บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1494 ขยันลดน้ำหนัก
ท่านชายสี่เหลิ่งยื่นมือเข้ามา อยากจะกุมมือนางเอาไว้ เห็นหยวนชิงหลิงที่ขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ ท่าทีค่อนข้างเคร่งขรึม จึงเก็บมือกลับไปอย่างละอายใจ ถามอย่างรู้สึกไม่สบายใจว่า “แล้ว แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี กินยาได้หรือไม่ ”
หยวนชิงหลิงบอกว่า “กินยาอะไร ต้องกินอาหารอ่อนๆไปก่อน อดทนสักหน่อย ข้ารู้ว่าตั้งครรภ์แล้วความอยากอาหารอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่ว่าตอนนี้ครรภ์ใหญ่เกินไปแล้ว ตอนที่คลอดจะค่อนข้างลำบากและอันตราย จำเป็นต้องระมัดระวังให้มากจึงจะดี”
“พี่สะใภ้ห้าท่านวางใจเถอะ ข้าจะระวังให้มาก ข้าไม่กินอีกแล้ว”
“ต้องกิน กินอาหารอ่อนๆหน่อย กินน้อยๆแต่กินหลายมื้อ อดทนอีกสักหน่อย ใกล้เวลากำหนดคลอดแล้ว อดทนอีกสักสองเดือน ”หยวนชิงหลิงพูดกำชับอีกครั้ง
หยู่เหวินหลิงพูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า “รู้แล้ว”
หยวนชิงหลิงรู้ตัวว่าพูดจาเคร่งครัดจริงจังเกินไปแล้ว แต่จำเป็นต้องเคร่งครัดท่านชายสี่เหลิ่งจึงจะยอมใส่ใจ แต่ไหนแต่ไรมาเขามีสติสัมปชัญญะตลอด แต่เพื่อปรนเปรอความอยากของปากภรรยา ทำได้ไม่เหมือนคนที่มีสติสักเท่าไหร่
ก่อนหยวนชิงหลิงจะจากไป ได้กำหนดมื้ออาหารขึ้นด้วยตนเอง ให้หยู่เหวินหลิงกินตามรายการอาหาร ท่านชายสี่เหลิ่งหลังจากที่ผ่านเรื่องราวทุกข์ใจก็หวนนึกถึงความทุกข์นั้น สั่งให้ทุกคนในจวนกินอาหารตามรายการอาหารขององค์หญิงทุกคน ทุกมื้อล้วนกำหนดปริมาณที่แน่นอน
เพื่อเป็นการต้อนรับลูกของท่านชายสี่เหลิ่งที่กำลังจะเกิด เพื่อให้ตอนคลอดนายหญิงจะทรมานน้อยลงเสียหน่อย ทุกคนต่างก็ตอบรับเป็นอย่างดี ต่างก็ลดน้ำหนักเป็นเพื่อนหยวนชิงหลิง
อ๋องซุนได้ยินเรื่องนี้แล้ว ย่อมต้องรู้สึกสงสารน้องสาวเป็นอย่างยิ่ง และได้พาภรรยานั่นก็คือพระชายาซุนไปจวนเหลิ่งในวันที่สามของปีใหม่ คิดว่าจะถ่ายทอดเรื่องราวที่ตนเองลดน้ำหนักมาหลายปีให้น้องได้ฟัง
หลังจากมาถึงจวนเหลิ่ง ก็พูดกับหยู่เหวินหลิงว่า “เรื่องลดน้ำหนัก ในเป่ยถังนี้ พี่รองของเจ้ามีความรู้มากที่สุดแล้ว กินให้น้อย ขยับให้มาก วันหนึ่งกินห้ามื้อ ทุกมื้อกินแค่เล็กน้อย ในท้องมีอาหารอยู่เล็กน้อยก็พอ จากนั้นทุกเช้ากลางวันเย็นก็ต้องออกไปเดินออกกำลัง ต้องออกกำลังกายทุกวันวันละครึ่งชั่วยาม ขอเพียงทำตามวิธีการที่พี่รองบอก ก็สามารถผอมลงได้แน่”
“พี่รอง ท่านก็ทำตามวิธีการนี้หรือ”หยู่เหวินหลิงมองวิเคราะห์ร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่โตของเขา รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง
อ๋องซุนเอ่ยว่า “พี่ใช้วิธีการนี้ ก็เคยลดได้บ้างบางส่วน แต่ว่าภายหลังควบคุมปากของตัวเองไม่ได้ ก็อ้วนเหมือนเดิม ถามพี่สะใภ้รองของเจ้าได้ พี่ก็เคยผอมอยู่ช่วงหนึ่ง”
หยู่เหวินหลิงมองไปทางพระชายาซุน ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย
อ๋องซุนมองไปทางภรรยา “เจ้าพูดสิ”
พระชายาซุนอึกอักอยู่ชั่วครู่ “ผอมน่ะก็เคยผอมลงสองชั่ง แต่ข้าคิดว่า เขากินมื้อเดียวก็สามารถอ้วนขึ้นได้ห้าชั่ง สองชั่งที่ผอมไปจะนับอะไรได้”
หยู่เหวินหลิงทำหน้าไม่ถูกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
อ๋องซุนขุ่นเคือง “พูดจาเหลวไหลจริงๆ”
หยู่เหวินหลิงครุ่นคิด พูดว่า “ข้ากินตามรายการอาหารของพี่สะใภ้ห้าที่ให้ไว้ดีกว่า นางได้ระบุชัดเจนแล้ว ไม่กินตามนั้น ประเดี๋ยวนางจะโกรธเอาได้”
อ๋องซุนได้ยิน ก็นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ “นางให้รายการอาหารหรือ”
“ให้สิ บอกว่ากินตามนี้ก็พอ”หยู่เหวินหลิงพูด
อ๋องซุนออหนึ่งเสียง สายตาเป็นประกาย “รายการอาหารนั่น ให้พี่ดูหน่อย”
หยู่เหวินหลิงจึงให้คนเอารายการอาหารมาให้เขา “ท่านมีประสบการณ์ในการลดน้ำหนักมากที่สุด ท่านลองดูสิว่ารายการอาหารของพี่สะใภ้ห้าจะใช้ได้ผลหรือไม่”
อ๋องซุนรีบเอามาเปิดออกดูทันที เมื่อดูทั้งหมดแล้ว ก็รีบยกมือขึ้น “คัดลอกให้ข้าหนึ่งฉบับ ข้าจะกลับไปทดสอบด้วยตนเอง”
หยู่เหวินหลิงหลุดเสียงหัวเราะออกมา “พี่รอง คิดไม่ถึงเลยว่าท่านมาเอารายการอาหารหรือนี่ ไม่สู้ท่านมาอยู่ที่นี่ซะเลย ตอนนี้ทุกคนในจวนเหลิ่งต่างก็กินตามรายการอาหาร คอยสอดส่องดูแลกัน มีเพื่อน ก็สามารถอดทนทำต่อไปได้ ถ้าท่านอยากจะลดน้ำหนักจริงๆละก็ มาอยู่ที่นี่เถอะ”
อ๋องซุนได้ยินแล้วก็ดีใจมาก “ดี ความคิดดี ก่อนหน้านี้ข้าได้แต่กังวลว่าไม่มีใครลดน้ำหนักเป็นเพื่อน โดยเฉพาะพี่สะใภ้รองของเจ้าน่าโมโหมาก ทุกครั้งที่ข้าบอกว่าจะลดน้ำหนัก ก็จะสั่งให้ห้องครัวทำอาหารอร่อยๆ จงใจยั่วยวนข้า ”
พระชายาซุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “เป็นท่านที่ควบคุมปากของตัวเองไม่ได้ จะบ่นใครได้ องค์หญิง ทางที่ดีเจ้าอย่าเรียกเขามาเลย คนอย่างเขา กินเองยังรังเกียจว่าไม่อร่อย ต้องกล่อมให้ทุกคนกินด้วยกัน ถ้าหากเขามาอยู่ที่นี่ ต้องทำลายแผนการอดอาหารของพวกเจ้าแน่นอน เชื่อหรือไม่คนทั้งจวนจะถูกเขาชักจูงคนเสียคนไปหมด”
“เจ้าดูถูกใคร ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าต้องลดน้ำหนักให้ได้เลยคอยดู ”อ๋องซุนเอ่ยอย่างโมโห
“พี่รอง ข้าสนับสนุนท่าน”หยู่เหวินหลิงพูดขึ้นทันที
อ๋องซุนซาบซึ้งใจมาก “ดี น้องพี่ พี่จะกลับไปเก็บข้าวของเดี๋ยวนี้ มาอยู่กับพวกเจ้าสักพัก”
พระชายาซุนยักไหล่ “ดูสิว่าท่านจะอดทนได้ถึงสามวันหรือไม่ ”
ไม่ใช่ดูถูกเขา แต่เพราะหลายปีมานี้ได้มีตัวอย่างการลดน้ำหนักมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง ลดได้สองชั่ง ก็กินจนเพิ่มขึ้นมาอีกห้าชั่ง ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีไขมันเต็มตัวเช่นนี้
อ๋องซุนกลับไปเก็บข้าวของอย่างรีบร้อน หยู่เหวินหลิงรอจนท่านชายสี่เหลิ่งกลับมาจากการทำงานราชกิจ จึงพูดเรื่องนี้ให้เขาฟัง ท่านชายสี่เหลิ่งยิ้มบางๆและพูดว่า “ในเมื่อพี่สะใภ้รองดูถูกพี่รอง พวกเราก็ช่วยพี่รองสักครั้ง ยืนหยัดด้วยกัน ดีหรือไม่”
