บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1234 เป็นฮุ่ยผิง
สั่งอาหารมาหลายอย่าง เจ้าแฝดกินเอร็ดอร่อยมาก อาหารที่พ่อครัวที่นี่ทำค่อนไปทางหวาน เจ้าแฝดชอบมาก กินข้าวไปถ้วยใหญ่ แล้วยังปรนเปรอเนื้อไปอีกแยะ
หยวนชิงหลิงก็กินไปไม่น้อยเหมือนกัน นางกินเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ท้องนี้ค่อนข้างสบายจริงๆ แทบไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ถึงเวลากินก็กิน ถึงเวลานอนก็นอน แค่อยากกินของเปรี้ยวเป็นบางครั้งเท่านั้น
อะซี่เรียกบ๋อยมาเก็บเงิน แต่พอบ๋อยเข้ามากลับยิ้มแล้วบอกว่าอาหารมื้อนี้มีคนจ่ายให้แล้ว
หยวนชิงหลิงกับอะซี่ตะลึง จ่ายแล้ว?
หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “ใครเป็นคนจ่ายให้พวกเราหรือ?”
บ๋อยบอก “ฮูหยินท่านหนึ่งของจวนฟางกั๋วกงขอรับ ฮูหยินท่านนี้บอกว่าจำท่านได้ นางบอกว่าไม่กล้ามารบกวนท่าน ก็เลยช่วยจ่ายให้เท่านั้น”
ฮูหยินของจวนฟางกั๋วกง? เช่นนั้นน่าจะเป็นฮูหยินของบุตรชายท่านฟางกั๋วกง ก่อนหน้านี้ตอนที่รักษาอาการให้ฮูหยินใหญ่จำนางได้ เห็นนางกินอาหารที่นี่ก็เลยจ่ายให้ หยวนชิงหลิงกลัวจะติดหนี้บุญคุณผู้อื่น จึงเอ่ย “งั้นก็รบกวนพี่บ๋อยพาข้าไปพบฮูหยินท่านนี้หน่อย”
“ได้เลยขอรับ!” บ๋อยค้อมตัวเอ่ย
หยวนชิงหลิงหันไปพูดกับอะซี่ “เจ้าอยู่นี่ดูเจ้าแฝดไว้นะ ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็มา”
อะซี่พยักหน้า “ได้ งั้นท่านไปเถอะ!”
โค้กลุกขึ้นยืน เดินไปทางหยวนชิงหลิง “ท่านแม่ หม่อมฉันไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงจูงมือน้อยๆ ของเขา อมยิ้มเอ่ย “ได้”
โค้กหันกลับมาพูดกับเซเว่นอัพอย่างจริงจัง “เจ้าคุ้มกันน้าสี่ให้ดีล่ะ!”
“รับทราบ!” เซเว่นอัพกะพริบดวงตาดำปริบ
อะซี่หลุดหัวเราะ “แหม เซเว่นอัพจะคุ้มกันข้าหรือ? งั้นก็ดีจริง เซเว่นอัพ เดี๋ยวน้าสี่จะซื้อของอร่อยให้เจ้า”
เซเว่นอัพมองนาง “น้าสี่ ข้ากินข้าวแล้ว”
“ซื้อขนมสิ!”
“ข้าไม่ชอบ”
“หา ไม่ชอบ? เมื่อกี้เจ้ายังกินถังหูลู่อยู่เลยนะ?”
เซเว่นอัพเท้าคาง “ไว้หน้าท่านหรอก”
อะซี่หัวเราะชอบใจ
หยวนชิงหลิงจูงโค้กออกประตูไปแล้ว เดินตรงไปข้างหน้าตามระเบียงทางเดินด้วยการนำของบ๋อย เดินไปเจ็ดแปดก้าวก็เห็นสะพานเล็กๆ เชื่อมกับห้องส่วนตัวที่พวกนางอยู่ บ๋อยชี้ห้องที่อยู่ตรงข้ามเอ่ย “ทางนั้นขอรับ ฮูหยินท่านเดินไปเองเถอะ ข้าน้อยยังมีงานต้องทำอีก”
บ๋อยพูดจบก็จากไป
หยวนชิงหลิงจูงมือโค้กเดินไป เคาะประตูด้านนอก ประตูเปิดออกจากด้านใน จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้น “เชิญ!”
