บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1578 ไม่แต่งงานตลอดชีวิต
เจ้าห้าได้ยินประโยคนี้ ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี “ขอแต่งงาน ใครขอนางแต่งงาน บ้าไปแล้ว นางเพิ่งจะแปดขวบเองนะ คนอะไรทำไมจึงได้ ประสาทเช่นนี้”
นี่มันช่างน่างตกตะลึงจริงๆ กะทันหันมากเกินไปแล้ว ลูกสาวของเขาเพิ่งจะแปดขวบ ก็มีคนมาตีตราจองแล้ว ยังจะขอแต่งงานอีก ถ้าเขารู้ว่าเป็นใคร จะตีให้ตาบอดเชียว
“ข้าพูดไปแล้ว หักหลังกวากวา แบ่งปันความลับของนางให้ท่านฟัง ท่านก็อย่าโกรธข้าอีกแล้วกัน”หยวนชิงหลิวดึงมือเขาพลางพูดขึ้นมา“เจ้าพูดมา ข้าให้อภัยเจ้า รีบพูดมาเถอะ”หยู่เหวินเห้าไหนเลยจะยังมีจิตใจไปสนเรื่องโกรธยายหยวน เดิมทีก็ไม่ได้โกรธอยู่แล้ว เพียงแค่อารมณ์ต่างๆที่วุ่นวายก่อตัวกันขึ้นมาทำให้จิตใจเขารู้สึกอัดอั้น
แต่อารมณ์ที่ว่าทั้งหมดนี้ตอนนี้ต้องทำให้สลายไปก่อน ไม่มีเรื่องไหนน่าตื่นตกใจเท่าเรื่องลูกสาวแล้ว
หยวนชิงหลิงเล่าเรื่องที่เจ๋อหลานไปหลอกเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงให้เจ้าห้าฟัง รวมถึงเรื่องที่ฮ่องเต้น้อยของแคว้นจินที่บอกว่าจะแต่งงานกับนาง ครั้งนี้ไม่กล้าจะปิดบังเลยแม้แต่น้อย ไม่กล้าหลอกเขาอีกแล้ว
เจ้าห้าฟังแล้ว ขนก็ลุกชันขึ้น “ช่างบังอาจนัก แม้จะรู้ว่าภายหน้าจะมีอันตรายก็ยังเอาตัวเข้ามาเสี่ยง หลอกเงินของแคว้นจินมาหนึ่งแสนตำลึง แผนการนี้ฟังแล้วทำไมรู้สึกคุ้นๆ ใช่ ถูกต้องแล้ว ฉีฮั่ว อาจารย์ของนาง มีอย่างที่ไหน ฉีฮั่วถึงกับสอนให้นางไปหลอกเงินคนอื่น เป็นอาจารย์ประสาอะไร ยังมีฮ่องเต้น้อยของแคว้นจินนั่นอีก อายุเท่าไหร่กันแล้ว ได้ยินว่าแค่สิบขวบ……”
“สิบสาม อ๋องเจิ่นกั๋วจงใจบอกว่าเขาอายุสิบขวบ เพราะต้องการควบคุมอำนาจของเขา”
เจ้าห้าลุกขึ้นมาทันที มือไขว้หลังเดินวนไปมา พูดอย่างโมโหว่า “อายุสิบห้าก็ไม่ได้ แคว้นจินห่างไกลจากเมืองหลวงของเป่ยถังตั้งเท่าไหร่เจ้ารู้หรือไม่ ถ้าลูกแต่งงานไป ปีหนึ่งจะกลับมาหนหนึ่งยังทำไม่ได้ ให้เขาฝันไปเถอะ กินกะหล่ำดาวเยอะจนเพี้ยนไปแล้วกระมัง ฝันหวานเสียจริง คิดอยากจะแต่งงานกับองค์หญิงเจิ่นกั๋วของเป่ยถัง ฝันไปเถอะ ฝันไปเถอะ ”
“ก็แค่คำพูดล้อเล่นของเด็ก ถือจริงจังไม่ได้”หยวนชิงหลิงรีบพูดขึ้น
“ไม่ได้ ล้อเล่นก็ไม่ได้ แม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ของตนเองยังปกป้องเอาไว้ไม่ได้ อาศัยอะไรมาบอกว่าจะแต่งงานกับแก้วตาดวงใจของข้า เจ้าเด็กนั่นไม่มีอนาคต อำนาจฮ่องเต้ยังไม่มั่นคงก็อยากจะแต่งงานแล้ว คนเช่นนี้ต้องปฏิเสธการคบหา ให้กวากวาตัดขาดกับเขา ภายหน้าอย่าไปมาหาสู่กันอีก”
“วางใจได้ เขาไม่รู้สถานะของกวาเอ๋อ อีกอย่าง ได้ยินกวาเอ๋อบอกว่า เขาคิดว่ากวาเอ๋อถูกอ๋องเจิ่นกั๋วฆ่าตายไปแล้ว ยังใช้พลังควบคุมน้ำทำร้ายอ๋องเจิ่นกั๋ว มีความสามารถไม่น้อยทีเดียว ข้าได้ยินว่าฉีฮั่วได้ส่งคนไปคอยจับตาดูแล้ว วางใจเถอะ คงไม่มีทางเป็นจริงได้”
หยู่เหวินเห้าพูดด้วยอารมณ์คุกรุ่น “ฉีฮั่วไม่ใช่คนดีอะไรเลย ข้ามอบลูกสาวให้เขา เจ้าดูซิเขาสั่งสอนอย่างไร ไปหลอกเงินผู้อื่นหนึ่งแสนตำลึง เรื่องเช่นนี้ แม้จะทำได้ดี แต่ว่า ไม่ควรจะให้เด็กไปทำ”
