บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1515 ตัดสินใจที่จะไปแล้ว
ท่านชายสี่พูดขึ้นด้วยดวงตาแดงพร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “ไม่เจ็บ”
เหลิ่งเฟิ่งชิงถอนหายใจโล่งอก ยิ้มขึ้นมาอย่างเขินอาย
ท่านชายสี่ลองพยายามไปจับหมอนของนาง แต่นางก็ระแวดระวังเห็นเป็นศัตรูขึ้นมาอีก พร้อมปัดมือของท่านชายสี่ สีหน้าเคร่งเครียด เฉียบคมอย่างมาก
ท่านชายสี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ลุกขึ้นยืน มองดูนางอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง แล้วเดินไปหาหยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิง
ทั้งสามคนยืนอยู่ในที่ที่มีลมภูเขาพัดแรง พัดเสื้อผ้าปลิวไหวเสียงดัง ดวงตาท่านชายสี่ยังแดงไม่หาย มองดูหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “นางเสียสติ รักษาได้ไหม?”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน”
“ไม่ว่ายังไง รักษานางให้หาย” ท่านชายสี่จ้องมองหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าขอร้องเจ้า ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีอะไร รักษานางให้หาย”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยเสียงเศร้าว่า “ข้าจะพยายามให้ดีที่สุด”
ท่านชายสี่ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าจะรับนางลงจากเขา”
หยวนชิงหลิงดึงมือของเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่รีบ อย่าเพิ่งพานางลงเขา”
ท่านชายสี่ขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่มีทางปล่อยนางไว้บนเขา จะต้องพานางลงเขา”
“อาจารย์ เจ้าฟังข้า” หยวนชิงหลิงมองดูหยู่เหวินเห้า พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าให้คนของสำนักเหลิ่งหลังทั้งหมดถอยไปก่อน อย่างน้อยก็ห้ามอยู่ที่นี่ ที่ต้องมีสภาพเหมือนเดิม”
หยู่เหวินเห้ารู้ว่านางคิดอะไรอยู่ จึงพยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ เราคุยกันก่อน”
เขาเดินลงไป ดึงเมี่ยตี้ไปด้านข้าง แล้วปรึกษากัน
ท่านชายสี่มองดูหยวนชิงหลิงอย่างสงสัย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดจะทำอย่างไร?”
หยวนชิงหลิงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาให้เขา พร้อมพูดขึ้นว่า “เช็ดเลือดบนคอก่อน เราต้องคุยกันดีๆ”
ท่านชายสี่รับผ้าเช็ดหน้ามา เช็ดไปเรื่อยแปบหนึ่ง จ้องมองไปที่นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าน่าจะรู้ ไม่ว่าเจ้าจะพูดยังไง ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยนางไว้ที่อย่างไม่สนใจ นางมีบ้าน”
“ข้ารู้ เจ้าอย่าใจร้อน นางสามารถกลับบ้านได้ แต่นอกจากรับนางกลับบ้าน เจ้าไม่อยากแก้แค้นหรือ?”
สายตาท่านชายสี่เยือกเย็นลงทันใด พร้อมพูดขึ้นว่า “เรื่องแก้แค้น ข้าวางแผนไว้แล้ว”
“วางแผนจะทำอย่างไร? ฆ่าเขา? มันไม่ง่ายไปหรือ”
ท่านชายสี่พูดขึ้นมาอย่างเกลียดชังว่า “ไม่ฆ่าเขาง่ายๆอยู่แล้ว ยังไงก็จะทำให้เขาทรมานจนตาย”
“ต่อให้ทรมานจนตาย ยังไงก็มีความสุขมาแล้วสามสิบหกปี เจ้าพอใจหรือ?”
ท่านชายสี่ไม่พอใจ ต่อให้หั่นศพเขาเป็นพันหมื่นชิ้นก็ไม่พอใจ แต่เรื่องก็เป็นเช่นนี้แล้ว หรือยังจะมีวิธีอื่น?
เป็นไปได้ที่จะย้อนเวลากลับไปเมื่อสามสิบหกปีก่อนหรือ?
