจ้าเล่ห์จริงๆ ”
ท่านชายสี่เหลิ่งยิ้มบางๆ “ทำการค้า จะให้ขาดทุนตลอดได้อย่างไร ท่านดูสิหลายปีมานี้ข้าเองก็ทุ่มเงินไปกับราชวงศ์ไม่น้อยแล้ว ถึงเวลาเอากำไรขึ้นมาบ้างเล็กน้อยแล้ว ถ้าว่ากันอย่างจริงจัง นี่ยังไม่ถือว่าเป็นกำไร เพราะว่าอาวุธนี้จะสามารถศึกษาพัฒนาออกมาได้หรือไม่ ศึกษาพัฒนาแล้วจะสามารถใช้การได้ไหม ล้วนไม่รู้ บางทีสุดท้ายอาจเป็นแค่เศษเหล็กและดินปืนที่ไร้ประโยชน์ก็เป็นได้ เงินที่ลงทุนไปก็เสียเปล่า ความเสี่ยงนี้ข้าจะแบกรับไว้เอง สมเหตุสมผลกระมัง”
“เสด็จพ่อไม่มีทางเห็นด้วย”หยู่เหวินเห้าพูดพลางขมวดคิ้ว
“ไม่เป็นไร ภายหน้าเจ้าจะเป็นฮ่องเต้ เจ้าทำสัญญากับข้าก็พอ”ท่านชายสี่เหลิ่งแบะปาก ก็มีคนเอาสัญญาเข้ามา ส่งไปตรงหน้าหยู่เหวินเห้า
หยู่เหวินเห้าเห็นว่าได้จัดเตรียมสัญญาได้พร้อมแล้ว เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่ไม่ได้เพิ่งจะคิดขึ้นมาได้ ถึงว่าเมื่อคืนทำไมจึงยังนิ่งสงบอยู่ได้ บอกว่าออกันคนละครึ่ง ที่จริงแน่ใจแล้วว่าเขาเอาเงินจำนวนนั้นออกมาไม่ได้
เป็นอย่างที่คาดไว้ ท่านชายสี่เหลิ่งเอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า “ไม่ว่าอย่างไรท่านก็รวบรวมเงินได้ไม่พอ ยังต้องขอหยิบยืมจากองค์หญิง เงินขององค์หญิงก็คือเงินของข้า ไม่ว่าอย่างไรก็เท่ากับข้าเป็นคนออกเงิน ทำไมไม่เลือกวิธีพบกันครึ่งทาง ท่านกับราชสำนักต่างก็ไม่ต้องออกเงิน ข้ามารับผิดชอบต่อความสำเร็จและล้มเหลวเอง ยินดีปรีดากันทุกคน”
“ข้ามีเงินห้าแสนตำลึง”หยวนชิงหลิงใช้ถลึงตามองเขา “ข้ายังสามารถเอาออกมาอีกห้าแสนตำลึง”
หยู่เหวินเห้าพูดประโยคนี้ออกไป ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองตกหลุมพรางแล้ว แผนการนี้ของเขา จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็ดีทั้งนั้น ไม่เห็นด้วย เช่นนั้นเขาก็ต้องเอาเงินออกมา เห็นด้วย ก็จะเสียสิทธิ์ในอาวุธทั้งหมดไป
เฮ้อ สังคมนี้ อยากจะกินเปล่าๆทำไมจึงได้ยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้
ท่านชายสี่เหลิ่งพูดว่า “ทำไมต้องทำเช่นนั้นด้วย ควักเงินหนึ่งล้านตำลึงออกมาจนหมด จวนอ๋องฉู่ก็คงต้องจนแทบไม่เหลืออะไร ท่านจนคนเดียวก็แล้วไป ยังต้องทำให้เมียกับลูกต้องลำบากไปด้วย ท่านต้องรู้ว่า เงินที่เอาออกมาแล้ว เป็นไปได้ว่าไม่มีทางได้คืนแล้ว ไปแล้วไร้ทางกลับมาได้”
หยู่เหวินเห้ากัดฟัน “ข้าจะกลับไปปรึกษากับยายหยวนก่อน ”
