บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1413 การศึกษาของพวกเขา
หลังจากที่กำหนดรูปแบบของชุดแต่งงานได้แล้ว จึงไปซื้อของ
เดินเตร่อยู่ทั้งวัน ขาแทบจะหักแล้ว ก็นับว่าได้ซื้อของส่วนใหญ่ไปแล้ว บางส่วนที่เหลือ ฟางหวูใช้การสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตแล้ว ที่ใช้ซื้อส่วนใหญ่ก็คือภายในเมือง วันสองวันก็ถึงแล้ว
เซียวเหยากงถอดเฝือกออกก่อน โดยพื้นฐานไม่เป็นไรแล้ว สามารถเดินได้วิ่งได้
ส่วนไท่ซ่างหวงไม่ได้เป็นอะไรตั้งนานแล้ว เพียงแค่อยู่เป็นคนติดสอยห้อยตามในโรงพยาบาลเท่านั้น ไม่ยอมไป
หลังจากที่หยวนชิงโจวตรวจร่างกายให้โสวฝู่แล้ว ก็มั่นใจว่าสามารถออกจากโรงพยาบาลกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ แต่ไม่สามารถทำอะไรที่กระทบกระเทือนหรือออกกำลังกายอย่างหนักได้ชั่วคราว กำชับหยวนชิงหลิงว่าให้ระมัดระวังดูให้ดี
หลังจากทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทางตำรวจก็แจ้งว่าหาคนขับรถที่ก่อเหตุพบแล้ว หยวนชิงหลิงออกหน้าไกล่เกลี่ย ไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลจากพวกเขา เพราะว่า พี่ชายของหยวนชิงหลิงบอกว่าพวกเขาเคยมาโรงพยาบาลจริงๆ และมาแล้วหลายครั้ง ก็แอบมองข้างนอก ไม่กล้าเข้าไป ยากจนเป็นที่สุดจริงๆ จ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่ได้จึงได้หลบขึ้นมา
ในวันที่ออกจากโรงพยาบาล พี่ชายของหยวนชิงหลิงขับรถมารับ หยวนชิงหลิงช่วยพวกเขาเก็บข้าวของเสร็จก็มุ่งตรงไปที่ลานจอดรถ
แม้ว่าตอนที่พวกเขาเข้าโรงพยาบาลก็นั่งรถพยาบาลมา แต่ตอนนั้นได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่ได้สนใจมากมายนัก แล้วแม้ว่าตอนนั้นโสวฝู่จะมีความอยากรู้อยากเห็นต่อรถยนต์ แต่ในใจมีความกังวลว่าเพื่อนรักจะเดินหายไป ก็ไม่ได้จับตาดู
วันนั้นพวกเขานั่งอยู่ในสวนของโรงพยาบาล มองไปยังรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านนอก ก็รู้สึกแปลกประหลาดใจเป็นที่สุด แต่เวลานั้นพระชายารัชทายาทพูดในสิ่งที่แปลกมากยิ่งกว่า ไม่ทันได้สนใจเรื่องรถ
ครั้งนี้ จิตใจผ่อนคลายเป็นที่สุด จึงได้เริ่มทำการศึกษารถยนต์อย่างล้ำลึกแล้ว
พวกเขาสามคนเบียดกันอยู่ที่นั่งแถวหลัง เซียวเหยากงชะโงกหน้าไปถามหยวนชิงโจว “หลานชายคนโต รถคันนี้ ข้าเห็นว่าไม่มีคนลากรถ แล้วมันเคลื่อนไหวได้อย่างไร?”
