บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1295 เสนอให้จัดงานแต่งงาน
ฟางหวูเห็นหยวนชิงหลิงเงียบ จึงถามขึ้นว่า “เจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้าหรือ? เจ้ายังคงคิดว่า เทววิทยาเป็นเรื่องเหลวไหล?”
หยวนชิงหลิงส่ายหัว หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ผ่านอะไรมามากมายขนาดนี้ ยังได้รู้จักไทเฮาหลง ข้าจะดื้อดึงที่จะยึดมั่นในมุมมองของข้าได้อย่างไร? โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ สิ่งที่พวกมนุษย์รู้ มีจำกัด หากข้าไม่รู้ก็จะบอกว่าไม่มี คือการปิดกั้นที่แท้จริง”
“เจ้าคิดเช่นนี้ดีแล้ว” ฟางหวูพูดขึ้น มองดูนาง เห็นนางยังคงขมวดคิ้ว ราวกับว่ามีบางอย่างที่นึกไม่ออก จึงถามขึ้นว่า “เจ้ายังมีอะไรจะถามข้า?”
หยวนชิงหลิงมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “คำถามนี้ ที่จริงเดิมก็เคยพูดแล้ว พวกเด็กๆมีพลังความสามารถในการรักษาตนเอง สามารถรักษาโรคทุกอย่างในร่างกาย ฉะนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีชีวิตเป็นอมตะ อย่างน้อย ความเจ็บไข้ได้ป่วยคร่าชีวิตพวกเขาไม่ได้ บาดแผลภายนอกก็สามารถหายเองได้อย่างรวดเร็ว งั้นหากข้า…..อย่างที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้ ข้าละลายจากการแข็งตัว ก็จะเหมือนกับพวกเด็กๆ แสดงว่าข้าก็สามารถมีชีวิตอมตะหรือ?”
ฟางหวูหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “หากเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องดีหรือ? สามารถอยู่ได้จนกลายเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่า”
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่เจ้าห้าจะต้องตาย”
ฟางหวูมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นทั้งจริงจังทั้งล้อเล่นว่า “ดังนั้น เราสามารถพิจารณาทำการวิจัยขึ้นมาอีกครั้งดีไหม? เจ้าต้องรู้ว่า ด้วยสมองของเจ้าในตอนนี้เวลานี้ หากกลับไปทำการวิจัยต่อ จะพบกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ตราบที่เจ้านึกภาพไม่ออก”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียว่า “ไม่ล้อเล่น บอกว่าหยุดก็คือหยุด”
ฟางหวูหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม รู้ว่าเจ้าคิดเช่นนี้ ไม่บังคับ แต่สิ่งที่เจ้าเป็นกังวลก็มีอยู่จริง เพียงแต่ว่า ตอนนี้เจ้าเป็นกังวลเรื่องพวกนี้เร็วไป เจ้าควรที่จะเป็นกังวลหลังจากละลายจากการแช่แข็งแล้ว เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับการเลือก….”
นางหยุดเงียบไปสักพัก แล้วก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “บางที ควรที่จะเป็นห่วง การละลายจากแช่แข็งจะสำเร็จไหม? ยังไงยุคสมัยที่พวกเราอยู่ในตอนนี้ เทคโนโลยีการแช่แข็งเทียบไม่ได้กับยุคสมัยของพวกเรา”
ที่จริงหยวนชิงหลิงก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้มากมาย ความเป็นไปได้ที่เลวร้ายที่สุด นั่นก็คือละลายจากการแช่แข็งล้มเหลว นางในยุคปัจจุบันกับนางในตอนนี้ต่างต้องตาย
ข้อนี้นางไม่สามารถควบคุมได้ ทำได้เพียงมอบทั้งหมดให้กับฟางหวู
ความเชื่อใจที่นางมีต่อฟางหวู อันที่จริงก็ถึงขั้นมืดบอดแล้ว แต่ก็ไม่มีทางเลือก
ฟางหวูยังคงถามเรื่องของลิง นางคิดว่าสมองของลิงอาจเป็นความก้าวหน้าอย่างหนึ่ง หยวนชิงหลิงจบงานวิจัย นางคิดหาวิธีทำการวิจัยขึ้นมาใหม่อีกครั้งมาตลอด บางทีจะเจออีกวิธีหนึ่ง
หยวนชิงหลิงรู้ถึงความหลงใหลของนาง จะไม่พยายามที่จะหยุดนาง เพราะเมื่อนางได้เข้าไปศึกษา นั่นก็ถือเป็นงานวิจัยของตัวนางเอง
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่กว่าครึ่งวัน ตอนที่มาถึงที่พักคนเดินทางแล้วลงจากรถม้า ก็พบว่ารถม้าคันที่เจ้าห้ากับพี่ชายนั่ง ก็คุยกันอย่างสนุกสนานมาก ตอนที่ลงมาจากรถม้า พี่ชายยังถึงขั้นยิ้มหวานให้กับนาง
หยวนชิงหลิงแอบถามเขาว่า “เจ้าคุยอะไรกับพี่ชาย?”
