บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1254 แขกทางใต้มาแล้ว
ท่านย่าหยวนกุมมือของหยวนชิงหลิง มองดูนาง “เป็นห่วงหลานเขยใช่หรือไม่?”
“เป็นห่วงก็มีบ้าง แต่เขาเสี่ยงอันตรายก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว ตามหลักแล้วก็ไม่ถึงขั้นนั้น” หยวนชิงหลิงกล่าว
“ทำใจให้สบายก่อน ไม่มีปัญหาอะไร บำรุงครรภ์ให้ดีๆ” ท่านย่าหยวนสงสารหลานสาว ลูบใบหน้าของนาง “ได้รับความทรมานจริงๆ ให้กำเนิดท้องนี้แล้ว ก็ไม่ต้องตั้งครรภ์แล้ว คนมากมายก็ทรมานแย่แล้วล่ะ”
“รู้แล้ว ท้องนี้เดิมทีก็เหนือความคาดหมาย!” หยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกจนปัญญาเล็กน้อย เพียงแต่เมื่อพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าคอแห้งเหือดพรั่งพรูขึ้นมาอย่างฉับพลันอีกครั้ง ยิ่งรู้สึกว่าจิตใจมีไฟเผาอยู่ ทรมานเป็นที่สุด อดกลั้นไม่ได้จึงหยิบน้ำแข็งใส่เข้าปากอีกครั้ง
ตอนนี้นางนึกขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน ตอนนั้นไท่ซ่างหวงให้หยกกับนางสามชิ้น บอกว่าท้องนั้นของนางจะให้กำเนิดสามคน หรือบอกว่านางจะตั้งท้องสามครั้งกันแน่นะ?
จะหัวเราะก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิงจริงๆ
“ในเมื่อตั้งครรภ์แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีปัญญาจะพูดแล้ว” ท่านย่าหยวนสงสารนางจับใจจริงๆ หลานสาวของตัวเองอยู่ในยุคของตัวเอง เป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุด หากว่าไม่เสียชีวิต ในขอบเขตความคิดของนางจะต้องมีผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากเป็นแน่ คิดถึงตรงนี้ นางถอนใจเบาๆ “หากว่าเจ้าศึกษาค้นคว้าต่อไป เกรงว่าตอนนี้ผลสำเร็จในการค้นคว้าของเจ้า จะต้องทำให้โลกตะลึงแล้ว โชคชะตาเล่นตลกกับคน!”
ก่อนหน้านี้หยวนชิงหลิงก็ยังคิดเช่นนี้ แต่ตอนนี้ หลังจากที่เผชิญกับเรื่องราวมากมาย นางรู้สึกว่า บางทีอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องศึกษาค้นคว้าทางด้านนี้ต่อไป เพราะว่า ในโลกที่นางอยู่ บุคคลที่มีจิตใจทะเยอทะยานมีความปรารถนาโลภมากมากมายเกินไป ผลสำเร็จของการศึกษาค้นคว้านี้ อาจจะทำให้โลกวุ่นวายใหญ่โต แต่ไม่ใช่การพัฒนา
ความก้าวหน้าของอารยธรรม มีบางครั้งที่ไม่ได้วัดด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ใช้จิตใจของมนุษย์
จากคำพูดของฟางหวู โลกที่นางอยู่ ยังมีคนต้องการทำการศึกษาค้นคว้าของนางต่อไป อยากพัฒนาสมอง แน่นอนไม่ยกเว้นบางส่วนที่เหมือนนางเช่นนั้น ที่แสวงหาเพียงการพัฒนาของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ว่า ก็ไม่ยกเว้นคนบางส่วนหรือบางประเทศ ที่อยากจะควบคุมโลกใบนี้ เป็นเจ้าผู้ครองโลกใบนี้
นางยิ้มกับท่านย่าหยวนแล้วกล่าว “แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง ในโลกที่พวกเราอยู่ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาพอแล้ว คนก็ฉลาดพอแล้ว มีบางเวลา ฉลาดเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี”
ท่านย่าหยวนคิดแล้วคิดอีก พยักหน้า “อืม เจ้าพูดถูก ปัจจุบันนี้ทุกโลกและมิติเวลา ล้วนมีความสมดุลต่อกัน หากว่ายาของเจ้าค้นคว้าสำเร็จ ก็จะเสียความสมดุลประเภทนี้ไป มีบางคน ถูกลิขิตให้อยู่ชั้นล่างตลอดไป ทั้งชีวิตก็ไม่มีทางพลิกชีวิตได้ อีกทั้ง โลกใบนี้สวยงามมาก ไม่จําเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงอะไรมากเกินไป”