“ฉีฮั่วก็คงคาดไม่ถึงว่าเด็กจะกล้าขนาดนี้ เอาล่ะ ท่านอย่าโมโหเลย เรื่องนี้ท่านก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ก็พอ ไม่เช่นนั้นภายหน้าลูกจะไม่พูดความลับกับข้าอีก”หยวนชิงหลิงเอ่ยเตือนขึ้น
หยู่เหวินเห้ามองนาง “ที่จริงข้ารู้สึกว่า ลูกเอาแต่พูดความลับกับเจ้าก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี เจ้ารักษาความลับก็ลำบาก เอาอย่างนี้เจ้าลองเป็นคนเลวสักครั้ง ให้ลูกๆเลิกเชื่อใจเจ้า วันหน้าให้พวกเขามาบอกความลับกับข้า”
หยวนชิงหลิงหัวเราะเสียงเย็น “เลิกคิดไปได้เลย”
“ยายหยวน เป็นคนต้องยุติธรรมบ้าง”เจ้าห้าถลึงตาจ้องมองนาง
“จะให้ยุติธรรมอย่างไร ท่านไม่รู้หรือว่ากวาเอ๋อชอบท่านมากกว่าข้าเสียอีก”
“จริงหรือ เจ้ารู้ได้อย่างไร”ทันใดนั้นใบหน้าของหยู่เหวินเห้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม“เจ้ารีบพูดมา เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“ข้ารู้สึกได้”
หยู่เหวินเห้าพยักหน้า เอ่ยอย่างจริงจังว่า “ความรู้สึกของเจ้าแม่นมาตลอด เจ้าว่าใช่ เช่นนั้นต้องใช่แน่นอน ข้ารู้สึกมาตลอดว่ากวาเอ๋อนั้นค่อนข้างกตัญญูกับข้ามาก ยังซื้อของขวัญมากมายเช่นนี้มาให้ข้า ขอข้าดูหน่อย ซื้ออะไรมาบ้าง ”
“ไม่โกรธแล้วหรือ ”หยวนชิงหลิงยิ้มและถามขึ้น
“ไม่โกรธแล้ว แต่ต้องระวังและคอยป้องกันฮ่องเต้น้อยของทางแคว้นจินด้วย เจ้าเด็กเจ้าเล่ห์ ทำเกินไปแล้ว ”หยู่เหวินเห้าฉีกของขวัญชิ้นหนึ่ง เป็นตุ๊กตาดินเผาลงสี ฝีมือประณีตมาก แม้แต่เส้นผมก็ราวกับเป็นของจริง เขายิ้มจนหุบปากไม่ได้“ตุ๊กตาดินเผาลงสีนี้เหมือนลูกสาวข้ามาก สวยจริงๆ”
“ข้าเป็นคนซื้อมา ”หยวนชิงหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ
“เจ้าเป็นคนซื้อหรือ เจ้าซื้อข้าก็ดีใจเช่นกัน ข้าชอบ”หยู่เหวินเห้าแกะของขวัญทีละชิ้น ยิ้มไม่หุบ แกะไปหลายชิ้นจึงเริ่มถามเรื่องภัยพิบัติของเมืองโร่ตู
หยวนชิงหลิงนั่งลง เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้ฟัง รวมถึงแผนการจัดการระหว่างที่เจ๋อหลานอยู่ในเมืองโร่ตู
หลังจากหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้ว ก็รู้สึกประหลาดใจมาก“กวาเอ๋อรับรู้ถึงแผ่นดินไหวล่วงหน้าหรือ และได้อพยพประชาชนออกไปหรือ นี่มันช่างเป็นบุญกุศลสูงส่งจริงๆ นางช่างยอดเยี่ยมจริงๆ ยายหยวน ข้ายังคิดว่านางไปเล่นที่เมืองโร่ตูตามประสาเด็กเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะแอบทำเรื่องใหญ่เช่นนี้”
นางกับพวกทังหยวนก็เหมือนกัน อยากจะช่วยท่านทำงานบ้าง ให้ท่านสบายใจ แต่ก็กลัวท่านเป็นห่วง ฉะนั้นจึงไม่เลือกที่จะบอกกล่าวท่าน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าจึงบอกว่ากวากวารักท่านมากกว่าข้า นางใส่ใจท่าน สงสารท่าน อยากจะแบ่งเบาภาระท่าน
หยู่เหวินเหาปล่อยมือ มองหยวนชิงหลิง พูดเสียงเบาว่า “ยายหยวน ข้ารู้สึกอยากจะร้องไห้จริงๆ”
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปกอดเขาเอาไว้ พูดยิ้มๆว่า “ดี ร้องเถอะ ลูกชายคนโตของข้า ”
หยู่เหวินเห้าเอ่ยอย่างหดหู่ว่า “เจ้าเรียกข้าว่าลูกชายคนโต น้ำตาข้าก็ไหลไม่ออกทันทีเลย”
