บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1406 หยวนชิงหลิงออกไปจากโรงพยาบาล
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1406 หยวนชิงหลิงออกไปจากโรงพยาบาล
หลังจากที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็โทรหาพี่ชายทันที ถามถึงสถานการณ์ของโสวฝู่
ทีแรกหยางหรูไห่บอกกับทุกคนว่า อีกสิบสองชั่วโมงเธอถึงจะฟื้น ทุกคนก็เตรียมตัวดีแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นจะไปรับเธอก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง ใครจะไปนึกว่าจะฟื้นขึ้นมาก่อนแล้ว ในโทรศัพท์หยวนชิงโจวตื่นเต้นแทบจะไม่ไหว หลังจากบอกอาการของโสวฝู่แล้ว ก็รีบขับรถมารับเธอทันที
ได้ยินว่าการผ่าตัดของโสวฝู่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งดวงตาก็กลับมามองเห็นแล้ว เธอทั้งคนก็โล่งอก ระหว่างที่รอพี่ชายเข้ามา หยางหรูไห่สนทนากับเธออยู่ครู่หนึ่ง บอกเธอถึงบางเรื่องที่ต้องระวัง ยังบอกเธออีกว่า หลังจากนี้ระยะเวลาหนึ่ง ก็จะต้องกลับมาฉีดยายับยั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์สมองแตกตัวมากเกินไปแล้วร่างกายตัวเองจะรับไม่ได้ ก็จะเกิดสภาวะร่างกายตายและสมองแห้งอีกครั้ง
หยวนชิงหลิงจำเอาไว้ทุกอย่าง เธอรู้สึกว่าขณะนี้สมองชัดเจนไร้ที่เปรียบ เธอพูดกับหยางหรูไห่ว่า“ตอนนี้นอกจากที่ฉันจะรู้สึกว่ากำลังวังชาดีแล้ว ความคิดก็ชัดเจนเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ที่อยู่เป่ยถัง มีเรื่องที่อยู่ในขอบเขตความเชี่ยวชาญของตัวเองมากมาย ก็มักจะคิดไม่ออกอยู่เสมอ มีความรู้สึกโง่เงอะงะชนิดหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีโดยสิ้นเชิง ถึงกระทั่งยังดีกว่าก่อนหน้าที่ฉันจะไปเป่ยถังเสียอีก”
หยางหรูไห่หัวเราะแล้วกล่าว“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อก่อนสมองของเธออยู่ที่นี่ กั้นด้วยมิติเวลาที่ยาวไกลน่ะ ตอนนี้ได้เอาWiFiบรรจุใส่ในสมองของเธอเองโดยตรงแล้ว จะไม่ชัดเจนได้อย่างไร? รอให้ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง หลังจากที่ปรับตัวได้ทุกอย่างแล้ว เธอจะพบกับความประหลาดใจมากกว่านี้”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าคำเปรียบเทียบแบบนี้ของเธอเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ช่างเป็นชีวิตที่เหมือนความฝันจริงๆ
การขับรถครึ่งชั่วโมง แค่ยี่สิบนาทีพี่ชายของหยวนชิงหลิงก็มาถึงแล้ว ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าลานจอดรถ ก็โทรศัพท์หาเธอให้เธอรอ เขาจะขึ้นไปรับเธอ
แต่หลังจากที่หยวนชิงหลิงกล่าวขอบคุณหยางหรูไห่แล้ว ก็เดินลงมาที่ลานจอดรถเอง
ตั้งแต่ออกมาจากห้องผู้ป่วย เลี้ยว เข้าลิฟต์ แล้วออกจากลิฟต์เดินมาถึงลานจอดรถ เธอไม่ได้ดูแผนที่สัญลักษณ์โดยสิ้นเชิง ในสมองก็มีเส้นทางที่ชัดเจนแล้ว เธอเพียงแค่เดินไปตามสัญชาตญาณก็ได้แล้ว
เธอเห็นรถของพี่ชายจอดอยู่ตำแหน่งB2 เห็นเขารีบลงจากรถ เห็นเขาไม่ได้ปิดแม้กระทั่งกระจกรถ ก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนแล้ว จมูกของนางปวดขึ้นมาในพริบตา
ตลอดทางหยวนชิงโจวขับรถมาด้วยความร้อนใจเป็นที่สุด ทั้งคนปีติยินดีเหมือนจะบ้าคลั่ง เมื่อลงจากรถ เมื่อหมุนตัว ก็เห็นเธอยืนอยู่ด้านหลังแล้ว หลังจากที่ยิ้มด้วยดวงตาแดงๆแล้วก็ยื่นมือมากอดเขาไว้
เขาก็กอดเธอไว้ทันที ดวงตาร้อนผ่าวเล็กน้อย “ไม่เป็นไรแล้ว ครั้งนี้ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ”
ปล่อยเธอออก มองดูใบหน้าที่ขาวผ่องของน้องสาว ประหลาดใจเป็นที่สุด “เธอไม่เหมือนคนที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จสักนิด สีหน้าดีมากนะ”
หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างงดงาม “ใช่หรือ? สวยรึเปล่าคะ?”
