บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1507 เจ้าจะแก้แค้นไหม
หยวนชิงหลิงลุกขึ้นมา ก้าวเท้าไปอย่างหนักหน่วง แล้วเปิดประตู เชิญพระชายากับเจ้าห้าเข้ามา เจ้าจ้องมองตาของนาง นางร้องไห้ แสดงว่าสิ่งที่เห็นจะต้องเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก
จับมือของนางไว้ แล้วก็เดินเข้ามาพร้อมกับพระชายา พระชายาเอื้อมมือไปปิดประตูไว้
ท่านชายสี่ลุกขึ้นมานั่ง เอนหลังพิงเก้าอี้ เส้นผมด้านข้างร่วงหล่น ผ่านบนแก้มที่ขาวซีด มีความงามอย่างร้ายกาจ เขาเงยดวงตากลมโต ท่าทีค่อนข้างไม่เป็นสุข
หลังจากทุกคนต่างนั่งลงแล้ว ท่านชายสี่เงยหน้าขึ้น แสร้งหัวเราะอย่างสบายใจพร้อมพูดขึ้นว่า “เห็นที มีเรื่องค่อนข้างสำคัญจะพูด”
พระชายานั่งลงตรงด้านข้างของเขา มองดูเขาอย่างลังเลสักพักแล้วพูดขึ้นมาว่า “เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเจ้า เรื่องเหลิ่งเฟิ่งชิงแม่ของเจ้า”
ขนตาท่านชายสี่สั่นไหว แต่ท่าทีก็กลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พร้อมพูดขึ้นว่า “โอ๋?”
พระชายาจากข้อมือของเขาไว้พร้อมกับถามขึ้นว่า “ที่ผ่านมาข้าพูดกับเจ้ามาตลอด ว่าแม่ของเจ้าเสียชีวิตเพราะคลอดยาก แต่มีเรื่องบางอย่างบางทีเจ้าก็เคยสืบแล้ว เกี่ยวกับพ่อของเจ้า สิ่งที่เจ้ารู้น่าจะไม่น้อยไปกว่าข้า แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ทำไมเจ้าถึงปรากฏตัวอยู่บนยอดเขาหมาป่าหิมะ แล้วถูกหมาป่าหิมะช่วยชีวิตไว้ ตลอดจนศพแม่ของเจ้าตอนนี้อยู่ที่ไหน ข้ากับเจ้าล้วนไม่รู้ ดังนั้น ข้าจึงให้ฮองเฮามารุกล้ำความทรงจำของเจ้า เพื่อล่วงรู้เรื่องราวในตอนนั้น เจ้าจะฟังไหม?”
ท่านชายสี่มองดูดวงตาแดงบวมของหยวนชิงหลิง ลังเลสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าร้องไห้เพราะเรื่องราวของแม่ข้าหรือ?”
ความเศร้าในใจหยวนชิงหลิงยังไม่จางหาย หันมองดูท่านชายสี่ ราวกับเห็นทารกน้อยที่เพิ่งคลอดบนยอดเขาหมาป่าหิมะนั่น ถูกเหลิ่งเฟิ่งชิงกอดแน่นแนบอก บนใบหน้าเล็กน้อย ยังเปื้อนไปด้วยรอยนิ้วมือที่เปื้อนเลือดของเหลิ่งเฟิ่งชิง
“ข้าสามารถรับได้ พูดมาเถอะ” ท่านชายสี่นั่งตัวตรง ยักยิ้มเล็กน้อยที่มุมปากมองดูหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าก็มาเพราะเรื่องนี้? ดังนั้น เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว?”
หยู่เหวินเห้าแลดูค่อนข้างไม่เป็นตัวของตัวเอง พูดขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “ข้า…. ข้าก็แค่มาเยี่ยมเทียนสิง ก็แค่ถือโอกาส ถือโอกาสได้ยิน เจ้าอย่าสนใจว่าข้าอยู่ด้วย”
สายตากลมโตของท่านชายสี่กวาดมองผ่าน ยักยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก พร้อมพูดขึ้นด้วยตาคิ้วอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องหาข้ออ้าง ข้ารู้ว่าเจ้ารักข้า”
ท่านชายสี่ตั้งใจพูดเปลี่ยนบรรยากาศ ปัดเป่าบรรยากาศที่อึมครึม แม้ว่ารอยยิ้มของเขาจะซ่อนความไม่สบายใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังจะรู้ แต่เขาก็เคยชินกับการควบคุมทุกอย่าง ดังนั้น จึงพูดหยอกทุกคน
หยู่เหวินเห้าจ้องมองดูเขา เดิมภายในใจรู้สึกหนักอึ้ง เมื่อฟังประโยคนี้แล้ว ก็ยิ้มด่าพูดขึ้นว่า “ไม่อายบ้างหรือ?”