“ดี ข้าต้องช่วยพี่รองลดน้ำหนักให้ได้”หยู่เหวินหลิงตัดสินใจแล้ว ต้องอดทนไม่กินมากเกินไป ช่วยตัวเองและช่วยพี่รองด้วย
ท่านชายสี่เหลิ่งประคองนางให้นั่งลง นั่งลงข้างกายของเขา ถอดรองเท้าของนางช่วยนวดขาทั้งสองข้างของนาง ขาทั้งสองข้างมีอาการบวมน้ำ นิ้วมือเรียวยาวของเขานวดเท้าอันเปล่าเปลือยของนาง ถอนหายใจเบาๆ “เจ็บหรือไม่ ”
“วันนี้ดีขึ้นแล้ว ไม่ได้เดินนาน ”นางยื่นมือไปดึงมือของเขาเอาไว้ เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
ท่านชายสี่เหลิ่งเงยหน้าขึ้น ในแววตารื้นใสมีแววตำหนิตัวเอง “ต้องโทษข้า ลูกศิษย์ข้าได้กำชับหนักหนา แต่ข้าก็ยังคงใจอ่อนจนได้ ตลอดการตั้งครรภ์นี้เจ้ามีแต่จะทรมาน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร คิดว่าเรื่องกินยังจะควบคุมเจ้าอีก ช่างโหดร้ายเกินไปแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นการทำร้ายเจ้า ”
หยู่เหวินหลิงยื่นมือไปโอบรอบคอของเขาเอาไว้ ใช้ใบหน้าแนบเข้าหาเบาๆ ขนตากะพริบชั่วครู่ เอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า “ไม่ใช่ความผิดท่าน เป็นเพราะข้าเอาแต่ใจ ทำให้ท่านเป็นห่วง”
ท่านชายสี่เหลิ่งค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ท้องของนางอย่างระมัดระวัง กอดนางทีหนึ่ง พูดว่า “ยังมีเวลาอีกสองเดือน พวกเราต้องยืนหยัดอดทนไปด้วยกัน”
หยู่เหวินหลิงพยักหน้าอย่างจริงจัง ตอบรับเสียงหนึ่ง ฟันหน้ากัดไปที่ริมฝีปากเบาๆหนึ่งที เห็นใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความรัก ทันใดนั้นก็ใบหน้าเบิกบาน ยิ้มอย่างสดใสออกมา ราวกับดอกไม้แรกแย้ม ทำให้รู้สึกสงสารเอ็นดู
อ๋องซุนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยจริงๆ เริ่มแผนการลดน้ำหนักของเขาอย่างอึกทึกครึกโครมน่าดู
ตั้งแต่ครั้งนั้นที่หยวนชิงหลิงถูกลอบสังหาร หลังจากช่วยนางเอาไว้แล้ว ก็ตั้งมั่นว่าจะลดน้ำหนัก แต่ไม่เคยสำเร็จเลย นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว น้องห้าก็ขึ้นครองราชย์แล้ว เขายังทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ เป็นเช่นนี้ไม่ได้ ชีวิตของคนเราแม้แต่เรื่องเดียวก็ทำไม่สำเร็จไม่ได้
ก็แค่ลดน้ำหนักเท่านั้น สู้
ที่จริงรายการอาหารของหยวนชิงหลิงไม่ได้เคร่งครัดสักนิด อาหารเช้ากินให้มากหน่อย นมแพะหนึ่งแก้ว ไข่หนึ่งฟอง ข้าวธัญพืชครึ่งถ้วย
มื้อกลางวันนมแพะบวกกับเนื้อ แล้วยังเพิ่มผักสีสองชนิด ไม่สามารถกินข้าวได้
มื้อเย็นสามารถกินผลไม้ได้เล็กน้อย บวกกับของว่างอีกสองชิ้น
ก่อนนอน ยังสามารถดื่มนมแพะได้อีกแก้ว
รายการอาหารนี้ให้กับหยู่เหวินหลิง อ๋องซุนเอามาปรับแก้เล็กน้อย มื้อเย็นกับมื้อก่อนนอนไม่เอา วันนี้กินสามมื้อ เดิมทีคิดว่าจะไม่กินอาหารค่ำด้วย แต่ว่าทนไม่ไหวจริงๆ จึงกินข้าวธัญพืชไปเล็กน้อย
ตอนที่ท่านชายสี่เหลิ่งและองค์หญิงกำลังเดินเล่นอยู่ เขาก็วิ่งออกกำลังกายตอนกลางคืน วิ่งเสร็จก็อาบน้ำจากนั้นก็อ่านหนังสือ อ่านหนังสือเพื่อเป็นการกล่อมให้ตัวเองหลับ เพราะว่าการเข้านอนเร็วจะไม่ทำให้รู้สึกหิว