บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1416 ซื้อรถดูหนัง
หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว ฟางหวูโทรศัพท์หาหยวนชิงหลิง บอกว่าลู่หยางทางนั้นช่วยพวกเขาเอาบัตรประชาชนชั่วคราวมาได้แล้ว
มีบัตรประชาชนชั่วคราว ก็สามารถไปสถานที่ท่องเที่ยว ไปนั่งรถนั่งเครื่องบิน ไปเที่ยวเล่นทุกที่ได้หน่อย
เพราะว่าอาการในตอนนี้ของโสวฝู่ยังไม่เหมาะจะไปสถานที่ที่ไกลเกินไป การเดินทางบากบั่น จะค่อนข้างลำบาก ดังนั้นนางจึงวางแผนการเดินทางไปบริเวณรอบๆ
ลำดับแรก พาพวกเขาไปที่หอท้องฟ้าจำลองก่อน
ต้องทำให้พวกเขาเข้าใจแนวความคิดของจักรวาลและอวกาศอย่างเต็มที่ ไปหอท้องฟ้าจำลองรอบหนึ่ง มีความจำเป็นอย่างมากจริงๆ นางสอบถามรู้ว่าในตอนกลางคืนมีการสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้า เปิดให้ใช้กล้องโทรทรรศน์ดูดาว ช่วงกลางวันไปเยี่ยมชมก่อน จากนั้นไปกินข้าวละแวกใกล้ๆ รอจนแปดโมงให้กล้องโทรทรรศน์เปิด แล้วพาพวกเขาไปดูปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
เป่ยถังนี้ก็มีสำนักดาราศาสตร์ หวางเจียงก็ทำการศึกษาทางด้านนี้ สังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้าในตอนกลางคืนด้วยตาเปล่า ย่อมสู้การใช้กล้องโทรทรรศน์ไม่ได้
ทว่า สามผู้ยิ่งใหญ่ได้ยินว่าจะไปสังเกตปรากฏการณ์บนท้องฟ้าในตอนกลางคืน ก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่มีความสนใจออกมา
เพียงแค่เห็นพระชายารัชทายาทจัดการด้วยความยากลำบากรอบหนึ่ง ไม่ไปก็เหมือนไม่ไว้หน้า จึงตอบรับไว้ว่าจะไปสักครั้ง ก็ถือว่าเป็นการตอบรับและขอบคุณนาง
แต่หลังจากนั้นได้ยินว่าต้องไปวันหนึ่ง เกือบถึงเที่ยงคืนจึงจะกลับมา ก็รู้สึกว่าบุญคุณมากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถบังคับให้คนอื่นเงยหน้ามองดูท้องฟ้าได้ทั้งวันได้หรอกนะ
เซียวเหยากงผลักไท่ซ่างหวงไปปฏิเสธ ไท่ซ่างหวงลูบจมูกแล้วเดินไปด้านหน้า “เอ่อ……ไปทั้งวันเลยน่ะหรือ? วันนี้เจ้าไม่มีธุระต้องทำหรือ? จะทำให้ธุระของเจ้าล่าช้าเกินไปหรือไม่?”
หยวนชิงหลิงจัดการเรียบร้อย กล่าว“วางใจเถอะเพคะ วันนี้ไม่มีธุระอะไร เดิมทีจะต้องไปเป็นเพื่อนพี่ชาย……ซื้อของเล็กน้อย แต่ข้าบอกให้ฟางหวูไปเป็นเพื่อนเขาแล้ว วันนี้ข้าจะเดินทางไปกับพวกท่านโดยเฉพาะ”
“เช่นนั้นพวกเราไปซื้อของเป็นเพื่อนพี่ชายของเจ้ากันเถอะ ซื้อของเสร็จแล้วพวกเราค่อยไปดูท้องฟ้า” เซียวเหยากงรีบเข้ามาพูด
“นี่…….” หยวนชิงหลิงลังเลครู่หนึ่ง คิดว่าตอนกลางวันไม่ไปก็ช่างเถอะ ตอนค่ำค่อยไปดูกล้องกล้องโทรทรรศน์ “งั้นก็ได้”
นางยอมรับว่าตัวเองมีความอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย อยากดูซิว่าเมื่อพวกเขารู้ว่าพี่ชายไปซื้อรถจะมีสีหน้าท่าทางยังไง จะละอายใจหรือไม่
ดังนั้น หลังจากที่นางโทรหาพี่ชายแล้ว จึงกล่าวกับทั้งสามผู้ยิ่งใหญ่“วันนี้สถานที่ที่พวกเราต้องการไป คือบริษัทขายรถยนต์ พวกเราต้องซื้อรถคันหนึ่ง เมื่อวานไม่รู้ว่ารถของพี่ชายเกิดอะไรขึ้นถูกคนรื้อถอดแล้ว”
โสวฝู่ก้มหน้ามองดูโทรศัพท์ทันที ไท่ซ่างหวงและเซียวเหยากงมีสีหน้าประหลาดใจ ท่าทางเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นสูตรที่คุ้นเคยจริงๆ
ไท่ซ่างหวงถามด้วยความเป็นห่วง“จะถูกคนรื้อออกได้อย่างไร? แต่ว่า……พูดขึ้นมา รถคันนี้ไม่ทนต่อการใช้งานรึ หลังจากถอดรื้อแล้วไม่สามารถติดตั้งเข้าไปแล้วใช้ต่อได้หรือ?”
