บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1440 สวีอีใส่ฟันเทียม
พาสวีอีไปใส่ฟันเทียม เรื่องนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าเป็นเรื่องยาก
ก่อนอื่น ต้องพูดกล่อมให้เขายอมไป ตอนนี้สวีอีต่อต้านสิ่งใหม่ๆ ในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ต่อให้หยวนชิงหลิงบอกเขาว่า หลังจากใส่ฟันเทียมแล้วเวลาพูดจะไม่รั่วอีก ต่อไปถังกั่วเอ๋อก็จะได้เห็นพ่อที่มีฟันครบถ้วน เขาก็ยังไม่อยากไป
“เคยชินแล้ว อีกอย่าง ต่อให้ฟันหลอ ข้าก็ยังเป็นพ่อของนาง นี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” สวีอีพูดขึ้น
“เจ้ามองโลกสวยหน่อยได้ไหม? ใครไม่อยากดูดีบ้าง?”
“ดูดีมีประโยชน์อะไร? แค่นอกกาย จิตใจข้าดี ข้ามีบุคลิกดี”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนต่างหันมามอง ต่างจ้องมองดูเขา มั่นใจว่าบุคลิก สวีอีไม่มี โดยเฉพาะฟันที่หลอ เป็นประสบการณ์แบบไหนที่การอาเจียนแล้วล้วนติดอยู่ในฟัน? นึกภาพไม่ออก ที่ติดยังไม่ใช่ตรงฟันที่เปิด
หยวนชิงโจวก็นั่งลงพูดโน้มน้าวเขา นอกจากดูดีแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ฟันซี่อื่นเคลื่อนตัวหลวม ยังไงการใส่รากฟันเทียมก็มีประโยชน์ พูดกับเขาทุกอย่างแล้ว ถึงกับบอกว่าหาหมอไว้ให้เขาแล้ว เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรม เกลี้ยกล่อมชั่วโมงกว่า เขาพูดเพียงประโยคเดียว ข้าเคยชินแล้ว ข้าไม่ทำอะไรทั้งนั้น ใครก็ห้ามคิดแตะต้องฟันของข้า
สุดท้ายหยู่เหวินเห้าฟังจนหงุดหงิด พูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “จะต้องไป รีบไปทันที นี่คือคำสั่ง”
อยู่ดีๆสวีอีก็ร้องไห้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่”
ทุกคนต่างเงียบ แต่ก็ค่อยโล่งอก แต่หากใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่จำเป็นต้องเสียน้ำลายเยอะขนาดนี้ พูดจนน้ำลายแห้งก็ยังไม่ยอม เหมือนดั่งลาดื้อไม่ยอมไม้อ่อนกลัวไม้แข็ง
หลังจากหยวนชิงโจวอึ้งไปสักพัก แล้วก็มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าว่าตัวเจ้าขี้ขลาดไหม?”
สวีอีหันไปมองหยวนชิงหลิงอย่างน่าสงสาร พร้อมพูดขึ้นว่า “พระชายารัชทายาท การใส่รากเทียมนี้ เจ็บไหม? ตอนที่ฟันข้าหลุด เจ็บมากเลยนะ”
หยวนชิงหลิงยิ้มพร้อมพูดปลอบว่า “เจ็บกว่าเวลาตัดเล็บนิดหน่อย”
สวีอีฟังแล้วก็อึ้ง แล้วค่อยโล่งอก ตัดเล็บไม่เห็นเจ็บเลยสักนิด เจ็บกว่าตัดเล็บนิดหน่อย งั้นก็มากสุดก็เจ็บเท่ายุ่งกัด เขาทนได้กับความเจ็บปวดที่ถูกยุงกัดหนึ่งร้อยตัว
หลังจากสวีอีตอบตกลง หยวนชิงโจวก็ช่วยนัดพบทันตแพทย์ในวันพรุ่งนี้ทันที ทานข้าวเช้าเสร็จก็ไปทันที
เพื่อไม่ให้เขาหวาดกลัวขนาดนั้น หยวนชิงหลิงไปส่งเขาด้วยตนเอง
เดิมสวีอีอยากพาเปาเปาไปด้วย แต่ซาลาเปาสามารถนึกเห็นภาพน่าสยดสยองนั้นได้ จึงไม่ยอมไปด้วย
หยู่เหวินเห้าเห็นเขาพูดบ่นพึมพำ ถึงถามขึ้นว่า “ให้ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้าไหม?”
สวีอีรีบโบกมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้อง ไม่ต้อง”
เจ้าไปด้วย ยิ่งกดดัน รับไม่ไหว
หยู่เหวินเห้าไม่ไปหรอก วันนี้หยู่เหวินเห้ามีนัดลองชุดสูท ชุดวิวาห์ของหยวนชิงหลิงตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ชุดสูทของเขา ดังนั้นวันนี้เขาไปกับหยวนชิงโจวกับพ่อตา พาคนเฒ่าทั้งสามลูกๆอีกหกคนไปลองชุดด้วยกัน
ยังไงก็ครอบครัวใหญ่ออกจากบ้าน ตอนนี้จะออกจากบ้านต้องเรียกหน้าต้อนหลัง หยวนชิงโจวถอนหายใจ โชคดีที่ตอนนั้นสอบใบขับขี่ประเภทเอ ไม่อย่างนั้นตอนนี้เข้าออกต้องจ้างคนขับ ยุ่งยากแยะ
หยวนชิงหลิงขับรถพาสวีอีไปโรงพยาบาล นางมีใบขับขี่ ไม่รู้ว่าลู่หยางช่วยนางเอามาได้อย่างไร ไม่ว่ายังไงตอนนี้นางออกมาก็เหมือนคนยุคปัจจุบันคนหนึ่ง และก็ไม่กลัวที่จะถูกตรวจบัตรประชาชน
มาถึงโรงพยาบาลแผนกทันตกรรม ก็มีเสียงร้องไห้ของเด็กดังขึ้น สวีอีขาอ่อนทันที
หยวนชิงหลิงกระซิบพูดข้างหูของเขาว่า “เจ้าอย่ากลัว เดี๋ยวกลับไปองค์ชายรัชทายาทจัดการเจ้า”
สวีอียืดตัวตรง พร้อมพูดขึ้นด้วยริมฝีปากสั่นเทาว่า “เหมือนอย่างกับตัดเล็บจริงหรือ?”
“เจ็บกว่าตัดเล็บนิดหน่อย” หยวนชิงหลิงคิดไปคิดมา แล้วก็พูดขึ้นอีกว่า “ขั้นตอนหลังจากนี้ก็คือเจ้านอนลง อ้าปาก แล้วหมอก็จะช่วยปลูกฟันใหม่ให้กับเจ้า เจ้าเคยลองปลูกต้นไม้ไหม?”
“เคยปลูก แต่การปลูกต้นไม้ต้องขุดหลุมก่อน”
“วางใจ การปลูกฟันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น แค่หลังจากใส่ฟันเข้าไป ยึดติด….”
“ยึดติดยังไง?”
หยวนชิงหลิงมีทักษะค่อนข้างลึกในการพูดโน้มน้าวใจคน จึงพูดขึ้นว่า “เอ่อ…ฟันงอกรากได้ใช่ไหม ดังนั้นจึงสามารถยึดติดเองได้ เจ้าเงยเห็นเมล็ดงอกใช่ไหม หลังจากงอกแล้วก็จะไปยึดติดกับเหงือกอย่างมั่งคง เหมือนกับฟันของเจ้าแบบก่อนหน้าแบบนั้น”
จะบอกเขาไม่ได้ว่า ต้องใช้เหล็กตรึง จะทำให้เขาตกใจจนเป็นลมไปแน่
“สวีอี” หุ่นยนต์เริ่มตะโกนเรียก หยวนชิงหลิงรีบดึงเขาไปที่ห้องตรวจ
ภายในห้องตรวจมีหมอคนหนึ่งพยาบาลคนหนึ่ง หมอคนนี้เป็นเพื่อนหยวนชิงโจว เป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หลังจากสวีอีเรียกหมอด้วยเสียงสั่นเทา ก็ตัวแข็งทื่อยิ้มอย่างไม่เสียมารยาท เขาจึงเห็นสถานการณ์ของสวีอีเบื้องต้น
“ฟันชั้นนอกหรือ?” หมอสั่งให้เขานอนลงอย่างอ่อนโยนว่า “มานอนลง”
สวีอีมองดูห้องทัตกรรมที่เรียบง่ายและสะอาดนี้ อุปกรณ์เหมือนอย่างปลาหมึกเครื่องหนึ่ง วางอยู่ใกล้เตียง นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่มีสิ่งของอะไรน่าตกใจ แต่การตกแต่งเรียบง่ายขนาดนี้ มักจะทำให้เกิดความกลัวที่อธิบายไม่ได้
