บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1566 เจ้าหกเกิดอะไรขึ้น
หลังจากท่านพ่อกลับไปแล้ว ลูกทั้งห้าคนก็เตรียมเก็บข้าวของกลับไป
ซาลาเปาที่เป็นพี่ใหญ่ ก็ค่อนข้างเคร่งขรึมขึ้นมาแล้ว ก่อนจะเดินทางได้กำชับกับพวกเขา อย่าได้ก่อเรื่องอะไรขึ้น อย่าทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่ทุกข์ใจ ไม่เช่นนั้น เขาจะกลับไปใช้อำนาจของความเป็นพี่ใหญ่ สั่งสอน
แน่นอน คำพูดนี้ใช้สำหรับเตือนน้องชายทั้งสี่คนเท่านั้น ส่วนน้องสาว นั่นเป็นความอาลัยอาวรณ์มากมาย แล้วก็กำชับอย่างมากมายเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือมีการสัญญาว่าถ้าหากเขาเสร็จเรื่องทางนี้แล้ว จะรีบไปช่วยนางดูแลเมืองโร่ตูก่อนทันที
เจ๋อหลานเอ่ยอย่างน่ารักไร้เดียงสาว่า “พี่ใหญ่ เช่นนั้นพี่รีบมานะ ข้าจะรอพี่”
ซาลาเปากอดน้องสาวครั้งหนึ่ง “ได้ พี่ให้สัญญาเจ้า ไม่นาน ไม่นานพี่จะไปหาเจ้า ”
เจ๋อหลานพาน้องฟีนิกซ์จากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากไป ส่วนพี่ชายทั้งสี่คนนั้น ก็จากไปอย่างสง่างามแล้ว
เจ้าห้ากับหยวนชิงหลิงกลับไปถึงเมืองหลวงไม่กี่วัน พอดีกับที่ได้ประสบกับเรื่องที่น่าหนักใจเล็กน้อย
เจ้าหกนอกใจ
แน่นอนว่า หรงเยว่ไม่ได้พูดเช่นนี้ หรงเยว่บอกว่าเขาสนใจหญิงสาวที่อยู่ภายนอก เขาหวั่นไหวต่อหญิงอื่นแล้ว
ตอนที่หยวนชิงหลิงได้ยินหยวนหย่งอี้เข้ามาพูดในวัง หรงเยว่ได้ย้ายไปอยู่ที่จวนอ๋องฉู่แล้ว แม้แต่ลูกก็ไม่เอาไปด้วย
เรื่องนี้บานปลายไปใหญ่แล้ว แต่ว่า ไม่ว่าอย่างไรหยวนชิงหลิงก็ไม่เชื่อว่าเจ้าหกจะไปชอบหญิงอื่น เขานั้นรักหรงเยว่มากกว่าอะไร จะไปชอบหญิงอื่นได้อย่างไรกัน
ยังไม่ทันที่นางจะได้ทำความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น หลู่ไท่เฟยก็เข้าวังมาหานาง
ใบหน้าของหลู่ไท่เฟยเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว นั่งลงแล้วก็ดึงตัวหยวนชิงหลิงพูดอย่างโมโหว่า “เจ้าต้องให้เจ้าห้าว่ากล่าวน้องชายของเขาบ้าง ช่างไร้น้ำใจเสียจริง หรงเยว่ดีกับเขาขนาดนี้ ทิ้งครอบครัวแต่งงานมาอยู่ที่นี่ ตอนนี้พอเห็นหญิงคนนั้นเข้า ก็เกิดบ้าขึ้นมา ไปมีค่ำคืนแห่งความสุขกับคนอื่น ยังถูกหรงเยว่จับได้คาหนังคาเขาอีกด้วย”
หยวนชิงหลิงอ้าปากตาค้าง “หา ตอนที่จับได้อยู่บนเตียงหรือ”
ไท่เฟยเอ่ยอย่างโมโหว่า “ไม่ใช่ ผลักประตูเข้าไปก็เห็นพวกเขาสองคนกำลังพลอดรักแลกแก้วกัน เจ้าว่ามันใช้ได้ที่ไหนกัน ช่างทำร้ายจิตใจกันจริงๆ”
เดิมทีหยวนชิงหลิงคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อฟังสถานการณ์ตอนที่ถูกจับได้จากปากของหลู่ไท่เฟยแล้ว เช่นนั้นเรื่องนี้คงไม่มีทางแก้ตัวได้แล้ว
แต่ว่า อ๋องหวยจะเป็นคนเช่นนี้ไปได้อย่างไร
หลู่ไท่เฟยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห “ข้าเองก็อยากจะกลับไปแล้ว ไปอยู่กับหรงเยว่ที่จวนอ๋องฉู่เสียดีกว่า แต่ลูกยังอยู่ในจวน เจ้าว่าควรจะทำอย่างไรดี เด็กตัวเล็กแค่นี้ไม่มีแม่คอยอยู่ข้างๆ ได้อย่างไรกัน”
หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างนิ่งอึ้งว่า “ร้ายแรงขนาดนี้เชียวหรือ ท่านอย่าร้อนใจไป ข้าจะให้เจ้าห้าไปคุยกับน้องหก ข้าเองก็จะไปที่จวนอ๋องฉู่ คุยกับหรงเยว่ดู ถามให้ชัดเจน”
ไม่ใช่นางไม่เชื่อ เจ้าหกไม่ใช่คนเช่นนั้น
หลังจากส่งหลู่ไท่เฟยแล้ว หยวนชิงหลิงก็ไปยังห้องทรงพระอักษร หยู่เหวินเห้ากำลังปรึกษาหารืออยู่กับโสวฝู่เหลิ่ง นางรออยู่นอกประตูชั่วครู่ ก็เห็นเหลิ่งจิ้งเหยียนเดินออกมา เหลิ่งจิ้งเหยียนคำนับ “ฮองเฮา ”
“โสวฝู่ ”หยวนชิงหลิงคำนับกลับ “หมิงหยูกับหงเย่สบายดีหรือไม่”
เหลิ่งจิ้งเหยียนหลุบดวงตาที่หล่อเหลาลง “สบายดีพ่ะย่ะค่ะ”
“วันหลังพวกเราต้องรวมตัวกันสักครั้ง”หยวนชิงหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม
เหลิ่งจิ้งเหยียนก็ยิ้มขึ้นมา “ดี”
เหลิ่งจิ้งเหยียนประสานมือกล่าวลา
มู่หรูกงกงเดินออกมา คำนับและพูดว่า “ฮองเฮาเสด็จ ฮ่องเต้เพิ่งจะปรึกษาเรื่องงานเสร็จ สามารถกินข้าวด้วยกันได้”
“ได้ รบกวนกงกงจัดการให้ด้วย”หยวนชิงหลิงผลักประตูเข้าไป
เหยียบอยู่บนพื้นหินอ่อนสีขาว ค่อยๆก้าวเข้าไปตรงหน้าโต๊ะทรงพระอักษร หยู่เหวินเห้าหลับตาลง ราวกับกำลังใช้ความคิด ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น เขายังไม่ทันลืมตาขึ้นก็ยิ้มออกมา “เจ้ามาแล้วหรือ”
หลายปีแล้ว แค่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็รู้ว่าภรรยามาแล้ว
หยวนชิงหลิงอ้อมไปทางด้านหลังของเขา นวดขมับให้กับเขา “เหนื่อยมากกระมัง”
หยู่เหวินเห้ากำลังซึมซับความอบอุ่นจากนิ้วมือและพละกำลังของภรรยา พูดว่า “เหนื่อยน่ะไม่เหนื่อย แต่กลุ้มใจอยู่บ้าง”
“เรื่องอะไร ”หยวนชิงหลิงถามขึ้น ถ้าหากกลุ้มใจเพราะเรื่องบ้านเมือง เช่นนั้นเรื่องของอ๋องหวยก็จะเล่าให้เขาฟังไม่ได้ เขาจะได้ไม่ต้องหนักใจขึ้นไปอีก
หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ “การระบาดของเกลือเถื่อน อีกทั้งคุณภาพก็เสมอกัน ทำให้ประชาชนในบางพื้นที่เจ็บป่วย อีกทั้ง เมื่อทำการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว กระทั่งมีความสงสัยว่าผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็กจางยี่เจียงจะสมคบคิดกับพ่อค้าเกลือเถื่อน หลบเลี่ยงภาษีเกลือและขายเกลืออย่างผิดกฎหมาย”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าภาษีจากการค้าเกลือเป็นรายได้สำคัญของประเทศ อีกทั้งราคาเกลือของเป่ยถังไม่นับว่าสูงมาก เดิมทีค่าภาษีก็ค่อนข้างต่ำกว่าหลายสิบปีก่อนหน้านี้มากแล้ว ตอนนี้มีการระบาดของการค้าเกลือเถื่อน ทำให้เกิดความเสียหายต่อการค้าเกลือของประเทศเป็นอย่างมาก
อีกทั้ง ถ้าหากเป็นการร่วมมือสมคบคิดกันของผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็กกับพ่อค้าเกลือเถื่อนแล้วล่ะก็ เรื่องนี้คงไม่ธรรมดาเป็นแน่
“แน่ใจหรือว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดกัน”หยวนชิงหลิงถาม
“ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ช่วงนี้ลูกสาวบุญธรรมของจางยี่เจียงมาที่เมืองหลวง นางก็คือลูกสาวคนโตของซุนฉีที่จวนตูจังยกให้เป็นผู้ควบคุมดูแลการค้าเกลือและชา ก่อนหน้านี้น้องเจ็ดเคยได้รับรายงานแล้ว บอกว่าซุนฉีคนนี้ไปมาหาสู่กับพ่อค้าเกลือเถื่อนอยู่เสมอ เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานว่าพวกเขาได้สมรู้ร่วมคิดกับพ่อค้าเกลือเถื่อนเท่านั้น ”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าการค้าเกลือเถื่อนนั้นเป็นภัยร้ายแรง เกลือเถื่อนในตอนนี้ส่วนมากจะเป็นเกลือสินเธาว์ มีสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายเยอะมาก เมื่อกินเกลือสินเธาว์เหล่านี้เป็นเวลานาน จะทำให้ร่างกายเกิดโรคต่างๆขึ้นมาได้
และการระบาดของการค้าเหลือเถื่อน แน่นอนว่าต้องกระทบต่อการค้าเกลือของประเทศอย่างรุนแรง ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าห้ากลุ้มใจมากเช่นนี้
หยุดไปชั่วครู่ หยู่เหวินเห้าก็บอกว่า “ตอนนี้ผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็กจางยี่เจียง เป็นลูกศิษย์ที่โสวฝู่ฉู่ภูมิใจมากที่สุด ตอนแรกก็เป็นโสวฝู่ฉู่ที่แต่งตั้งให้เขาได้เป็นผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็ก ควบคุมการค้าเกลือของประเทศ ”
หยวนชิงหลิงพูดว่า “ถ้าหากตรวจสอบจนแน่ชัดแล้ว โสวฝู่ฉู่ก็ไม่มีทางเข้าข้างแน่”
“เขาย่อมไม่มีทางเข้าข้าง เพียงแต่ เกรงว่าหากมีการขยายการตรวจสอบ โสวฝู่ฉู่ก็จะถูกเขาปิดบังเอาไว้ เพราะว่า ก่อนหน้านี้โสวฝู่นั้นชื่นชมตัวเขามาก ข้าเองก็เคยดูตารางการรับตำแหน่งและการประเมินผลงานของเขาในช่วงแรกๆ ตอนที่โสวฝู่ฉู่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ เขานั้นทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ และได้อุทิศตัวเพื่อการค้าเกลือของประเทศไม่น้อย ยังมี เขาเคยปราบปรามการค้าเกลือเถื่อนอย่างหนัก จับพ่อค้าเกลือเถื่อนได้มากมาย ข้าไม่หวังว่าเขาจะสมคบคิดกับพ่อค้าเกลือเถื่อนจริงๆ อย่างนี้จะเป็นการทำร้ายจิตใจโสวฝู่ฉู่มากเกินไป ”
หยวนชิงหลิงเห็นเขากลุ้มใจมากขนาดนี้ คิดแล้วก็ไม่พูดเรื่องของเจ้าหกให้เขาฟังจะดีกว่า
เพราะว่าเรื่องของเจ้าหกเป็นเรื่องส่วนตัว
วันรุ่งขึ้นจึงออกจากวัง ไปยังจวนอ๋องฉู่ หรงเยว่อาศัยอยู่ที่จวนอ๋องฉู่จริงๆ อะซี่เห็นหยวนชิงหลิงกลับมา ดึงตัวนางเอาไว้และพูดเสียงเบาว่า“พี่หยวน ท่านต้องเกลี้ยกล่อมหรงเยว่ให้ดี นางมาที่นี่สามวันแล้ว ทุกวันเอาแต่ระบายอารมณ์กับต้นไม้ดอกไม้หลังลานบ้าน แม้แต่ต้นฉัตรเก่าแก่ก็แทบจะถูกนางฟันทิ้งแล้ว”
“รุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ อ๋องหวยเคยมาหรือไม่”หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“ไม่เคยมา”
หยวนชิงหลิงประหลาดใจ หลงผู้หญิงเข้าแล้วจริงหรือ ภรรยาออกจากบ้านมาสามวันแล้ว ก็ไม่มาตามกลับไป เจ้าหกเป็นอะไรกันแน่
“นางอยู่ไหน”หยวนชิงหลิงถาม
“อยู่ลานด้านหลังบอกว่าจะตัดไม้”อะซี่เอ่ยอย่างระอาใจ
หยวนชิงหลิงร้อนใจขึ้นมา รีบเดินอย่างรวดเร็วไปยังลานด้านหลัง จวนอ๋องฉู่เป็นบ้านของนาง จะให้หรงเยว่มาทำลายตามอำเภอใจได้อย่างไร
เมื่อมาถึงลานด้านหลัง ก็เห็นว่าหรงเยว่กำลังใช้แส้ฟาดไปยังต้นฉัตรเก่าแก่ของนางอยู่จริงๆ หยวนชิงหลิงรีบเข้าไปห้ามเอาไว้ พูดว่า “เจ้าจะระบายอารมณ์กับต้นไม้ใบหญ้าทำไม ไม่สู้กลับไปสั่งสอนเขาสักตั้งจะดีกว่า”
หรงเยว่สวมชุดสีแดง ใกล้เคียงกับสีของดวงตาที่โมโหราวกับมีเปลวไฟคุกรุ่นอยู่ “ข้าจะไปสั่งสอนเขาทำไมกัน ก็แค่คนที่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว ข้าคิดไว้แล้วว่าจะหย่ากับเขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าได้พูดถึงเขาต่อหน้าข้าอีก”
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเช่นนี้ มา เข้ามานั่งก่อน บอกข้ามาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”หยวนชิงหลิงดึงนางเดินเข้าไปในเรือน อะซี่เห็นดังนั้น รีบสั่งให้คนไปชงน้ำชามา