“น้องสาวของฉันต้องสวยอยู่แล้ว” หลังจากที่หยวนชิงโจวพูดอย่างภูมิใจคำหนึ่ง ก็สังเกตดูเธออย่างละเอียด กล่าวอย่างแปลกใจ“เพียงแต่ท่าทางแบบนี้ของเธอ กลับยิ่งเหมือนกับเธอในก่อนหน้านี้ขึ้นเรื่อยๆแล้ว”
“ไม่ดีหรือคะ?” อันที่จริงหยวนชิงหลิงก็ไม่ได้ส่องดูลักษณะของตัวเองมาก่อน แต่คิดว่าหยวนชิงหลิงเจ้าของร่างเดิมก็คล้ายคลึงกับเธอมาก คล้ายขึ้นอีกหน่อย ก็คงไม่ถึงกับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของคน
“ขึ้นรถ ฉันยังไม่ได้โทรศัพท์หาคุณพ่อคุณแม่เลยน่ะ เขายังไม่รู้ว่าเธอฟื้นแล้ว” พี่ชายของหยวนชิงหลิงลากเธอแล้วเปิดประตูรถ
หลังจากที่หยวนชิงหลิงขึ้นรถแล้ว กล่าวว่า“ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสินะคะ? พวกเราก็ตรงไปที่โรงพยาบาล ฉันถือโอกาสไปเยี่ยมไท่ซ่างหวงพวกเขาด้วย ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคุ้นเคยหรือเปล่า”
หยวนชิงโจวสตาร์ทรถ ได้ยินเธอพูดถึงสามผู้ยิ่งใหญ่ อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “พวกเขาก็สบายดีมาก เซียวเหยากงเข้าเฝือกแล้ว โสวฝู่หลังจากผ่าตัดเสร็จก็ยังไม่หายดี ดังนั้นจึงขังพวกเขาไว้ในห้องผู้ป่วยแล้ว ออกไปไม่ได้น่ะ ไท่ซ่างหวงก็อยากจะออกไป แต่ผู้เฒ่าคนนี้ระแวดระวังมาก กลัวว่าเมื่อออกไปแล้วเพื่อนผู้เฒ่าทั้งสองก็จะหายไปด้วย ดังนั้น ทุกครั้งก็ทำได้แค่มองไปรอบๆตรงประตูแล้วก็รีบกลับไปแล้ว ไม่มีเธออยู่ อย่างไรซะพวกเขาก็ไม่ไว้ใจใคร”
“ฟางหวูไม่ได้ไปเหรอคะ?” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม
“เธอยังจะกล้าไปอีกที่ไหนกัน?” หยวนชิงโจวหัวเราะขึ้นมา “เธอล่วงเกินไท่ซ่างหวงและเซียวเหยากง เพราะตอนที่โสวฝู่ไปผ่าตัด เธอเป็นคนถ่วงเวลาไว้ ตอนนี้ไท่ซ่างหวงไม่อยากเห็นเธอ พอได้ยินชื่อเธอแล้วก็จะโมโหแล้ว”
หยวนชิงหลิงก็หัวเราะแล้ว “ใช่แล้ว เขาผูกอาฆาตมาก”
“ที่ตลกกว่าคือคุณพ่ออธิบายสถานการณ์ของที่นี่ให้พวกเขาฟัง อธิบายตัวตนของเธอ แต่ผลสุดท้ายทั้งสองคนก็พูดไปคนละเรื่อง ตอนนี้พวกเขาเข้าใจผิดว่าคุณพ่อกับนางหวงอะไรนั่นเป็นชู้กัน”
หยวนชิงหลิงมีสีหน้าจนปัญญาทันที “ทำไมถึงทำจนเข้าใจผิดกันใหญ่โตขนาดนี้ล่ะคะ? เรื่องนี้ต้องการจะอธิบายให้ชัดเจน จะพูดแบบธรรมดาๆไม่ได้ ต้องพาพวกเขาออกไป ได้ ฉันกลับไปอธิบายกับพวกเขาให้ชัดเจน ทีแรกไม่พูด เป็นเพราะทุกคนไม่ได้มีเวลามากมายขนาดนั้นที่จะไปไขข้อข้องใจให้กับพวกเขาได้ ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว สามวันสามคืนพูดไม่ชัดเจน งั้นก็พูดสักสามเดือน ยังไงซะ ก็อีกสามเดือนถึงจะกลับไปได้”
หยวนชิงโจวได้ยินคำนี้ ก็ดีใจเป็นอย่างมากจริงๆ สามเดือน น้องสาวต้องอยู่ที่นี่สามเดือน ดีจริงๆ
