บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1213 ตัวเองทำแทนคนอื่นลำบากเสียเปล่า
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1213 ตัวเองทำแทนคนอื่นลำบากเสียเปล่า
หรงเยว่พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “คนแบบนี้ ที่ไหนไม่มีอยู่บ้าง? เพียงแต่ไม่มีใครเหิมเกริมเท่าไหร่แค่นั้น”
“ปกติเจ้าเกลียดชังอย่างกับศัตรู ทำไมตอนนี้กลับพูดเข้าข้างนาง?” หยวนชิงหลิงมองดูนาง
หรงเยว่ยื่นมือลูบท้อง พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ากำลังจะเป็นแม่คน ข้าต้องเข้าใจเรื่องทุกอย่างที่ไม่สามารถเข้าใจได้ ปล่อยวางความแค้นทุกอย่างที่ไม่สามารถปล่อยวางได้ ทำความดีเพื่อลูกของข้า”
หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่หรือ?”
ภายใต้การจ้องมองของนาง หรงเยว่พูดขึ้นอย่างจนใจว่า “เรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนข้าก็เคยเจอ”
“อืม?”
หรงเยว่ค่อยๆก้มหน้าลง พร้อมพูดขึ้นว่า “เพียงแต่ ข้าเป็นคนจุดไฟทำลายร้านพวกนั้น”
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี จากนั้นก็มองดูนางพร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฆ่าคน?”
หรงเยว่โบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ ข้าไม่ได้ฆ่าคนไปเรื่อย ข้าฆ่าคนเพื่อเงิน ไม่ได้หนึ่งแสนแปดหมื่นตำลึงข้าไม่ลงมือ และคนที่ข้าฆ่าล้วนเป็นคนชั่วร้าย โธ่ เจ้าไม่ต้องพูดว่าแต่ฆ่าคนฆ่าคนแล้ว เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ตอนนี้ข้าฟังพวกนี้ไม่ได้ ข้าฟังพวกนี้แล้วก็จะเวียนหัว ตอนนี้จิตใจของข้าอ่อนโยนอย่างมาก ข้าตั้งใจจะทำความดี”
หยวนชิงหลิงมองดูสายตาอ่อนโยน ไม่สอดคล้องกันเลย ค่อยๆหยิบลูกบ๊วยเปรี้ยวแห้งใส่ปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “คนพวกนี้เจ้ายังไม่ต้องไปทำให้ตื่นตกใจ ต่อไปสามารถใช้ประโยชน์ได้”
หรงเยว่พยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม ได้ ต้องไปบอกทางด้านกรมการพระนครก่อนไหม?”
“ไม่ต้อง จำไว้ก็พอ”
“ก็ถูก” จู่ๆหรงเยว่ก็พูดขึ้นมา อย่างเพิ่งคิดขึ้นมาได้ว่า “เจ้าว่า ฮุ่ยผิงทำบาปไว้มาก เลยถูกกรรมตามสนอง ถูกผีชั่วร้ายแขวนคอนางขึ้นมายามตอนกลางคืน แขวนคอนางจนตายไหม?”
หยวนชิงหลิงมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อกี้เจ้าพูดจะคิดแต่เรื่องดีๆไม่ใช่หรือ?”
หรงเยว่หัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “แค่พูดไปเรื่อย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “วิธีนี้ดี เก็บไว้ใช้ หากล้มนางไม่ได้จริง? งั้นก็ให้ผีลงมือ”
หรงเยว่มองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “วิธีการนอกรีดแบบนี้ เจ้าไม่คิดว่าสกปรกหรือ?”
“ต้องดูว่าทำกับคนอะไร” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
หรงเยว่มองดูแววตาของนาง พบว่าเหมือนมีไฟลุกไหม้ จึงพูดขึ้นว่า “นี่เจ้า….เจ้าโกรธ?”
