บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1475 ส่งฮองเฮาไป
ครั้นฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ไม่มีอารมณ์ เอ่ยเรียบ “แล้วเจ้าคิดอย่างไร?”
ฮองเฮาสะอื้นเสียงหนึ่ง น้อยใจเหลือแสน “หม่อมฉันเป็นคู่สามีภรรยาผูกผมกับพระองค์ แม้อดีตจะมีความผิด แต่หม่อมฉันก็แก้ไขตัวเองแล้ว หม่อมฉันเป็นเจ้าแห่งวังหลัง หากไม่แต่งตั้งหม่อมฉันเป็นไทเฮา หม่อมฉันจะมีหน้าอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไรเพคะ? ส่วนหวงกุ้ยเฟยแม้จะเป็นท่านแม่ของรัชทายาท แต่อย่างไรก็รับบุตรกลางคัน อีกทั้งรับรัชทายาทแล้วนางถึงได้เลื่อนขั้นจากเต๋อเฟยเป็นหวงกุ้ยเฟย หม่อมฉันเห็นว่าแต่งตั้งนางเป็นหวงกุ้ยไท่เฟยก็เป็นพระกรุณาธิคุณล้นพ้นแล้วเพคะ!”
เมื่อกล่าวจบ นางก็เห็นสีหน้าไม่พอใจของฮ่องเต้หมิงหยวน จึงรีบเสริมอีก “แม้จะเป็นกฎของบรรพชน หม่อมฉันก็ควรได้เป็นฮองไทเฮาเพคะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ย “ในเมื่อยึดตามกฎของบรรพชน เจ้าควรได้เป็นฮองไทเฮา แล้วเจ้ายังมาถามอะไรอีก? รอการแต่งตั้งก็พอแล้วมิใช่หรือ?”
ฮองเฮากระซิกเอ่ย “หม่อมฉันก็แค่คิดว่า สมัยก่อน…เข้มงวดกับรัชทายาทกับพระชายาอยู่บ้าง เกรงว่าพวกเขาจะฝังใจเพคะ”
ว่าแล้วนางก็ร้องไห้ “ฝ่าบาทก็ทรงทราบหม่อมฉันดี หม่อมฉันมิได้คิดร้าย เรื่องเหล่านั้นที่ก่อ ล้วนเพราะความเจ็บใจเป็นเหตุ หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว ทรงช่วยหม่อมฉันตรัสกับรัชทายาทสักหน่อยเถอะเพคะ แม้จะยึดความรุ่งโรจน์ของหม่อมฉัน แต่ก็ต้องรักษาตำแหน่งฮองไทเฮาไว้ มิเช่นนั้นหม่อมฉันก็ไม่มีหน้าไปพบบรรพชนได้จริงๆ เพคะ อีกอย่างหม่อมฉันก็มิได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อเจ้าแปดด้วย ต่อไปเขายังต้องติดตามหม่อมฉัน หากหม่อมฉันถูกแต่งตั้งเป็นแค่ไท่เฟย ต่อไปอยู่ในวังเขาก็จะถูกคนรังแก ทรงคิดว่าใช่หรือไม่เพคะ?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนโกรธจัด “เจ้าเห็นเจ้าห้าเป็นคนอย่างไร? เขาหรือจะรังแกเจ้าแปด? เขาเอ็นดูเจ้าแปดออกอย่างนั้น จิตใจเจ้ามีแต่ความอาฆาตแค้น วันๆ เอาแต่คิดว่าใครจะทำร้ายเจ้า ใครจะไม่ชอบเจ้า แต่กลับไม่เคยเห็นเจ้าดีกับผู้อื่น ข้าว่า เจ้าควรแต่งตั้งเป็นไท่เฟย แล้วเจ้ากับเจ้าแปดก็ออกวังไปหาเจ้าเจ็ด ให้พวกเขาสองพี่น้องดูแลกันถึงจะดี!”
ฮองเฮาตกใจหนัก ถลาลงคุกเข่าทันที ร้องไห้เอ่ย “ฝ่าบาท! ไม่ได้นะเพคะ หม่อมฉันเป็นฮองเฮาสูงศักดิ์ จะออกวังไปได้อย่างไร?”
ดวงตาฮ่องเต้หมิงหยวนเย็นชาขมึงทึง “เจ้าไม่ได้กลัวว่าเจ้าแปดจะไม่มีคนดูแล จะถูกคนรังแกมิใช่หรือ? ส่งเขาไปจวนเจ้าเจ็ด นี่ก็เข้ากับความต้องการเจ้าพอดีนี่? ข้าหาได้เห็นความสำนึกผิดของเจ้าไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ก่อเรื่องกับพระชายารัชทายาท ข้าเห็นว่าควรทำเช่นนี้!”
