บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1281 เจ้าแฝดสองเป็นไข้
สีหน้าทั้งสองคนค่อนข้างอึ้ง แทบแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริง สายตาเต็มไปด้วยละอองน้ำ
“ทำไมหรือ? พวกเจ้าฝันร้ายหรือ? เมื่อกี้เรียกหาพ่อด้วย” หยวนชิงหลิงรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว โอบกอดเจ้าแฝดสอง กลับพบว่าอุณหภูมิร่างกายของพวกเขาผิดปกติ นางตกใจรีบเอามือแตะหน้าผากของทั้งสองคน
เป็นไข้
“ลู่หยา ฉี่หลอ พวกเจ้าทั้งสองไปต้มน้ำร้อน เรียกแม่นมตื่นขึ้นมา” หยวนชิงหลิงรีบหันไปสั่ง รอหลังจากทั้งสองคนรีบออกไปแล้ว ก็เอากล่องยาออกมา หยิบเอาปรอทวัดไข้มาวัดไข้ให้กับเจ้าแฝดสอง
เมื่อวัดดูแล้ว ไข้สูง 40 องศา หยวนชิงหลิงตกใจอย่างมาก
แม่นมได้ยินว่าเกอเอ๋อเป็นไข้ ก็รีบลุกขึ้นมา พูดอธิบายว่า “ตอนที่นอนลงยังดีๆอยู่เลย ไม่รู้ทำไมถึงได้เป็นไข้ขึ้นมา?”
หยวนชิงหลิงเห็นสีหน้าแม่นมขาวซีด รู้ว่าพวกนางเป็นห่วงเจ้าแฝดสอง และก็กลัวจะถูกนางตำหนิ จึงพูดปลอบว่า “ไม่เป็นไร เด็กเป็นไข้เป็นหวัดเป็นเรื่องปกติ”
“แต่พวกเกอเอ๋อไม่เป็นอะไรมาตลอด ไม่เคยป่วยเลย” แม่นมก็โทษตัวเอง โทษว่าตัวเองดูแลได้ไม่ดี
หยวนชิงหลิงค่อยคิดขึ้นมาได้ว่า นางเป็นแม่ที่สบายมาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแฝดสองหรือเจ้าแฝดสองสาม ต่างแทบไม่เคยป่วย นอกจากเจ้าแฝดสองเคยตาแดงตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน นอกนั้นก็ดีทุกอย่าง
นางถามเจ้าแฝดสองว่า “รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ไอไหม? เจ็บคอไหม?”
หัวสมองน้อยๆทั้งสองส่ายพร้อมกัน พร้อมพูดขึ้นว่า “สบายดี”
หยวนชิงหลิงถามแม่นมว่า “ตอนกลางวันมีจาม น้ำมูกไหลไหม?”
แม่นมส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มี วันนี้ยังเล่นอย่างมีความสุขมาก”
พวกเจ้าแฝดสองสามก็ต่างลุกขึ้นมา ได้ยินว่าน้องชายเป็นไข้ ซาลาเปาพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ไม่สบายหรือ? ไม่สบายได้อย่างไร? ข้ายังไม่เคยป่วยเลย”
“ไม่ได้ป่วยนี่” เจ้าแฝดสองส่ายหัวอีก พวกเขาต่างก็ไม่ได้รู้สึกไม่สบายตรงไหน
หยวนชิงหลิงมองดูพวกเขา พร้อมถามขึ้นว่า “เมื่อกี้พวกเจ้าใครฝันไปหรือ? ทำไมถึงได้ยินพวกเจ้าเรียกพ่อ?”
“อืม ฝัน ฝันเห็นเสด็จพ่อ” เจ้าแฝดสองต่างพยักหัว พูดพร้อมต่างก็มองตากัน แล้วก็พูดออกมาพร้อมกันว่า “เจ้าก็ฝันเห็นหรือ?”
หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างตกใจว่า “ฝันเห็นพ่อเป็นอะไร?”
“ตายแล้ว” หยู่เหวินเย่หลุดปากพูดออกมา
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ ตกใจนิ่งอึ้งไป พร้อมรีบพูดว่า “อย่าพูดเหลวไหล อย่าพูดเหลวไหล”
สีหน้าหยวนชิงหลิงขาวซีดขึ้นมาทันที พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรนะ?”
