บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1477 ในที่สุดก็มาถึง
มีปัญหาก็หลบ จบปัญหาแล้วก็จะกลับมาเป็นพ่อตาฮ่องเต้ นิสัยเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นของเจ้าพระยาจิ้งนี้ไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เห็นชัดว่านางหวงติดตามอยู่กับเขา กำบังอุปสรรคร้อยแปดให้ชีวิตเขา ดูแล้วนางหวงยังจะแก่กว่าเขามาก
หยวนชิงหลิงรับพวกเขาเข้ามา เดิมคิดจะพูดอย่างขอไปทีนิดหน่อย แล้วให้คนส่งพวกเขากลับจวนเจ้าพระยาจิ้ง แต่พอเข้าไปแล้ว เจ้าพระยาจิ้งก็เริ่มบอกเล่าความลำบากหลายปีนี้ หลบหนีไปหลายแห่ง ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ กลัวว่าราชสำนักจะหาเรื่องเขา ไปมาหลายเมือง ล้วนแต่อาศัยอยู่ในชนบท กินไม่ดี อยู่ไม่ดี ที่ที่อยู่ก็ซอมซ่อมาก พูดเสียจนขอทานยังจะดีกว่า
พูดจนถึงสุดท้าย เจ้าพระยาจิ้งก็ร้องไห้สะอึกสะอื้น ลูกผู้ชายทั้งแท่ง กลับอดใจไม่อยู่ร้องไห้ในห้องโถง
พอเขาร้องไห้ นางหวงก็ร้องไห้ด้วย สองมือปิดหน้า น้ำตาเจือออกมาจากร่องนิ้ว การร้องไห้ของนางหวงมีท่าทางที่เหมือนกับลักษณะใจสลาย
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ มองทั้งสองที่ฟูมฟาย แล้วยังเป็นพ่อแม่ในนามอีก จะไปก็ไม่ได้ ได้แต่ปลอบ แต่คำพูดพวกนั้นที่เจ้าพระยาจิ้งเอ่ย เดิมต้องการให้นางเป็นประกัน แต่นางกลับไม่พูดถึงสักนิด
ดังนั้นเจ้าพระยาจิ้งจึงร้องไห้หนักกว่าเดิม กลับเป็นนางหวงที่ร้องไห้ไปยกหนึ่งแล้วก็เช็ดน้ำตา นั่งน่าเศร้าอยู่ด้านข้าง ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนอย่างเคย
ว่าไปก็แปลก หลังจากเจ้าพระยาจิ้งร้องไห้ไปยกหนึ่งแล้ว ในหัวสมองของหยวนชิงหลิงกลับมีภาพเหตุการณ์จำนวนหนึ่งปรากฏอยู่ในหัวสมองนางเป็นภาพๆ สมจริงมาก ล้วนเป็นภาพการดำรงชีวิตของพวกเขาสองสามีภรรยา
ก่อนที่พวกเขาจะจากไป ก็เอาเด็กคนนั้นของกู้จือให้คนอื่นไปเลี้ยง เจ้าพระยาจิ้งไม่ยอมรับตั้งแต่ต้นจนจบ หนีไปกับนางหวง อยู่ชนบทจริงๆ แต่พอนานวัน รู้สึกว่าไม่มีอันตรายแล้ว เจ้าพระยาจิ้งก็เริ่มก่อเรื่อง เดี๋ยวเข้าตีสนิทกับหญิงหม้ายในหมู่บ้าน เดี๋ยวก็ไปมาหาสู่กับหญิงสาวที่ออกเรือนแล้วในหมู่บ้านบ่อยๆ พวกเขาดูหมือนลี้ภัย แต่ตอนไปก็พกเงินไปด้วย ดังนั้นการดำรงชีพจึงไม่เป็นปัญหา กอปรกับเจ้าพระยาจิ้งหน้าตาดี ย่อมดึงดูดสาวงาม นานวันเข้าก็ถูกคนจับได้ ชายในหมู่บ้านจึงรุมซ้อมยกหนึ่ง ดีที่เขาเป็นวรยุทธ์ถึงได้หลบมาได้ มิเช่นนั้นครั้งแรกก็ต้องถูกตีตายแล้ว
หลังจากเกิดเรื่องนี้แล้วย่อมอยู่ต่อไม่ได้ ไปที่อื่นอีก อยู่อย่างสงบพักหนึ่งก็เข้าอีหรอบเดิม ชีวิตลำเค็ญที่เขาบอกก็คือถูกคนตีแล้วก็หนี พอไปสภาพแวดล้อมใหม่ก็ต้องทำความคุ้นเคยอีก ถึงอย่างไรหลายปีมานี้ก็อยู่ในภาวะเช่นนี้ แต่นางหวงก็ยังติดตามเขา เหน็ดเหนื่อยงานบ้านเพื่อเขา ดูแลการกินการอยู่ของเขา กระทั่งยังปกป้องเขา หลายครั้งที่มีคนตามมาถึงบ้าน เจ้าพระยาจิ้งก็ไปหลบ คนพวกนั้นจึงซ้อมนางระบายอารมณ์แทน
ตั้งแต่หยวนชิงหลิงปลูกถ่ายกลับมาที่สมองเดิม ถึงจะรู้ว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษบางอย่าง แต่การเห็นภาพชีวิตในอดีตพวกเขาเช่นนี้ยังเป็นครั้งแรก
เจ้าพระยาจิ้งไม่ยอมกลับจวนเจ้าพระยาจิ้ง บอกว่าจะอยู่ที่นี่ ทั้งเมืองหลวงมีเพียงที่แห่งนี้เท่านั้นที่ปลอดภัย รัชทายาทเป็นเขยของเขา เขาหลบอยู่ที่นี้แล้วใครจะกล้ามาหาเขาอีก?