เขาหันไปมองที่ประตูบ้านไม้ นางกอดหมอนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองมาทางเขาอย่างตื่นเต้น ในหัวสมองคิดแต่เรื่องที่หยวนชิงหลิงพูดกับเขา
ตอนที่พอจีช่วยนางหนีออกมา เดิมนางสามารถฆ่ากลับไปได้ ใช่ว่าจะไม่สามารถฆ่าซูหรูซวงหรือเหยี้ยนจือหยู แต่นางอดกลั้นระงับความแค้นบัญชีเลือดไว้ เดินทางมุ่งหน้าไปเมืองหลวง เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ หากสถานที่ปลอดภัยแล้วคลอดเขาออกมา
ความหนาวเย็นและอันตรายบนยอดเขาหมาป่าหิมะ ราวกับนรก เขานึกภาพที่บาดเจ็บเหนื่อยล้าของนางไม่ออก พาร่างกายที่หนักอึ้งปืนขึ้นมาบนเขาได้อย่างไร
เหยี้ยนจือหยูพูดว่า ลูกในท้องของนางสามารถรับกรรมการย้อนกลับมาทำร้ายแทนนางได้ เขาที่ถูกเหยี้ยนจือหยูทิ้งขว้าง นางกลับรักอย่างสิ่งล้ำค่า สู้อย่างสุดชีวิต เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้าย ก็จะคลอดเขาออกมา ท่ามกลางหิมะ ท่าทีของนางที่อุ้มลูกอยู่อย่างหมดหวัง ถึงตอนนี้จะเสียสติแล้ว แต่ก็ยังลืมไม่ได้
ไกลกว่านี้ เขาไม่กล้าคิด ตอนนั้นนางยืนอยู่บนกำแพง มองดูศพของน้องสาวแขวนอยู่บนกำแพง เป็นความเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใด?
เขายิ่งไม่กล้านึกถึงภาพตอนที่หนีเอาชีวิตรอด ได้รู้ว่าญาติพี่น้องถูกฆ่าล้างตระกูล นางยังจะมีแรงหนีออกไปจากเมืองเฟิงตูได้อย่างไร
และก่อนหน้านั้น นางยังคิดว่าตนเองมีความสุขที่สุด มีคนที่รักนางอย่างลึกซึ้ง นางก็รักสามีของตนเองอย่างที่สุด
ไหล่เล็กๆของนางนั้น รักภาระทั้งหมดนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นแค้นนี้ต่อให้ชำระแล้ว เขายังจะพอใจได้อย่างไร?
แม้ว่าความเจ็บปวดสามสิบหกปีของนางจะถูกกำหนดไว้แล้วก็ตาม แต่พวกเขาจะไม่สูญเสียสามสิบหกปีของพวกเขาได้อย่างไร?
ที่ผ่านมา ชีวิตของเขาแทบสามารถพูดได้ว่าไม่มีที่มา ตอนนี้ รู้ว่านางอยู่ที่นี่ รู้ว่านางเฝ้ารอตนเองมาสามสิบหกปี ความทุกข์ทั้งลมทั้งฝนในสามสิบหกปีมานี้ นางผ่านพ้นมาด้วยตัวคนเดียว คนบาปหนาคนนั้น แน่นอนว่าจะต้องชดใช้กับสิ่งที่เขาทำลงไป
เขามองดูหยวนชิงหลิง ค่อยๆสงบลง พร้อมถามขึ้นว่า “ลองพูดแผนการของเจ้ามา”
สายตาหยวนชิงหลิงฉายแววมุ่งมั่น พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ารู้มาจากเจ้าอาวาส แม่ของเจ้ากับพอจีใช้วิธีเปลี่ยนกรรมแห่งการย้อนกลับมาทำร้าย ได้พูดเน้นย้ำกับเขาว่า ให้เขาทุบหินญาณสวรรค์แตก แต่เขาไม่ได้ทุบแตก ข้าอยากกลับไปเมื่อสามสิบหกปีก่อน แล้วทุบหินญาณสวรรค์แตกด้วยตนเอง”
“กลับไปเมื่อสามสิบหกปีก่อน? ทุบหินญาณสวรรค์แตกแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้?” ท่านชายสี่อึ้ง
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “สามารถเหลือพลังส่วนหนึ่งของหินญาณสวรรค์ไว้ในร่างกายของซูหรูซวงพลังในส่วนนี้หากไม่มีหินญาณสวรรค์ค้ำจุน ร่างกายของคนยากที่จะทนรับได้ นางจะต้องทุกข์ทรมานเจ็บปวดรวดร้าว”
ลมหายใจท่านชายสี่เหมือนออกมาจากใต้น้ำ จ้องมองหยวนชิงหลิง พร้อมพูดขึ้นว่า “จริงหรือ?”
“ตามที่เจ้าอาวาสพูด เป็นเช่นนี้”
“เจ้วสามารถกลับไปได้?”
