บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1470 ก็ยังเสียให้เจ้าห้า
อ๋องซุนแค่เหน็บแนมเจ้าสี่เป็นบางครั้ง ไม่ได้กัดไม่ปล่อย ดังนั้นจึงนั่งลง
หยู่เหวินเห้ากลัวว่าพวกเขาจะกระทบกระทั่งกันอีก จึงไม่อ้อมค้อม ตัดเข้าประเด็นหลักทันที “ข้าไปเยี่ยมเสด็จพ่อมา ทรงเสียพระทัยเพราะเรื่องหมู่ตึกเหมยจริง อัดอั้นตันใจถึงได้ประชวร ฉะนั้นข้าจึงคิดว่า หรือเราจะรวบรวมเงินสักสี่ห้าแสนให้เสด็จพ่อ ให้พระองค์ไม่ต้องทรงคิดมาก เป็นอย่างไร?”
อ๋องซุนเอ่ยขึ้นทันที “นั่นย่อมไม่เป็นปัญหา ต้องรวมเท่าไร เราพี่น้องให้ไปก็สิ้นเรื่อง”
อ๋องหวยไม่มีขัด อ๋องฉีก็แสดงออกว่าไม่ลำบาก น้องเก้าลำบากหน่อย แต่ก็รับปาก อ๋องเว่ยนั่งลงพรึบ “ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวข้ามีแค่ห้าสิบตำลึง ข้าให้หมดเลยเอา!”
เขายกทรัพย์สินทั้งหมดให้จิ้งเหอแล้วจริงๆ สำหรับน้องเจ็ดทางนั้นจะได้หรือไม่ก็ไม่รู้ เวลานี้ยังไม่ได้รับปาก แต่เขาก็ยากจนข้นแค้นอยู่แล้ว
“น้องสี่ เจ้าล่ะ?” อ๋องซุนหันไปถามอ๋องอาน
อ๋องอานยังมีแผนการอยู่ในใจ หากให้เงินไป เสด็จพ่อก็หายป่วย เช่นนั้นก็อาจไม่ลงจากตำแหน่งก็ได้ ดังนั้นจึงรีบรับคำ “ข้าย่อมไม่มีปัญหา ข้าหวังแต่จะให้เสด็จพ่อทรงหายประชวร”
หยู่เหวินเห้าโล่งอก เดิมยังคิดว่าจะยาก คิดไม่ถึงว่าทุกคนใจกว้างเช่นนี้ ทั้งยังทำให้เขาดูใจแคบ เชิญทุกคนมาหารือเป็นการเฉพาะ
เขานึกถึงคำพูดที่พี่รองเอ่ยเมื่อครู่ และคิดว่าพี่สี่คงคิดฟุ้งซ่านจึงเอ่ย “ต่อไป เราพี่น้องต้องรวมตัวกันบ่อยๆ ถึงจะดี นั่งพูดคุยกันเหมือนอย่างนี้ จะได้ไม่ห่างเหิน ข้าเป็นคนอย่างไร ทุกคนก็รู้ดี ขอเพียงจิตใจมุ่งอยู่แต่กับเป่ยถัง เช่นนั้นก็ไม่ใช่ศัตรู ไม่ใช่ตลอดไป”
เห็นชัดว่าคำพูดนี้พูดกับอ๋องอาน ครั้นอ๋องอานฟังออกแล้วก็มีความรู้สึกซับซ้อนทันที เพราะหากเป็นเขา ย่อมไม่คิดเช่นนี้เด็ดขาด
เขาจำต้องยอมรับว่าชื่อเสียงดีงามของน้องห้า มิได้ทำขึ้นมา แต่เขาเป็นอย่างสมภาคภูมิ
เมื่อคิดเช่นนี้ จึงทำใจเรื่องที่เขาจะขึ้นครองราชย์ได้บ้าง แต่หากบอกว่าไม่คิดเลย นั่นยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้
หลังจากแยกย้ายกันกลับ หยู่เหวินเห้าก็โมโหเอ่ย “ท่านชายสี่ชายโฉด ไม่มาเสียได้!”