นางมองดูในศาลา ไม่ได้จุดเทียนไม่ได้จุดโคมไฟไว้ ไฟนี้มาจากไหน? เวลาโกรธก็ไม่มีทางมีไฟลุกขึ้นมา
“ข้าไม่โกรธ….” หยวนชิงหลิงครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “จะบอกว่าไม่โกรธ ในใจก็รู้สึกเหมือนมีไฟลุกไหม้อยู่”
“กินสิ่งของอะไรที่ทำให้ร้อนในหรือเปล่า?” หรงเยว่ถามขึ้น
“ทำไมข้าดูเหมือนกำลังโกรธหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
หรงเยว่มองดูดวงตาของนางพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ เหมือนในดวงตาของเจ้ามีเปลวไฟ รู้สึกเหมือนเจ้ากำลังโกรธ”
หยวนชิงหลิงคิดถึงที่ตนอารมณ์เสียกับเจ้าห้าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนนี้หรงเยว่ก็พูดเช่นนี้ เปลวไฟนี้เป็นแสงสว่างในหัวสมองหรือเปล่า? ช่วงนี้นางค่อนข้างที่จะควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้จริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถึงแม้นางจะโกรธกับการกระทำของฮุ่ยผิง แต่วันนั้นก็ไม่ถึงขั้นที่จะพูดจาโหดเหี้ยมขนาดนี้ จะทำการตอบโต้อย่างเงียบๆเท่านั้น
แต่วันนั้น นางโกรธมากจริงๆ เหมือนจะระเบิด ตอนนี้คิดถึงใบหน้าใบนั้นของฮุ่ยผิง ยังคงอยากที่จะเอามีดกรีดบนใบหน้าของนาง
มองดูมือทั้งคู่ของหรงเยว่ลูบอยู่บนท้องน้อย นางคิดว่าอาจจะเป็นเพราะตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง ยังไงคนท้องอารมณ์ก็จะล้วนค่อนข้างฉุนเฉียว
พูดอยู่เช่นนี้ นางเอามือลูบท้องน้อยอย่างไม่รู้ตัว มุมปากเผยอมยิ้มเล็กน้อย
หรงเยว่หรี่ตาลงมองดูนาง ในฐานะที่เป็นคนตั้งท้องคนหนึ่ง ความรู้สึกของนางค่อนข้างไว จึงถามขึ้นว่า “เจ้าลูบท้องน้อยทำไม? เจ้าท้องอีกแล้วหรือ?”
หยวนชิงหลิงได้สติกลับมา ถลึงตาใส่นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เอะอะโวยวายอะไร? ไม่มี”
หรงเยว่มองดูบ๊วยเปรี้ยวแห้งข้างโต๊ะของนาง ยังมีการกระทำของนางพวกนี้ จะสามารถปิดบังนางที่เป็นคนท้องเหมือนกันได้หรือ? เมื่อก่อนนางไม่กินของเค็มของเปรี้ยวพวกนี้
“เจ้าตั้งครรภ์แล้ว” หรงเยว่พูดขึ้นอย่างมั่นใจ
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดวงตาหรงเยว่คู่นี้ ร้ายกาจอย่างมากจริงๆ
“ห้ามส่งเสียงดัง ยังให้ใครรู้ไม่ได้” หยวนชิงหลิงพูดเตือนขึ้นด้วยเสียงต่ำ
หรงเยว่เอามือปิดปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “โอ้พระเจ้า เจ้าตั้งครรภ์อีกแล้วจริงหรือ? ทำไมเจ้าตั้งครรภ์ได้ง่ายขนาดนี้? ตอนกลางคืนพวกเจ้าใช้ท่าอะไรกันหรือ?”
“ปากของเจ้านี้ ยับยั้งหน่อยได้ไหม?” หยวนชิงหลิงกลอกตามองบน
หรงเยว่ยิ้มพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “ข้าดีใจไง เมื่อดีใจแล้วก็ไม่สามารถควบคุมปากได้ เจ้าท้องแล้วจริงหรือ? นานแค่ไหนแล้ว? เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย? ตอนนี้อารมณ์ของเจ้าฉุนเฉียวขนาดนี้ คงไม่ได้ตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเปลวไฟมั้ง?”
“ใช่ เป็นกลุ่มเปลวไฟ เป็นเปลวไฟเต็มท้อง”
พูดอยู่เช่นนี้ นางเองก็หัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นเจ้าตั้งครรภ์เป็นลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย? ตอนนี้ก็สามารถรู้ได้แล้ว หนังท้องของเจ้าโปร่งใสหรือ?”
หรงเยว่พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจว่า “ครรภ์ของข้าเป็นลูกผู้ชาย ตอนนี้ข้าหวังอยากให้เป็นผู้ชาย แต่เจ้าหกอยากได้ผู้หญิง”
“อ๋า?”
