บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1498 ประวัติความเป็นมาของท่านชายสี่เหลิ่ง
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1498 ประวัติความเป็นมาของท่านชายสี่เหลิ่ง
หยวนชิงหลิงอุ้มเด็กออกไปให้ชายาเฟิงอัน พระชายายื่นมือออกมาอุ้มเด็ก ใบหน้ามีรอยยิ้มที่อบอุ่น “ข้าคิดว่าชาตินี้เขาคงจะไม่มีลูกของตัวเองเสียแล้ว ดีจริงๆ เขายิ่งอยู่ก็ยิ่งมีชีวิตที่มีสมบูรณ์แล้ว เด็กคนนี้เหมือนตอนเขาตอนเล็กๆมาก เพียงแต่ ตอนเด็กๆเขาตัวเล็กเกินไป”
หยวนชิงหลิงมองพระชายา ค่อยๆนั่งลง “ครั้งนี้ท่านชายสี่เหลิ่งแสดงออกว่าตื่นเต้นมาก แม้ว่าภรรยาจะคลอดลูก คนที่มีสามีตื่นเต้นนั้นก็สมควรอยู่ แต่ท่านชายสี่เหลิ่งที่อยู่ในใจข้า เป็นคนที่แม้แต่ภูเขาถล่มสีหน้าก็ไม่มีวันเปลี่ยน ครั้งนี้ดูตื่นเต้นมากเกินไปหน่อย พระชายา เขามีปมอะไรในใจอยู่ใช่หรือไม่ ”
พระชายามองมา ใบหน้ามีแววหวั่นไหวอยู่บ้าง “เจ้าช่างสังเกตทุกอย่างจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นห่วงเขามาก ที่จริงเขาดีใจมากที่มีเจ้าเป็นลูกศิษย์ เจ้าเป็นผู้หญิงคนแรกในชีวิตเขาที่ต้องปกป้อง”
“หืม?”หยวนชิงหลิงรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง “คนแรกที่ต้องปกป้องไม่ใช่ท่านหรือ ท่านเป็นอาจารย์ของเขา”
“เขารู้ตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าข้าไม่ต้องการการปกป้อง”พระชายาใช้หน้าผากของตนเองแนบไปกับหน้าผากของเด็กน้อย แววตามีความอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่หยวนชิงหลิงไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากนั้นก็กดมือทับไปบนห่อผ้า พูดว่า “เด็กคนนี้มีวาสนา กำเนิดมาในช่วงที่บ้านเมืองสงบรุ่งเรือง พ่อแม่มีฐานะสูงส่ง เด็กคนนี้ต้องมีคนปกป้อง มีคนรัก มีคนเอาใจมากมายอย่างแน่นอน เป็นเด็กที่คนทั้งใต้หล้าต้องเอ็นดู ตั้งชื่อว่าเหลิ่งเทียนสิง หวังว่าหลังจากที่เขาเติบโตแล้ว สามารถเดินตามกฎธรรมชาติ เป็นตัวแทนที่กล่าวถึงความทุกข์ยากของผู้คน เป็นอย่างไร”
“ดำเนินไปตามกฎธรรมชาติ เหลิ่งเทียนสิง ชื่อนี้ไพเราะมาก ความหมายก็ดีมากเช่นกัน ”หยวนชิงหลิงเอ่ยชม มองพระชายา “ เช่นนั้นชื่อของลูกชาย ท่านชายสี่เหลิ่งท่านเป็นคนตั้งให้แล้ว แล้วพ่อแม่ของท่านชายสี่เหลิ่งเล่า”
