บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1567 นางกำลังช่วยเจ้าหก
เมื่อเข้าไปในเรือนแล้ว หรงเยว่ก็พูดขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหว “ก่อนหน้านี้ข้าก็รู้สึกว่าเขาไม่ชอบมาพากลแล้ว ออกไปข้างนอกทั้งวันทั้งคืน แม้แต่วันหยุดก็ไม่อยู่บ้านเป็นเพื่อนลูก กลางดึกยามเกิง(23.00น.-01.00น.)ก็ยังไม่เห็นเขากลับมา เดิมทีข้าคิดว่าเขามีงานยุ่ง ภายหลังถามคนในกรมแล้ว จึงรู้ว่าไม่ใช่ เขานั้นมีเวลาส่วนตัวมาก ไปเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนคนอื่นแล้ว คืนวันนั้น ข้ารอจนถึงยามเกิง(23.00น.-01.00น.)ก็ไม่เห็นเขากลับมา จึงได้ให้คนไปสืบว่าเขาอยู่ที่ไหน ได้ข่าวว่าเขาอยู่ที่หอทิงจุ้ย จึงรีบไปหาเขา ตอนที่ผลักประตูห้องส่วนตัวเข้าไป เขากับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังดื่มเหล้าอยู่ในนั้น ดื่มเหล้ากันสองต่อสอง ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย”
หยวนชิงหลิงอยากจะพยายามพลิกสถานการณ์สักหน่อย “ก็แค่ดื่มเหล้า ไม่มีอย่างอื่น เจ้าคิดมากไปเองหรือไม่”
หรงเยว่เลิกคิ้วขึ้น “ถ้าหากเจ้าห้ากับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังดื่มเหล้ากันอยู่ในห้องส่วนตัว เจ้าจะคิดว่าเจ้าคิดมากไปหรือไม่”
หยวนชิงหลิงครุ่นคิด ข้ออ้างนี้ใช้ไม่ได้จริงๆ
“เช่นนั้นหลังจากที่เจ้าเข้าไปแล้ว เขาว่าอย่างไรบ้าง”หยวนชิงหลิงถาม
หรงเยว่จึงรู้สึกโมโหเป็นอย่างยิ่ง “เขาบอกกับหญิงสาวผู้นั้นว่าข้าเป็นน้องสาวนาง เจ้าว่าเขาทำเกินไปหรือไม่”
“หา?”หยวนชิงหลิงตกตะลึง น้องสาว ช่างไม่ได้เรื่องจริงๆเลย หรือหญิงสาวคนนั้นจะไม่รู้ว่าอ๋องหวยได้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว
“เช่นนั้นเจ้าจึงระเบิดอารมณ์หรือ”หยวนชิงหลิงคิดว่าด้วยนิสัยของหรงเยว่ นางคงต้องคว่ำโต๊ะแน่
“ไม่คุ้มที่จะทำเช่นนั้น ในเมื่อเขาบอกว่าข้าเป็นน้องสาว เช่นนั้นข้าก็เรียกเขาว่าพี่ชายคำหนึ่งแล้วก็จากไป คนสารเลวเช่นนี้ ควรค่าที่ข้าจะระเบิดอารมณ์ด้วยหรือ หลังจากข้าจากมาแล้วก็เก็บข้าวของออกจากจวนทันที ลูกข้าก็ไม่เอา ”หรงเยว่เอ่ยเสียงเย็น
หยวนชิงหลิงถามขึ้น “เขามีความลำบากใจอะไรหรือไม่ เจ้าจะลองคิดทบทวนอย่างมีเหตุผลดีๆสักหน่อยหรือไม่”
“เรื่องนี้ หากไม่มีหญิงสาวสามารถใช้เหตุผลได้ ข้าไม่อยากคิดทบทวน ถ้าหากเขามีเรื่องลำบากใจจริงๆ ข้ามาที่จวนอ๋องฉู่ถึงสามวันแล้ว ทำไมเขาไม่ตามมาอธิบาย แม้แต่แม่สามีข้าก็ตามมาแล้ว เขากลับไม่มา ”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าหลู่ไท่เฟยก็นับว่าไม่เลว แม่ทั่วไปต่างก็รู้เห็นเป็นใจกับลูกชายของตัวเอง การแต่งงานรับอนุภรรยาในยุคนี้ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร
แต่เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรก็มีความน่าประหลาดใจอยู่ บางทีอาจจะเป็นเพราะนางเชื่ออย่างสนิทใจว่าเจ้าหกไม่ใช่คนเช่นนั้น แค่ที่สำคัญคือ หรงเยว่ถึงกับทั้งลูกชายลูกสาวทั้งคู่เอาไว้ ที่ทำให้รู้สึกคาดคิดไม่ถึงจริงๆ
แต่ว่าบางทีหรงเยว่อาจจะพูดถูก ในด้านนี้ หญิงสาวไม่มีทางครองความมีเหตุผลไว้ได้
นอกเสียจากจะไม่รักแล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เจ้ารู้หรือไม่”หยวนชิงหลิงถาม
“ไม่รู้ ข้าเองก็ไม่อยากถาม ที่ข้าถือสาคือเขาทำผิดต่อข้า หญิงสาวคนอื่นอยากจะได้ตัวสามีข้า ข้าโมโหก็ส่วนโมโห แต่ถ้าหากเขายินดี บัญชีนี้ก็ไม่ต้องไปคิดกับคนอื่นแล้ว ไม่ใช่นางก็ยังมีหญิงสาวคนอื่นอีก”
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าความคิดของหรงเยว่ค่อนข้างล้ำหน้าอยู่
เพียงแต่ ทำไมเรื่องนี้จึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า
“เช่นนั้นทำไมเจ้าจึงต้องทิ้งลูกไว้ด้วย”หยวนชิงหลิงถาม
หรงเยว่ทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าจะได้มีชีวิตที่ผ่อนคลายสบายใจแล้ว จะเอาลูกๆไปด้วยทำไม ให้เขาเลี้ยงลูกไปเถอะ ใช่ว่าจะเลี้ยงไม่ได้เสียหน่อย ถ้าหากหลังจากหย่ากันแล้ว เขาจะแต่งงานกับหญิงคนนั้น แล้วกล้าใจดำกับลูกข้า ข้าต้องกลับไปฆ่าพวกเขาแน่”
หยวนชิงหลิงรู้สึกทำหน้าไม่ถูกอยู่บ้าง คิดไปถึงขั้นนั้นแล้วหรือ แม้แต่แต่งแม่เลี้ยงเข้าบ้านก็คิดไปเองแล้ว
หยุดชะงักไปชั่วครู่ หรงเยว่ก็เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชาว่า “อีกอย่าง ข้าไม่อยู่ในจวน อย่างไรเสียเขาก็ต้องกลับไปดูลูก ยังจะมีเวลาไปมีความสุขกับหญิงสาวหรือ ลูกหญิงชายคู่หนึ่ง พอที่จะทำให้เขาทรมานได้”
“เจ้าไม่คิดถึงความเป็นไปได้อย่างอื่นเลยหรือ”หยวนชิงหลิงถาม
“เคยคิด แต่เขาไม่มาอธิบาย ข้าให้โอกาสเขาแล้ว”หรงเยว่เอ่ยเสียวเรียบ
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่านางเองก็ไม่ได้เสียใจขนาดนั้น กลับเหมือนชีวิตของทั้งสองคนราบเรียบอยู่บ้าง อยากจะหาเรื่องมากระตุ้นตัวเองเสียหน่อย เพื่อเสริมความรู้สึก
นางต้องไปหาเจ้าหกเพื่อถามให้รู้เรื่อง ทางที่ดีที่สุดคืออย่าเอาเรื่องนี้ไปให้เจ้าห้าต้องปวดหัวอีก
หยวนชิงหลิงอยู่เป็นเพื่อนหรงเยว่จนถึงพลบค่ำ คิดว่าเจ้าหกเองก็คงจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว จึงไปยังจวนอ๋องหวย
อ๋องหวยกลับมาที่จวนอย่างที่คิดจริงๆ กำลังพาลูกๆเล่นกันอยู่ เด็กๆเห็นหยวนชิงหลิงมา ก็วิ่งมาทางนาง เรียกนางว่าท่านป้า
ลูกชายลูกสาวคู่นี้ของหรงเยว่ ผสมผสานจุดเด่นของหรงเยว่กับอ๋องหวยเอาไว้ หน้าตาค่อนข้างดี หยวนชิงหลิงชื่นชอบมาก ดึงมือของพวกเขาทั้งสองเอาไว้ถามไถ่เล็กน้อย จึงปล่อยให้พวกเขาไปเล่นกันต่อ
อ๋องหวยเดินเข้ามา ถามอย่างไม่ค่อยสบายใจว่า “พี่สะใภ้ห้ามาทำไมหรือ”
“มีคำถามจะถามเจ้า”หยวนชิงหลิงมองดวงตาที่หลุบหลบของเขา ก็รู้ว่าเขารู้สึกผิดในใจ อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ “น้องหก เจ้าคงไม่ได้มีหญิงอื่นข้างนอกจริงๆกระมัง”
อ๋องหวยเอ่ยอย่างขมขื่นว่า “พี่สะใภ้ห้า ท่านให้เกียรติข้ามากไปแล้ว มีที่ไหนกัน หรงเยว่เข้าใจผิดไปเอง”
“แล้วมันเรื่องอะไรกันแน่ หญิงสาวที่นางเห็นกับตาเป็นใคร”หยวนชิงหลิงถาม
อ๋องหวยเชิญนางเข้าไปด้านใน ดวงตาเริ่มหลบตาอีกครั้ง “เข้าไปค่อยคุยกัน เข้าไปค่อยคุย”
หยวนชิงหลิงตามนางเข้าไป หลังจากอ๋องหวยนั่งลงแล้ว ก็ไล่บ่าวไพร่ออกไป ถามว่า “พี่สะใภ้ห้าเพิ่งมาจากจวนอ๋องฉู่หรือ หรงเยว่เป็นอย่างไรบ้าง ยังคงโกรธมากอยู่หรือ”
“โกรธแน่นอน เจ้าก็ไม่ไปอธิบายให้นางฟัง ในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด ทำไมไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้เล่า”หยวนชิงหลิงพูด
ทันใดนั้นใบหน้าของอ๋องหวยก็ขรึมลง “ยังโมโหอยู่หรือ ข้าคิดว่าจะรอให้นางหายโกรธแล้วค่อยอธิบายให้นางเข้าใจ ท่านก็รู้ว่านางอารมณ์รุนแรง ตอนที่โกรธอยู่ข้าพูดอะไรนางก็ฟังไม่เข้าหู ข้าคิดว่าจะให้นางสงบจิตใจสักสองสามวัน นางก็คงจะหายโกรธ”
หยวนชิงหลิงทำหน้าไม่ถูก “เรื่องเช่นนี้ เจ้ายิ่งไม่อธิบาย นางก็จะยิ่งโกรธ จะไปใจเย็นได้อย่างไรกัน ในเมื่อเป็นการเข้าใจผิด ก็อธิบายให้ฟังดีๆ แต่ว่า ข้าอยากจะรู้ เจ้ากับหญิงสาวคนหนึ่งดื่มเหล้ากันตามลำพังในห้องส่วนตัว เพราะอะไรกัน ”
อ๋องหวยเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา
ที่แท้ หญิงสาวคนนี้ก็คือลูกสาวบุญธรรมของจางยี่เจียงผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็ก นั่นก็คือซุนหยิงหยิงบุตรสาวคนโตของซุนฉีที่จวนตูเจียงยกตำแหน่งให้เป็นผู้ควบคุมการค้าเกลือและชา
อ๋องฉีแห่งกรมการพระนครและเขาได้ร่วมมือกันตรวจสอบเรื่องการค้าเกลือเถื่อน พอดีกับที่ซุนหยิงหยิงคนนี้มาเยี่ยมญาติในเมืองหลวง อาศัยอยู่ที่บ้านของผู้ควบคุมการค้าเกลือและเหล็กจางยี่เจียง แล้วพอดีกับที่วันนั้นหลังจากอ๋องฉีกับอ๋องหวยกลับมาจากการทำงาน ก็ตรงไปกินข้าวที่โรงน้ำชา ก็พบเข้ากับคุณหนูซุนหยิงหยิงคนนี้กำลังถูกคนอื่นลวนลาม อ๋องหวยยื่นมือเข้าไปช่วย ซุนหยิงหยิงจึงมีความรู้สึกดีๆต่อเข้าอยู่บ้าง
