บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 151 ตกลงกันแล้วว่าจะไม่โกรธ
ภายในจวนมีบ่อน้ำพุร้อนแห่งหนึ่ง
แต่บ่อน้ำพุร้อนนี้ก็น่าแปลก ฤดูร้อนไม่มีน้ำไหลออกมา ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาวถึงจะมีน้ำไหลออกมา
ก่อนหน้านี้ บ่อนี้ยังไม่มีน้ำ แต่สองวันก่อนทังหยางมารายงานว่า ตาบ่อน้ำมีน้ำไหล บ่อน้ำพุร้อนก็เริ่มมีน้ำเก็บแล้ว
เพราะก่อนหน้านี้นางได้รับบาดเจ็บ หยู่เหวินเห้าไม่ได้พานางไป บวกกับมีงานคดีรัดตัว
วันนี้ คดีคลี่คลายแล้ว และทั้งสองคนก็เหม็นไปทั้งตัว ควรที่จะได้อาบน้ำไหลเวียนของบ่อน้ำพุร้อน
บ่อน้ำพุร้อนตั้งอยู่ด้านหลังตำหนักเซี่ยวเยว่ ตาน้ำพุมีสองทางชิดกันมาก รอบบ่อน้ำพุก็ไม่เล็ก น่าจะกว้างประมาณครึ่งห้อง
หยวนชิงหลิงมองดูแวบหนึ่ง บ่อน้ำพุยังมีชื่อเรียกว่า “สระผี”
นางหัวเราะพร้อมพูดว่า “ทำไมถึงเรียกว่าสระผี? ชื่อนี้ทำลายบรรยากาศมากเลย”นางไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับบ่อน้ำพุนี้เลย แสดงว่าเจ้าของร่างเดิมก็ไม่รู้
ก็ถูก เจ้าของร่างเดิมแต่งงานมาตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่เคยมาตำหนักเซี่ยวเยว่ จะต้องไม่รู้แน่
“เพราะบ่อน้ำพุร้อนนี้เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด เมื่อมีฝนตกชุกในฤดูร้อน กลับไม่มีน้ำพุไหลออกมา ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่แห้งแล้ง ค่อยมีน้ำไหลออกมา เจ้าว่าใช่ผีไหม?”หยู่เหวินเห้าหัวเราะพร้อมพูดขึ้น
เขาหยิบเอาเสื้อผ้ามาจากมือสาวใช้ พร้อมทั้งปิดประตู ลู่หยากับฉี่หลอรออยู่ด้านนอก
ด้านข้างบ่อน้ำพุร้อนมีตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ ยังมีม่านกั้นหนึ่งบาน หยู่เหวินเห้าเอาเสื้อผ้าที่สะอาดวางบนม่านกั้น บนหัวกำแพง ฝังไว้ด้วยไข่มุกหนึ่งเม็ด จึงไม่จำเป็นต้องใช้เทียนหรือโคม ก็มีแสงสว่างที่เพียงพอ
เพียงแต่ไม่ได้สว่างอย่างมาก โดยเฉพาะมีไอน้ำลอยขึ้น แสงสว่างที่ปกคลุมไอหมอก ทำให้ยิ่งดูสลัว
ที่นี่โรแมนติก สุขสบายมาก
หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจว่า “ที่นี่เป็นสถานที่ดี ไม่รู้ว่าเคยพาผู้หญิงมาแล้วกี่คน?”
หยู่เหวินเห้าถอดเสื้อบนไหล่ของนาง พร้อมพูดว่า “ก็มีหลายคน จะให้เล่าให้เจ้าฟังอย่างละเอียดไหม?”
เขามองดูบาดแผลบนบ่า บาดแผลหายดีแล้ว โดนน้ำก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ก็ดี เจ้าเล่ามาเลย ข้ารับฟัง”
หยู่เหวินเห้ามองตาตรง พร้อมพูดว่า “ได้ ลงน้ำก่อน จะค่อยๆเล่าให้เจ้าฟัง”
“ยังจะมองอีก? เดี๋ยวจะควักลูกตาเจ้าออกมาให้หมด”หยวนชิงหลิงพูดดุเขา พร้อมใบหน้าร้อนผ่าว
หยู่เหวินเห้ามองอย่างลึกซึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าทำได้ลงหรือ?”