แต่หยวนชิงหลิงย่อมไม่อยากให้เขาอยู่ที่นี่ พ่อแม่จะมาถึงเดี๋ยวนี้แล้ว หากพวกเขาอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าจะก่อความวุ่นวายอะไรอีก
ดังนั้นจึงเรียกทังหยางมา เตรียมรถม้า ส่งพวกเขากลับจวนเจ้าพระยาจิ้งไปก่อน
แต่อย่างไรเจ้าพระยาจิ้งก็ไม่ยอมไป ทังหยางจึงพูดกับเขา ว่าในจวนมีคนเข้าออกมากมาย หากมีคนเขาเห็นก็จะนึกถึงเรื่องในอดีต ย่อมต้องทำให้รัชทายาทลำบาก ถึงตอนนั้นพ่อตาฮ่องเต้อะไรนั่นก็ต้องจะไม่ได้เป็นแล้ว
ครั้นถูกทังหยางขู่อย่างนี้ เจ้าพระยาจิ้งถึงยอมจากไป
นางหวงย่อมตามเขาไปด้วย เดินออกไปแล้วก็หันกลับมามองหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง แววตานั้นเต็มไปด้วยความทุกข์และขมขื่น แต่ก็ถือว่ามีความเห็นอกเห็นใจลูกสาวบางส่วน ครั้นน้ำตาทะลักออกมาก็หันหน้ากลับไปทันที
หยวนชิงหลิงยิ้มเจื่อน ไม่รู้ควรพูดว่านางหวงโง่เขลาหรือว่าเจ้าพระยาจิ้งชั่วร้ายดี ถึงขั้นหลบหัวซุกหัวซุนแล้วก็ยังไม่รู้จักรักตัวเอง นางหวงก็ช่างหัวรั้น ในใจนอกจากสามีแล้วก็ไม่มีที่สำหรับคนอื่นอีก แม้แต่ลูกชายลูกสาวก็ยังทิ้ง หลบหนีไปกับสามี
หัวค่ำทังหยางถึงกลับมารายงาน หน้าตาลำบากสุดๆ “หลังจากกลับไปแล้ว ฮูหยินใหญ่ก็ถือไม้กวาดตีเขายกหนึ่ง เขาก็เลยเก็บข้าวของจะกลับมาจวนอ๋องฉู่ ข้าน้อยก็เกือบขวางไว้ไม่อยู่ ดีที่ใต้เท้าหยวนกลับมาพอดี ตวาดใส่เขา ข้าน้อยไม่เคยเห็นใต้เท้าหยวนดุขนาดนี้มาก่อนเลยพ่ะย่ะค่ะ เมื่อก่อนเห็นเขาสุภาพ ดุขึ้นมาก็น่าตกใจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
เดิมทีหยวนหลุนเหวินเคยอยู่ในกั๋วจื่อเจียนมาก่อน ภายหลังถูกให้ไปรับราชการต่างเมือง ครั้งฮ่องเต้หมิงหยวนจะลงจากตำแหน่ง ก็มีราชโองการโยกย้ายหยวนหลุนเหวินกลับมา
หลายปีมานี้หยวนหลุนเหวินอยู่ในเมืองหลวงน้อยมาก แต่ให้ความสนใจกับเรื่องน้องสาวที่สุด อยู่ข้างนอกทำงานด้วยความตั้งใจถึงที่สุด สั่งสมประสบการณ์ ก็เพื่อต้องการช่วยน้องเขยปกครองบ้านเมือง
บัดนี้เพิ่งกลับมาก็ได้เห็นพ่อก่อเรื่อง ย่อมยอมให้ไม่ได้อยู่แล้ว
หยวนหลุนเหวินรับราชการอยู่ข้างนอก มีบุคลิกของข้าราชการท้องที่ และบุคลิกนี้ข่มเจ้าพระยาจิ้งที่อาศัยอยู่กินไปวันๆ จนตายได้ไม่มีปัญหา
หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างดีใจ “ท่านพี่กลับมาก็ดี ข้าไม่ได้พบเขานานแล้ว”
หยวนชิงหลิงชื่นชมและเคารพหยวนหลุนเหวินมาก และเฝ้ารอให้เขาย้ายกลับมาเมืองหลวงเร็ววัน
ครั้นจัดการเรื่องนี้แล้ว หยวนชิงหลิงก็วางใจ ตอนที่พ่อแม่มาจะได้ไม่ต้องมารับมือกับเจ้าพระยาจิ้งที่ร้องไห้ฟูมฟายอีก
ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นก็ได้ยินเสียงตะโกนจากนอกประตู “องค์รัชทายาทและพระนัดดาองค์โตเสด็จกลับมาแล้ว และทรงรับแขกกลับมาแล้ว”
หยวนชิงหลิงอุ้มกวากวา พาเด็กๆ รีบวิ่งออกไป เมื่อถึงลานหลักก็ได้เห็นเจ้าห้าพาพ่อแม่และพี่ชายมาจริงๆ ในมือพวกเขาหิ้วของอินุงตุงนัง ใบใหญ่ใบเล็ก ใส่ชุดที่นางทำให้พวกเขาล่วงหน้า เหมาะสมมาก แต่เห็นชัดว่าพวกเขาไม่คุ้นเคย เวลาเดินระมัดระวัง กลัวจะเหยียบถูก
“พ่อคะ แม่คะ!” หยวนชิงหลิงอุ้มกวากวาไป ดวงตาร้อนผ่าว ยังไม่ทันเข้าใกล้ เด็กๆ ก็กรูไปแล้ว กีดกันนางอยู่ข้างนอก อยากออดอ้อนกับพ่อแม่เสียหน่อยก็ไม่มีโอกาส
คนในจวนมองภาพนี้อย่างแปลกใจ นี่ก็คือพ่อแม่บุญธรรมของพระชายารัชทายาทหรือ? ช่างสุภาพมีสง่าเหลือเกิน เหมือนปัญญาชน บุคลิกน่าเข้าหา ดีกว่าเจ้าพระยาจิ้งและฮูหยินมาก
ยามเฝ้าประตูบอกเล่ากับบรรดาบ่าวไพร่ “เมื่อครู่ข้าถือของให้พวกเขา พวกเขาเอ่ยขอบคุณข้าด้วยแน่ะ! เป็นคนดีมากจริงๆ”
“นั่นสิ ฮูหยินท่านนั้นยังให้ขนมอบข้ามาห่อหนึ่ง แต่ขนมอบนี้แปลกมาก ใช้กล่องบรรจุ ข้างในยังมีเนยแข็งด้วย”
หยู่เหวินเห้าไล่ทุกคนออกไป แล้วดึงเด็กออกอย่างกับถอนไชเท้า “ท่านตากับท่านยายเหนื่อยแล้ว รีบให้พวกเขาเข้าไปนั่งดื่มน้ำเร็ว หลีกไปๆ”
เด็กๆ รู้ความ ช่วยถือของ ซาลาเปาแย่งถือกล่องที่หยวนชิงโจวถืออยู่ พูดอย่างเบ่งอำนาจ “นี่เป็นของเล่นของข้า ใครอยากได้ ข้าก็แบ่งให้ได้ แต่ต้องเชื่อฟังข้า”
กล่องใหญ่มาก ยกขึ้นมาท่าทางหนักมาก แต่ซาลาเปาเบ่งอำนาจเช่นนี้ ดันไปสองสามที ยกขึ้นบันไดหิน ภูมิใจเสียไม่มี
เมื่อนั้นทุกคนจึงทิ้งกล่องใบอื่น แล้ววิ่งตามซาลาเปา ซาลาเปาวิ่งพลางหัวเราะคิกคัก ของเล่นทั้งกล่องนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เขาเลือกเฟ้นมาอย่างดี จะให้คนอื่นไปง่ายๆ ไม่ได้
ต้าโถวลูกของจิ้งถิงและจวิ้นจู่ก็อยู่ด้วย ครั้นได้ยินว่ามีของเล่นก็วิ่งตาม ตะโกนเรียกซาลาเปาๆ ไม่หยุด