บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1476 พ่อแม่มาแล้ว!
หลังจากจัดการเรื่องฮองเฮาแล้ว เวลานี้ฮ่องเต้หมิงหยวนก็มุ่งแต่จัดการเรื่องลงจากตำแหน่งอย่างเดียว
แขกต่างแดนทยอยกันมาถึง เข้าพักที่โรงเตี๊ยม หยู่เหวินเห้าก็เริ่มยุ่งแล้ว ต้องต้อนรับแขกต่างแดนพร้อมกับคนของศาลหงหรู แคว้นต้าเยว่ แคว้นต้าซิง ตระกูลต้วนแห่งเซียนเปย แคว้นต้าเหลียงต่างส่งทูตมา แคว้นเล็กชนกลุ่มน้อยที่อยู่รอบๆ ก็ส่งทูตมาด้วย แคว้นที่อยู่โพ้นทะเลยังมาไม่ถึง คงเพราะหนทางยาวไกล ก่อนจะถึงพิธีขึ้นครองราชย์คงไม่ถึงแน่
แต่ของขวัญแสดงความยินดีคงต้องมาช้าแน่
เปาเปาไปยุคปัจจุบันแล้ว พวกศาสตราจารย์หยวนพยายามทำเรื่องลางานหนึ่งเดือน ใช้เวลาสองวันซื้อของ สิ่งที่ยุคโบราณขาด ก็พยายามจัดการให้เรียบร้อย
พวกเขาจัดการของแต่งงานด้วยความคิดที่จะแต่งลูกสาว แต่ที่จริงก็ไม่รู้จะซื้ออะไร เพชรนิลจินดาทางนั้นก็ไม่ขาด บ้านรถก็ไม่จำเป็น จึงได้แต่ซื้อสิ่งของอำนวยความสะดวก หนังสือปากกาพวกนี้
ฟางหวูไม่ได้ไปด้วย ก่อนหน้านี้เพราะหยวนชิงโจวไม่เคยไป เธอถึงเป็นคนนำทางพาเขามา ตอนนี้เส้นทางเชื่อมถึงกันสะดวกแล้ว เธอจึงไม่จำเป็นต้องไปอีก
แต่ฟางหวูก็ขับรถไปส่งพวกเขาถึงปากทางเข้า นัดแนะวันกลับ แล้วเธอจะกลับมารับ
แม่ของหยวนชิงหลิงตื่นเต้นมาก ตั้งหน้าตั้งตารอคอย นี่เป็นครั้งแรกที่จะไปบ้านลูกเขย ไม่ง่ายเลยจริงๆ คนอื่นแต่งลูกสาว อยากไปเมื่อไรก็ไปได้ แต่หลายปีมานี้เธอเพิ่งจะไปเป็นครั้งแรก
ศาสตราจารย์หยวนค่อนข้างเก็บอารมณ์ ทว่าความยินดีและการตั้งตารอคอยกลับเก็บซ่อนอยู่ในใบหน้าไม่มิด ขณะที่ขับรถไป เขาก็เอาแต่เสียดาย บอกว่าลืมซื้อเหล้ายี่ห้ออะไร ลืมซื้อกางเกงฤดูใบไม้ร่วงสองสามตัวให้ไท่ซ่างหวง ลืมหยิบรูปที่ล้างแล้วให้พวกเขา
เปาเปาจึงหัวเราะเอ่ย “ท่านอย่าเสียใจไปเลย ครั้งหน้าก็ยังมาได้ ท่านหยุดงานเมื่อไรก็มาอีก”
“เขาอยากไปทุกเดือนนั่นแหละ” หยวนชิงโจวพูดหยอก
“เช่นนั้นก็ดีสิ เอาของกินมาให้พวกเราได้ทุกเดือน” ซาลาเปาวาดฝันอนาคตที่สวยงาม
ศาสตราจารย์หยวนหัวเราะด่าหยวนชิงโจว “พูดไปเรื่อย ถึงจะเป็นที่นี่ ก็ไปรบกวนบ้านลูกเขยทุกเดือนไม่ได้”
“แต่นั่นเพราะที่นี่ ยังไงลูกสาวกับลูกเขยก็ต้องกลับบ้านมากินข้าว ก็เลยไม่ต้องลำบากพ่อตาไปเยี่ยมหา”
เวลานี้แม่ของหยวนชิงหลิงปล่อยวางได้แล้ว ไม่ยึดติดกับเรื่องพวกนั้นอีก “จะเอาตามใจตนชอบไม่ได้ การข้ามมิติเวลาไม่ง่ายอย่างนั้น ไปมาบ่อยๆ ไม่ได้ เราไม่ใช่เทพอะไรสักหน่อย ต้องเคารพกฎ มีเรื่องใหญ่ถึงไป เรื่องเล็กก็ไม่ต้องวุ่นวายให้มาก ไม่อย่างนั้นน้องได้เหนื่อยแย่”