หยวนชิงโจวยิ้มแล้วกล่าว“ท่านปู่ รถคันนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนหรือแรงม้ามาลาก มันมีฟาต้งจีอยู่ครับ”
(ฟาต้งจีหมายความว่าเครื่องยนต์ ที่จีนออกเสียงเป็นฟาต้งจี จีนั้นออกเสียงเหมือนไก่)
“ฟาต้งจีไก่ขับเคลื่อน? ไม่เคยได้ยินไก่ชนิดนี้มาก่อน!” ไก่อะไรเก่งกาจเพียงนี้ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถลากรถได้
สามผู้ยิ่งใหญ่มองดูภายในรถ แล้วมองไปด้านนอกรถอีก ก็เคลื่อนตัวขึ้นมาเช่นนี้แล้ว แต่ก็ไม่เห็นไก่อะไร
ไท่ซ่างหวงเอ่ยถาม“ฟาต้งจีไก่ขับเคลื่อนนั่นอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ด้านล่างกระโปรงรถครับ” หยวนชิงโจวจับพวงมาลัยมือหนึ่ง มือหนึ่งชี้ไปที่กระโปรงรถเล็กน้อย ชะงักครู่หนึ่ง กล่าว“ประเดี๋ยวจัดที่พักเรียบร้อยแล้ว ผมค่อยอธิบายกับพวกท่าน”
ไท่ซ่างหวงกล่าว“ไม่ต้อง ไม่ต้อง พวกเราเข้าใจ” เขาชำเลืองมองโสวฝู่ มีสีหน้าที่กระตือรือร้น “พวกเราเข้าใจ ใช่หรือไม่?”
โสวฝู่ลังเลอยู่ชั่วครู่ เขาไม่ได้เข้าใจเรื่องไก่มาก แต่ว่า ก็ไม่น่าเข้าใจยาก อย่างไรเสียปัญหาที่ซับซ้อนเช่นนั้นเขาก็ทำจนเข้าใจแล้ว จึงพยักหน้า “อืม เข้าใจ!”
ไท่ซ่างหวงจึงมีความมั่นใจขึ้นมาอย่างฉับพลัน “ไม่ใช่แค่เรื่องไก่หรอกหรือ? พวกเราสามารถทำให้เข้าใจได้”
หยวนชิงหลิงกำลังดูโทรศัพท์สั่งอาหารเดลิเวอรี่ ขณะที่พวกเขากลับไปยังไม่ถึงเวลากินข้าว ก็จัดการของกินนิดหน่อยให้พวกเขาก่อน รองท้อง ก็ไม่ได้สนใจการสนทนาของพวกเขามากนัก ได้ยินแค่ประโยคสุดท้ายที่ไท่ซ่างหวงกล่าว จึงเอ่ยถาม“อยากกินไก่หรือ? งั้นได้ คืนนี้ข้าบอกให้คุณแม่เอาไก่กลับมาตัวหนึ่งด้วยเสียเลย”
“ท่านแม่ของท่านก็เป็นหมอด้วยหรือ?” เซียวเหยากงถาม
“ใช่ นางก็เป็นหมอเหมือนกัน และก็ต้องทำงาน” หยวนชิงหลิงวางโทรศัพท์ลง หันกลับไปพูดกับพวกเขา “จริงๆแล้วผู้หญิงที่นี่ส่วนใหญ่ล้วนมีหน้าที่การงานของตัวเอง หลายคนไม่ได้พึ่งพาอาศัยผู้ชายเพื่อเลี้ยงชีพ อีกทั้ง ผู้หญิงหลายคนในแต่สาขาวิชาชีพ ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นที่สุด ไม่ได้แย่ไปกว่าผู้ชาย กระทั่งมีบางประเทศ ก็มีผู้หญิงเป็นผู้นำ”