“ข้าอยากให้เป็นผู้ชายเหมือนเขา เขาอยากผู้หญิงเหมือนข้า” หรงเยว่พูดถึงลูกในท้องกับเจ้าหก ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุขอย่างปิดยังไงก็ไม่มิด
“นั่นไม่ง่ายหรือ หากครั้งนี้คลอดเป็นลูกชาย ครั้งหน้าก็คลอดลูกสาว”
“ขอให้เป็นไปตามที่เจ้าพูด” หรงเยว่มองดูนางพร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “เจ้าเป็นคนมีบุญคนหนึ่ง เจ้าพูดเป็นสิริมงคลหลายประโยคหน่อย เป็นความจริงประโยคเดียวข้าก็ดีใจแล้ว”
หยวนชิงหลิง มองดูท้องของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ ลูกสุขภาพแข็งแรงก็พอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวก็ล้วนเป็นของตนเองไม่ใช่หรือ?”
หรงเยว่หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “แน่นอน ที่จริงไม่ว่าลูกชายหรือลูกสาวข้าก็ล้วนดีใจ กลุ่มไฟในท้องของเจ้านั่นล่ะ? องค์ชายรัชทายาทหวังอยากให้เป็นผู้หญิงมั่ง? เขาอยากได้ลูกสาวจนจะเป็นบ้าแล้ว ได้หงส์แห่งไฟมาหนึ่งคน พวกเจ้าก็มีลูกชายลูกสาวครบสมบูรณ์แล้ว”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความคิดโบราณแล้ว ไม่มีอารมณ์ที่จะพูด รับไม่ไหวกับความตื่นเต้นดีใจขนาดนี้ของหรงเยว่ จึงพูดคุยกับนางอีกไม่นาน
ก่อนกลับ พูดย้ำหรงเยว่ว่าห้ามพูดเรื่องที่นางตั้งท้องออกไป ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะเปิดเผย หรงเยว่ก็เดารู้ว่ามีคำร่ำลือ จึงพูดขึ้นว่า “เอาละ ข้ารู้ ข้าจะบอกเพียงเจ้าหก ข้ากับนางไม่มีความลับต่อกัน”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมไล่นางกลับไป
ไล่หรงเยว่กลับไปแล้ว หยวนชิงหลิงก็รีบไปยังโรงเรียนแพทย์ ตอนนี้นางนั่งไม่ติด อยากที่จะสร้างโรงพยาบาลกับโรงหมอให้เสร็จโดยเร็ว ต้องยอมรับว่า นางค่อนข้างที่จะมีชื่อเสียง หลังจากข่าวที่นางจะสร้างโรงพยาบาลกับโรงหมอถูกพูดออกไป ประชาชนมากมายต่างก็มาดู ยังมีจิตอาสาช่วยขนน้ำยาเข้าไป
และก็เหมือนอย่างที่ท่านชายสี่พูด องค์หญิงฮุ่ยผิงรู้ความเคลื่อนไหวของนางพวกนี้ แทบไม่เห็นอยู่ในสายตา ยังพูดกับหมอของโรงหมอว่า “ให้นางลงทุนไป ลงทุนเสร็จแล้ว ก็จะเป็นการทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานให้ข้า โดยที่ตนเองไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย”
ตอนนี้องค์หญิงพระองค์ใหญ่เจิ่นกั๋ว ช่วยหมอเหล่านั้นสร้างชื่อเสียง นางยังส่งคนไปติดต่อ มีคนที่มีฝีมือหลายคนจริงๆ หากพามาเปิดโรงหมอ งั้นโรงหมอมนเมืองหลวง ล้วนเป็นของนางแล้ว
แผนที่อันกว้างใหญ่นี้ นางคิดดูแล้วก็ดีใจ หยวนชิงหลิงโง่จริงๆ ยังอยากคิดมาต่อสู้กับ? เรื่องนี้ นางสั่งคนคอยจับตาดู ขอเพียงหยู่เหวินเห้าเข้ามายุ่ง นางก็จะรีบเข้าวังไปกราบทูลเสด็จพี่ หยวนชิงหลิงเปิดโรงหมอ ถือเป็นการกระทำผิดแล้ว หากองค์ชายรัชทายาทช่วยเหลือ ต่อให้ย้ายกิจการทั้งหมดไปในที่ว่าราชการ เสด็จพี่ไม่นิ่งดูดายแน่