การไปครั้งนี้ จะได้รู้สถานที่ที่ลูกสาวอยู่ รู้สภาพแวดล้อมที่เธอดำรงชีวิต เจอญาติเพื่อนฝูงของลูก แค่นั้นก็พอแล้ว
ฟางหวูอมยิ้มฟังพวกเขาหยอกล้อกัน กับสถานที่แห่งนั้น เธอก็มีความคิดถึงเหลือประมาณเหมือนกัน แต่แม่หยวนชิงหลิงพูดถูก จะข้ามมิติเวลาบ่อยๆ ไม่ได้ คนปกติไม่รู้การเปลี่ยนแปลงของอุโมงค์เวลา ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาก็อาจจะกลับมาไม่ได้
ด้วยแบบนี้ เปาเปาพาทั้งสามในยุคปัจจุบันปีนขึ้นมาจากทะเลสาบจิ้ง
แม่ทัพหลอหัวหน้าองครักษ์ลับผีนำคนมาเฝ้าที่นี่อยู่ก่อนแล้ว ครั้นเห็นพระนัดดาองค์โตกลับมาก็รีบเข้าไปรับ
พอศาสตราจารย์หยวนกับแม่หยวนชิงหลิงขึ้นฝั่งก็สูดลมหายใจเข้าลึก สัมผัสอากาศหอมหวานของโบราณ แล้วมองดูรอบๆ ทิวทัศน์ที่นี่สวยมากจริงๆ
แม่ทัพหลอรับพวกเขาขึ้นมาแล้ว ก็ส่งพิราบสื่อสารไป ให้รัชทายาทที่อยู่ในเมืองหลวงเตรียมตัว
พิราบสื่อสารใช้เวลาเพียงประมาณสองชั่วยามก็ถึงเมืองหลวง ดังนั้นก็เท่ากับเวลาที่พ่อแม่หยวนชิงหลิงถึงเป่ยถัง รัชทายาทก็รู้แล้ว
เขาทิ้งแขกต่างแดนทั้งหลายแล้วควบม้ากลับจวนบอกหยวนชิงหลิง จากนั้นก็นำเสื้อผ้าที่นางเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้วไป จะได้ให้พวกเขาเปลี่ยนก่อนเข้าเมืองหลวง
เดิมทีหยวนชิงหลิงอยากไปด้วย แต่หยู่เหวินเห้าบอกว่าไม่ต้อง เพราะเขาขี่ม้าเร็ว พาเจ้าหยวนไปด้วยจะทำให้การเดินทางขอเขาล่าช้า ดังนั้นจึงพาสวีอีไปคนเดียวเท่านั้น
เวลานี้หยวนชิงหลิงก็ไม่อยากถ่วงขาเขาเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นเขาทำนู่นทำนี่แบบตื่นเต้นกว่าปกติแล้วก็ปล่อยให้เขาไปรับ เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอด
ก่อนที่หยู่เหวินเห้าจะออกเดินทางก็ให้หยวนชิงหลิงส่งคนไปบอกไท่ซ่างหวง บอกว่าครอบครัวหยวนชิงหลิงทางนั้นมาแล้ว
ย่าหยวนจะไปจับชีพจรให้พวกเขาพอดี หยวนชิงหลิงจึงให้ย่าหยวนบอกกับพวกเขา
เนื่องจากระยะนี้จวนอ๋องฉู่มีคนเข้าออกค่อนข้างเยอะ ดังนั้นหยวนชิงหลิงจึงประกาศกับคนภายนอกว่าพ่อแม่บุญธรรมของนางจะมา
อะซี่ประหลาดใจมาก ไปถามหยวนชิงหลิง “พี่หยวน ท่านยังมีพ่อแม่บุญธรรมด้วยหรือ?”
หยวนชิงหลิงได้ยินอะซี่ถามเช่นนี้แล้วก็ประหลาดใจมาก หรือว่าสวีอีมิได้บอกเรื่องยุคปัจจุบันให้อะซี่รู้เลย?