ประตูเปิดออกหมดแล้ว พอหยวนชิงหลิงได้ยินเสียงในใจก็หนักอึ้ง ไม่ใช่ฮูหยินฟาง แต่เป็นเจ้าหญิงฮุ่ยผิง
“ทำไม? พระชายารัชทายาทไม่กล้าเข้ามาหรือ? กลัวข้าจะกินท่านหรือไง?” เสียงของฮุ่ยผิงดังขึ้นอย่างเย็นชา
หยวนชิงหลิงคิดว่าในเมื่อเงินค่าอาหารนางเป็นคนจ่าย เช่นนั้นก็ยิ่งติดค้างนางไม่ได้ จูงโค้กเข้าไปคืนเงินค่าอาหารให้นาง
ภายในห้องส่วนตัวมีนางนั่งอยู่คนเดียว และมียายเฒ่าอีกคนยืนปรนนิบัติอยู่ข้างๆ บนโต๊ะมีอาหารสองสามอย่าง ยังไม่ได้แตะ
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว ดูท่าฮุ่ยผิงจะให้คนจับตาดูนางอยู่ตลอดพอนางกับอะซี่เข้าร้านอาหารร้านนี้แล้ว ฮุ่ยผิงก็มา
ฮุ่ยผิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่งชุดผ้าต่วนสีเขียวล้วน บนศีรษะประดับหยกมุกอันสูงค่าเย็นเฉียบ ใบหน้าเย็นชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและเลือดเย็น “พระชายารัชทายาท นั่งสิ!”
ยายเฒ่าปิดประตูแล้วอย่างรวดเร็ว เมื่อปิดประตูเสร็จก็เค้นรอยยิ้มเย็นยื่นมือจับโค้ก
หยวนชิงหลิงปัดมือนางออกอย่างเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยโทสะ “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
มือทั้งสองของยายเฒ่ายื่นมาอีกครั้งอย่างกับกรงเล็บไก่ ใบหน้ามีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์พิลึก “พระชายารัชทายาท เจ้าหญิงแค่ไม่อยากทำร้ายพระนัดดา ให้ข้าน้อยพาพระนัดดาไปเล่นที่อื่นเถอะเพคะ”
หยวนชิงหลิงเห็นนางลงมือเหน็บลม ดูออกว่าเป็นวรยุทธ์ นางออกแรงวาดมือไปอีกครั้ง ถึงวรยุทธ์นางจะไม่แกร่งมาก แต่ก็รับมือกับยายเฒ่าคนหนึ่งได้
การวาดมือครั้งนี้ แขนเสื้อก็กวาดใบหน้ายายเฒ่าไปทันที เท่ากับเป็นการตบหน้านาง
ยายเฒ่าตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าหยวนชิงหลิงจะเป็นวรยุทธ์ด้วย
หยวนชิงหลิงมองฮุ่ยผิง พูดเสียงเย็น “ฉะนั้น เจ้าหญิงท่านคิดจะลงมือกับหม่อมฉันที่นี่หรือเพคะ?”
ฮุ่ยผิงจ้องนาง “อาจจะ!”
นางยกมือให้ยายเฒ่าถอยไป แล้วพูดกับหยวนชิงหลิง “นั่งลงคุยเป็นเพื่อนข้าก่อน บุญคุณความแค้นระหว่างเรา ถ้าพูดได้ชัดเจนจะดีที่สุด หาไม่แล้ว วันนี้ท่านก็อย่าหวังจะออกไปได้”
“หม่อมฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าหญิงเพคะ” หยวนชิงหลิงล้วงตั๋วเงินออกมาจากแขนเสื้อ โยนไปบนโต๊ะ แล้วหมุนตัวออกไป
ทันใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังนั้น จากผ้าตาข่ายที่ติดอยู่บนประตู ก็เห็นคนอย่างน้อยหกเจ็ดคนข้างนอกยืนอยู่ที่ทางเข้า หยวนชิงหลิงหันไปมองฮุ่ยผิง “ดูท่าเจ้าหญิงจะเตรียมการมาแล้วนะเพคะ”
ฮุ่ยผิงเชิดตาแห่งความแค้นขึ้นมอง “ข้าหาโอกาสมาตลอด เสียดายที่เจ้าไม่ออกมา และข้าก็เข้าจวนอ๋องฉู่ไม่ได้ วันนี้เป็นโอกาสดี ถ้าวันนี้ฆ่าเจ้าไม่ได้ ต่อไปก็จะหาโอกาสฆ่าเจ้ายากกว่าเดิม”
ใจหยวนชิงหลิงหนักอึ้ง “ฆ่าหม่อมฉัน? เจ้าหญิงจะฆ่าหม่อมฉันที่นี่ แล้วเจ้าหญิงจะทรงหนีไปได้หรือเพคะ”
“ทำไมต้องหนี?” เจ้าหญิงฮุ่ยผิงยกถ้วยชาขึ้น ค่อยๆ ดื่ม ความเหี้ยมระหว่างคิ้วมากขึ้นเรื่อยๆ “คนข้างนอกพวกนั้น ข้าไม่รู้จักสักคน พระชายารัชทายาทรู้จักหรือ?”