“ฮ่องเต้ผู้หญิงหรือ?” เซียวเหยากงเบิกตาโพลง
หยวนชิงหลิงหัวเราะ “เอ่อ……หากจะพูดว่ากษัตรี ก็มี”
“เช่นนั้น……ผู้ชายจะเห็นด้วยหรือ?” โสวฝู่กล่าวถาม
หยวนชิงหลิงกล่าว“ผู้ที่มีความสามารถถึงจะได้อยู่ตำแหน่งนี้ไงล่ะ”
โสวฝู่พยักหน้า “ถูก ผู้หญิงก็มีคนที่มีความสามารถ เช่นฮองเฮาผู้ก่อตั้งแคว้นของเป่ยถังเรา นั่นก็คือค้ำยันฟ้าไว้ครึ่งซีก”
“อาจารย์ของข้าก็เก่งกาจนะ” เซียวเหยากงเอ่ยถึงโล่หมันอาจารย์ของตัวเองด้วยความภูมิใจ
ตลอดทางกลับ หยวนชิงหลิงก็อธิบายเรื่องของโลกใบนี้ให้พวกเขาฟังเล็กน้อย ยังไงซะวันหนึ่งก็พูดสักหน่อย ก็ย่อมจะค่อยๆเข้าใจได้
กลับไปถึงลานจอดรถ เอาของลงจากรถเรียบร้อย เข้าลิฟต์กลับบ้าน
สำหรับลิฟต์ ตอนนี้พวกเขาไม่ได้รู้สึกอยากรู้อยากเห็นแล้ว ยังไงก็เคยขึ้นแล้ว และอธิบายมาก่อน ใช้ไฟฟ้า เช่นเดียวกับโทรทัศน์
มาถึงบ้าน ห้องสามห้องต่างคนต่างแบ่งกันเรียบร้อย สำหรับทุกอย่างในบ้านประหลาดใจก่อนรอบหนึ่งก่อน และค่อยๆขบคิด
เมื่ออาหารเดลิเวอรี่มาถึง ที่สั่งมาเป็นเค้กและขนมกินเล่น ของหวานเลี่ยนเดิมทีพวกเขาก็ไม่ค่อยชอบกิน แต่เค้กของสิ่งนี้ พวกเขาก็ยังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย หอมหวานเป็นอย่างมาก
รอจนพวกเขากินเสร็จ หยวนชิงหลิงให้พวกเขานอนก่อนหนึ่งชั่วโมง หลังจากหนึ่งชั่วโมงนางก็เข้ามาพาพวกเขาออกไปเดินเล่น
หยวนชิงหลิงเปิดประตูออกไป ขณะที่กำลังจะปิดประตู เซียวเหยากงก็ถามขึ้นว่า“ลิฟต์นั่น ก็คือต้องกดปุ่มลงไปอันนั้น จากนั้นไปชั้นไหนก็กดชั้นนั้น ถูกหรือไม่? หากต้องการลงไปที่ลานจอดรถล่ะ? ลานจอดรถคือชั้นไหน?”
“ลบหนึ่ง!” หยวนชิงหลิงเอ่ยถาม “พวกท่านต้องการจะไปที่ลานจอดรถหรือ?”
“ไม่ใช่ แค่ถามดู!” เซียวเหยากงมีการหลบสายตาเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงกล่าว“พวกท่านอย่าวิ่งไปมั่วซั่ว นอนก่อนครู่หนึ่ง รอให้นอนเสร็จแล้วข้าจะมาหาพวกท่าน ข้าก็อยู่ตรงข้าม พวกท่านมีปัญหาก็สามารถมาเคาะประตูได้”
“ได้ ได้เลย!” เซียวเหยากงยกมือขึ้น “ท่านรีบกลับไป พวกเราต้องการจะนอนแล้ว!”
หยวนชิงหลิงกำชับอีกครั้ง “อย่าวิ่งไปไหนมั่วซั่วล่ะ!”