ในบางเรื่องแล้ว เจ้านี่ก็เชื่อถือได้จริงๆ
หยวนชิงหลิงหัวเราะ “ก็ใช่นะสิ ตอนข้าเด็กๆ ก็มีพ่อแม่บุญธรรมแล้ว พวกเขาอยู่ในที่ที่ค่อนข้างห่างไกล ปกติไม่ค่อยได้มาเมืองหลวง แต่ข้าสนิทกับพวกเขามาก และข้าก็เรียกพวกเขาว่าพ่อแม่เหมือนกัน”
อะซี่อ้อเสียงหนึ่ง “เช่นนั้นข้าต้องช่วยท่านต้องรับพวกเขาดีๆ แล้ว”
“ดี ขอบใจนะ!” หยวนชิงหลิงยิ้ม ในใจเต็มไปด้วยความคาดหวังและความยินดี การที่พ่อแม่มาได้ เป็นความยินดีสูงสุดจริงๆ เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้สักกี่วัน
วันถัดมาหลังจากเจ้าห้าออกจวนแล้ว ช่วงกลางวันก็ได้ยินยามเฝ้าประตูกับลู่หยาเดินฉับเข้ามารายงาน “พระชายา พระชายาเพคะ ท่านพ่อกับท่านแม่ของพระองค์มาแล้วเพคะ”
หยวนชิงหลิงเพิ่งกล่อมกวากวาเข้านอน เมื่อได้ยินการรายงานของยามเฝ้าประตูกับลู่หยาแล้วก็ชะงักงันเล็กน้อย เร็วขนาดนี้เชียว? ถึงพ่อแม่จะไม่ได้พักเหนื่อยอยู่บนเขา เดินทางเข้าเมืองหลวงไม่หยุด แต่ตามระยะทาง อย่างเร็วคืนนี้ถึงจะถึงได้
ทว่าความยินดีและการตั้งตารอคอยชนะทุกสิ่ง นางจัดแต่งผมเผ้าเล็กน้อย คว้าชุดคลุมแล้วก็รีบเดินออกไปต้อนรับ
ความตื่นเต้นเก็บซ่อนไม่อยู่ ฝีเท้าก็เร็วเบา ครั้นเลี้ยวจากระเบียงทางเดินเข้าห้องโถงก็เห็นบ่าวรับใช้ห้อมล้อมทั้งสองคนเข้ามา ความดีใจที่มีอยู่เต็มอกเปลี่ยนเป็นความตะลึงในบัดดล
เป็นเจ้าพระยาจิ้งกับนางหวง กลับพ่อแม่ของร่างเดิมหยวนชิงหลิงเสียนี่
หลังจากสองพิลึกนี่หลบหนีไปแล้ว ผ่านไปนานก็ไม่เคยปรากฏตัว หยวนชิงหลิงเกือบคิดว่าพวกเขาตายอยู่ข้างนอกแล้ว ทำไมถึงรีบกลับเมืองหลวงเอาตอนนี้ได้?
ครั้นเจ้าพระยาจิ้งกับฮูหยินเห็นนาง ก็เผยความดีใจทั่วใบหน้า อยู่ไกลๆ ก็ตะโกนเรียก “ลูก!”
พวกเขาผลักบ่าวไพร่ออก รีบเดินมาทางหยวนชิงหลิง ใบหน้าแสดงความตื่นเต้นดีใจแบบพ่อแม่ที่จากลูกสาวไปนานเต็มที่ หยวนชิงหลิงเห็นพวกเขาเดินเร็วมาแล้วก็มีความคิดอยากหมุนตัวไปหลบทันที
แต่บ่าวไพร่ทั้งจวนกำลังมองนางอยู่ รอเห็นสีหน้าร้องไห้เพราะดีใจสุดซึ้งของนาง ถึงอย่างไรเจ้าพระยาจิ้งกับฮูหยินก็จากเมืองหลวงไปนาน จู่ๆ กลับมาลูกก็ต้องดีใจมากแน่
หยวนชิงหลิงแค่หัวเราะ และนี่ก็เป็นสีหน้าที่ฝืนที่สุดแล้ว มากกว่านั้นไม่ได้อีก “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกลับมาได้อย่างไร?”
เจ้าพระยาจิ้งหน้าขาวดุจหยกเหมือนเดิม เห็นได้ว่าอยู่ข้างนอกก็มีชีวิตที่ดี เดินขึ้นหน้ามายิ้มมองนาง สงวนท่าทีสุภาพ “เราเห็นประกาศของราชสำนัก บอกว่าฝ่าบาทจะสละจากตำแหน่ง ลูกเขยจะได้ขึ้นครองราชย์ เราก็เลยรีบกลับมา ข้าดีใจแทนเจ้าจริงๆ เจ้าลำบากมามากจะได้เสพสุขเสียที”
กล่าวจบก็ตาแดงนิดๆ ทำท่าเหมือนอยากจะร้องไห้
หากไม่ใช่เพราะในดวงตามีความเจ้าเล่ห์ หยวนชิงหลิงก็เกือบเชื่อความตั้งใจของพวกเขาแล้ว
เมื่อเขากล่าวจบ ก็ยื่นมือลากนางหวง “ดีใจจนตะลึงงันไปแล้วละสิ? เห็นลูกก็พูดไม่เป็นเสียแล้ว”
นางหวงหัวเราะ เนื่องจากไม่สนิทกับลูกสาว เวลานี้จึงทำท่าตื่นเต้นไม่ออก แต่ก็มองหยวนชิงหลิงพูดอย่างดีใจจากใจ “ดีจริง ดีจริง เจ้าจะได้เป็นฮองเฮาแล้ว พ่อเจ้าก็จะได้เป็นพ่อตาฮ่องเต้”
นางหวงกลับตรง ที่รีบร้อนกลับมาก็ด้วยจุดประสงค์นี้