ท่านชายสี่ยกชายแขนเสื้อขึ้น มองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า “พูดมาเถอะ”
หยวนชิงหลิงกลับต้องการน้ำหนึ่งแก้ว สงบจิตใจที่ยังวุ่นวาย นางเดินไปที่โต๊ะน้ำชา เทน้ำชาที่เย็นแล้วมาถือไว้ในมือ แล้วยกขึ้นมาดื่มคำโตๆ เมื่อน้ำเย็นไหลลงคอ ค่อยรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ได้ร้อนรุ่มขนาดนั้น
นางต้องการเล่าเรื่องด้วยอารมณ์ความรู้สึก ที่แฝงความรู้สึกของตนเองให้น้อยที่สุด ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยากมาก
ภายในห้องเงียบสงัด รอหลังจากหยวนชิงหลิงพักเสร็จแล้ว ก็เริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาให้ฟัง
สมัยรุ่งเรืองของตระกูลเทียนซ่วน ความมีชีวิตชีวาหลังจากเหลิ่งเฟิ่งชิงขึ้นเป็นประมุข ความสุขหวานชื่นเมื่อตอนเพิ่งแต่งงานกัน เมืองเฟิงตูสงบร่มเย็นเป็นสุข เมื่อตอนที่พูดถึงเรื่องพวกนี้ น้ำเสียงหยวนชิงหลิงยังค่อนข้างเป็นปกติ ทุกคนจึงต่างก็สามารถสงบจิตสงบใจ
แต่เมื่อถึงตอนที่พลิกผัน
เพราะหากเป็นปกติมาตลอด ก็จะไม่มีเรื่องที่ท่านชายสี่ไปถูกคลอดบนยอดเขาหมาป่าหิมะ ยังถูกหมาป่าคาบไป
หลังจากหยวนชิงหลิงเล่าเรื่องครึ่งช่วงแรกจบ ก็ดื่มน้ำอีก น้ำเสียงก็เริ่มร้อนรน นางเล่าทุกอย่างที่ตนเองรู้อย่างไม่ปิดบัง ประวัติชีวิตนองเลือดของท่านชายสี่ ประจักษ์ตรงหน้าทุกคน มีหลายครั้งที่หยู่เหวินเห้าแทบจะฉีกโต๊ะ แต่ท่านชายสี่ยังคงฟังอยู่อย่างสงบจนจบ ดูเหมือนเขาแทบไม่มีปฏิกิริยาใดใด มีเพียงตอนที่หยวนชิงหลิงพูดถึงหลังจากเหลิ่งเฟิ่งชิงคลอดลูกแล้ว กำลังจะขาดใจ ภาพที่นางอุ้มกอดลูกแนบอดแน่น เขาหลับตาลง แทบหายใจไม่ออก
หลังจากหยวนชิงหลิงพูดจบ ยังคงน้ำตาไหลเป็นทาง เจ็บปวดหัวใจขึ้นมา ในฐานะที่นางเป็นคนนอก ยังไม่สามารถทนรับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้
ท่านชายสี่หรี่ตาลง จับมือพระชายาไว้อย่างแรง จับจนข้อนิ้วมือขาวซีด ที่หยวนชิงหลิงพูดมาทั้งหมด ในที่สุดก็สามารถทับซ้อนกับชิ้นส่วนในฝันของเขา เขารู้ ทุกคำที่หยวนชิงหลิงพูด ล้วนเคยเกิดขึ้นจริง
“เหลิ่งซี่” พระชายามองดูนาง พร้อมร้องเรียกขึ้นมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“อืม” ท่านชายสี่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาแฝงไปด้วยเลือด ความเกลียดชังเพิ่มพูนขึ้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าควรต้องไปเมืองเฟิงตูสักครั้ง”
พระชายาพยักหัว พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสารว่า “ก่อนไปเมืองเฟิงตู เจ้าควรที่จะไปทางราบหมาป่าของยอดเขาหมาป่าหิมะ แม่ของเจ้า น่าจะชีวิตอยู่บนยอดเขาหมาป่าหิมะ ควรที่จะทำพิธีฝังศพอย่างถูกต้อง”
ท่านชายสี่น้ำตาซึมทันที เขารีบหันหน้าไป มีบางอย่าง ยังไงก็ไม่สามารถที่จะพูดขึ้นมา เส้นด้ายที่ขวางกั้น จะถูกฝ่าฟันทะลุทะลวง
เขาไม่เคยเห็นแม่ และสิ่งที่เขาสามารถกตัญญูได้ ก็คือฝังร่างของนาง