วันถัดมา พวกเขาก็ส่งเงินมาด้วยตนเอง เจ้าหกมั่งคั่งร่ำรวยจริงๆ ออกสองแสนตำลึง แต่ลับหลังเขาก็พูดกับหยู่เหวินเห้าว่า “ข้าออกสองแสนตำลึง ท่านก็ไม่ต้องออกแล้ว ข้ารู้ว่าท่านค่อนข้างขัดสน ส่วนของพี่สามข้าก็ออกแล้วด้วย”
หยู่เหวินเห้าซาบซึ้งใจมาก “ได้ ข้าไม่ขอพูดอีก ขอรับน้ำใจเจ้าครั้งนี้แล้วกัน”
หลังจากเจ้าหกจากไป อ๋องฉีก็มา ออกหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง พูดเหมือนกับอ๋องหวย
เวลานี้อ๋องชุนยังมอบเงินไม่ได้ บอกว่าเอาไว้กลับหนานเจียงแล้วค่อยให้คนส่งมา แต่เขารับแล้วหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึง บอกว่าจะออกแทนหยู่เหวินเห้าส่วนหนึ่ง
ที่คิดไม่ถึงที่สุดก็คืออ๋องซุน เขาโยนมาให้หนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึง มือป้อมๆ เคาะอยู่บนตั๋วเงินพับหนาๆ มองหยู่เหวินเห้า “ข้าออกแทนเจ้า”
ส่วนทางอ๋องอานมิได้ส่งมาด้วยตนเอง ให้พระชายาอานมาที่จวน มอบให้แสนตำลึง บอกว่าส่วนที่เกินช่วยหยู่เหวินเห้าออก
อีกนัยหนึ่งคือ รวบรวมห้าแสนตำลึง หยู่เหวินเห้ายังไม่ได้ออกสักแดง ในมือก็มีเจ็ดแสนสองหมื่นตำลึงแล้ว เสด็จพ่อบอกว่าต้องการห้าแสนตำลึง เวลานี้เกินมาสองแสนสองหมื่นตำลึง แต่หยวนชิงหลิงก็ยังเจียดออกอีกแปดหมื่นตำลึง รวบรวมได้แปดแสนตำลึง
ตกกลางคืนหยู่เหวินเห้ามองตั๋วเงินเหล่านี้แล้วก็อยากน้ำตาร่วง พวกเขาพี่น้อง แรกเริ่มต่างฝ่ายต่างมีใจคิดคด บัดนี้กลับรวมเป็นหนึ่งได้
แม้แต่หยวนชิงหลิงยังซาบซึ้งใจมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ง่ายเลยจริงๆ
ครั้นแปดแสนตำลึงส่งถึงมือฮ่องเต้หมิงหยวน ฮ่องเต้หมิงหยวนเอาแค่สามแสนตำลึง ที่เหลือคืนให้หยู่เหวินเห้าหมด “เจ้าเก็บไว้เถอะ ตอนที่ขึ้นครองราชย์ยังต้องจัดงานมงคล จัดให้สมฐานะหน่อย อย่าใช้เงินในท้องพระคลังกับกรมวัง”
แม้จะบอกว่าหลังจากแต่งตั้งฮ่องเต้แล้วจะสามารถใช้เงินในท้องพระคลังได้ แต่นิสัยของฮ่องเต้หมิงหยวนคือเรื่องของราชวงศ์และตนเอง พยายามไม่ใช้เงินของพระคลัง เขาหวังว่าหยู่เหวินเห้าจะเป็นเช่นนั้นด้วย
หยู่เหวินเห้ารับตั๋วเงินห้าแสนตำลึง จะร้องไห้ก็ไม่ใช่ จะหัวเราะก็ไม่ใช่ “นี่เป็นเงินที่ทุกคนกตัญญูต่อท่าน หม่อมฉันรับไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ทว่าฮ่องเต้หมิงหยวนยืนกรานเอ่ย “เอาไว้เถอะ หาของดีหน่อยให้ชายาเจ้า หลายปีมานี้ทำให้นางลำบากจริงๆ นางคู่ควร เดิมที่ข้าให้พวกเขารวบรวมเงินห้าแสนตำลึง ก็เพื่อจะแบ่งส่วนต่างให้เจ้าจัดงาน เจ้าจะใช้เงินที่มอบให้เจ้าเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ได้ เข้าใจไหม?”
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “หม่อมฉันรับไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ หากเสด็จพ่อไม่ต้องการเงินพวกนี้ หม่อมฉันก็จะคืนกลับไป”
ฮ่องเต้หมิงหยวนหงุดหงิด “สมองเจ้าทำมาจากขี้เลื่อยหรืออย่างไร? พวกเขาไม่ขาดเงิน ที่ขาดเงินก็คือเจ้า นี่เป็นเรื่องสุดท้ายที่ข้าจะทำเพื่อเจ้า เจ้ารับไว้ก็พอ เจ้าไม่เอา ข้าก็จะมอบให้ชายาเจ้า จะให้นางลำบากไม่ได้อีก ลาภยศที่สะใภ้แห่งราชวงศ์ควรมี นางไม่เคยได้เสพสุขสักวัน ทั้งยังต้องเหน็ดเหนื่อยกายใจอยู่เสมอ เพื่อครอบครัว เพื่อบ้านเมือง เจ้าทำลงคออย่างไร?”
