บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1596 ใต้เท้าทังกระทำผิด
งานเลี้ยงยังดื่มฉลองกันต่อ เหลิ่งจิ้งเหยียนชนแก้วกับทังหยางตลอด แก้วแล้วแก้วเล่า ดื่มจนทังหยางเวียนวัวตาลาย จนพูดจาไม่เป็นคำแล้ว
หลังจากดื่มเสร็จแล้ว เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดกับแม่นางเจ็ดว่า “ดื่มไปพอสมควรแล้ว ข้าว่าทังหยางไม่ไหวแล้ว เจ้าพาเขาไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ดีไหม ให้ลมพัดกระจายแอลกอฮอล์”
แม่นางเจ็ดเองก็ค่อนข้างเมา อยากออกไปเดินเล่น ให้เหงื่อออกจะได้สร่างเมา จึงพูดขึ้นว่า “ได้ พวกเจ้ากลับไปพักกันเถอะ ข้ากับหูหมิงดูแลเขาเอง”
“งั้นดี รบกวนด้วยนะ” เหลิ่งจิ้งเหยียนลุกขึ้นมา โบกมือพร้อมพูดกับทุกคนว่า “ทุกคนกลับ”
ทุกคนแยกย้าย
เดิมแม่นางเจ็ดอยากตามหูหมิงไปเดินเป็นเพื่อนด้วย จู่ๆก็วิ่งหนีหายไปหมดแล้ว ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี คนพวกนี้ ไปกันได้เร็วจริงๆ
มองดูใบหน้าแดงระเรื่อของทังหยาง พร้อมถามขึ้นว่า “เป็นอย่างไร? สามารถเดินได้ไหม?”
ทังหยางลุกขึ้นมา ร่างกายโซเซ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมจะเดินไม่ได้? ข้าไม่ได้เมา”
“ได้ งั้นเจ้าลองเดินสิ หากเดินไม่ไหวก็กลับไปนอนพัก ข้าจะสั่งคนเตรียมน้ำต้มสร่างเมาให้เจ้า” แม่นางเจ็ดพูดขึ้น
ทังหยางเอามือเท้าเอว เดินไปข้างหน้าทีละก้าว เดินเป็นเส้นตรง แล้วหันกลับมามองแม่นางเจ็ด พร้อมยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “ดูสิ เดินตรงแค่ไหน? ไม่ได้เมาใช่ไหม? เชื่อหรือยัง?”
แม่นางเจ็ดมองดูความทะเล้นของเขา แล้วก็หัวเราะพูดขึ้นว่า “ใช่ ไม่เมา งั้นไปเดินเล่นกัน”
แต่สุดท้ายเขาก็เดินไปได้ไม่นาน จึงส่งเขากลับไปพักผ่อนที่ห้อง
เพิ่งออกจากหน้าประตู ทังหยางก็เกาะราวเดิน โซซัดโซเซ ฝีเท้าส่ายไปมา เกือบล้มไปตั้งหลายครั้ง แม่นางเจ็ดเห็นแล้ว จึงต้องไปประคองเขา
เมื่อมีคนประคอง ทังหยางก็เทน้ำหนักทั้งตัวทับบนไหล่แม่นางเจ็ด เดินล่องลอยไปเหมือนอย่างปีศาจ แม่นางเจ็ดโกรธอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “หนักจะตายอยู่แล้ว หูหมิง หูหมิง ใครก็ได้มาช่วยหน่อย”
ทั่วทั้งจวน แม้แต่คนใช้สักคนก็ไม่มี ทุกคนต่างดื่มจนเมา จึงกลับไปนอนหมดแล้ว
และก็เหมือนมีใครตั้งใจไล่ทุกคนไป ลำบากนางเลย
ดื่มจนเมาขนาดนี้แล้ว ยังจะเดินชมสวนอะไร?
กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยฟุ้งเข้าจมูก ช่วงเวลาอันงดงามที่จมปลัก เดินไปเรื่อยๆ แม่นางเจ็ดเองค่อนข้างปวดใจ ความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่แปลกนี้ มือคู่นี้ เคยจูงมือตนเองเดินทางไปยังหลายที่มากมาย
ต่อมา ต่างคนต่างห่างเหิน
นั่นเป็นความรู้สึกที่โศกเศร้ามาก
ตอนที่เจ้าจมปลักอยู่ในความรัก ในสายตาจะมองไม่เห็นสิ่งใด เจ้าจะเชื่อมั่นอย่างตาบอด จูงมือของคนๆนี้ไว้ ความทุกข์หรือพายุร้ายอะไร ล้วนไม่สามารถทำให้เจ้าปล่อยมือได้ ในใจของเจ้าจะเชื่อมั่น ชั่วชีวิตนี้จะเดินไปพร้อมกับเขาตลอดไป
ภายหลังที่มีการปล่อยมือ ก็ไม่สามารถหวนกลับมาได้ กระทำเรื่องเลวร้ายมากมายเพื่อเป็นการแก้แค้น แต่ภายในใจของตนเองกลับไม่สงบสุขเลยสักนิด
ตอนนั้น นางยังอายุน้อยอย่างมาก
สิ่งที่คิดตอนนั้นไม่ใช่การจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่เป็นการแก้แค้น เป็นการระบายอารมณ์ ทำให้เขาเจ็บปวดเสียใจ
นางทำสำเร็จแล้ว ให้เขาคิดว่านางตายแล้ว เจ็บปวดทรมานมานานหลายปี
ต่อมา อะซี่บอกกับนางว่าง เขาอยู่กับฮูหยินคนนั้น เป็นสามีภรรยากันเพียงในนาม ไม่ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา นางเศร้าเสียใจมาก แต่ตอนนั้นสงบจิตใจได้มากแล้ว ปิดประตูหัวใจไว้แล้ว ก็ไม่อยากที่จะแตะต้อง เพราะรู้ว่าเขาจะทำให้ตนเองเจ็บปวดอย่างที่สุด
ตอนนี้ภายในใจไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เพราะนางเดินผ่านความโดดเดี่ยวที่ยาวนานผ่านมาแล้ว นางต้องการสร้างสันติภาพกับตัวเอง
ชีวิตนี้ไม่สมบูรณ์แบบ ความรักก็ไม่สมบูรณ์แบบ นางต้องยอมรับในข้อนี้
วันรุ่งขึ้น ทังหยางนอนจนถึงหลังเที่ยงค่อยตื่นขึ้นมา
ลืมตาตื่นขึ้นมายังสะลึมสะลือ อาการเมาค้างทำให้เขาปวดหัวอย่างมาก จ้องมองที่ด้านบนของเต็นท์ผ้าลินินอย่างว่างเปล่า
บนตัวของเขาไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น
สมองหวนคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ดื่มจนเมาแล้ว แม่นางเจ็ดประคองเขากลับมา ตอนนั้นถึงแม้จะเมา แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง หลังจากนอนหงายอย่างมึนงง ทุกอย่างก็ลืมหมดแล้ว
ทำไมถึงไม่มีเสื้อผ้า? ใครเป็นคนช่วยเขาถอด? เขาถอดเองหรือ?
บนแขนมีรอยขีดข่วน เขาลูบอยู่อย่างเงียบๆสักพัก ไม่รู้สึกเจ็บ ดูจะเฉื่อยชาไปทั้งตัว
ชั่วชีวิตนี้ของเขา มีสิ่งเดียวที่ทำผิดเมื่อตอนเมา แม้ว่าจะได้รับการยืนยันในภายหลังแล้วว่าไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ก็ต้องยอมรับว่า การดื่มจนเมา สามารถทำให้คนเสียสติ สูญเสียความทรงจำได้จริงๆ
ต่อมาเขาดื่มเหล้า ล้วนไม่เคยให้ตนเองเมาขนาดนี้ เมื่อคืนเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะเขาไว้ใจคนที่นี่ทุกคน
เรื่องระหว่างชายหญิงนั้น เขาจำไม่ได้แล้วว่ามีความรู้สึกอย่างไร เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหรือไม่กันแน่ เขาก็ไม่รู้
“พ่อบุญธรรม พ่อบุญธรรม” ด้านนอกประตู เสียงหูหมิงดังขึ้น
เขารีบตะโกนพูดขึ้นว่า “อย่าเพิ่งเข้ามา”
เขารีบเปิดผ้าห่มออก เก็บเสื้อผ้าของตนเองขึ้นมาจากพื้น สวมใส่อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็นวดขมับ แล้วค่อยไปเปิดประตู
หูหมิงยืนอยู่ข้างนอกพร้อมพูดขึ้นว่า “ท่านเพิ่งตื่นหรือ? ยังทรมานไหม?”