เดิมทีฮ่องเต้หมิงหยวนไม่เคยคิดถึงจุดนี้ แต่เวลานี้เมื่อฮองเฮามาร้องห่มร้องไห้ระบาย เขาก็รู้ได้โดยพลัน ว่าวันข้างหน้าหากเขาออกจากวังแล้ว และนางก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นฮองไทเฮา มีฐานะเป็นมารดาใหญ่ของเจ้าห้า แล้วหากนางก่อเรื่องอีก ก็จะไม่มีใครสยบนางได้อีก
อดีตเพราะเห็นแก่ฉู่โสวฝู่ จึงมิได้ปลดฮองเฮา เวลานี้ย่อมไม่ปลดอยู่แล้ว แต่ในเมื่อไม่ปลด เช่นนั้นเมื่อเจ้าห้าขึ้นครองราชย์ นางก็ต้องถูกแต่งตั้งเป็นฮองไทเฮา นี่เป็นกฎของบรรพชนจริง แต่นางกลับมีชนักติดหลังกระวนกระวายใจ ถึงได้ทำเช่นนั้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนคิดในใจ รู้สึกว่าต้องหาทางกำจัดภัยร้ายให้พระชายารัชทายาทและหวงกุ้ยเฟย
ฮองเฮาได้ยินเขาพูดอย่างนี้แล้ว ขาทั้งสองก็อ่อนยวบ ร้องห่มร้องไห้ ทั้งไม่มีคำพูดจะแก้ต่าง ทำให้ฮ่องเต้หมิงหยวนรำคาญใจ ดังนั้นมู่หรูกงกงจึงเชิญนางออกไปเสีย
ฮองเฮาไม่ยอมไป มู่หรูกงกงจึงเกลี้ยกล่อมดีๆ บอกว่าหากนางยังดื้อดึง จนทำให้อาการป่วยของฮ่องเต้หนักขึ้น เช่นนั้นตำแหน่งฮองไทเฮาก็จะไม่ได้แล้วจริงๆ เมื่อพูดอย่างนี้แล้ว นางจึงยอมออกไป
ครั้นฮองเฮาจากไป ฮ่องเต้หมิงหยวนก็เริ่มขบคิดเรื่องนี้
วันถัดมา เขาให้มู่หรูกงกงไปเชิญฉู่โสวฝู่เข้าวัง เขามีความคิดในใจอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ต้องปรึกษากับโสวฝู่ก่อน
ครั้นโสวฝู่ได้ฟังแล้ว ก็พอใจกับการจัดการเช่นนี้มาก เอ่ย “การตัดสินพระทัยนี้ของฝ่าบาทดียิ่งนัก บุตรีของกระหม่อมเป็นเช่นไรกระหม่อมรู้ดี หากอยู่ในวัง เกรงว่าจะไม่มีใครควบคุมนางได้ ทำจนวังหลังไม่สงบ และจะทำให้พระชายารัชทายาทและหวงกุ้ยเฟยต้องลำบาก”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยอย่างโล่งอก “ท่านโสวฝู่ดีกับพระชายารัชทายาทเสียจริง ข้าละอายนัก ก่อนหน้านี้ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บ ดีที่พระชายารัชทายาทพาท่านไปรักษา มิเช่นนั้นข้าต้องไม่สบายใจตลอดชีวิตแน่”
โสวฝู่เอ่ยอย่างจริงจัง “ฝ่าบาทจะตรัสเช่นนี้มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ จะตัดทอนอายุขัยของกระหม่อม กระหม่อมประสบเคราะห์กรรมครั้งนี้ก็ได้รับประโยชน์อื่นมา ทุกอย่างล้วนลิขิตไว้แล้ว บัดนี้กระหม่อมสุขสบายดี ทรงอย่าใส่พระทัยอีกเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินเขาว่าอย่างนี้แล้ว จิตใจก็เบิกบาน มองชายชราที่อุทิศตนทั้งหมดค่อนชีวิตให้เป่ยถัง เมื่อนั้นก็ตาแดงเล็กน้อย ราชาขุนนาง หลายเรื่องก็รู้ได้โดยมิต้องเอ่ย
หลังจากโสวฝู่ออกวังแล้ว ฮ่องเต้หมิงหยวนก็มีราชโองการ ให้ฮองเฮากับตี๋กุ้ยเฟยย้ายไปพำนักที่อุทยานตะวันออกของราชวงศ์ อนุญาตให้องค์ชายแปดไปเยี่ยมเป็นบางครั้ง แต่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงดูองค์ชายแปดเอง
การกระทำนี้ดูเหมือนโหดร้ายมาก ให้พวกเขาสองแม่ลูกต้องแยกจากกัน แต่ที่จริงฮ่องเต้หมิงหยวนทำเพื่อองค์ชายแปด องค์ชายแปดอยู่กับเจ้าเจ็ดและชายาถึงจะใช้ชีวิตอย่างอิสระและสงบได้ ในทางกลับกัน หากติดตามฮองเฮาไปตำหนักทางตะวันออก ก็จะถูกนางใช้มาก่อเรื่องอีก
อีกอย่างก็ไม่ใช่จะแยกแม่ลูกออกจากกันจริงๆ หากนางอยากพบลูก ก็ให้เจ้าเจ็ดส่งเข้าวังมาอยู่ด้วยกันสักสองสามวันได้
ครั้นถ่ายทอดราชโองการ ฮองเฮาก็ร้องไห้ฟูมฟายอยู่พักหนึ่ง นี่ไม่เพียงแค่ถูกขับออกจากวัง แต่ตำแหน่งไท่เฟยก็กลัวจะไม่ได้ด้วย
อาละวาดสองวัน ทั้งจะชนกำแพง ทั้งจะแขวนคอ ใครก็ห้ามไม่อยู่ ตี๋กุ้ยเฟยไปทูลฮ่องเต้หมิงหยวนด้วยตนเอง ทว่าฮ่องเต้หมิงหยวนกลับไม่แยแส นิสัยของฮองเฮา โสวฝู่รู้แล้วเขาไม่รู้หรือ? หากต้องการจบชีวิตจริง คงไม่แม้แต่จะอาละวาด แขวนคอไปเลยก็สิ้นเรื่อง ยังต้องอาละวาดอีกหรือ?
