บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1464 ยอดฝีมือ
ขณะที่อ๋องหวยรับตำแหน่งกรมวัง บัญชีก็ชัดเจนดี ภายหลังยังให้คนจัดเก็บอีกครั้ง แยกรายจ่ายออกมาให้เข้าใจชัดเจน เมื่อไท่ซ่างหวงบอกจะตรวจสอบก็ง่ายมาก สั่งให้คนขนย้ายบัญชีไป
เนื่องจากไม่รู้ว่าไท่ซ่างหวงอยากตรวจสอบบัญชีของเสด็จพ่อเพราะเหตุใด อ๋องหวยกังวลเล็กน้อยจึงเรียกหยู่เหวินเห้าให้ไปด้วยกัน
หยู่เหวินเห้าก็รู้สึกแปลกเช่นกัน เหตุใดอยู่ดีๆ ก็จะตรวจสอบบัญชีของกรมวัง? หรือว่าไท่ซ่างหวงเข้าใจอะไรเสด็จพ่อผิด?
เมื่ออ๋องหวยเรียกเขาไป เขาจึงตามไปดูด้วย ทั้งยังดูการใช้จ่ายของกรมวัง สั่งสมประสบการณ์ให้กับตนเอง
เมื่อวางบัญชีลง ไท่ซ่างหวงก็ให้โสวฝู่มาดู โสวฝู่ดูทีละเล่ม ทว่าอ๋องชินเฟิงอันเอ่ย “เจ้ามิต้องยุ่งยากขนาดนี้ ดูของปีนี้ก็พอ”
โสวฝู่หาบัญชีของปีนี้ บัญชีแบ่งเป็นเดือน แค่เดือนเดียวก็มีหลายเล่มแล้ว เขาดูไปครึ่งชั่วยามเต็มๆ ถึงจะดูจบหนึ่งเดือน ตาลายเล็กน้อย “การใช้จ่ายพวกนี้มีปัญหาอะไร? ข้าดูแล้วก็ปกติดีนี่ ล้วนเป็นรายจ่ายที่จำเป็นทั้งนั้น”
“เป็นรายจ่ายที่จำเป็น แต่เจ้าดูแต่ส่วนที่เป็นการมอบรางวัลสิ”
โสวฝู่จึงค้นหาตามจุดประสงค์ ดึงเงินมอบรางวัลในกรมวังออกมา คัดลอกใส่สมุดอีกเล่ม
นอกจากคัดลอกการมอบรางวัลของบรรดาจวนอ๋องชินแล้ว ของราชวงศ์และขุนนางอื่นก็แยกออกมาด้วย การมอบรางวัลหนึ่งปีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่เพราะหลายจวนให้กำเนิดทายาท การมอบรางวัลก็สมควรอยู่
แต่…หยู่เหวินเห้าก็ต้องตกตะลึง ดูที่เสด็จพ่อประทานให้จวนของเขา “เยอะขนาดนี้เชียวหรือ?”
สิบกว่ารายการ จำนวนเงินมากถึงแปดหมื่นกว่าตำลึง หนึ่งในนั้นยังมีพวกข้าวสารธัญพืช ปีนี้กวากวาเกิด เสด็จพ่อประทานมาครั้งหนึ่ง แล้วยังมอบของขวัญอีก เขาดูอย่างจริงจัง …ไม่ถูกนี่! นี่เป็นของปีที่แล้ว ปีที่แล้วเสด็จพ่อประทานให้มากขนาดนี้เชียวหรือ? ไม่เห็นเจ้าหยวนเคยบอกเลย?
ไม่เพียงแต่เขา อ๋องหวยก็ตะลึงด้วย เสด็จพ่อประทานเงินให้เขามากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร? ในทางกลับกันยังเป็นหรงเยว่ที่ส่งเงินเข้าวังมาช่วยอีก
อ๋องชินเฟิงอันเอ่ยเรียบ “แล้วลองดูหนังสือกู้ยืมที่เขียนว่ามีอยู่เท่าไร”
อ๋องหวยรีบค้นหาบัญชีอีกเล่ม นั่นเป็นบัญชีที่บันทึกหนังสือกู้ยืมโดยเฉพาะ
ฉู่โสวฝู่เทียบดู “หนังสือกู้ยืมน่าจะเป็นของจริง แต่ในบัญชีอีกเล่มบันทึกว่าคืนเงินแล้ว เหตุใดหนังสือกู้ยืมไม่ทำลายทิ้งเล่า?”
อ๋องหวยชะงักงัน “ส่วน…ส่วนหนังสือกู้ยืม นี้มู่หรูกงกงเป็นคนทำพ่ะย่ะค่ะ”
ไท่ซ่างหวงหน้าเขียวปัด
พูดไปพูดมาหนังสือกู้ยืมเขียนแล้ว แต่กลับเอาเงินจากกรมวังอีก เอาเงินแล้วก็ไม่ให้ไป เก็บในกระเป๋าตัวเอง?