“ได้แล้ว พูดมากไปหน่อยแล้ว!” ไท่ซ่างหวงที่อยู่ในห้องกล่าวขึ้น
หยวนชิงหลิงยิ้มพลางส่ายหน้า เอาเถอะ อย่างไรเสียก็เป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย คงไม่ถึงขั้นวิ่งเพ่นพ่านหรอก
นางเปิดประตูแล้วกลับไป ก็รู้สึกง่วงนอนเล็กน้อยแล้ว จึงเข้าห้องและนอนลง
สามผู้ยิ่งใหญ่หลังจากที่หยวนชิงหลิงจากไปแล้วก็สบตากันแวบหนึ่ง ไท่ซ่างหวงกล่าว“ไก่ตัวนั้น พวกเราต้องหาออกมาสินะ? ต้องเห็นว่าลักษณะเป็นอย่างไร”
โสวฝู่พยักหน้า “ได้ พวกเราหาออกมา ชนิดของไก่ แม้จะบอกว่าข้าจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ได้พบเห็นมามาก เพียงแค่ไม่เคยเห็นไก่ที่สามารถลากรถคันหนึ่งได้มาก่อน บางทีหาออกมาดู ข้าก็จะเข้าใจแล้ว จำเป็นต้องทำให้เข้าใจ ไม่เช่นนั้นครั้งหน้าที่คนอื่นเขาพูด พวกเรายังไม่รู้ก็น่าอายแล้ว มีบางครั้งข้าเห็นพระชายารัชทายาทพูดเรื่องนี้เรื่องนั้นกับพวกเราตลอด พูดจนเหนื่อยจริงๆ พวกเราก็ต้องเรียนรู้เองสักหน่อย อย่าทำให้นางลำบากขนาดนั้น อย่างอื่นไม่ได้ เรื่องไก่พวกเราคงสามารถทำให้เข้าใจได้สินะ?”
“ดี เช่นนั้นพวกเราลงไปกันเถอะ!” ไท่ซ่างหวงดึงเปิดประตู ชำเลืองมองด้านนอกเล็กน้อย “ได้ ไม่มีคน ออกมาเถอะ”
หลังจากที่ทั้งสามออกไปก็ปิดประตู เซียวเหยากงไปกดลิฟต์ ตรงลงไปที่ชั้นลบหนึ่งไปหารถของหยวนชิงโจว
พวกเขาเดินวนรอบรถสองสามรอบ เซียวเหยากงฟุบลงบนฝากระโปรงรถ “กุ๊กกุ๊ก กุ๊กกุ๊ก กุ๊กกุ๊ก กุ๊กกุ๊ก……ไม่มีการตอบสนอง”
“เจ้าหลบไป ให้ข้าเปิดดู!” ไท่ซ่างหวงยื่นมือไปดึงเขา
เซียวเหยากงกดมือไว้ “ไม่ต้องให้ท่าน ข้าทำ ให้ข้าเปิดออกดู”
เขาวางมือทั้งสองไปที่ขอบฝากระโปรงหน้ารถเมื่อกดและงัด ก็ยกขึ้นด้วยความโชคดี ฝากระโปรงหน้ารถทั้งอันก็ถูกเปิดออกแล้ว เขาวางลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ทั้งสามเคลื่อนหน้าเข้าใกล้ไปดู “ไก่ไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะ”
“บางทีอาจจะอยู่ที่อื่น? หลีกไป ข้าจะหักอีกครั้ง!” เซียวเหยากงกล่าวขึ้น
ที่เหลืออีกสองคนก็เข้าร่วม พยายามหักอยู่ครู่หนึ่ง รถถูกแบ่งแยกเป็นสี่ชิ้นห้าชิ้นวางไว้บนพื้นทีละชิ้น แต่ก็ยังหาไม่ได้ว่าไก่อยู่ที่ไหน
โสวฝู่ขมวดคิ้ว“ทำไมไม่มีล่ะ? เรื่องนี้ไม่ง่ายที่จะทำให้เข้าใจจริงๆ หรือพวกเราจะเข้าใจผิดไป? บางทีอาจจะไม่ใช่ไก่ หากว่าเข้าใจผิดไปแล้ว เช่นนั้นก็ขายหน้ายกใหญ่แล้ว!”
ไท่ซ่างหวงสีหน้าเคร่งขรึม “รีบไป กลับไปนอน แล้วก็ทำเป็นว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อน”