การที่นางอาละวาดเช่นนั้น ก็ยิ่งทำให้ฮ่องเต้หมิงหยวนมั่นใจว่าการตัดสินใจให้นางย้ายไปอยู่ที่อุทยานตะวันออกถูกต้องแล้ว
และเป็นดังนั้นจริง เมื่อฮ่องเต้หมิงหยวนไม่สนใจนาง นางก็เก็บข้าวของแต่โดยดี นำของมีราคาที่สุดในตำหนักของนางไปด้วยหมด
ตามราชโองการตี๋กุ้ยเฟยตามนางไปด้วย แต่ตี๋กุ้ยเฟยกลับสมัครใจ นางยินดีมาก นางรู้ดีว่าวังหลังเปลี่ยนนาย นางต้องย้ายไปอยู่ใต้ปีกคนอื่น เช่นนั้นมิสู้ไปอุทยานตะวันออกเสียดีกว่า
อ๋องฉีกับชายาส่งพวกนางไป หยวนหย่งอี้เอ่ยกับนาง “ที่จริงขอเพียงตรัสขออภัยกับพระชายารัชทายาทสักคำ บุญคุณความแค้นในอดีตก็จะมลายหายไป นางเป็นคนใจกว้าง ต้องไม่เอาความแน่เพคะ”
ฮองเฮาเอ่ยอย่างเย็นชา “มิจำเป็นต้องพูด ข้าไม่ขอโทษคนรุ่นหลัง”
พูดจนถึงขนาดนี้แล้ว หยวนหย่งอี้จึงไม่เกลี้ยกล่อมอีก
หลังจากส่งพวกนางไปแล้ว ตอนกลับอ๋องฉีก็เอ่ยกับหยวนหย่งอี้ “ที่จริงอย่างนี้ยิ่งดี บางเรื่อง หากแค่ขอโทษก็ทำให้จบได้ เช่นนั้นก็ไม่ยุติธรรมกับพี่ห้าและพี่สะใภ้ห้านะสิ? อีกอย่าง เรื่องเหล่านั้น ตอนนี้ย้อนกลับไปคิดว่าถูกหรือผิดก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ต่อไปก็ไปมาหาสู่ให้น้อยจะดีที่สุด”
หยวนหย่งอี้คิดเชิงลึกแล้วก็รู้สึกว่าเจ้าเจ็ดพูดได้ถูกต้อง ดังนั้นจึงรู้สึกดีขึ้น
แต่เรื่องนี้หยวนหย่งอี้ก็ยังมาพูดกับหยวนชิงหลิง ครั้นหยวนชิงหลิงได้ฟังแล้วก็รู้สึกอีหลักอีเหลื่อเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ที่ข้าว่านางคิดมากไป นั่นข้าพูดจริง ใครว่างมาจดจำเรื่องในอดีตเล่า? อีกอย่างเสด็จพ่อก็ลงโทษนางแล้ว”
ในฐานะที่เป็นฮองเฮา นางทำเพื่ออนาคตของลูกชายของตน แม้นวิธีการจะสกปรกอยู่บ้าง แต่หยวนชิงหลิงไม่เก็บใส่ใจจริงๆ เพราะนางไม่ได้…ยกย่องวิธีการของฮองเฮานัก
อีกอย่าง เรื่องที่ฮองเฮาทำเหล่านั้น ที่ทำร้ายจริงๆ ก็มีเพียงตนเอง
หยวนชิงหลิงเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าห้ารู้ด้วย เจ้าห้าฟังแล้วก็ดื่มชาเย็นอึกหนึ่ง เอ่ย “ไปอุทยานตะวันออกก็ดีสิ ต่อไปเจ้าไม่ต้องไปถวายพระพรอีก”
เจ้าห้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ เพียงแต่ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของเสด็จพ่อ เสด็จพ่อจัดการทุกเรื่องให้เขาจริงๆ