“ก็ยังดี ทำไมหรือ?” หัวสมองทังหยางวุ่นวายอย่างมาก พร้อมถามขึ้น
“มาเรียกท่านทานข้าว แม่นางเจ็ดกลับเมืองหลวงแล้ว ท่านรู้ไหม? ข้ายังคิดว่านางรอกลับไปพร้อมกับท่าน สุดท้ายกลับก่อนแล้ว”
“นางกลับไปแล้ว?” ในใจทังหยางหนักอึ้ง
“ใช่” หูหมิงมองดูใบหน้าของเขา แล้วก็อึ้งพร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อบุญธรรม ท่านโดนคนตบหน้าหรือ?”
ทังหยางเอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว แล้วค่อยรู้สึกค่อนข้างเจ็บ ขารีบหันไปหากระจก เห็นรอยนิ้วมือหลายนิ้วที่แก้มซ้ายของตนเอง เป็นรอยโดนตบจริงๆ
ในความทรงจำที่เลือนราง มีผู้หญิงคนหนึ่งตบหน้าเขาอย่างแรง ตบไปด้วยด่าไปด้วย ยังร้องไห้อีก
หัวสมองดังหึ่ง สีหน้าขาวซีด โอ้พระเจ้า เขาอาศัยตอนเมา…..ถึงว่านางไปแล้ว
โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า โอ้พระเจ้า ครั้งนี้ เขาฆ่าตัวตายเพื่อไถ่โทษก็ไม่พอ
“เตรียมม้า รีบเตรียมม้าให้ข้า” ทังหยางร้อนใจจนตาจะลุกเป็นไฟ ไม่ทันได้สนใจเรื่องการแต่งตัว ผลักประตูออกไปทันที
หูหมิงไม่เคยเห็นเขาหน้าซีดขนาดนี้มาก่อน ตกตะลึงอย่างที่สุด แล้วก็รีบวิ่งตามไป
มองดูพ่อบุญธรรมควบขี่ม้าวิ่งออกไป หูหมิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น หันกลับมาถามแม่นางโจวที่มึนงงว่า “เมื่อคืนข้าก็ดื่มเยอะ ต่อมาเกิดอะไรขึ้นหรือ?”
แม่นางโจวนวดขยี้ตา พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าดูข้าเหมือนคนรู้เรื่องไหม?”
หูหมิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เหมือน”
แม่นางโจวยักไหล่ พร้อมพูดขึ้นว่า “พูดจากใจจริงนะ พ่อบุญธรรมของเจ้าค่อนข้าง….”
นางไม่ได้พูดต่อ แต่ใช้นิ้วชี้ไปที่ขมับ
หูหมิงพูดอธิบายว่า “เป็นไปได้อย่างไร? อาจจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่างจริงๆ”
“ก็เพราะสมองมีปัญหา ไม่อย่างนั้นจะอยู่ตัวคนเดียวมานานขนาดนี้ได้อย่างไร? ตอนนี้เขาเป็นคนสนิทของฝ่าบาท ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับเขามาก หากเขาจะแต่งงาน จะมีสาวงามฐานะดีมากมายแค่ไหนที่เต็มใจ?”
“ก็มีคนประเภทที่ไม่ชอบแต่งงาน”
“นั่นเพราะไม่มีโอกาส หากมีโอกาสใครไม่อยากแต่งงาน? โดยเฉพาะขุนนาง หากไม่มีภรรยาสามสี่คนล้วนไม่ปกติ”
ด้านหลัง เสียงเหลิ่งจิ้งเหยียนพูดดังขึ้นว่า “แม่นางโจวเหมือนจะชอบคลี่คลายปมในใจของคน”
ทั้งสองคนหันกลับไปมอง เห็นเหลิ่งจิ้งเหยียนเอามือไขว้หลังยืนอยู่ข้างหลังด้วยสีหน้าเรียบเฉย
สีหน้าแม่นางโจวแข็งทื่อ ยกมือขึ้นพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน”
หูหมิงก็อยากหนี กลับถูกเหลิ่งจิ้งเหยียนพูดดักขึ้นว่า “พ่อบุญธรรมของเจ้านอนกับแม่นางเจ็ดแล้วใช่ไหม?”
หูหมิงตกตะลึงพร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้มั้ง? พ่อบุญธรรมของข้าไม่ใช่คนแบบนั้น”
“เมื่อกี้ข้าถามเหลียนฮวา เมื่อคืนแม่นางเจ็ดไม่ได้กลับไปนอน”
เหลียนฮวาเป็นสาวใช้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้แม่นางเจ็ด
หูหมิงเหงื่อแตก พ่อบุญธรรม….พ่อบุญธรรมทำผิดแล้วจริงหรือ?