หยวนชิงหลิงมองดูเขาแล้วเอ่ย“รื้อจนเป็นแบบนั้น ซ่อมก็ลำบาก ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องใช้รถ รถเรียกให้คนลากไปที่อู่แล้วเพคะ ซ่อมได้ก็ซ่อม ถ้าซ่อมไม่ได้ก็ต้องเป็นเพียงของชำรุดแล้วเพคะ”
ไท่ซ่างหวงอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง “เช่นนี้หรือ สู้รถม้าของพวกเราก็ไม่ได้ รถม้าของพวกเราแม้ว่าจะรื้อเป็นเจ็ดแปดชิ้น ก็ยังสามารถซ่อมได้ เข้าเดือยหรือว่าตอกตะปู ใช้เวลาครึ่งวันก็ซ่อมเสร็จแล้ว”
หยวนชิงหลิงหัวเราะแล้วกล่าว“ถ้าไม่เช่นนั้นบอกให้คนสร้างรถม้าให้ท่านสักคันไหมล่ะเพคะ?”
เมื่อนึกได้ว่าบ้านก็มีแค่นั้น ไท่ซ่างหวงก็ล้มเลิกแล้ว ไม่มีสถานที่จะจัดให้อยู่
ฐานะทางเศรษฐกิจทางครอบครัวของหลานสะใภ้ไม่ค่อยดีนัก
เดิมทีหยวนชิงหลิงคิดว่ามาถึงบริษัทขายรถยนต์แล้ว จะมากจะน้อยก็จะเห็นสีหน้าความละอายใจของไท่ซ่างหวงพวกเขา แต่นางคาดการณ์ผิดแล้ว คนอื่นเขามีเพียงสีหน้าของความประหลาดใจ ลูบทางนู้นที คลำทางนี้ที ทั้งยังแสร้งทำเป็นเจรจาราคากับคนขายอย่างจริงจังอีก
เซียวเหยากงเจรจาเรื่องราคาล้วนมีความมั่นใจเล็กน้อย ถามคนอื่นเขาว่า “รถคันนี้ ต้องใช้กีบม้าทองคำกี่อันหรือ?”
คนขายงุนงงเล็กน้อย หยวนชิงหลิงได้ยินคำนี้ รีบเข้ามาดึงออกไป ให้พี่ชายไปเจรจาเรื่องราคา
ในไม่ช้ารถก็กำหนดออกมาได้ มีรถอยู่ แต่ต้องรอขึ้นป้ายประกันทุกอย่าง ยังจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์กว่า ซื้อAlphard สะดวกในการเดินทาง
แต่ในหนึ่งอาทิตย์นี้ ก็ต้องขอยืมรถคนอื่น ลู่หยางจัดการหารถตู้ให้เขาคันหนึ่ง ให้เขาขับก่อน เช่นนั้นคืนนี้ไปหอท้องฟ้าจำลอง ก็ไม่ต้องเรียกรถแล้ว
เดินเล่นในบริษัทขายรถจนเหนื่อย ก็ไม่กลับไปทำอาหารแล้ว หาร้านอาหารด้านนอกร้านหนึ่ง กินข้าวในห้องที่จองไว้เป็นการส่วนตัวมื้อหนึ่ง
ทั้งสามผู้ยิ่งใหญ่เพราะว่าหิวแล้ว จึงกินอย่างดุดัน พูดอยู่ตลอดว่ารสชาติอาหารจืดไปหน่อย แต่ก็ยัดเข้าท้องไปไม่น้อย
หยวนชิงหลิงตั้งใจสั่งอาหารที่รสชาติจืดชืด กลัวว่าพวกเขาจะไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศอาหารการกิน อีกทั้งหลังจากที่หายป่วยแล้ว กินอาหารจืดหน่อยก็ดี
หลังจากกินข้าวแล้ว เห็นว่าเวลายังเช้าอยู่ หยวนชิงโจวจึงเสนอว่าไปดูหนังกันสักเรื่องหนึ่ง ฆ่าเวลาสองชั่วโมง
หยวนชิงหลิงถามพวกเขา “ดูละครใหญ่หรือไม่?”
