บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1410 รวยแล้ว
ศาสตราจารย์หยวนเป็นหมอมาหลายปี จิตใจมีเมตตาทักษะการรักษาล้ำเลิศ แม้ว่าจะรักษาบุคคลชั้นยอดของแต่ละสาขาอาชีพมาก่อน แม้กระทั่งมหาเศรษฐีระดับสูงที่สุด แต่ว่า เขาก็ไม่เคยรับอั่งเปา ไม่รับผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นคนฐานะไหน ถูกส่งมาอยู่ตรงต่อหน้าเขา ล้วนมีเพียงสถานะเดียว นั่นก็คือคนไข้
ทว่า ก็กลับคบหาสมาคมกับผู้คนมากมาย หนึ่งในนั้นมีคนผู้หนึ่งที่เพิ่งจะเพิ่มเข้ามาไม่นาน เป็นประธานของเครือข่ายหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เป็นศาสตราจารย์หยวนที่ผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจให้เขา หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ส่งเงินมาให้ศาสตราจารย์หยวนโดยตลอด ก็ถูกศาสตราจารย์หยวนปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมทั้งหมด
ชื่อเสียงของประธานท่านนี้ค่อนข้างใหญ่โต ไม่เพียงแค่เพราะบริษัทที่ทำจนใหญ่โต แต่เขาโด่งดังเรื่องการชอบเก็บสะสม เครื่องลายคราม เครื่องหยก เครื่องไม้ ภาพวาดที่มีชื่อเสียง เครื่องประดับอัญมณี และค่อนข้างชื่นชอบวัตถุโบราณโดยเฉพาะ
ศาสตราจารย์หยวนเองก็รู้ว่าเขามีงานอดิเรกเช่นนี้ ดังนั้น ตอนที่หยวนชิงหลิงให้เขาถามเขาว่ามีนักเก็บสะสมที่เชื่อถือได้หรือไม่ แวบแรกเขาก็นึกถึงประธานท่านนี้แล้ว ส่งข้อความวีแชทให้เขา นัดเขาออกมาพูดคุย บอกว่ามีสิ่งของไม่กี่ชิ้นจะเชิญให้เขามาดู หากว่าเหมาะสม ก็อยากจะขายทิ้ง
ประธานท่านนี้มาตามนัดด้วยความยินดี และเขาไม่ได้เชื่อว่าศาสตราจารย์หยวนจะเอาของสะสมอะไรออกมา เพียงแต่รู้สึกว่าก่อนหน้านี้อีกฝ่ายได้ปฏิเสธผลประโยชน์ของเขาอย่างอ้อมค้อม เพราะสำรวมไว้ ตอนนี้นัดออกมาเป็นการส่วนตัว กลัวว่าจะขู่เข็ญเอาผลประโยชน์โดยผ่านวิธีการนี้
เขาก็ไม่ได้สนใจเงิน เพียงคิดว่า อย่างน้อยชีวิตของตัวเองก็เป็นคนอื่นเขาเก็บกลับมา ควรตอบแทน ดังนั้น ก่อนที่เขาจะมาก็คิดไว้ดีแล้ว เพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้บอกเงื่อนไขมาสูง ที่เรียกว่าของสะสมเหล่านั้น ก็รับไว้แล้ว
ตระกูลหมอเก่าแก่ จะมีของสะสมอะไรได้? ในเมื่อซื้อไม่ได้ ก็รับไม่ได้
ศาสตราจารย์หยวนนัดเขาที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง เขามาพร้อมกับหยวนชิงหลิง หยวนชิงหลิงกลัวคุณพ่อซื่อตรงเกินไป จะถูกคนกดราคา ช่วงเวลาเหล่านั้นที่นางฝึกฝนอยู่ที่เป่ยถัง จิตใจก็ไม่ได้อ่อนเหมือนเมื่อก่อนเช่นนั้นแล้ว สามารถแยกแยะว่าใครเป็นพ่อค้าที่มีฐานะได้ ใครเป็นคนปลิ้นปล้อนได้
“ประธานหยู!”
“ศาสตราจารย์หยวน!”
ทั้งสองพบหน้า ก็พูดตามมารยาทรอบหนึ่ง ประธานหยูมองไปทางหยวนชิงหลิง แปลกใจเล็กน้อย เป็นผู้หญิงที่ช่างสวยงามนักเชียว “ท่านนี้คือ?”