นางมองหยวนชิงหลิง พูดขึ้นเหมือนมีความคิด “เจ้าว่าคนข้างนอกพวกนั้นจะเป็นอริกับองค์รัชทายาทหรือเปล่านะ? เป็นไปได้หรือเปล่าที่พวกเขาจะเป็นคนที่เมื่อก่อนหยู่เหวินจุนเลี้ยงไว้? ศัตรูพวกเจ้าสองผัวเมียเยอะขนาดนี้ มีคนมาแก้แค้น ไม่แปลกเลยสักนิด ข้าอยู่นี่พอดี ยังบาดเจ็บเพราะช่วยพวกเจ้าแม่ลูก แต่น่าเสียดายมาก ก็ยังช่วยชีวิตพวกเจ้าเอาไว้ไม่ได้ ข้าก็เลยได้แต่มองพวกเจ้าแม่ลูกตายไปต่อหน้าต่อตา น่าสงสารจริงๆ!”
นัยน์ตานางทอดมายังหน้าโค้กช้าๆ เผยรอยยิ้มอ่อนโยน “เด็กดี หน้าตาดีจริงๆ ใครก็ว่าพระชายารัชทายาทมีวาสนา มีลูกชายให้องค์รัชทายาทถึงห้าคน ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทของเขามั่งคงขึ้นเรื่อยๆ เจ้าว่า วาสนานี้ถ้าหายไปส่วนหนึ่ง ตำแหน่งขององค์รัชทายาทจะสั่นคลอนหรือเปล่านะ?”
เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินคำพูดของนาง ก็รู้สึกว่านางบ้าไปแล้ว จับมือของโค้ก ซ่อนเขาให้อยู่ข้างหลังตน มองฮุ่ยผิง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมยังไม่ลงมืออีกเล่า? ให้พวกเขาเข้ามาฆ่าหม่อมฉันสิเพคะ”
นางรู้ว่าองครักษ์ลับผีน่าจะตามมาด้วย ตอนนี้คงซุ่มอยู่รอบร้านอาหารนี้แล้ว ขอเพียงลงมือ พวกเขาต้องรีบมาแน่
ดังนั้นหยวนชิงหลิงจึงไม่กลัว
ฮุ่ยผิงมองนางแล้วส่ายหน้า พอขยับ มุกหยกที่อยู่บนศีรษะก็ส่งเสียงทองหยกกระทบกันดังกังวาน “แน่นอน ข้าก็ไม่ใช่ว่าต้องเอาชีวิตท่านให้ได้ แค่พระชายารัชทายาทลงนาม ประทับรอยนิ้วมือ ข้าก็จะปล่อยพวกท่านไป”
“ลงนามอะไร?” หยวนชิงหลิงถามด้วยหน้านิ่ง
ฮุ่ยผิงยกมือขึ้น จากนั้นยายเฒ่าก็ไปเอากระดาษจากฉากบังลมด้านหลังมาสองสามแผ่น วางไว้บนโต๊ะ ฮุ่ยผิงยื่นมือไปกดไว้ เงยหน้ามองหยวนชิงหลิง “พระชายารัชทายาทขายโรงหมอ สถานพยาบาลทั้งหมดของท่านให้ข้า”
“เป็นไปไม่ได้ ถึงจะให้เงินมากแค่ไหน ข้าก็ไม่มีทางขายให้ท่าน” หยวนชิงหลิงปฏิเสธพลัน