“ได้ ”ท่านชายสี่เหลิ่งพูดยิ้มๆ
หยู่เหวินเห้าหมุนตัวจากไป หนึ่งล้านตำลึง มากเกินไปจริงๆ บางที่ยายหยวนอาจไม่เห็นด้วย
กลับไปพูดกับหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงกลับไม่ต่อต้าน กลับเป็นฝ่ายปลอบใจเขา “ไม่เป็นไร หนึ่งล้านตำลึงเท่านั้น ประเดี๋ยวให้ท่านชายสี่เหลิ่งเช่าหมาป่าหิมะ ไม่ช้าก็คืนทุนแล้ว”
“ทำเช่นนี้จะหน้าด้านไปหน่อยกระมัง”หยู่เหวินเห้าเบิกตากว้าง
“พวกเราสองฝ่าย ต่างคนต่างก็ยินดี จะทำอย่างไรได้ เขาอยากจะได้ยังหาไม่เจอเลย ถ้าหากให้หมาป่าหิมะไปอยู่กับเขาสองปี ท่านเชื่อหรือไม่ว่าเขาจะยอมให้สองล้านตำลึงด้วยความสมัครใจ”หยวนชิงหลิงจะไม่รู้จักนิสัยของอาจารย์ได้อย่างไร เขานั้นหลงใหลหมาป่าหิมะยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่รู้จริงๆว่าทำไมจึงได้ดื้อรั้นขนาดนี้
“เป็นไปได้จริงๆ ก่อนหน้านี้ที่จริงพวกเราก็ยืมให้เขาหลายครั้งแล้ว ไม่เก็บค่าเช่าเลย”หยู่เหวินเห้าพูด
หยวนชิงหลิงพูดยิ้มๆว่า “อืม วางใจและเอาเงินไปเถอะ หนึ่งล้านตำลึงไม่มาก แค่เงินเล็กๆน้อยๆที่พวกเราหาได้จากโรงเงินติ่งเฟิงเหล่านั้น ก็มีมากพอแล้ว ข้าแค่เก็บส่วนหนึ่งเอาไว้ให้พวกลูกๆ ตอนนี้มีเรื่องสำคัญต้องใช้ ย่อมต้องเอาออกมาก่อน ”
“ดี ขอบคุณเจ้ามาก ยายหยวน ”หยู่เหวินเห้ากอดนางทีหนึ่ง ในใจรู้สึกทอดถอนใจ หลายปีมานี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไร โดยทั่วไปแล้วจะได้รับการสนับสนุนจากนางทุกครั้ง
หนึ่งล้านตำลึง จึงถูกส่งออกไปเช่นนี้เอง โดยมีท่านชายสี่เหลิ่งมีอำนาจเต็มที่ในการรับผิดชอบ เลือกสถานที่ เลือกคน มีเขาจัดการทั้งหมด
เรื่องนี้ทังหยางรับรู้ เขาเคยแอบถามหยวนชิงหลิง “จะให้เช่าหมาป่าหิมะเพื่อเอาทุนคืนจริงหรือ”
หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า “ไม่เช่า ถ้าหากท่านชายสี่เหลิ่งต้องการจะพาหมาป่าหิมะไปเล่น ก็ให้เขาพาไป ที่จริงหลายปีมานี้จวนอ๋องฉู่เอาเปรียบท่านชายสี่เหลิ่งอยู่ไม่น้อย ข้าพูดเช่นนี้ก็แค่ต้องการจะปลอบใจเจ้าห้าเท่านั้น เจ้าก็รู้ว่าเขาขี้เหนียว เอาเงินหนึ่งล้านตำลึงออกไป เขาปวดใจมาก”
ทังหยางรู้สึกว่าพระชายารัชทายาทเข้าใจนิสัยของรัชทายาทเป็นอย่างดีจริงๆ ในกระเป๋าของรัชทายาทเองมีเงินไม่ถึงสิบตำลึง เอาเงินหนึ่งล้านตำลึงออกไปอย่างกะทันหัน เมื่อวานตอนที่ไปส่งตั๋วเงินพร้อมกับเขา สองมือของเขากำลังสั่นเทา