“นี่คือลูกสาวของผม……ลูกสาวบุญธรรม ชื่อหยวนหลิง หลิงจื่อ ท่านนี้คือประธานหยู!” ศาสตราจารย์หยวนแนะนำด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“สวัสดีค่ะประธานหยู!” หยวนชิงหลิงยื่นมือออกไป จับมือทักทายกับประธานหยู
“สวัสดีครับคุณหยวน!” ประธานหยูจับมือของหยวนชิงหลิง
แม้ว่าหยวนชิงหลิงจะเห็นแววตาที่แพรวพราวเขา แต่กลับไม่เหมือนกับคนที่แต่งตัวงามจนเกินพอดีเหล่านั้น แค่ชมรูปลักษณ์ภายนอกของเธอไม่กี่คำ อีกทั้งเห็นว่าดูเที่ยงธรรม พ่อค้าผู้หนึ่งที่คลุกคลีกับการค้าสามารถมีแววตาที่เที่ยงธรรมเช่นนั้นได้ เห็นได้ว่าจิตใจบริสุทธิ์
ศาสตราจารย์หยวนก็ไม่ได้พูดอะไร เข้าประเด็นหลักตรงๆ “ลูกสาวบุญธรรมของผมมีของสะสมไม่กี่ชิ้น ระยะนี้ขาดแคลนเงิน รู้ว่าประธานหยูเชี่ยวชาญทางด้านนี้อย่างลึกซึ้ง จึงอยากเชิญประธานหยูวิเคราะห์แยกแยะดู หากว่าประธานหยูถูกใจ ก็ขายให้กับประธานหยูได้ หากว่าประธานหยูไม่ถูกใจ ก็เชิญประธานหยูประเมินราคา พวกเราค่อยเอาไปขาย ก็จะไม่ถึงขั้นถูกหลอกและเสียเปรียบ”
“ได้ ผมดูหน่อย!” ประธานหยูยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว
หยวนชิงหลิงเอาถุงออกมา วางไว้บนโต๊ะแล้วเปิดออก “ประธานหยู เชิญคุณดูค่ะ!”
ประธานหยูจึงดูแวบหนึ่ง และไม่ได้หยิบขึ้นมาพิจารณาดูอย่างละเอียดในมือ ก็เอ่ยถาม“ไม่ทราบว่าต้องการขายชิ้นไหนครับ? ไม่จำเป็นต้องเอาไปขาย ผมเอาครับ”
“คุณไม่ดูหน่อยหรือคะ?” หยวนชิงหลิงตะลึงทันที
ประธานหยูหัวเราะเล็กน้อย กระทั่งไม่ได้มองสิ่งของเหล่านั้นอีก “ไม่จำเป็นครับ ดูแวบเดียวก็พอแล้ว”
“คุณ……” ศาสตราจารย์หยวนมองดูเขา ในใจก็เข้าใจในพริบตาแล้ว “ประธานหยู คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ผมอยากขายจริงๆ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ถูกใจ จริงๆไม่จำเป็นต้อง……”
ประธานหยูกดมือไว้ ยิ้มแล้วกล่าว“ไม่ ศาสตราจารย์หยวน ผมอยากซื้อจริงๆครับ พูดตามความจริง ไม่ใช่ว่าผมอวดดี ตั้งแต่ที่ผมเก็บสะสมมา ไม่เคยมองพลาดสักครั้ง สิ่งของเหล่านี้ของพวกคุณ ผมมองเพียงแค่แวบเดียว ในใจก็ประเมินได้แล้ว ถูกใจแล้ว ก็ไม่ต้องดูให้มากมายแล้วครับ กีบม้าทองคำนี้ ความมันแววในสีเหลืองค่อนไปทางเขียว ความบริสุทธิ์ของทองคำอยู่ระหว่างเจ็ดสิบห้าถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ใช้เทคนิคการรีดเป็นเส้น สำหรับกล้องสูบบุหรี่หยกนั่น ก็สลักมังกรห้าเล็บเหมือนจริง ดุจดั่งเคลื่อนไหวได้จริง ไม่ต้องเอ่ยถึงสีของหยกแล้ว เพียงแค่งานฝีมือแบบนี้ การแกะสลักแบบนี้ ก็มูลค่ามหาศาลแล้ว กล้องสูบบุหรี่หยกโบราณที่สามารถรักษาไว้ได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้ หาได้ยากมากจริงๆ ส่วนอย่างอื่น ผมก็ไม่พูดมากแล้ว พวกคุณตัดสินใจจะขายชิ้นไหนครับ?”
หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม“งั้นหากว่าเป็นกีบม้าทองคำไม่กี่อันนี้ คุณดูแล้วเป็นเงินมูลค่าเท่าไหร่คะ?”
ประธานหยูรู้ว่าอีกฝ่ายอยากขายจริงๆ ไม่เพียงแค่ให้เขาประเมินราคาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ในสายตาจึงแสดงออกถึงตกตะลึงและดีใจออกมา กล่าวว่า“ความหมายของการเก็บสะสมกีบม้าทองคำ ยิ่งใหญ่กว่าตัวของทองคำเองมาก และกีบม้าทองคำเหล่านี้ล้วนสลักกิเลนไว้ทั้งหมด ในสมัยโบราณกีบม้าทองคำมีความหมายของความเป็นมงคล ตระกูลสูงศักดิ์มากมายใช้กีบม้าทองคำฝังไปพร้อมกับศพ ความหมายโดยนัยคือมีโชคลาภวาสนายาวนาน เก็บรักษาได้สมบูรณ์แบบนี้ พบเห็นได้ยากจริงๆ สมบัติล้ำค่าประเมินค่าไม่ได้ เป็นสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้เลยล่ะครับ ผู้ดูแลห้องเโลงศพของสุสานเจ้าพระยาไห่ฮุนแห่งหนานชาง เคยถูกค้นพบคู่หนึ่ง ราคาประมูลเริ่มต้นอยู่ที่ห้าสิบล้านต่อหนึ่งอัน ผมจะไม่ถามพวกคุณว่ามาจากไหน กีบม้าทองคำเหล่านี้ผมให้หกสิบล้านต่อกีบม้าทองคำหนึ่งอัน ไม่ทราบว่าพวกคุณต้องการขายกี่อันครับ?”