หยวนชิงหลิงพยักหน้าไปพลาง หยิบน้ำแข็งเข้าปากไปพลาง เคี้ยวจนเรียกว่ากรอบสดชื่น ท่านย่าหยวนเห็นดังนั้น กลั้นไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “น้ำแข็งก้อนนี่อร่อยขนาดนั้นเชียวหรือ? กินน้อยๆหน่อย ดื่มน้ำมากๆก็ได้แล้ว”
“กินแล้วสบายขึ้นมาหน่อย ไฟในจิตใจลุกโชน” หยวนชิงหลิงหัวเราะแล้วกล่าว
ท่านย่าหยวนได้ยินคำศัพท์ของแพทย์แผนจีนออกมาแล้ว ยิ่งมีความสุข “โดยปกติแล้วคนท้องจะค่อนข้างฉุนเฉียว กินยาดูว่าจะปรับให้ดีขึ้นหรือไม่ หากว่าไม่ดีขึ้น ข้าจะเปลี่ยนใบสั่งยาให้เจ้า”
“ได้ ท่านย่า ท่านไปทำธุระเถอะ ข้าไม่มีปัญหาอะไร” หยวนชิงหลิงก็ไม่อยากทำให้ท่านย่าเสียเวลามากเกินไปนัก ระยะนี้นางยุ่งมาก
“งั้นก็ดี ข้ากลับไปโรงหมอหลวงแล้ว!”
หยวนชิงหลิงเห็นท่านย่าลุกขึ้นยืน จิตใจก็อดที่จะเจ็บปวดเล็กน้อยไม่ได้ “ท่านย่า ท่านยุ่งก็ส่วนยุ่ง ดูแลสุขภาพ ก็เป็นข้าที่ไม่กตัญญู ท่านอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังทำให้ท่านเหน็ดเหนื่อยอีก”
ท่านย่าหยวนมองดูนางด้วยความเมตตา “เด็กโง่เอ๊ย ย่ายุ่งก็ยุ่งเล็กน้อย แต่ก็เต็มอิ่มมาก มีความสุขมาก รู้สึกว่าตัวเองยังมีประโยชน์ อีกทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง ย่ามีความสุขเป็นอย่างมาก หากว่าเป็นในบ้านของพวกเรา เกรงว่าจะต้องถูกบังคับให้เกษียณแล้ว อีกอย่าง เจ้าไม่รู้สึกว่าหลังจากที่ข้ามาที่นี่แล้ว สุขภาพก็ดีขึ้นมากหรือ? ทีแรกหัวใจไม่ค่อยดี มักจะต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่เสมอ ตั้งแต่มาที่นี่ ข้าก็แข็งแรงขึ้นทุกวันๆ ดินฟ้าอากาศของที่นี่บำรุงรักษาคนได้จริงๆนะ”
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านย่าพูดเช่นนี้ หยวนชิงหลิงมองดูนางก็มีความสุขมากจริงๆ จึงยิ้มและกล่าว “ดี ท่านรู้สึกว่ามีความสุขก็ดี”
“มีความสุขมาก อิ่มเอิบมาก!” ท่านย่าหยวนยื่นมือไปกดผม แอบหัวเราะทีหนึ่ง ภูมิใจในตัวเอง “ขุนนางอาวุโสของโรงหมอหลวงเหล่านั้น มักจะอ้างเหตุผลเอาอกเอาใจข้า ในนั้นมีผู้เฒ่าคนหนึ่งหล่อมาก หากว่าข้าอดใจไม่ได้ เกรงว่าจะต้องทำเรื่องที่ผิดต่อคุณปู่ของเจ้าออกมาแล้ว ดีที่ คุณปู่ของเจ้าอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญมากในหัวใจของข้า ผู้ใดก็ล้วนสั่นคลอนตำแหน่งของเขาไม่ได้”
หยวนชินหลิงอดไม่ได้เผลอหัวเราะออกมา
“ไปแล้ว!” ท่านย่าก็หัวเราะแล้วจากไป
หยวนชิงหลิงมองดูเงาหลังของท่านย่า อันที่จริงในฐานะหลานสาว นางกลับหวังว่าท่านย่าจะสามารถหาคนที่จะเดินข้ามผ่านวัยชราไปพร้อมกับนางได้ คุณปู่จากไปหลายปีแล้ว ท่านย่าก็อยู่คนเดียวมาตลอด มัวเมาทํางานมาหลายปี แต่คนก็มักจะรู้สึกโดดเดี่ยวน่ะสิ? ข้างกายขาดคนที่สามารถพูดคุยได้
ระหว่างที่ครุ่นคิด น้ำแข็งก้อนที่ลู่หยาเอามานางก็กินหมดแล้ว นางรู้สึกท้อแท้ รู้สึกว่ากินไปมากขนาดนี้แล้ว อีกเดี๋ยวก็จะปวดท้องแล้ว
ดีที่ ถึงตอนเที่ยง ก็ไม่รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหน นอกจากกระหายน้ำอยากกินน้ำเย็นแล้ว ก็มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก
ช่วงเวลาค่ำหน่อย หรงเยว่มาแล้ว รับรองกับนางด้วยตัวเองว่ารัชทายาททางนั้นปลอดภัยทุกอย่าง ทว่า นางก็นำพาข่าวคราวที่ไม่ค่อยจะดีนักมาด้วย บอกว่าแขกทางใต้มุ่งตรงมาทางเมืองหลวง
อีกทั้ง แขกทางใต้ได้กระจายข่าว บอกว่ารัชทายาทเป็นเป้าหมายของเขา หากผู้ใดสามารถเอาศีรษะของรัชทายาทได้ก่อน เช่นนั้นเขาก็จะเอาเด็ดหัวของผู้นั้นก่อน แล้วค่อยแย่งทองคำ
หยวนชิงหลิงได้ยินดังนั้น ก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้ “แขกทางใต้เก่งกาจเพียงนี้เชียวหรือ?”