ประวัติความเป็นมาของท่านชายสี่เหลิ่ง เป็นปริศนามาตลอด ตอนที่เขาแต่งงานกับองค์หญิง ตระกูลเหลิ่งก็ไม่มีคนมาร่วมงาน
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าท่านชายสี่เหลิ่งมีชาติกำเนิดที่สูงส่ง อย่างน้อยก็เป็นตระกูลพ่อค้า แต่ว่า ก็รู้แค่นี้ ที่เหลือ ก็ไม่มีใครรู้อะไรอีก
เดิมทีหยวนชิงหลิงไม่ได้ตั้งใจจะสืบเรื่องของเขา แต่ว่าตอนที่องค์หญิงคลอดลูก ท่าทีที่เขาแสดงออกมาค่อนข้างจะ อ่อนแอ นางไม่เคยเห็นท่านชายสี่เหลิ่งเป็นเช่นนี้มาก่อน
พระชายาอุ้มเด็กเอาไว้ ยืนขึ้น พูดเรียบๆประโยคหนึ่งว่า “คนในตระกูลเขาตายไปหมดแล้ว”
หยวนชิงหลิงตกใจมาก “ตายแล้ว แต่ว่า ข้าได้ยินว่า……”
“ข่าวลือที่เกี่ยวกับเขาทั้งหมด ล้วนไม่ใช่เรื่องจริง ความจริงก็คือคนทั้งบ้านของเขาได้ตายไปหมดแล้ว”เห็นได้ชัดว่าพระชายาเองก็ไม่อยากจะพูดมาก อุ้มเด็กเข้าไปยังหอด้านข้าง
หยวนชิงหลิงมองแผ่นหลังของนางอย่างนิ่งอึ้ง หัวใจรู้สึกตื่นตะลึงอยู่บ้าง คนของตระกูลท่านชายสี่เหลิ่งตายกันหมดแล้ว เช่นนั้นเขาก็เป็นเด็กกำพร้าหรือ
“ฮองเฮา เหนื่อยมากแล้วกระมัง”หรงเยว่เดินเข้ามา นั่งลงไปบนเก้าอี้ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอิจฉาแขวนอยู่ พูดว่า “แต่เหนื่อยแล้วก็คุ้มค่า เด็กช่างน่ารักจริงๆ หลานชายของข้า คิดไม่ถึงจริงๆ ตอนนี้ข้ามีลูกสาวของตัวเอง ยังมีหลานชายด้วย”
หยวนชิงหลิงมองหรงเยว่ หัวใจกระตุก “เจ้าจะกลับหรือยัง พวกเรากลับไปพร้อมกันเถอะ”
“ข้าจะอยู่ต่อ……”
หยวนชิงหลิงยืนขึ้นมาดึงตัวนาง “ไป พวกเรากลับกันเถอะ อย่ารบกวนพวกเขา”
“ไม่ได้รบกวนนี่นา ข้าจะดูหลานชาย……”
“กลับไปดูลูกของตัวเอง ข้าจะไปส่งเจ้าเอง”
“ไม่ต้อง ข้าขี่ม้ามาเอง เจ้าส่งข้ากลับยิ่งไม่สะดวก”
หยวนชิงหลิงใช้ความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลากตัวหรงเยว่ออกไป ขึ้นรถม้าของนาง
หรงเยว่อ้าปากตาค้าง มองหยวนชิงหลิงอย่างวิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้ามีพละกำลังมหาศาลเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่วงนี้เจ้าขยันฝึกวรยุทธหรือ เจ้ายุ่งอยู่กับโรงหมอตลอดเลยมิใช่หรือ ท่านชายสี่เหลิ่งก็ไม่มีเวลาสอนเจ้า ฮ่องเต้สอนเจ้าเองหรือ นิสัยไม่ดีของเขาสอนเจ้าฝึกวรยุทธเจ้าสามารถทนได้หรือ”
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ ข้าถามเจ้า ประวัติความเป็นมาของท่านชายสี่เหลิ่งเจ้ารู้หรือไม่”หยวนชิงหลิงกดมือของนางเอาไว้พลางถามขึ้น