ต่อให้อยากแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร สุดท้าย ความเจ็บปวดและความเกลียดชัง ก็อยู่เหนือทุกสิ่ง ฐานหลักมั่นคงทั้งหมดของเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้
หยู่เหวินเห้าเขาเป็นเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา อัดแน่นในใจ เขาดึงหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นอย่างสะอึกสะอื้นว่า “เราออกไปก่อนเถอะ”
เวลานี้ ไม่ว่าใครจะอยู่ด้วย ก็ไม่สามารถทำให้ท่านชายสี่ปลดปล่อยอารมณ์ของตนเองออกมาได้ เขาต้องการความเป็นส่วนตัว
พระชายาก็รู้ถึงสิ่งที่หยู่เหวินเห้าคิด จึงเอื้อมมือตบไหล่ท่านชายสี่เบาๆ แล้วก็จะลุกขึ้นเดินออกไป
ท่านชายสี่รีบเงยหน้าขึ้น พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงแหบว่า “อาจารย์ อย่าไป”
พระชายายืนมองดูเขา สงสารและเจ็บปวดใจอย่างเหลือเกิน
ท่านชายสี่ดึงแขนเสื้อของนางไว้ เหมือนเด็กชายในตอนนั้นอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “อาจารย์ ยังจำเรื่องราวตอนที่เจอข้าบนยอดเขาหมาป่าหิมะไหม?”
พระชายานั่งลงไปนั่งข้างกายของเขาอีกครั้ง วางมือไว้บนบ่าของเขาเบาๆ สายตามองออกไปไกล หวนคิดถึงเรื่องราวในตอนนั้น พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ายังจำได้ ตอนนั้นข้าพาหมาป่าหิมะกลับไปหาหมู่บนยอดเขาหมาป่าหิมะ เห็นเจ้าอยู่ในถ้ำหมาป่า ข้าตกใจจนขวัญแทบหนี ข้านึกว่าไม่รู้หมาป่าไปคาบทารกมาจากไหน เพื่อที่จะกินเจ้า แต่เมื่อข้าเห็นเจ้าดื่มนมแม่หมาป่า ได้รู้ว่าเจ้าอยู่ในถ้ำหมาป่า มานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว ข้ายิ่งตกตะลึง คิดว่าเจ้าช่างเป็นเด็กที่โชคดีจริงๆ”
และตอนนี้เมื่อรู้เรื่องพวกนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าบางครั้งธรรมชาติของหมาป่าก็สูงส่งกว่าธรรมชาติของมนุษย์มาก ความเกลียดชังที่เหยี้ยนจือหยูมีให้กับเขา เทียบกับความดีที่หมาป่าหิมะมีให้กับเขา เหยี้ยนจือหยูเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน
“เด็กที่โชคดี” ท่านชายสี่พึมพำพูดประโยคนี้ น้ำตาคลอเบ้า แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาร่วงไหลตกลงมา
“ใช่ เจ้าโชคดี ข้าเชื่อว่าในนาทีสุดท้ายของแม่เจ้า สิ่งที่ต้องการคือให้เจ้ามีชีวิตอยู่รอด และหมาป่าหิมะช่วยเจ้าไว้ เจ้ามีชีวิตรอดแล้ว ไม่ถือว่าเจ้าโชคดีหรือ? อย่างน้อย แม่ของเจ้าก็วางใจ”
“แต่นางยังนอนตายตาไม่หลับ เพราะยังไม่ได้แก้แค้น” ท่านชายสี่กัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา แววตาโกรธแค้น
พระชายาจับมือของเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นอย่างแน่วแน่ว่า “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถแก้แค้นให้กับนาง ให้กับตระกูลเทียนซ่วนได้ เจ้าจะสามารถทำให้นางนอนตายตาหลับ ทำให้วิญญาณของนางจากไปอย่างสงบสุข”