เพราะว่าการตรวจสอบได้เข้าสู่ช่วงที่ยากลำบาก ไม่อาจจะคลี่คลายได้ อ๋องฉีจึงนึกแผนการขึ้นมาได้ ให้เขาเข้าใกล้ซุนหยิงหยิง สืบหาข่าวคราว
หยวนชิงหลิงตกใจจนอ้าปากค้าง “แล้วซุนหยิงหยิงจะไม่รู้สถานะของเจ้าเลยหรือ”
อ๋องหวยส่ายหน้า“ไม่รู้จริงๆ เป็นครั้งแรกที่นางมาเมืองหลวง ไม่เคยพบเห็นข้ามาก่อน ”
“แต่ว่า หญิงสาวที่อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน อาจจะไม่รู้เรื่องของบิดาและพ่อบุญธรรมก็ได้ ”
“พวกข้าแค่อยากจะรู้ว่าพ่อของนางไปมาหาสู่กับพวกพ่อค้าเกลือเถื่อนจริงหรือไม่ ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ไปมาหาสู่กันบ่อยหรือไม่ และอย่าได้เห็นว่าซุนหยิงหยิงเป็นแค่คุณหนูที่อยู่กับเหย้ากับเรือนเท่านั้น แต่สองปีมานี้นางได้ช่วยพ่อทำงานอยู่ข้างนอกตลอด ซุนฉีไม่มีลูกชาย จึงได้เลี้ยงดูนางเหมือนลูกชาย งานมากมายได้มอบหมายให้นางไปทำ ฉะนั้นจนตอนนี้อายุจะสามสิบแล้ว ยังไม่แต่งงาน ”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆเฮือกหนึ่ง “ในเมื่อนางไม่ใช่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดา จะไปเปิดเผยเรื่องราวที่ถึงแก่ชีวิตเหล่านี้ให้พวกเจ้าฟังได้อย่างไร อีกทั้งนางยังช่วยพ่อของนางทำงานมาตลอด จะไปถูกคนอื่นลวนลามแล้วไม่รู้จักป้องกันตัวได้อย่างไร ข้าแค่เกรงว่าพวกเจ้าวางแผนการ ที่สุดแล้วคนที่หลงกลคือพวกเจ้า”
อ๋องหวยนิ่งอึ้ง “นี่ เป็นไปไม่ได้กระมัง”
“จะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไร เจ้าอย่าทำเช่นนี้ดีกว่า ไปกล่อมหรงเยว่ก่อน เรื่องคดีค่อยสืบหากันวิธีอื่นเถอะ หลายปีมานี้เจ้าทำงานให้ราชสำนัก เข้าออกราชสำนัก เป็นไปไม่ได้ที่นางจะไม่รู้จักเจ้า”
ทันใดนั้นหยวนชิงหลิงก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ หรงเยว่อยู่ในสำนักเหลิ่งหลังมาตั้งหลายปี ปัญหาอะไรก็เคยผ่านมาหมดแล้ว ทำไมจึงต้องโมโหเพราะเรื่องนี้ด้วยเล่า
อีกอย่าง นางบอกว่านางไม่รู้จักซุนหยิงหยิง ข่าวของสำนักเหลิ่งหลังนั้นมีมากที่สุด สถานะของหญิงสาวคนหนึ่งที่ดื่มเหล้ากับเจ้าหก นางจะไม่สืบหาให้ชัดเจนได้อย่างไร
ถ้าหากสืบหาจนรู้ชัดแล้ว แล้วก็รู้นิสัยใจคอของสามีตนเอง นางยังไม่พอใจเช่นนี้ เช่นนั้นต้องมีแผนการสำรองแน่ เกรงว่าคนที่จะตรวจสอบคดีนี้จริงๆจะเป็นนาง
นางกำลังช่วยเจ้าหก