“ประวัติของท่านชายที่เหลิ่ง ทำไมจู่ๆก็ถามเรื่องส่วนตัวเช่นนี้ขึ้นมา “หรงเยว่รู้สึกคาดไม่ถึง
“ก็แค่รู้สึกว่าพวกเรารู้จักท่านชายสี่เหลิ่งน้อยไปแล้ว อยากจะเข้าใจมากขึ้นบ้าง” หยวนชิงหลิงนึกถึงตอนที่มองเห็นท่านชายสี่เหลิ่งแทบจะทรุดลงไปแล้ว จิตใจก็รู้สึกไม่เป็นสุขกรูขึ้นมาอย่างรุนแรง รู้สึกว่า หลิงเอ๋อคลอดลูก ราวกับได้เปิดกล่องที่เต็มไปด้วยความเลวร้ายที่อยู่ในจิตใจของท่านชายสี่เหลิ่งออก
หรงเยว่ส่ายหน้า “ที่จริงตระกูลของท่านชายสี่เหลิ่งเป็นเช่นไร ข้าก็รู้ไม่ชัดเจนนัก ข้างนอกมีข่าวลือมากมาย บ้างก็บอกว่าตระกูลเขามั่งคั่งมาก บ้างก็บอกว่าตระกูลเขาร่ำรวยอันดับหนึ่ง แต่ก็มีคนบอกว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้ารู้ก็คือ มารดาของเขาได้ตายจากไปตั้งแต่ให้กำเนิดเขาเพราะคลอดยาก เขาคลอดมาได้ไม่กี่วันก็ไปปรากฏอยู่ที่ภูเขาหมาป่าหิมะ สุดท้ายก็ถูกหมาป่าหิมะช่วยกลับมาได้”
หยวนชิงหลิงตะลึง “คลอดมาได้ไม่กี่วันก็ไปปรากฏอยู่ที่ภูเขาหมาป่าหิมะหรือ ถูกคนโยนขึ้นไปหรืออย่างไร”
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้ ท่านชายสี่เหลิ่งไม่เคยพูดถึง และไม่อนุญาตให้ใครพูดถึง ข้าเองก็ได้ยินเข้าอย่างไม่ตั้งใจตอนที่เขาขอหมาป่าหิมะกับพระชายา เคยเอ่ยขึ้นครั้งหนึ่ง ”
หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างนิ่งอึ้ง “ถึงว่าทำไมท่านชายสี่เหลิ่งถึงได้หลงใหลในหมาป่าหิมะยิ่งนัก ที่แท้ก็เพราะหมาป่าหิมะช่วยชีวิตเขาลงมานั่นเอง”
หรงเยว่พยักหน้า “ใช่แล้ว หมาป่าหิมะช่วยเขาแล้วก็มอบเขาให้กับชายาเฟิงอัน พระชายาเลี้ยงดูเขาจนโต ได้ยินว่าเขาออกไปทำการค้าตั้งแต่อายุสิบสอง จนท้ายที่สุด ยังก่อตั้งสำนักเหลิ่งหลังขึ้น ยอดเยี่ยมใช่หรือไม่ ”
“แล้วเจ้าติดตามเขาได้อย่างไร ”หยวนชิงหลิงถามอย่างอยากรู้
หรงเยว่เอามือเท้าคางเอาไว้ “ประวัติของข้าเจ้าก็รู้ดี ทรยศไง อยากจะเป็นปรปักษ์กับพ่อ อายุน้อยแต่หยิ่งผยอง ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน สุดท้ายก่อเรื่องวุ่นวายขึ้น และมาพบกับท่านชายสี่เหลิ่ง ท้ายที่สุดก็มาขอข้าวเขากิน ตอนนั้นพวกเราก็ไม่ได้มีเงินมากมายเช่นนี้ และยังไม่ได้มีการก่อตั้งสำนักเหลิ่งหลัง ท่านชายสี่เหลิ่งในตอนนั้นกับท่านชายสี่เหลิ่งในตอนนี้ช่างแตกต่างกันมาก