โสวฝู่เทียบบัญชี เอ่ย “หนังสือกู้ยืมบางฉบับคืนไปแล้วส่วนหนึ่ง อย่างสามพันตำลึงที่ประทานให้ราชครูเหว่ยเป็นของขวัญวันเกิดตอนก่อนตรุษจีน ทำหนังสือกู้ยืมแล้วหมายเหตุว่าจ่ายแล้วพันตำลึง แต่ในหนังสือกู้ยืมยังเขียนว่าสามพันตำลึง ไม่ได้แก้ จนถึงเดือนสามของปีนี้ก็เอาเงินอีกสองพันตำลึงที่ให้ราชครูเหว่ย หนังสือกู้ยืมกลับเป็นพันตำลึง หรือก็พูดได้ว่าเงินก้อนนี้ หักแล้วไม่รู้ว่าพันตำลึงหายไปไหนอีก”
ไท่ซ่างหวงเอ่ย “ดูอย่างอื่นอีกสิ เป็นเช่นนี้หรือไม่?”
โสวฝู่กับอ๋องหวยตรวจสอบทีละจุด ดูจนตาลาย พบว่าโดยรวมก็ลงบัญชีแบบนี้
อ๋องหวยปาดเหงื่อที่หน้าผาก “นี่…เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ข้าไม่เห็นว่ามีอะไรผิดนี่ เพราะหนังสือกู้ยืมเยอะเกินไป แค่ในมือราชครูเหว่ยก็มีหนังสือกู้ยืมสามสีฉบับ ตัวเลขข้างงไปหมดแล้ว”
อ๋องชินเฟิงอันถามหยู่เหวินเห้า “เงินมอบรางวัลที่เสด็จพ่อเจ้ามอบให้เจ้า เท่ากันหรือไม่?”
เจ้าห้าตาโตมองอยู่นาน แก้มร้อนเล็กน้อย “ก็…ประมาณนั้นกระมังพ่ะย่ะค่ะ? หม่อมฉันก็ไม่แน่ใจ หม่อมฉันไม่ได้ดูแลเรื่องบัญชีพ่ะย่ะค่ะ”
ทว่าในใจเขากลับกำลังตะโกน ไม่! เสด็จพ่อไม่ได้ให้เขามากขนาดนี้ เขารู้ดี! เพราะเรื่องที่เกี่ยวกับเงินทองเขาถามมาหมด
ไท่ซ่างหวงมองอ๋องหวย “เจ้าหก เจ้าล่ะ?”
อ๋องหวยจะร้องไห้ก็ไม่ใช่ จะหัวเราะก็ไม่ใช่ แต่กลับรักษาหน้าของเสด็จพ่อ “ประมาณนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
ไท่ซ่างหวงหรือจะไม่รู้ว่าที่หลานพูดเป็นจริงหรือเท็จ? อดถอดถอนใจเป็นไม่ได้ ถามอ๋องชินเฟิงอัน “พี่เหว่ย แล้วท่านรู้ได้อย่างไร? เรื่องลับเช่นนี้ บัญชีก็ทำได้แนบเนียนไร้ร่องรอย ถูกท่านพบได้อย่างไรกัน?”
อ๋องชินเฟิงอันเอ่ย “องครักษ์เงาดำมีสหายคนหนึ่งทำงานอยู่ในร้านแลกเงิน เขาเคยบอกองครักษ์เงาดำ ว่ามู่หรูกงกงเป็นลูกค้าสำคัญของร้านแลกเงิน เก็บเงินมากมาย องครักษ์เงาดำเคยกลับมาบ่นในตอนนั้น บอกว่าขันทีในวังมีเงินมากมายเช่นนี้ แต่เขากับอัตคัด เหน็บแนมข้ายกหนึ่ง ข้าถึงให้คนไปสืบดู มู่หรูต้องไม่มีเงินมากมายเช่นนั้นแน่ แล้วเงินจำนวนนี้เป็นของผู้ใดกัน ที่จริงก็ไม่ต้องเดา กอปรกับการมอบรางวัลโดยมากก็เป็นหนังสือกู้ยืม บางครั้งที่ให้ก็ไม่มาก ฉะนั้นข้าจึงเดาว่าต้องมีการเล่นตุกติกในนี้แน่”
จากนั้นเขาก็หัวเราะ “แต่ก็นะ อย่าได้ตกใจไป เขาไม่ได้เอาเงินในท้องพระคลัง เอาแต่เงินในกรมวังเท่านั้น เดิมทีนั่นก็เป็นส่วนของราชวงศ์อยู่แล้ว ถึงอย่างไรกรมวังก็ใช้จ่ายเงินประมาณนี้ทุกปี เพื่อให้ได้ใช้เอง เขามิต้องประหยัดเป็นตัวอย่างหรือ? เขาประหยัด สนมวังหลังกับคนในวังหลวงก็ต้องประหยัดด้วย ส่วนที่ประหยัดมาได้ เขาก็ใช้วิธีการนี้เอาไป เจ้านี่เก็บเงินมากมายเพียงนี้ ข้าไม่เอาเขา แล้วจะเอาจากผู้ใด?”