สามผู้ยิ่งใหญ่ก็ชื่นชอบการดูละครใหญ่ โดยเฉพาะเซียวเหยากง มักจะไปดูละครในโรงละครละแวกใกล้ๆเสมอ กิจกรรมผ่อนคลายอารมณ์ฆ่าเวลาในสมัยโบราณมีไม่มากนัก การดูละครถือว่าเป็นระดับค่อนข้างสูง
หยวนชิงโจวเลือกภาพยนตร์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งยังเลือกห้องดูหนังด้วย เลือกโรงภาพยนตร์ก็เลือกที่ค่อนข้างห่างไกลหน่อย ไม่ได้มีคนมากมาย รอบการฉายภาพยนตร์รอบหนึ่ง ไม่มีใครจองตั๋วในขณะนี้ หยวนชิงโจวจึงเลือกจองรอบการฉายภาพยนตร์รอบนี้แล้ว
“ภาพยนตร์เรื่องอะไร?” หยวนชิงหลิงเดินเข้ามาถาม
“หนังแฟนตาซีวันสิ้นโลก เหมาะสมรึเปล่า?” หยวนชิงโจวเอ่ยถาม
“ก็ได้ ยังไงซะตอนกลางคืนพาพวกเขาไปหอท้องฟ้าจำลอง ก็อุ่นเครื่องล่วงหน้าสักหน่อยละกัน มีเค้าเรื่องพวกเราก็อธิบายได้ง่ายไงล่ะคะ” หยวนชิงหลิงกล่าว
“ได้ ไปตอนนี้ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เวลาเริ่มยังมีเวลาอีกสี่สิบนาที งั้นพวกเราไปกันเถอะ” หยวนชิงโจวกล่าว
สามผู้ยิ่งใหญ่ยังคงค่อนข้างดีใจ เพราะว่าอย่างอื่นไม่ถนัด ดูละครก็ยังมีประสบการณ์อยู่
ถึงโรงภาพยนตร์ ผู้คนนับว่าไม่ได้เยอะมาก เห็นได้ว่าหยวนชิงโจวเลือกได้ดี หยวนชิงหลิงซื้อป๊อปคอร์นและน้ำอัดลม อีกสิบห้าถึงจะเริ่มฉาย ก็นั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างรอตรวจบัตร
ไท่ซ่างหวงจ้องมองชายหนุ่มในเขตสูบบุหรี่ที่อยู่ด้านข้างมาโดยตลอด เห็นเขาสูบสิ่งของบางอย่าง ควันลอยคละคลุ้ง อาการอยากสูบบุหรี่ของเขาก็กำเริบทันที ถามหยวนชิงโจวเบาๆ “เขาสูบบุหรี่หรือ?”
“ใช่ครับ!”
“บุหรี่อันนี้ ก็ยังค่อนข้างแปลกใหม่ สามารถทำให้พวกเราสักม้วนได้หรือไม่? หรือทำเป็นยาเส้นก็ได้ ข้ามีกล้องสูบบุหรี่!” ไท่ซ่างหวงกล่าว
หยวนชิงโจวมองไปที่หยวนชิงหลิง ด้วยแววตาที่มีการไถ่ถาม
หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ซื้อให้เขาเถอะ ไม่เช่นนั้นเข้าไปแล้ว เขาจะต้องคิดถึงอยู่ตลอด”
หยวนชิงโจวกล่าว“งั้นได้ ในนี้ไม่มีบุหรี่ขาย ฉันลงไปซื้อละกัน”
“รีบหน่อย จะเริ่มแล้ว” หยวนชิงหลิงกล่าว
หยวนชิงโจวรีบจากทันที ไท่ซ่างหวงมองดูเขา กล่าวอย่างปลื้มใจ“พี่ชายของเจ้าไม่เลว”
หยวนชิงหลิงหัวเราะแล้วกล่าว“ก็เพราะซื้อบุหรี่ให้ท่านหรือเพคะ?”
“รู้จักเอาใจคนแก่ เป็นเด็กที่รู้จักกตัญญู รอเวลาที่เขาไปหาพวกเราทางนั้นเมื่อไหร่ ข้าจะมอบทองให้เขา”
เขารู้ว่าคนที่นี่ชอบทอง และบังเอิญ เขามี มากมายเยอะแยะ
หยวนชิงหลิงหัวเราะจนไม่ไหว หันกลับไปมองโสวฝู่และเซียวเหยากง พวกเขาดูโปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์ ดูจนสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
หยวนชิงโจวซื้อบุหรี่ขึ้นมา พาไท่ซ่างหวงเข้าไปในเขตสูบบุหรี่ จุดให้เขาด้วยตัวเองม้วนหนึ่ง ไท่ซ่างหวงสูบเข้าไปทีหนึ่ง สีหน้าที่พึงพอใจนั่น ก็เหมือนกับเด็กที่ได้กินลูกอม
เพียงแต่ว่า หลังจากที่สูบเสร็จไปหนึ่งม้วน ก็เซไปเซมาแล้ว พูดว่ามึนหัวไม่หยุด แต่ก็ยังยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นชื่นชมไม่หยุดปาก “แรงพอควร แรงพอควร!”
“นานๆทีม้วนหนึ่ง นานๆทีม้วนหนึ่ง!” ไท่ซ่างหวงดื่มน้ำอึกหนึ่ง ท่าทางแบบเข้าลู่เข้าทาง