เขาอ้ากางแขนทั้งสองข้างออก พร้อมพูดว่า “ถอดเสื้อผ้า”
“มือเจ้าพอการหรือ? ยังจะให้คนบาดเจ็บคนหนึ่งมาปรนนิบัติเจ้า”หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย แต่มือทั้งคู่กลับเกาะวางบนคอของเขาไว้
“ทำเป็นไหม? แกะตรงเอวก่อน”หยู่เหวินเห้าแนบชิดจูบปากของนาง ไม่ได้แต่ต้องนางมาหลายวัน ร่างกายร้อนรุ่มจนแทบทนไม่ไหวแล้ว
เดิมตั้งใจจะจูบเบาๆก่อนเท่านั้น เมื่อสัมผัสถูกริมฝีปากทั้งคู่ ร่างกายก็ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที กอดรัดนางไว้แน่น จนแทบจะเบียดจนเป็นกายเดียวกันแล้ว
หยวนชิงหลิงถูกเขาจูบจนเคลิบเคลิ้ม ร่างกายอ่อนแรง หายใจถี่ยิ่งขึ้น
แต่นางก็ผลักเขาออกอย่างมีสติ พร้อมพูดว่า “ข้าเหม็นไปทั้งตัว อาบน้ำให้สะอาดก่อน”
“ไม่เอา ยังไงข้าก็เหม็นเหมือนกัน”ริมฝีปากของหยู่เหวินเห้าเลื่อนลงมาถึงลำคอ และกำลังจะเลื่อนลงไป
“ไม่”หยวนชิงหลิงไม่มีแรงต่อต้านแล้วสักนิด กลับเหมือนผลักไปด้วย เคลิบเคลิ้มไปด้วย
แต่เมื่อคิดถึงภาพที่เคยแตะต้องศพ ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นศพ นางก็ได้สติขึ้นมา และพูดขึ้นว่า “ปล่อยมือก่อน ข้าไม่สามารถใจจดใจจ่อ ในหัวสมองมีแต่ภาพศพ”
หยู่เหวินเห้าปล่อยนางอย่างอาลัยอาวรณ์ พอพูดถึงศพ ก็ทำให้หมดอารมณ์ไปเยอะเลย
ค่อยถอดเสื้อให้กับนาง และก็ถอดของตนเองจนหมดด้วย แล้วทั้งสองก็ลงน้ำไปด้วยกัน
น้ำพุร้อนไหลมาล้อมรอบ พร้อมทั้งมีกลิ่นกำมะถัน หยวนชิงหลิงรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่หัวจรดเท้า
นางถอนหายใจอย่างสุขสบาย
หยู่เหวินเห้าโอบกายของนางไว้ แล้วก็อ้อมไปด้านหลัง ช่วยสระผมให้กับนาง
ผมของนางดำและนุ่มสลวย ฟาดอยู่บนบ่า หลังจากเปียกน้ำ ก็เหมือนดั่งผ้าไหมสีดำ สัมผัสอ่อนโยนนุ่มลื่น
หยู่เหวินเห้าหยิบน้ำหอมสำหรับสระผมมาชโลมนวดให้กับนาง นิ้วมือทั้งสิบสอดเข้าไป แล้วค่อยๆใช้ปลายนิ้วบีบนวด หยวนชิงหลิงอุทาน หากเขาไม่ใช่กรมการพระนคร ยังสามารถไปเป็นช่างสระผมได้
นางยักมุมปากอมยิ้ม มีความสุขกับการใกล้ชิดกันเช่นนี้มาก
โดยเฉพาะ เขาถึงกับช่วยสระผมให้นาง ซึ่งทำให้นางคิดไม่ถึงเลย
ยังไง เริ่มตั้งแต่วันแรกที่เขาปรากฏอยู่ชีวิตของนาง ก็แสดงท่าทีหยิ่งผยอง และโหดเหี้ยม
ใครจะไปคิดว่าจะผู้ชายอบอุ่นคนหนึ่ง?
“เล่าเรื่องผู้หญิงพวกนั้นของคุณสิ” หยวนชิงหลิงหลับตาพูดขึ้น
“ไม่มี แค่ล้อเจ้าเล่น” หยู่เหวินเห้าพูดพร้อมหัวเราะ
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ไม่เชื่อ เจ้าไม่ใช่ครั้งแรก”
หยู่เหวินเห้าหน้าแดง ดีที่หยวนชิงหลิงหันหลังให้กับเขา จึงมองไม่เห็น
“ใครบอกว่าไม่ใช่?” เขาพูดอธิบายด้วยเสียงอ่อน
หยวนชิงหลิงหันมามองเขา พร้อมพูดว่า “ข้าพูดว่าไม่ใช่ แค่เพราะข้าแปลกใจ ๆ ไม่ได้จะหึง เจ้าพูดมา เกิดอะไรขึ้นกับครั้งแรก?”
หยู่เหวินเห้าหลบสายตาของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า เจ้าถามพวกนี้ทำไม? นี่มีอะไรน่าถาม?”
“ก็แค่แปลกใจ ข้าอยากฟัง เจ้ารีบพูดมา” หยวนชิงหลิงยกแขนทั้งคู่คล้องคอเขาไว้ พร้อมทั้งแสดงท่าทีออดอ้อน
“ไม่พูด” หยู่เหวินเห้าหันร่างของนางไป แล้วช่วยสระผมให้นางต่อ
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ พร้อมพูดว่า “เดิมข้าคิดว่าระหว่างภรรยา ควรที่จะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะปิดบังข้า”
นางเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เว้นระยะห่างระหว่างเขา พร้อมพูดว่า “ข้าสระเองก็ได้ ไม่ต้องรบกวนเจ้า”
หยู่เหวินเห้าโอบกอดนางไว้ ยื่นหน้ามาตรงแก้มของนางพร้อมพูดว่า “โกรธหรือ?”
“ไม่ได้โกรธ แค่รู้สึกว่าระหว่างเราไม่มีความเชื่อใจกัน ข้าเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟัง แม้แต่เรื่องกล่องยาก็เล่าให้ฟังแล้ว เจ้ากลับไม่ยอมเล่าเรื่องพวกนี้ให้ข้าฟัง” น้ำเสียงหยวนชิงหลิงค่อนข้างเสียใจ
“นี่เหมือนกันตรงไหน?”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ข้าบอกแล้วว่าไม่โกรธ”
“งั้นเจ้าสัญญานะ” หยู่เหวินเห้าหันตัวของนางมา พร้อมพูดว่า “เจ้าสัญญานะว่าจะไม่โกรธข้า ไม่หึงข้า”
“ข้ารับปาก” หยวนชิงหลิงยกมือขึ้นบ่งบอกว่าสัญญา
หยู่เหวินเห้าดึงมือของนางลง โอบกอดนางจากด้านหลัง พร้อมพูดว่า “งั้นดี ข้าบอกเจ้า ที่จริงก็ไม่มีอะไรต้องพูดถึง องค์ชายทุกคนเมื่ออายุครบสิบหก ล้วนต้องผ่านการมีคนสอนเรื่องบนเตียง โดยจะมีการคัดเลือกหญิงงามที่เป็นนางข้าหลวงชี้แนะ ส่งมายังตำหนักของข้า แล้วมีมามาชี้แนะ”
หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “งั้นนางข้าหลวงคนนี้ชื่ออะไร?
“หลีเอ๋อ”
หยวนชิงหลิงร้องอ้อ พร้อมพูดว่า “หลีเอ๋อ ถึงว่าทำไมเจ้าชอบทานสาลี่ ที่แท้ก็มีความเป็นมาแบบนี้นี่เอง”
“ใช่เพราะเหตุผลนี้เสียที่ไหน?” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียว่า “หากไม่พูดถึง ข้าก็ลืมหลีเอ๋อคนนี้ไปแต่แรกแล้ว”
“แล้วต่อมาหลีเอ๋อคนนี้ไปไหน? ไม่ได้ติดตามเจ้ามาอยู่ที่จวนหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“ไม่ได้มา แค่คอยปรนนิบัติข้าอยู่ในตำหนักไม่กี่วัน ก็ส่งตัวไปแล้ว” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงร้องอุทาน แล้วค่อยๆแกะมือของเขาออก พร้อมพูดว่า “หลายวันหรือ? งั้นหลายวันนี้คงมีความสุขมากสินะ?”
“จำไม่ได้แล้ว” หยู่เหวินเห้ามองเห็นสีหน้าบึ้งตึงของนาง จึงขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “ไหนบอกว่าจะไม่โกรธ”
“ไม่ได้โกรธ ใครโกรธ?” หยวนชิงหลิงเผยยิ้มกว้าง ยิ้มจนตาหรี่ พร้อมพูดขึ้นว่า “อย่าคิดมาก ไม่ได้โกรธจริงๆ ก็แค่นางข้าหลวงชี้แนะไม่ใช่หรือ? เป็นเรื่องปกติ”
“งั้นเจ้าหลบอะไรล่ะ?” หยู่เหวินเห้าดึงนางมาใกล้ แล้วประคบบนริมฝีปาก หยวนชิงหลิงก้มหน้าหลบ พร้อมพูดว่า “รอแป๊บหนึ่งก่อน ข้าสระผมก่อน”
นางจมลงไปในน้ำ เส้นผมลอยอยู่บนผิวน้ำ ไม่ขยับอยู่เนิ่นนาน
นางโกรธมาก โกรธจนอยากระเบิดอารมณ์มาก
ยังหลายวัน? เจ้าทำไมไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลย? กว่าจะรู้เรื่องต้องใช้เวลาหลายวันหรือ? แค่ครั้งเดียวก็รู้เรื่องแล้ว ไม่สิ ไม่ต้องเลยสักครั้ง นี่เป็นสัญชาตญาณ สามารถทำได้เอง
ไม่จำเป็นต้องมีใครสอน