คราวที่แล้วกลับมา สองสามวันที่เร่งรีบ กินข้าวมื้อหนึ่งก็แทบไม่ทัน ครั้งนี้สามารถอยู่ได้สามเดือน ถ้าเจ้าห้าอยู่ด้วย ก็สามารถจัดเรื่องแต่งงานได้แล้ว
น่าเสียดายที่ตอนนี้อุโมงค์เวลาไม่ได้ เจ้าห้ามาไม่ได้ เสียดายโอกาสที่ดีมากๆนี่จริงๆ
แต่ว่า เมื่อเขาคิดอีกที ก็รู้สึกว่าไม่สำคัญ รอหลังจากนั้นอีกสามเดือนอุโมงค์เวลาเปิดให้รถวิ่งผ่านแล้ว คิดจะกลับมานั่นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ทุกเวลาหรือ? สามเดือนนี้ก็จัดการไว้ก่อน เตรียมงานแต่งงานหนึ่ง สามเดือนจริงๆก็ไม่นับว่ามากมาย
เมื่อคิดถึงว่าบ้านของพวกเขากำลังจะมีงานมงคลที่ต้องทำ เท้าที่เหยียบคันเร่งของเขาก็ผ่อนคลายขึ้นทันที บินร่องรอยไปตลอดทาง มุ่งตรงไปยังโรงพยาบาล
โทรศัพท์หาคุณแม่ตลอดทาง ศาสตราจารย์สามีภรรยาก็รอไม่ไหวแล้ว ไปรอพบพวกเขาที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล เห็นลูกสาวยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างสมบูรณ์ไร้ปัญหา ศาสตราจารย์สามีภรรยาก็ตื่นเต้นมาก ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ค้างคาอยู่ในหัวใจ เวลานี้ได้ตกลงไปอย่างแท้จริงแล้ว
พูดคุยกันสักพัก หยวนชิงหลิงก็ไปที่ห้องผู้ป่วย
เธอตั้งใจไม่ให้ทุกคนไปเป็นเพื่อน แอบไปดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
ดังนั้น เมื่อถึงระเบียงทางเดินของห้องผู้ป่วย ตั้งใจไม่ผลักประตูเข้าไป แต่แอบมองผ่านหน้าต่าง เตียงของพวกเขาเชื่อมต่อกันอย่างแนบชิด เตียงผู้ป่วยสามเตียงต่อเข้าด้วยกัน ทั้งสามคนล้วนมองดูโทรทัศน์ ในโทรทัศน์กำลังออกอากาศมังกรหยก ละครวิทยายุทธการต่อสู้ดั้งเดิมของกิมย้ง กำลังฉายตอนที่เอี๊ยก้วยกำลังจะกระโดดลงไปหาท่านอา และก๊วยเซียงกำลังห้าม พวกเขาทั้งสามคนดูอย่างเคลิบเคลิ้ม โดยไม่ทันได้สังเกตว่าบนหน้าต่างมีใบหน้าคนผู้หนึ่งเกาะอยู่
“โอ๊ย สาวน้อย เจ้าอย่าไปห้ามเขาเลย เขาต้องรักษาสัญญา พูดไว้แล้วว่าอีกสิบหกปีให้หลังจะต้องพบกันเซียวเหล่งนึ่งไม่มา เจ้าก็ให้เขากระโดดลงไป เป็นตายเคียงข้างกัน นี่สิถึงจะเป็นลักษณะที่ผู้ชายควรจะมี” เซียวเหยากงร้อนใจมาก ตบขารัวๆ
“กระโดดแล้ว กระโดดแล้ว……” ไท่ซ่างหวงกล่าวด้วยความตะลึง “ไอ๊หยา สาวน้อยผู้นี้ก็กระโดดลงไปด้วย แม่นางโง่ผู้นี้ เอาชีวิตของตัวเองไปชดเชยด้วยทำไมล่ะ? ทำไมไม่คิดถึงท่านพ่อท่านแม่นะ ท่านพ่อท่านแม่ของนางจะต้องร้อนใจมาก?”
เขาร้อนใจจนส่ายศีรษะ เห็นว่าบนหน้าต่างมีคน ก็ไม่ได้สนใจนักแล้วหันหน้ากลับไป อย่างไรเสียไม่กี่วันนี้ แม่นางที่มาฉีดยาที่สวมชุดขาวเหล่านั้นก็มักจะดูอยู่ที่หน้าต่าง ไม่ค่อยกล้าเข้ามานัก
แต่หันกลับไปก็รู้สึกว่าผิดปกติ คนผู้นั้นคุ้นตาเป็นอย่างมาก
หันขวับกลับมาอีกทันที หยวนชิงหลิงก็เปิดประตูหน้าต่างแล้ว มองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มสดใสอยู่ด้านนอก