เมื่อสองพ่อลูกตระกูลหยวนได้ยินคำพูดนี้ ตกใจจนพูดไม่ออกอยู่นาน จ้องมองไปที่ประธานหยู
หกสิบล้านหนึ่งอัน? จริงจังหรือ?
“ศาสตราจารย์หยวนครับ?” ประธานหยูเห็นทั้งสองคนไม่พูดจา จึงเริ่มประหม่าเล็กน้อย “รู้สึกว่าให้น้อยไปใช่ไหมครับ? คุณเสนอราคาเองเลยครับ”
หยวนชิงหลิงรีบเอ่ยขึ้น“ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ พวกเราแค่ไม่คิดว่าจะสามารถขายได้เงินมากมายขนาดนี้”
ประธานหยูหัวเราะแล้วกล่าว“อันที่จริงหากว่าปล่อยออกไป ไม่ใช่แค่ราคานี้เท่านั้น ผมแค่อาศัยความชำนาญและการขายอย่างช่ำชอง กดราคาลงครับ”
หยวนชิงหลิงตัดสินใจแทนเซียวเหยากง ขายกีบม้าทองคำทั้งหมด ส่วนกล้องสูบบุหรี่และแหวนหยกนิ้วหัวแม่มือ ทั้งหมดล้วนไม่ได้ขาย ประธานหยูอยากได้กล้องสูบบุหรี่อันนั้นเป็นอย่างมาก เพราะว่ามังกรทองที่สลักบนกล้องสูบบุหรี่นั่น ใช้วิธีเทกรอกทองไปด้านบน และฝีมือประณีตเป็นที่สุด หาได้ยากเป็นอย่างมากเชียวล่ะ
แต่หยวนชิงหลิงไม่ยอมขายแล้ว ทองคำสามารถจัดการทุกอย่างได้ ก็ไม่ต้องขายสิ่งของอย่างอื่นอีก
ขณะที่สองพ่อลูกออกจากร้านกาแฟ ขาสองข้างล้วนมีความรู้สึกสั่นเทา แม้ว่าจะไม่ใช่คนโลภ แต่มีลาภลอยตกมาจากฟ้าอย่างกะทันหัน ก็ยังทำให้สองพ่อลูกดึงสติกลับมาไม่ได้ในตอนนี้
ขึ้นรถแล้ว ศาสตราจารย์หยวนกุมพวงมาลัย กลับสั่นเทาเล็กน้อย กล่าวพึมพำ“นี่ลูก กีบม้าทองคำไม่กี่อันนั้นมีค่าขนาดนี้ พวกเราขายไปแล้ว จะไม่ละอายใจต่อเซียวเหยากงได้อย่างไรล่ะ?”
“ไม่เป็นไร หนูกลับไปจะคืนให้เขา” หัวใจของหยวนชิงหลิงยังคงเต้นเร็วขึ้น กีบม้าทองคำเก้าอัน สี่ร้อยห้าสิบล้านนะ และประธานหยูก็บอกให้คนโอนเงินตรงนั้นทันที สี่ร้อยห้าสิบล้าน เพียงแค่มองจากเลขศูนย์เหล่านั้น สองพ่อลูกก็ตาพร่ามัวไปหมดแล้ว ถือโทรศัพท์ไว้แล้วนับอยู่เงียบๆหลายรอบ
“เงินเหล่านี้ ซื้อบ้านแล้วก็ยังเหลืออีกมากมายเชียวล่ะ จะคืนให้เซียวเหยากงอย่างไร? เขาก็ไม่สามารถเปิดบัญชีที่นี่ได้ด้วย” ศาสตราจารย์หยวนเกิดปัญหากลุ้มใจใหม่ขึ้นมาอีกในทันที
หยวนชิงหลิงยิ้มแล้วเอ่ย“ไม่เป็นไร เงินเหล่านี้ก็เอาไว้ที่คุณพ่อตรงนี้ก่อน หลังจากซื้อบ้านแล้ว ค่อยซื้อรถสักคันหนึ่งในนามของพ่อ ในสามเดือนนี้หนูจะพาพวกเขาไปท่องเที่ยวสำมะเลเทเมาทุกหนทุกแห่ง”
แต่เรื่องเร่งด่วนที่สุดที่ต้องจัดการตอนนี้ คือต้องช่วยพวกเขาทั้งสามสร้างตัวตน หยวนชิงหลิงรู้ว่ามีคนผู้หนึ่งสามารถช่วยนางได้ นั่นก็คือลู่หยาง