ดวงตาหยู่เหวินเห้าร้อนผ่าว คุกเข่าลง “เสด็จพ่อ หม่อมฉันขอบพระทัยเสด็จพ่อแทนเจ้าหยวนด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อนั้นสีหน้าฮ่องเต้หมิงหยวนถึงแช่มชื่นขึ้นมา ยื่นมือดึงเขาลุกขึ้น “ไม่จำเป็น ตระกูลหยู่เหวินเราติดค้างนาง ต้องพูดขอบคุณนางสักคำ ตั้งแต่นางช่วยไท่ซ่างหวง กำลังของตระกูลหยู่เหวินเราถึงค่อยๆ เป็นปึกแผ่น ข้าก็ได้ผลกระทบจากนางด้วย เจ้าต้องดีต่อนางมากๆ หากวันหน้ากล้ารวนเร ข้าจะกลับมาหักขาเจ้าด้วยตัวเอง!”
“หม่อมฉันจะไม่ผิดต่อนางเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ” หยู่เหวินเห้าเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น
ฮ่องเต้หมิงหยวนอือเสียงหนึ่ง สีหน้ามีชีวิตชีวา เขารู้ว่าเจ้าห้าจะไม่ทำเช่นนั้น แต่สามารถใช้ฐานะคนที่จะสละตำแหน่งพูดแบบนี้กับคนที่จะรับตำแหน่งได้ เขาก็รู้สึกสะใจมาก เพราะสมัยก่อนคำพูดพวกนี้แล้วเป็นไท่ซ่างหวงที่พูดกับเขา
สุดท้ายก็กำลังหยู่เหวินเห้าอีก “เงินพวกนี้จะคืนไปไม่ได้ ถือว่าพวกเขาติดค้างเจ้า เวลานี้ได้ชดใช้ให้แล้ว หลายปีมานี้ในฐานะที่เป็นลูกหลานราชวงศ์ มีแต่เสพสุขไม่เคยลงแรง มีเจ้าผู้เดียวที่หามแผ่นดินไว้ ลดภาระของพวกเขา เงินเหล่านี้ยังชดใช้ไม่หมด แต่ระหว่างพี่น้องไม่จำเป็นต้องคิดทุกกระเบียดนิ้ว เงินนี้เจ้ารับไว้แล้ว บางคนก็จะสงบใจ นี่เป็นราชโองการเช่นกัน เจ้าจะขัดขืนมิได้”
หยู่เหวินเห้าเข้าใจความหมายของเขา ที่พูดถึงก็คืออ๋องอาน ก็จริง รับเงินของเขาแล้ว อ๋องอานก็คงเบาใจลงมาก
หลังจากกล่าวลา หยู่เหวินเห้าก็นำตั๋วเงินห้าแสนตำลึงออกวังไป กลับถึงจวนแล้วก็วางตรงหน้าหยวนชิงหลิง เขาไม่กล้าหอบแรง ราวกับมีหงส์ทองหล่นลงมาจากฟากฟ้า ทำให้คนละสายตาไม่ได้ อยากครอบครองไว้เอง แต่คุณธรรมก็ยังแอบทำให้จิตใจระส่ำ
“รับไหม?” เขามองหยวนชิงหลิง นัยน์ตามีประกายความหวัง ขอเพียงเจ้าหยวนบอกว่ารับ เช่นนั้นคุณธรรมก็ไปพบยมบาลได้เลย เมียอารมณ์ดีก็พอแล้ว
หลังจากหยวนชิงหลิงถามความเป็นมาเป็นไปของเงินจำนวนนี้แล้ว ก็หัวเราะเอ่ย “รับได้ แต่เจ้าก็บอกกับพวกเขา อย่างไรก็เป็นความกตัญญูของพวกเขา อยู่ดีๆ มาตกอยู่ในมือเจ้า ต้องทำให้พวกเขาสมัครใจถึงจะดี หากพวกเขาไม่รับคืนไป เราค่อยรับไว้เถอะ เพราะนี่เป็นเงินที่เสด็จพ่อปล้นคนรวยมาให้คนจน ถือว่าช่วยพวกเรา”
“ไม่ถือว่าช่วย เราก็มีเหมืองทองเหมือนกัน” หยู่เหวินเห้าหัวเราะพลางเอ่ย
หยวนชิงหลิงหลุดหัวเราะ “คำพูดนี้เจ้าอย่าให้ไท่ซ่างหวงได้ยินเชียวนะ ทรงจะทุบเจ้าให้ แม้นผู้ใดกล้าแตะเหมืองทองของเสี่ยวกวาจื่อ พระองค์ก็จะเล่นงานผู้นั้น”
หยู่เหวินเห้าหดศีรษะ “มิกล้า มิกล้า เจ้าหยวน ตั๋วเงินเจ้าถือเอาไว้ ไว้พวกท่านแม่ยายมา ก็พาพวกเขาไปกินเที่ยวให้สนุก ให้พวกเขารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่เสพสุขกับลาภยศเงินทอง จะได้ไม่เป็นห่วงเจ้า”
“ได้!” หยวนชิงหลิงยิ้มแฉ่ง หยิบตั๋วเงิน นี่ก็ถือเป็นความกตัญญูของเจ้าห้าเช่นกัน!