“เก่งกาจก็เก่งกาจมากจริงๆ แต่จะว่าไป เขากระจายข่าวเช่นนี้ก็มีข้อดีเพคะ นั่นก็คือนักฆ่ามากมายที่ได้ยินข่าวก็ล้วนล่าถอยไปแล้ว ใครๆก็ไม่อยากเอาทองแล้วจากนั้นก็ไม่มีชีวิตรอดไปใช้จ่าย บวกกับหมู่นี้นักฆ่าหลายกลุ่มล้วนเหาะเข้ามาแล้วถูกหามออกไป ตายมากมายขนาดนั้น ผู้ใดยังจะยอมเอาชีวิตของตัวเองไปฉวยไว้อีกเพคะ? คนในยุทธภพ ล้วนไม่ยอมล่วงเกินจอมมารกระบี่ ก่อนหน้านี้ในยุทธภพมีประโยคหนึ่ง บอกว่าผู้ใดทำให้จอมมารกระบี่ไม่พอใจ ก็เท่ากับทำให้ท่านยมราชไม่พอใจ”
หยวนชิงหลิงเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น “หากว่าวันนี้เจ้าไปที่จวนเหลิ่ง เจ้าบอกกับเจ้าห้าสักคำ ให้เขาพยายามอย่าเดินไปไหนมาไหน เพื่อเลี่ยงไม่ให้แขกทางใต้หาโอกาสได้”
“วางใจเถอะเพคะ ท่านชายสี่ได้เตรียมการไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้เคยบอกกับท่านแล้วหรือเพคะ? หากว่าแขกทางใต้มาผู้เดียว สำนักเหลิ่งหลังสามารถต่อกรได้ เกรงก็แต่จะแห่กันมาถึงพร้อมกับนักฆ่าอื่นๆ ภายใต้สถานการณ์อันโกลาหล สำนักเหลิ่งหลังเหน็ดเหนื่อยกับการต่อกร……..”
หรงเยว่พูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นก็หยุดลง กล่าวด้วยความเข้าใจยาก “นี่ทำไมแขกทางใต้ถึงได้กระจายข่าวเช่นนี้ล่ะ? เขาทำเช่นนี้ก็บังคับให้นักฆ่าล่าถอย ไม่มีผลดีต่อเขา หากจะบอกว่า นักฆ่ายังคงบุกสังหารเข้ามาทีละกลุ่มๆ แขกทางใต้ก็สามารถได้เปรียบอย่างง่ายดาย เช่นนี้ถึงจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากที่สุด”
หยวนชิงหลิงก็รู้สึกว่าเข้าใจยากเล็กน้อยเช่นกัน แต่นึกถึงนิยายจอมยุทธที่เคยดูเมื่อก่อน เหล่าจอมยุทธ์ที่ปลีกตัวออกจากโลกต่างมีนิสัยประหลาดอยู่บ้าง ต้องการแสดงวิทยายุทธที่ไร้เทียมทานของตัวเองอย่างชัดเจน ต้องการทำในสิ่งที่ผู้อื่นไม่เคยทำมาก่อนให้สำเร็จอย่างหนึ่ง ก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นถามไถ่หรือก้าวก่าย
คนที่กล้าป่าวประกาศเช่นนี้ จะต้องมีความสามารถเป็นอย่างมากแน่ๆ