“มีอันตรายเล็กน้อย แต่ปัญหาไม่ใหญ่” หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างสบายใจ
แต่ความจริงแล้ว กลับไปเมื่อสามสิบหกปีก่อน ถือว่าอันตรายไม่น้อย ไม่อย่างนั้นตอนนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องหาศพเหลิ่งเฟิ่งชิงให้เจอ คงจะไปเลยทันที
พิกัดย้อนเวลาปัจจุบันคำนวณไว้แล้ว และก็มีคนรอรับ แต่เมื่อสามสิบหกปีก่อน ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นแล้ว
แต่ตอนนี้นางก็ไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่จำเป็นต้องใช้เวลากว่าครึ่งปีหรือหนึ่งปีเพื่อคำนวณห้วงเวลา คิดว่าใช้เวลาวิเคราะห์ไม่กี่วัน ก็สามารถกำหนดวังน้ำวนที่จะย้อนไปยังเมื่อสามสิบหกปีก่อน
ท่านชายสี่มองดูนาง สีหน้าสุขุมเฉลียวฉลาดเหมือนอย่างที่ผ่านมาค่อยๆปรากฏบนใบหน้า แฝงไปด้วยความมีอำนาจในความเป็นอาจารย์ พร้อมพูดขึ้นว่า “อันตรายเล็กน้อย เป็นอันตรายขนาดไหน? ข้ายังไม่ได้เสียสติเพราะความเกลียดชัง เพื่อแก้แค้นแล้วให้เจ้าไปตกอยู่ในอันตรายนั้น ไม่จำเป็น”
“ไม่แน่นอนอยู่แล้ว ข้าก็ไม่มีทิ้งครอบครัวตัวเองเพื่อไปแก้แค้น เจ้าวางใจ ข้ามีความมั่นใจแล้วถึงบอกเจ้า” หยวนชิงหลิงตบแขนของเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “อาจารย์ รอข้ากลับมา”
“เจ้าห้ารู้ไหม?” ท่านชายสี่ไม่ได้วางใจขนาดนั้น นิสัยลูกศิษย์คนนี้เขารู้ดี อะไรก็รับไว้คนเดียว คิดว่าตนเองสามารถฟันฝ่าได้ทุกอย่าง อะไรก็สามารถแบกรับไว้
“รู้ เราฟังเจ้าอาวาสพูดพร้อมกัน ดังนั้น เขาก็รู้ดี”
“ข้าหมายถึง เขารู้ว่ามีความอันตรายไหม?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่มีอันตรายอะไร ต่อให้มี ก็น้อยอย่างมาก ข้าสามารถรับมือได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องพูด เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นกังวล”
“งั้นไม่ได้ จะต้องบอกให้เขารู้ เรามาวิเคราะห์ความอันตรายพร้อมกัน หากมีความอันตรายเกินไป ก็ไปไม่ได้” ท่านชายสี่พูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น
หยวนชิงหลิงส่ายหัว สายตามุ่งมั่นยิ่งกว่าท่านชายสี่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าพวกเจ้ารับปากหรือไม่ ข้าตัดสินใจที่จะไปแล้ว ข้าไม่ได้ไปเพื่อช่วยเจ้าแก้แค้น ข้าล่วงรู้จิตสำนึกของแม่เจ้าแล้ว สิ่งที่เหยี้ยนจือหยูกับซูหรูซวงกระทำ ข้าหลังตาลงก็ยังมองเห็น หากข้าไม่ไป ข้าเองก็ปล่อยวางไม่ได้ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์ความอันตรายอีก ยังไงข้าก็จะไป”
“ข้าไม่มีทางให้เจ้าทำเพื่อข้า…”
หยวนชิงหลิงรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ข้าพูดแล้ว ข้าทำเพื่อให้ตนเองได้ปล่อยวาง ยังไงข้าก็ตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เอาแบบนี้แหละ ให้นางอยู่บนเขานี้ไปก่อน รอหลังจากข้ากลับมาแล้ว เจ้าค่อยรับนางกลับไป ข้ากลับไปในครั้งนี้ จะไม่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อะไรสักอย่าง คนที่มีชีวิตอยู่ ก็จะมีชีวิตต่อไป คนที่ตายไปแล้ว ข้าก็จะไม่ช่วย คนที่เสียสติ ก็ให้เสียสติต่อไปสามสิบหกปี แล้วรอเจ้ามารับเขา เส้นทางชีวิตของแต่ล่ะคน จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง”