บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1607 การทดลองของหยวนชิงหลิง
ครั้นวัดแล้ว…สี่สิบองศา
“ไข้สูง ยังมีอาการอื่นอีกหรือไม่?” หยวนชิงหลิงถอนใจ เจ้าห้าที่น่าสงสาร ช่วงที่ยุ่งที่สุดยังต้องมาล้มป่วยอีก
หยู่เหวินเห้าดึงมือนาง “ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ก็แค่จามไม่กี่ทีเท่านั้น เวียนหัวนิดหน่อย ปวดสมอง คัดจมูก ที่ลำคอก็รู้สึกอย่างกับเผาไหม้ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไร”
หยวนชิงหลิงหยิบหูฟังแพทย์ออกมา ฟังหัวใจกับปอดสักหน่อย ไม่น่าเป็นห่วง น่าจะเพราะตากฝนก็เลยเป็นหวัดไข้ขึ้น ไวรัสเข้าระบบทางเดินหายใจ
นางเอ่ย “กินยาลดไข้ก่อน แล้วค่อยฉีดยา พักคืนหนึ่งพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
นางค้นยาลดไข้ออกมา สวีอีจึงเทน้ำมาให้ วางยาอยู่ในปากเขา กลืนลงไปอึกหนึ่งก็ดื่มน้ำตาม
นี่เป็นนิสัยการกินยาของเจ้าห้า ไม่ชอบกินน้ำร่วม แต่กลืนไปทั้งอย่างนั้นแล้วดื่มน้ำตาม
หยวนชิงหลิงเอาเข็มฉีดยาออกมา แล้วหายาฉีด เพิ่งจะเตรียมเข็มหยู่เหวินเห้าก็กลืนน้ำลายลงอึก “ต้องฉีดจริงหรือ?”
“ฉีดเข็มหนึ่งแพล็บเดียวก็หายแล้ว เจ้ามิใช่ยุ่งมากหรือ?” หยวนชิงหลิงปลอบเขาอย่างอ่อนโยน เจ้าห้ากินยาได้เป็นกำ แต่กลับกลัวเข็มนี่แหละ
สวีอีพูดอยู่ด้านข้าง “ไม่เจ็บสักหน่อยพ่ะย่ะค่ะ ฉีดลงไปแพล็บเดี๋ยวก็จบ”
“ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเร็วที่สุด ไม่เจ็บด้วย” หยวนชิงหลิงหัวเราะเอ่ย
หยู่เหวินเห้าคิดว่าตนก็ยุ่งมากอยู่เหมือนกัน ช่วงนี้จะล้มป่วยไม่ได้ แม้ฉีดยาจะเจ็บอยู่บ้าง แต่หากวันพรุ่งหายแล้วก็เข้าประชุมเช้าได้ วันพรุ่งนี้เป็นวันประชุมเช้า
“ได้ เช่นนั้นก็ฉีดเถอะ หายเร็วหน่อย ให้ดีก็สองเข็มไปเลย!” หยู่เหวินเห้าหัวเราะเอ่ยด้วยความกล้าหาญ
“ฮองเฮา…” ด้านนอกมีเสียงร้อนรนของลู่หยาดังมา “หนูขาวเหล่านั้นของพระองค์ จู่ๆ ก็กระแทกกรงหนีออกไปเพคะ ข้าน้อยให้คนตามจับแล้ว แต่มีสองตัวยังจับไม่ได้เพคะ”
หยวนชิงหลิงตกตะลึงพรึงเพริด หนูขาวชนกรงหลุดออกมาได้? เมื่อครู่สังเกตระดับความคะนองยังไม่ขนาดนั้นนี่ นางรีบเก็บเข็มฉีดยาในกล่องยา “เจ้าห้า ข้าไปก่อน ประเดี๋ยวจะกลับมาฉีดยาให้เจ้า”
หยู่เหวินเห้ารู้ว่าหนูพวกนั้นสำคัญกับนางมาก รีบเอ่ย “ได้ เจ้าไปเถอะ ข้าฉีดเองก็ได้ ฉีดเข้ากล้ามเนื้อใช่ไหม ข้าก็เป็น”
หยวนชิงหลิงจึงรีบๆ ร้อนๆ วิ่งออกไป
ครั้นสวีอีเก็บน้ำชาเสร็จแล้วก็ไปดู “เออ…ฉีดเข้ากล้ามเนื้อกระหม่อมก็เป็นพ่ะย่ะค่ะ ก่อนหน้านี้เคยตามฮองเฮาไปฉีดยาที่จวนอ๋องซู่ กระหม่อมเห็นว่าฉีดที่พระที่นั่งพ่ะย่ะค่ะ จุดไหนเนื้อเยอะก็ฉีดที่จุดนั้น เช่นนั้นก็จะไม่เจ็บพ่ะย่ะค่ะ”
“ใต้เท้าสวี ไม่ได้เด็ดขาด!” มู่หรูกงกงรีบปรามอยู่ด้านข้าง จะล้อเล่นกับร่างมังกรได้อย่างไร? ดูก็รู้ว่าใต้เท้าสวีเป็นคนเซ่อซ่า
หยู่เหวินเห้าก็รู้หลักการฉีดยา เขาก็เคยฉีดมาแล้วหลายครั้ง บาดเจ็บเมื่อก่อนหน้านี้ก็ฉีดอยู่บ่อยๆ เจ้าสิ่งนี้ก็เหมือนอย่างที่สวีอีว่าอย่างนั้น แทงเข้าที่บั้นท้าย ดันให้ยาเข้าไปก็จบ
เขาคิดว่าบางทีเจ้าหยวนอาจต้องยุ่งอีกนาน สงสารนางต้องย้อนกลับมาจะเหนื่อย จึงเอ่ย “สวีอีเจ้ามาฉีด ฉีดแล้วก็ไปบอกเจ้าหยวนว่าไม่ต้องรีบกลับมา จัดการเรื่องของนางก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีดีใจมาก เขาอยากลองเจ้าสิ่งนี้ตั้งนานแล้ว แต่ฮองเฮาไม่ยอมให้เขาแตะ ล้อเล่นอะไรกัน? อย่างน้อยเขาก็เคยไปยุคปัจจุบันมาก่อน รู้ว่าของสิ่งนี้มันเป็นอย่างไร ก็เหมือนกับการฝังเข็มที่นี่มิใช่หรือ? เพียงแต่ในเข็มมีน้ำยาอยู่ ส่วนเข็มก็ต้องเผาสักหน่อยแล้วค่อยแทงลงไป
เข็มฉีดยาบรรจุยาฉีดเรียบร้อยแล้ว สวีอีหยิบขึ้นมา มู่หรูกงกงช่วยฮ่องเต้จัดการเสื้อผ้าด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ
ต้องพูดเลย แม้สวีอีจะฉีดยาเป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็เป็นคนฝึกยุทธ์ ควบคุมกำลังได้ดีมาก วินาทีที่เข็มทะลุผิวหนังก็ไม่ค่อยรู้สึกเจ็บแล้ว แค่ตอนที่ดันยาเข้าไปรุนแรงหน่อยเท่านั้น ดันเร็วเกินไป หยู่เหวินเห้าตวาดเขาไปทีหนึ่ง จากนั้นเขาจึงเบามือลง
ครั้นฉีดเสร็จหนึ่งเข็ม หยู่เหวินเห้าเห็นด้านข้างยังมีอีกเข็ม จึงเอ่ย “ฉีดไปหมดทั้งสองเข็มเลยแล้วกัน จะได้หายเร็วๆ ก่อนหน้านี้ข้าบาดเจ็บ เจ้าหยวนก็ฉีดให้ข้าตั้งหลายเข็ม แล้วยังมีเติมน้ำเกลืออีก ตอนนี้ยาแค่นี้คงไม่เป็นอะไรมากหรอก”
ก่อนหน้านี้เวลาที่เติมน้ำเกลือ ยังเป็นเข็มใหญ่เบ้อเร่ออีกแน่ะ
“พ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีวางเข็มฉีดยา แล้วหยิบอีกเข็มมามองดู “สีนี้ไม่เหมือนกับของเมื่อครู่พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ารู้อะไร ยาบางอย่างจะเสริมสี เจ้ามิเคยเห็นยาน้ำสีแดงกับสีเหลืองหรือ? ก่อนหน้านี้โสวฝู่มิได้ใช้ยาน้ำสีเหลืองหรือ?”
“ก็จริงพ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีไม่พูดพร่ำทำเพลง แทงเข้าไปอีก สองเข็มเรียบร้อย!
หยู่เหวินเห้านอนลง เอ่ยกับมู่หรูกงกง “เจ้าไปบอกฮองเฮาว่าฉีดยาแล้ว บอกให้นางไม่ต้องรีบร้อน กลางคืนไฟไม่สว่าง อย่าได้พลั้งเท้า”
มู่หรูกงกงรับคำ เอ่ยกับสวีอี “เช่นนั้นใต้เท้าสวีก็เฝ้าอยู่ที่นี่ ข้าน้อยจะรีบไปรีบมา”
สวีอีเอ่ย “ข้าไปเองดีกว่า ข้าเดินเร็ว!”
ว่าแล้วเขาก็วิ่งออกไป
หยู่เหวินเห้ารู้สึกวิงเวียนน้อยลงแล้ว น่าจะเพราะยาลดไข้ออกฤทธิ์ ดังนั้นจึงหลับตานอน มู่หรูกงกงไม่กล้าห่าง เฝ้าอยู่ที่ข้างเตียง มองฮ่องเต้ของเขาด้วยความปวดใจ
เฮ้อ ไยไม่บอกว่าคนที่เป็นฮ่องเต้ลำบากนะ? เมื่อก่อนติดตามไท่ซ่างหวง ไท่ซ่างหวงก็เหน็ดเหนื่อยทุกค่ำเช้า แล้วยังต้องรับมือกับเรื่องวังหลังอีก บัดนี้เรื่องวังหลังของฝ่าบาทมิต้องห่วงมากแล้ว แต่เรื่องในราชสำนักยังมีอีกเป็นภูเชาเลากา
ครั้นเห็นใบหน้าที่ดูผอมอย่างเห็นได้ชัดละขาวซีดแล้ว ก็ทำจนมู่หรูกงกงปวดใจยิ่งนัก
เขาออกไปบอกให้ฉี่หลอเตรียมน้ำร้อนไว้นิดหน่อย เขาจะเช็ดหน้าให้ฝ่าบาท ให้พระองค์หลับสบายขึ้น
สวีอีไปห้องทดลอง หนูขาวของหยวนชิงหลิงจับกลับมาได้หมดแล้ว นางกำลังบันทึกสภาพการณ์หนูขาว ครั้นเห็นสวีอีมาก็วางสมุดลง เอ่ย “ข้าจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เขาเป็นอย่างไรบ้าง? ไข้ลดลงหรือยัง?”
“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ มิต้องรีบร้อน ฝ่าบาทบอกให้กระหม่อมมาบอกพระองค์ ว่าไม่ต้องรีบเสด็จกลับ กระหม่อมฉีดยาให้ฝ่าบาทแล้ว” สวีอีเอ่ยอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย
“ฉีดแล้ว? เจ้าฉีดหรือ?” หยวนชิงหลิงคาดไม่ถึง สวีอีกลับฉีดยาเป็นด้วย?
“พ่ะย่ะค่ะ ก็แค่ฉีดยามิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ? แทงเข็มเข้าไปที่พระที่นั่ง จากนั้นก็ดันยาเข้าไป วางใจเถอะพ่ะย่ะค่ะ เรียบร้อยแล้ว พอฝ่าบาทฉีดยาเสร็จก็สบายขึ้นมาก” สวีอีกล่าว
หยวนชิงหลิงอ้อเสียงหนึ่ง คิดว่าการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อก็ไม่ซับซ้อน อีกทั้งพวกเขายังเป็นคนฝึกยุทธ์ กับการสังเกตท่าทางเช่นนี้ละเอียดนัก ก่อนหน้านี้ก็ตามนางไปดูอาหารเหล่าผู้เฒ่าที่จวนอ๋องซู่ เคยช่วยงาน เห็นมาหลายครั้งแล้ว รู้ข้อควรระวังในการฉีดยา
“ต้องการให้กระหม่อมช่วยไหมพ่ะย่ะค่ะ?” สวีอีชะโงกไปดูหนูขาวในกรง เห็นเพียงพวกมันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในนั้น ร้อนรนเป็นที่สุด กระทั่งชนกรงอยู่ตลอด แถมบนโต๊ะยังวางหนูขาวที่ตายแล้วอีกสองตัว
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “เจ้าช่วยมิได้หรอก ข้าแค่จะบันทึกเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ฉีดยาประมาณน้อยเกินไป แต่ดูแล้วเหมือนว่าจะเยอะ นี่แปลกจริง การทดลองระยะแรกในก่อนหน้านี้ ใช้ยามากกว่านางครั้งนี้อีก
และจากข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ที่ผู้เชี่ยวชาญทิ้งไว้ ก็ไม่มีปฏิกิริยาร้อนรน ความเคยชินในการดำรงชีวิตก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
นางโยนอาหารเข้าไปจำนวนหนึ่ง หนูขาวก็ไม่กิน เอาแต่วิ่งพล่านชนไปเรื่อย ไม่นานหนูขาวในกรงทางซ้ายก็ล้มลงกับพื้น หมดลมหายใจ
วินาทีก่อนหน้านี้ยังร่าเริงอยู่เลย จู่ๆ ก็ตาย ตายได้ฉับพลันมาก
คงเพราะฤทธิ์ยาเพิ่มความเร็ว บวกกับหนูขาวเคลื่อนไหวรุนแรง ดังนั้นจึงตายอย่างเฉียบพลัน
หยวนชิงหลิงผิดหวังเล็กน้อย พลิกข้อมูลก่อนหน้านี้ใต้โคมไฟไม่หยุด แล้วจึงพบว่าหายไปหน้าหนึ่ง นางอดแปลกใจเป็นไม่ได้ “ทำไมหายไปหน้าหนึ่งเล่า? อย่างไรกันเนี่ย?”
ผู้เชี่ยวชาญที่หายสาบสูญไปคนนั้น ทำไมต้องฉีกข้อมูลการทดลองครั้งแรกด้วย?