“แค่ความฝันไม่ใช่ความจริง” แม่นมรีบพูดอยู่ด้านข้าง พร้อมเดินไปประคองหยู่เหวินเย่ เช็ดปากของเขา จากนั้นก็สะบัดมือ เหยียบย่ำพื้นหลายที พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เคยพูด ไม่เคยพูด”
หยวนชิงหลิงใจเต้นถี่รัว ความหวาดกลัวค่อยๆคืบคลานไปถึงก้นบึ้งหัวใจ นางพยายามฉีดยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ความฝันจะเป็นจริงได้อย่างไร?”
หยู่เหวินเย่ล้มนอนบนเตียง หลับตาแล้วก็ลืมขึ้นเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “แต่ในความฝันนี้เหมือนจริงมาก ท่านพ่อโดนคนอื่นฟันด้วยดาบ เลือดไหลออกมามากมาย น่ากลัวมาก”
“ห้ามพูดไปเรื่อย ทำให้แม่ตกใจแย่แล้ว” ซาลาเปารีบเดินมาตบหัวหยู่เหวินเย่หนึ่งที พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพูดจาไปเรื่อย หากพ่อเป็นอะไรไป ข้าจะฉีกปากของเจ้า”
“เอาล่ะ เอาล่ะ น้องเป็นไข้อยู่” หยวนชิงหลิงตกใจ ซาลาเปาลงมือแรงมาก ตบจนหน้าผากหยู่เหวินเย่แดงไปหมด
“เป็นไข้ก็ไม่ควรพูดจาเหลวไหล” ซาลาเปาพูดขึ้นน่าเกรงขาม หันไปมองหยู่เหวินหวงแวบหนึ่ง พร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าฝันเห็นอะไร?”
หยู่เหวินหวงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ฝันเห็นท่านพ่อกลับมาแล้ว”
“ใช่ ไม่นานท่านพ่อก็รบได้ชัยชนะกลับมาแล้ว ปากมีไว้ทานข้าว ไม่ใช่มีไว้พูดจาไปเรื่อย” ซาลาเปาด่าน้องเสร็จ แล้วก็หันมาพูดปลอบหยวนชิงหลิงว่า “ท่านแม่วางใจ หากเกิดอะไรขึ้นกับพ่อจริงๆ พวกเราต้องรู้แน่ หากพวกเราล้วนยังไม่รู้ งั้นแสดงว่าพ่อเจอปัญหาเล็กน้อยหรือไม่เป็นอะไรเลย”
หยวนชิงหลิงยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ แม่ไม่เป็นห่วงแล้ว เจ้ารีบไปนอนเถอะ ข้าเฝ้าน้องชายไว้ พวกเขายังมีไข้อยู่”
“ได้ ท่านมานอน” ซาลาเปาดึงมือของนาง ทังหยวนกับข้าเหนียวลุกขึ้นมานั่งนิ่งมองดู ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
หยวนชิงหลิงให้ทุกคนไปพักผ่อน นางเฝ้าเจ้าแฝดสองก็พอ หลังจากนอนลงแล้ว เจ้าแฝดสองเงียบไม่พูดอะไร แต่กลับดูค่อนข้างหวาดกลัว
ในใจหยวนชิงหลิงก็กลัว นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ นางกับเจ้าแฝดสอง ต่างฝันเห็นว่าเกิดเรื่องกับเจ้าห้า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน
คงเป็นกระแสจิตที่ผูกพันกัน
แต่นางไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาต่อหน้าเด็ก คิดว่าเดี๋ยวรอเด็กๆนอนแล้ว นางค่อยไปหาหรงเยว่ ให้หรงเยว่ส่งคนไปถาม
“ท่านแม่ ไม่ต้องกลัว” มือของซาลาเปายื่นมา โอบกอดคอของนางไว้ ใบหน้าน้อยอยู่ตรงหน้าของนาง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความเป็นกังวล พร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านพ่อจะไม่เป็นอะไร”
“เปาเปา” หยวนชิงหลิงยื่นมือไปจับแขนของเขา มองตาของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ไม่เป็นกังวล เจ้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงแม่”
“อืม เมื่อกี้หลังจากนอนแล้ว ข้าไปบ้านยาย” ซาลาเปาแนบชิดใบหน้าของนาง พร้อมพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างทำเป็นไม่ใส่ใจว่า “จริงหรือ? ดึกขนาดนี้แล้วยังไป? ไม่เป็นการไปรบกวนท่านยายนอนหลับหรือ? ให้ท่านยายสั่งของกินให้เจ้าใช่ไหม? กินอะไรล่ะ?”