“เช่นนั้นก็ไม่ต้องร้องไห้ นั่งลงก่อน ข้าจะเล่าให้ท่านฟังว่าประชาชนของเมืองโร่ตูแสดงความคิดเห็นต่อกวากวาอย่างไร”หยวนชิงหลิงปล่อยเขา ดึงมือของเขานั่งลงอีกครั้ง เริ่มพูดเรื่องที่ได้พบได้เห็น ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้
หยู่เหวินเห้าฟังอย่างตั้งใจมาก และหวั่นไหวมาก โดยเฉพาะความเคารพที่ประชาชนมีต่อกวากวา ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แต่รู้ว่าเป็นเรื่องจริง ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่า พี่สามพูดตลอดว่าประชาชนของเมืองโร่ตูเป็นปรปักษ์กับราชสำนักเป็นอย่างยิ่ง เกลียดชังราชสำนักอย่างที่สุด ไม่คิดว่าพอเจอกับสถานการณ์แผ่นดินไหว จะทำให้พวกเขากลับใจมาภักดีต่อราชสำนัก และสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความดีความชอบของกวาเอ๋อ
ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่า ลูกๆนั้นยอดเยี่ยมกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
หัวเมืองทั้งห้า นางเตรียมแผนการพัฒนาไว้ห้าสิบปี สานสัมพันธ์ด้วยการแต่งงาน การค้า การเผยแพร่สิ่งต่างๆ ค่อยๆพัฒนาวัฒนธรรมไปพร้อมๆกัน แต่ใครเลยจะคิดว่า เจ๋อหลานเพิ่งจะไปได้ไม่กี่เดือน ก็สามารถทำให้เมืองโร่ตูที่มีสถานการณ์ซับซ้อนกลับใจมาภักดีได้ ถ้าหากเอาไปพูดในราชสำนัก คาดว่าก็คงไม่มีขุนนางคนไหนเชื่อ
มาตรการที่ทางราชสำนักประทานให้ ก็มีขุนนางเคยแนะนำ แต่ว่า การประทานความเมตตาจากเบื้องสูง จะนำมาซึ่งความรู้สึกต่อต้าน เพราะจะถูกเข้าใจผิดคิดว่าทำเอาหน้า เพื่อซื้อใจคน เพราะว่า การมองข้อเสนอที่ดีทั้งหมดด้วยใจที่เป็นศัตรูนั้นนโยบายทุกอย่างล้วนมีจุดประสงค์
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน องค์หญิงของราชวงศ์ แม้แต่พระมารดาแผ่นดินก็เดินทางไปที่เมืองโร่ตูด้วยตนเอง รักษาผู้บาดเจ็บด้วยตนเอง ไม่กลัวความลำบากไม่กลัวความเหน็ดเหนื่อยไม่กลัวความสกปรก การเผชิญกับปัญหาและสื่อสารเช่นนี้ช่างน่าตกตะลึงมาก บวกกับที่เมืองโร่ตูประสบภัยพิบัติพอดี ใจคนนั้นอยู่ในช่วงที่ลังเลที่สุด หัวใจของประชาชนไม่ได้หล่อขึ้นจากเหล็กกล้า จะไม่ซาบซึ้งได้อย่างไร
ส่วนสายสืบที่แต่เดิมอยู่ในแคว้นจิน เพราะสถานการณ์ในแคว้นจินซับซ้อน อ๋องเจิ่นกั๋วก็ได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นจึงไม่ได้ดำเนินการในขั้นต่อไปเป็นการชั่วคราว จึงถูกราชสำนักอำนาจกลับคืนมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นนี้เอง
แต่ความสนใจของเจ้าห้า ที่สุดก็อยู่ที่ตัวของฮ่องเต้น้อยแห่งแคว้นจิน เด็กคนนี้ไม่ใช่คนดี อายุน้อยแค่นี้ในสมองก็คิดเรื่องแต่งงานแล้ว ไร้อนาคตสิ้นดี คอยจับตาดูทางแคว้นจินให้ดีเสียหน่อย อย่าให้เจ้าเด็กนั่นหาทางมาหากวาเอ๋อของข้าได้
วางใจเถอะ ในเมื่อลูกบอกแล้วว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต จะอยู่ข้างกายท่านกตัญญูต่อท่าน หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างจริงจัง
หยู่เหวินเห้านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ “เรื่องนี้……