เมื่อทุกคนฟังจบ ต้องพูดเลยว่ายอดฝีมือ เป็นยอดฝีมือของยอดๆๆ ฝีมือ!
ไท่ซ่างหวงคิดๆ ดูก็ไม่โมโหแล้ว เพราะนั่นเป็นเงินที่เขานำขบวนประหยัดเอง เพียงแต่ลำบากเหล่าโอรสธิดาและสนมวังหลัง แม้แต่บ่าวไพร่ในวังก็เองก็ด้วย
เขาพยายามหาความสุขในความทุกข์ “ดูท่าแล้วก็เป็นคนฉลาดเหมือนกัน”
เซียวเหยากงประหลาดใจมาก “เช่นนั้นหลายปีมานี้ฝ่าบาททรงเก็บเงินได้เท่าไรกันแน่?”
“สองสามล้านต้องมีอยู่แล้ว ข้าขายหมู่ตึกให้เขา เขาออกเองส่วนหนึ่ง ที่เหลือหรงเยว่กับเหลิ่งซี่สมทบ” อ๋องชินเฟิงอันเอ่ย
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าซี้ด ทำดีนี่ สองสามล้านเชียวหรือ?
อ๋องชินเฟิงอันยังเสริมอีก “พูดได้ว่าเงินในกรมวังของทุกปี เขาเก็บไว้อย่างน้อยสามส่วน เพราะฉะนั้นพวกเจ้ามิต้องน้อยใจแทนเขา เขามีเงิน ถึงจะลงจากตำแหน่งก็ยังเสพสุขได้ตลอดชีวิต”
อ๋องหวยผงะ “ลงจากตำแหน่ง? หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
“แค่สมมุติ” อ๋องชินเฟิงอันมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ย
อ๋องหวยมองหยู่เหวินเห้า รู้สึกว่าการอธิบายนี้ของอ๋องชินเฟิงอันฝืนไปหน่อย แต่เมื่อเห็นใบหน้าเจ็บใจของหยู่เหวินเห้าแล้ว ก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ การประทานรางวัลต้องมีปัญหาเหมือนเขาแน่
เขาใช้ศอกสะกิดหยู่เหวินเห้า หัวเราะพลางเอ่ย “พี่ห้า ท่านร่ำรวยอยู่นา”
ใบหน้าหยู่เหวินเห้าเขียวปัดเหมือนไท่ซ่างหวงทันที
ร่ำรวยบ้านเจ้าสิ!
แค่อาวุธก็ใช้เงินทั้งหมดบ้านแล้ว เขาควักนู่นผสมนี่ถึงจัดการได้สำเร็จ ภายนอกดูมีหน้ามีตาไร้ที่สิ้นสุด ลูกหกคน แต่ละคนล้วนมีเงินรางวัล แล้วยังมีเหมืองทองอีก แต่จนบัดนี้ยังไม่เห็นทองในเหมืองสักตำลึง
ทว่าเสด็จพ่อกลับกัน ภายนอกอัตคัด มีหนังสือกู้ยืมไปทั่วราชอาณาจักร คิดไม่ถึงว่าจะเก็บซ่อนมากมายเช่นนี้
เป็นครั้งแรกที่หยู่เหวินเห้ารู้ว่าการเป็นฮ่องเต้หมายถึงอะไร หมายถึงเขาสามารถยักยอกเงินได้อย่างเปิดเผย!
และเป็นครั้งแรกที่คิด ว่าคนที่อ๋องชินเฟิงอันหลอก ก็ไม่น่าสงสารเสมอไป
อีกอย่าง เขามีเงินมากมายเพียงนี้ ซื้อหมู่ตึกยังมีหน้ามาขอหรงเยว่กับเหลิ่งซี่ได้อีก? ดีไม่ดีเหลิ่งซี่ก็รู้เหมือนกัน มิเช่นนั้นรู้อยู่แล้วว่าหมู่ตึกนั้นไม่มีเหมืองหยก แต่ทำไมยังไม่ห้ามเสด็จพ่อลงเงินล้านตำลึงซื้อ? จริงอยู่ที่เขาก็ออกเงิน แต่สุดท้ายก็เพื่อกตัญญูต่อพระชายาอ๋องชินเฟิงอันอาจารย์ของเขาเอง
หลังจากหยู่เหวินเห้าออกจากจวนอ๋องซู่แล้วก็มุ่งตรงไปบ้านเหลิ่งทันที