หยู่เหวินเห้ามือของนางเดินไปข้างหน้า พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “พูดถึงเรื่องงานแต่งงาน ตลอดทั้งบ่าย เราคุยถึงเรื่องจัดงานแต่งงาน รายละเอียดต่างๆทุกอย่างล้วนตกลงเรียบร้อยแล้ว”
“อ๋า?” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “จริงหรือ? งั้นพวกเจ้าเลือกที่จะจัดที่ไหนหรือ?”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ข้าอยากกลับไปจากที่เมืองหลวง จากนั้นลุงใหญ่ก็พูดว่ากลับไปจัดที่บ้านพวกเขาอีกครั้ง จะไปจัดริมทะเล ยังจะให้พวกเราโดดร่ม”
“ยังจะโดดอีกหรือ? ข้าไม่โดดแล้ว” หยวนชิงหลิงโบกมือ ครุ่นคิดอยู่อย่างเหม่อลอย แต่คิดถึงคำพูดประโยคนี้ของเขา จึงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เจ้าบอกว่าจะกลับไปจัดงานแต่งงานที่เมืองหลวง?”
หยู่เหวินเห้าโอบกอดไหล่ของนางไว้ แล้วหอมแก้มของนางหนึ่งที ดวงตากลมโตลุกวาว เผยให้เห็นถึงความสุขอย่างลึกลับ พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “ไม่ผิด หลังจากกลับถึงเมืองหลวง ข้าจะไปทูลเสด็จพ่อ เราจะจัดงานแต่งงานกันใหม่”
หยวนชิงหลิงไม่อยากเชื่อ กระซิบถามขึ้นว่า “ทำไม?”
หลังจากหยู่เหวินเห้าเข้าไปในห้องแล้ว จับไหล่ของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “นี่ไม่ใช่ความคิดกะทันหัน ข้าคิดไว้แต่แรกแล้ว และก็เคยพูดกับเจ้า ข้ากับเจ้าไม่ได้จัดงานแต่งงานกัน ข้ารู้สึกเสียดายกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อเจ้าทั้งหมด เพื่อตัวข้าเองด้วย พวกเรามีความสุขอย่างมากแล้ว แต่ยังไงก็ยังไม่พอ ข้าอยากที่จะสู่ขอเจ้าอย่างถูกต้องตามประเพณี”
หยวนชิงหลิงรู้สึกซาบซึ้งอย่างที่สุด เดิมเคยพูดว่าจะจัดงานแต่งงานจริง แต่ก็รู้สึกว่าเหลวไหล พวกเขาแต่งงานแล้ว ใครจะไปรู้ว่านางไม่ใช่หยวนชิงหลิงคนเดิม? มีใครที่เคยจัดแต่งงานแล้วยังจะจัดงานแต่งงานอีก? และก่อนหน้านี้ที่เคยพูด คือรอหลังจากที่เขาขึ้นครองราชย์์แล้ว มีพิธีแต่งตั้งฮองเฮา นั่นก็จะมีพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี นางคิดมาตลอดว่าเขาพูดถึงอันนี้
แต่ตอนนั้นก็แค่พูดกันเล่นๆ เพราะรอเขาขึ้นครองราชย์์ ไม่รู้ว่าต้องรออีกหลายสิบปี ถึงตอนนั้นทุกคนก็แก่แล้ว ยังจะจัดงานแต่งงานใหม่อะไร? คนแก่ผมขาวใส่ชุดแต่งงาน คนอื่นไม่หัวเราะเยาะหรือ
ต่อมานางก็พูดกับตัวเองมาตลอดว่า งานแต่งงานอะไรต่างๆก็ล้วนเป็นเพียงแค่พิธีอย่างหนึ่ง ไม่สำคัญเลยสักนิด พวกเขามีความสุขอย่างมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่สวยงามอยู่แล้วให้สวยงามยิ่งขึ้น