“ไม่ได้กิน อยากไปหาท่านลุง แต่ท่านลุงไม่อยู่”
“อยากไปเล่นเกมกับท่านลุง? แต่เล่นแต่เกมไม่ได้นะ” หยวนชิงหลิงรู้ว่าเขาชอบไปเล่นเกมกับพี่ชาย เดิมพี่ชายไม่ชอบเล่น เพื่อเป็นการเอาใจเขาจึงดาวน์โหลดเกมไว้ ในใจนางยังคิดถึงเจ้าห้า จึงถามขึ้นอย่างเหม่อลอยว่า “งั้นท่านลุงไปไหนหรือ ถึงไม่อยู่บ้าน?”
“ท่านยายบอกว่า เขาไปหาหมอคนหนึ่ง หมอคนนี้มีความสามารถอย่างมาก” ซาลาเปาพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงอืมรับคำ นางรู้ว่าพี่ชายไปประชุมทางการแพทย์ทุกปี หรือใช้วันหยุดไปพบแพทย์ที่มีชื่อเสียงบางส่วน เขาต้องการที่จะสำรวจเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
นางหันมายื่นมือลูบหน้าผากหยู่เหวินเย่กับหยู่เหวินหวง ไข้ค่อยๆลดลงแล้ว อุณหภูมิความรู้สึกต่ำกว่าเมื่อกี้เล็กน้อย
“ท่านแม่ หากเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ ก็เพราะพวกเราปกป้องท่านพ่อได้ไม่ดี” หยู่เหวินเย่พูดขึ้นด้วยเสียงเบา ใบหน้าน้อยๆเต็มไปด้วยความเสียใจ
“จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่าคิดไปเรื่อย” ในใจหยวนชิงหลิงตอนนี้กำลังหวาดกลัวอยู่ ได้ยินหยู่เหวินเย่พูดเช่นนี้ น้ำเสียงสั่นเทาขึ้นมาอย่างทนไม่ได้ พร้อมพูดขึ้นว่า “อีกอย่าง ก่อนหน้านี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับท่านพ่อท่านแม่ เจ้าสามารถรับรู้ได้ไม่ใช่หรือ? ตอนนั้นเจ้ายังให้เจ้าเสือน้อยไปช่วยพวกเราเลย ครั้งนี้หากเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ เจ้าก็จะต้องรู้แน่”
หยู่เหวินเย่หันข้างมามองดูนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยสายตาสับสนว่า “แต่สมองของข้ายุ่งวุ่นวาย ไม่มีอะไรเลย”
หยู่เหวินหวงหันข้างมา พูดกับหยวนชิงหลิงผ่านหยู่เหวินเย่ว่า “ข้าก็เหมือนกัน”
หยวนชิงหลิงมองดูเจ้าแฝดสองที่สับสน แล้วหัวใจก็เต้นถี่รัวขึ้นมาอีก พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ ไม่พูดล่ะ นอนหลับ”
“ท่านแม่ ช่วงนี้พวกเราอาจจะสัมผัสถึงท่านพ่อไม่ได้” หยู่เหวินหวงคิดสักพัก แล้วพูดกับหยวนชิงหลิง
“ทำไมถึงสัมผัสไม่ได้? ที่ผ่านมายังสัมผัสได้เลย”
หยู่เหวินหวงนวดหว่างคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่นี่ของพวกเราเจ็บ หยู่เหวินเย่ก็เจ็บ ตอนกลางวันเขาก็พูดว่าเจ็บแล้ว แต่ไม่กล้าบอกแม่นม กลัวแม่นมบอกย่าทวดให้พวกเราดื่มยาขม”