เขาแทบไม่เคยยิ้มมาก่อน ไม่พูดมาก ราวกับเป็นเกาะที่โดดเดี่ยว ต่อมาวันเวลาค่อยๆผ่านไป แล้วก็ก่อตั้งสำนักเหลิ่งหลังขึ้น จากการค้าที่หลอกลวงกันไปมาเปลี่ยนเป็นสมรภูมิฆ่าฟันกัน ท่านชายสี่เหลิ่งกลับมีความสุขขึ้นมา ตอนที่เพิ่งจะก่อตั้งสำนักเหลิ่งหลัง เขาได้ออกทำภารกิจด้วยตนเอง หลังจากฆ่าคนแล้ว เจ้าจึงจะได้เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าของเขา”
“หาความสุขจากการได้ฆ่าคนหรือ”หยวนชิงหลิงถาม
หรงเยว่พูดว่า “เจ้าอย่าเข้าใจผิด แม้ว่าสำนักเหลิ่งหลังของพวกเราจะทำการค้าเกี่ยวกับการฆ่าคน แต่ว่า ก่อนที่พวกเราจะรับทำภารกิจ ล้วนผ่านการตรวจสอบมาก่อน คนคนนี้ต้องเป็นคนที่ทำเรื่องไม่ดีชั่วช้าสามานย์ พวกเราถึงจะรับ แต่ว่าพวกเราไม่ได้ทำตามกฎธรรมชาติ เพียงแต่ไม่ได้หาเงินจากการทำการค้าที่ไร้ศีลธรรมเท่านั้น แต่ว่า ข้าเห็นว่าท่านชายสี่เหลิ่งก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการหาเงินมากนัก เขาเคยบอกว่า หากต้องการหาเงิน ทำการค้าจะหาได้มากยิ่งกว่า ส่วนสำนักเหลิ่งหลัง ข้ารู้สึกว่าสำหรับเขาแล้ว เป็นสิ่งที่มีความหมายเป็นพิเศษ”
หยวนชิงหลิงย่อมรู้ดี ตั้งแต่ถูกท่านชายสี่เหลิ่งรับเป็นลูกศิษย์ เรื่องของสำนักเหลิ่งหลังนางเข้าใจดีแทบทั้งหมด เพราะว่าท่านชายสี่เหลิ่งเคยเอากฎระเบียบของสำนักเหลิ่งหลังให้นางอ่าน ในนั้นเขียนไว้อย่างชัดเจน สำนักเหลิ่งหลังไม่ข้าคนในราชวงศ์และขุนนาง ไม่ยุ่งกับเรื่องของราชสำนัก ไม่ฆ่าคนแก่และหญิงที่อ่อนแอ ไม่ฆ่าคนที่มีวรยุทธต่ำ นอกเสียจากจะเป็นคนชั่วช้าสามานย์จริงๆ
“ทำไมจึงได้ถามเรื่องท่านชายสี่เหลิ่งขึ้นมาอย่างกะทันหันเล่า”หรงเยว่ถาม
“ถามไปเช่นนั้นเอง”
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะอธิบายความไม่สบายใจของตัวเองกับนางอย่างไรดี หวังแค่ว่าตัวเองจะคิดมากไป แต่นางรู้ดีหลังจากที่นางปลูกถ่ายสมองแล้ว มีความไวต่ออารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ความรู้สึกที่เรียกกันว่าสัมผัสที่หก ที่จริงก็คือการจับอารมณ์ละเอียดอ่อนได้อย่างแม่นยำนั่นเอง
ท่านชายสี่เหลิ่งที่สูงส่งสง่างาม ปกติแล้วจะให้ความรู้สึกถึงความสงบนิ่งดุจน้ำในทะเลสาบ แต่ภายใต้ความสงบนิ่ง มีความปั่นป่วนไหลวนอยู่หรือไม่
บางที นางคงต้องตั้งมั่นสมาธิในการใช้ความคิด ดูสิว่าจะสามารถรับรู้อะไรเพิ่มเติมมากขึ้นหรือไม่