แต่ใครจะเห็นว่าการมีความสุขจะมากเกินไปล่ะ? ใครไม่อยากมีความสุขที่มีความรู้สึกเป็นพิธีการมากล่ะ? หากจัดงานแต่งงานจริงๆ ตนเองได้แต่งงานกับเขา สำหรับนางถือว่ามีความหมายอย่างมากที่สุด
เพราะนี่ถึงจะเป็นงานแต่งงานของพวกเขาทั้งสองคนจริงๆ
หยวนชิงหลิงซาบซึ้งตื้นตันจนแทบจะร้องไห้ออกมา หากเจ้าห้าไม่พูดประโยคต่อไปนี้ออกมา
เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าระลื่นว่า “จัดงานแต่งงาน เป็นการสร้างรายได้ที่ดีที่สุด”
ความซาบซึ้งตื้นตันของนาง หายไปแล้วกว่าครึ่งในทันใด
แต่ไม่ว่ายังไง เจ้าห้าตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานอีกครั้ง ยังคงทำให้นางดีใจมาก เพราะพี่ชายก็อยู่ด้วยพอดี กลับไปจัดงานแต่งงานในโลกปัจจุบัน ความฝันนี้ค่อนข้างไกลเกินไป แต่หากพี่ชายสามารถได้อยู่ร่วมงานแต่งงานของนางที่นี่ ก็ถือว่าดีอย่างที่สุดแล้ว
แต่นางก็มีความกังวลขึ้นมาในทันใด จึงพูดขึ้นว่า “แต่หลังจากกลับไปทูลเสด็จพ่อ เตรียมการแต่งงานอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายเดือนมั้ง? ถึงตอนนั้นข้าก็ใกล้คลอดแล้ว ยังสามารถจัดงานแต่งงานได้ไหม?”
หยู่เหวินเห้าปัดปลายจมูกของนางหนึ่งที หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “งานแต่งงานระหว่างเจ้ากับข้า ใช้เวลาเตรียมเพียงไม่กี่เดือนพอที่ไหน? พวกเราไม่รีบ หลังจากทูลแล้ว ก็ให้ใต้เท้าทังกับคนของเจ้ากรมพิธีการไปจัดเตรียม ถึงตอนนั้น เจ้าก็คลอดเสร็จแล้ว”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างค่อนข้างผิดหวังว่า “แต่จัดเตรียมงานกว่าครึ่งปี พี่ชายคงกลับไปแล้ว”
หยู่เหวินเห้าอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า เขากลับไป? เขาไม่เหมือนกับท่านย่า ที่อยู่ที่นี่ต่อหรือ? รอเมื่อตอนที่พวกเรากลับไปจัดงานแต่งงาน ค่อยพาเขากลับไปด้วยไม่ได้หรือ?“
“โง่หรือ เขาจะจากมานานขนาดนี้ได้ยังไง? เขากับฟางหวูมาในครั้งนี้ เวลาเดินทางไปพร้อมกัน นั่นก็หมายความว่า อยู่ที่นี่หนึ่งวัน พวกเขาทางด้านนั้นก็ผ่านไปหนึ่งวัน วิธีนี้จะไม่เป็นการทำให้ห้วงเวลาเกิดความวุ่นวาย” ยังไง ความวุ่นวายเล็กน้อยในห้วงเวลา ล้วนสามารถทำให้เกิดทฤษฎีผีเสื้อ ก่อนหน้านี้เคยถามฟางหวู นางบอกว่าหยางหรูไห่เน้นย้ำข้อนี้มาก นางให้ความสำคัญกับปัญหานี้มาก
คราวนี้กลายเป็นหยู่เหวินเห้าผิดหวัง เดิมเขาคิดว่าลุงใหญ่จะมาที่นี่นาน กลับคิดไม่ถึงว่าจะมาเพียงแปบเดียว งั้นตอนที่เขากลับไป เจ้าหยวนไม่ร้องไห้แย่หรือ