สวีอีเหมือนอย่างยายแก่ ปีนขึ้นไปอย่างระมัดระวัง หันกลับมาเพิ่งนอนลง จู่ๆก็เห็นลำแสงพุ่งลงมา เขาแทบกระโดดขึ้นมา ร้องขึ้นด้วยความตกใจว่า “พระ….พระ”
“พี่ชาย น้องสาวอยู่ที่นี่” หยวนชิงหลิงรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเป็นเช่นนี้ จึงเดินมาจับข้อมือเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว ตัดเล็บ”
หมอยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “กลัวอะไรหรือ? เป็นผู้ชายอกสามศอก ยังจะกลัวการทำฟันหรือ? คนอื่นจะดูถูกเอา”
สวีอีฟังแล้วก็ไม่พอใจ มีความฮึดสู้ขึ้นมา ยืดขาทั้งคู่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่กลัว หมอลงมือเลย ข้าไม่กลัว”
สวีอีมาจากครอบครัวธรรมดา หลายปีมานี้กว่าจะตั้งตัวมั่นคงอยู่ในจวนอ๋องฉู่ ยังได้ดำรงตำแหน่งขุนนาง จึงมีความกลัวที่จะถูกคนอื่นดูถูก ดังนั้นหมอพูดได้จี้จุดเขาพอดี
หมอตรวจดูก่อน จากนั้นก็ล้าง หยิบจับดูและก็ไม่เจ็บจริงๆ หลังจากตรวจแล้ว ก็พูดขึ้นว่า “อาโจวบอกข้าว่าให้ใส่รากฟันเทียมทันทีใช่ไหม? เป็นฟันภายนอกของเขา ขอเพียงไม่มีอาการติดเชื้อ เอารากฟันออกมา ก็สามารถใส่ได้ ไปถ่ายเอกซเรย์ก่อน ดูสภาพรากฟัน หากไม่มีอาการติดเชื้อ ก็สามารถใส่รากฟันได้ทันที”
“ได้” หยวนชิงหลิงประคองสวีอีลุกขึ้นมา ยิ้มถามขึ้นว่า “ไม่เจ็บใช่ไหม?”
สวีอีฝืนเป็นวีรบุรุษสักแปบ พบว่าก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น จึงพูดขึ้นว่า “ใช่ ไม่น่ากลัว และก็ไม่เจ็บ เพียงแค่แสบนิดหน่อย”
หมอกับพยาบาลยิ้มไม่พูดอะไร
หยวนชิงหลิงยิ้มไม่พูดอะไร
เดี๋ยวเจ้าก็รู้
หลังจากถ่ายเอกซเรย์ รากฟันรักษาไว้ได้ไม่เลว ไม่มีอาการติดเชื้อ และก็ไม่มีฟันผุ ตรงกลางหายไปหนึ่งซี่ ด้านข้างหายไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นปลูกใหม่สองซี่
ตอนที่เขานอนลงอีกครั้ง มองเห็นบนโต๊ะหมอมีสิ่งของเพิ่มขึ้น เขาจึงพูดขึ้นอย่างค่อนข้างหวาดหวั่นว่า “หมอ คีมอันนี้มีไว้ใช้ทำอะไรหรือ? อันนี้เป็นมีดหรือ? เอาไว้ทำอะไร?”
“เขาแค่เอาวางที่นี่เอง ไม่ใช้กับเจ้า” หยวนชิงหลิงพูดปลอบ
“พระ….น้องสาว ข้าเชื่อเจ้านะ” สวีอีค่อยๆนอนลง มองดูหยวนชิงหลิงอย่างไร้ที่พึ่ง
“ถูกแล้วที่เชื่อข้า” หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “แต่เจ้าก็ต้องเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของหมอ”
สวีอีพยักหัวอย่างไร้เดียงสา พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม รู้แล้ว”