บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1608 พาเจ้าห้ากลับไป
จุดนี้หยางหรูไห่ก็ไม่เคยบอกนางมาก่อน สมาชิกในทีมของผู้เชี่ยวชาญคนนั้นก็ไม่เคยพูดถึง ข้อมูลที่ดูจากคอมพิวเตอร์เมื่อก่อนหน้านั้นก็เหมือนกับข้อมูลสมุดในมือนี้ แต่สมุดเล่มนี้มีมองเห็นร่องรอยการฉีก
ดูท่า…เอาไว้เจ้าห้าหายป่วยแล้ว นางคงต้องกลับไปสักครั้ง
ดีที่ยังไม่ได้ฉีดยามากกว่าเดิมอีกครั้ง
นางเก็บข้าวของ เอ่ย “สวีอี เจ้ากลับไปพักเถอะ ข้าทำงานที่เหลือนี่เสร็จก็จะกลับตำหนักแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาทรงพักผ่อนเร็วหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีช่วยนางเอาหนูขาวไปฝัง ในความคิดของเขา ไม่อาจเข้าใจว่าทำไมหนูขาวกับมนุษย์ต่างกันมากขนาดนี้แต่กลับนำมาทดลองยาได้
หมอที่นี่ต่างใช้มนุษย์มาทดลองยา
“อย่าเอาไป ข้าจะผ่าอีก!” หยวนชิงหลิงรีบห้ามเขา
“ผ่า? ยังต้องผ่าอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?” สวีอีหิ้วหนูขาว อีหลักอีเหลื่อ ตายแล้วก็ปล่อยไปเถอะ ยังต้องผ่าอีก
ชีวิตหนูขาวก็ไม่ค่อยดีแฮะ
“ถูกต้อง ต้องผ่า” นางคิดจะหยิบมีดผ่าตัดออกมาจากกล่องยาตามความเคยชิน แต่กลับนึกขึ้นได้ว่ากล่องยาอยู่ที่ตำหนักเสี้ยวเยว่ ดังนั้นจึงเอ่ยกับสวีอี “เจ้าไปตำหนักเสี้ยวเยว่เอากล่องยามาให้ข้าหน่อย แต่เจ้าห้ามยุ่งของในนั้นนะ เข้าใจหรือไม่?”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้!” ว่าแล้วสวีอีก็วิ่งกลับไปเอากล่องยาที่ตำหนักเสี้ยวเยว่
เมื่อหลับถึงตำหนักเสี้ยวเยว่ หยู่เหวินเห้าก็หลับแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเป็นไข้ ฝันร้ายอีกแน่ะ หลับแล้วยังเอาแต่ขมวดคิ้วเข้ม ท่าทางดูไม่ค่อยสบาย มู่หรูกงกงยังเฝ้าอยู่ข้างใน มองอย่างเป็นห่วง บางครั้งก็ใช้ผ้าขนหนูร้อนเช็ดหน้าผากให้เขา
เขาเข้าไปเอากล่องยาอย่างเบาไม้เบามือ รีบเอากลับไปมอบให้หยวนชิงหลิง
ครั้นหยวนชิงหลิงเปิดกล่องยาออกมา ก็เห็นหลอดยาที่สวีอีวางไว้ข้างใน เมื่อนั้นก็ผงะ “ทำไมมีสองเข็มล่ะ? ข้าจำได้ว่ามีเข็มเดียวนี่ เจ้าฉีดให้เขาไปกี่เข็ม?”
“สองเข็มพ่ะย่ะค่ะ!”สวีอีรีบตอบ แล้วทำท่าชี้ๆ ตำแหน่งที่วางเข็มฉีดยาในกล่อง “มีอีกเข็มหนึ่งวางอยู่ตรงนี้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทตรัสว่าฉีดอีกเข็มจะได้หายไวๆ”
ครั้นหยวนชิงหลิงได้ฟังแล้ว สมองก็แทบจะเป็นลมจับ เปลี่ยนสีหน้าพลัน “สวรรค์! เจ้าฉีดยาเข็มนี้ให้เขาได้อย่างไร?! สวรรค์ สวรรค์ ฮือ…”
นางหิ้วกล่องยาแล้วก็วิ่งพรวดออกไป ทำจนสวีอีตะลึงงัน รีบตามนาง แล้วเอ่ยถาม “มีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?! เข็มนั้นทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ? เป็นยาพิษหรือ?!”
หัวใจหยวนชิงหลิงแทบจะหลุดออกมาแล้ว ไหนเลยยังจะสนใจเขา?
รีบๆ ร้อนๆ วิ่งกลับตำหนักตำหนักเสี้ยวเยว่ มู่หรูกงกงชู่ทีหนึ่ง กดเสียงลงต่ำ “ฝ่าบาทบรรทมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮาเบาเสียงด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
ลมหายใจหยวนชิงหลิงแทบหยุดชะงัก วางกล่องยาลง แล้วเดินเร็วไปอังหน้าผากเขา ไข้สูง ไข้ยังสูงอยู่
นางตบแก้มของหยู่เหวินเห้าเบาๆ เรียกด้วยความร้อนรน “เจ้าห้า เจ้าห้า ตื่นเร็ว!”
มู่หรูกงกงกำลังจะห้ามนาง สวีอีก็ตามมากดมือเขา “ฉีดยาเกินไป เข็มนั้นเป็นยาพิษ”
มู่หรูกงกงเบิ่งตาโต แทบจะเป็นลมจับ “ท่าน…นี่ท่าน…ใต้เท้าสวี เหตุใดท่านจึง…”
หยู่เหวินเห้าลืมตาขึ้นแล้ว อ่อนเพลียงัวเงียถาม “เจ้าหยวน กลับมาแล้วหรือ? หนูเป็นอย่างไรบ้าง?”
“หนู…ไม่เป็นไร…ไม่เป็นไรทั้งนั้น เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?” หยวนชิงหลิงอังหน้าผากเขา แววตาลนลานหนัก ยานั้นยังเป็นการทดลองขั้นแรก แถมหนูขาวก็ตายด้วย
“ยังเวียนหัวอยู่บ้าง ไข้ข้าไม่ลดหรือ?” หยู่เหวินเห้าหลับตาลง ท่าทางเหนื่อยมาก
“ใช่ ยังมีไข้อยู่หน่อย ข้าจะเติมน้ำเกลือให้เจ้านะ” จิตใจหยวนชิงหลิงกระวนกระวายหนัก ครั้นหันไปก็เห็นสวีอีกับมู่หรูกงกงมองนางอย่างตื่นตระหนก นางปรับสีหน้า “พวกเจ้าออกไปอยู่ข้างนอกเถอะ อย่ามาเพิ่มความวุ่นวายในนี้เลย”
น้อยนักที่ฮองเฮาจะพูดว่า ‘เพิ่มความวุ่นวาย’ คำนี้ มู่หรูกงกงสบตากับสวีอีทีหนึ่ง รู้สึกว่าเรื่องจะร้ายแรงมาก
พวกเขาเดินออกไปข้างนอกอย่างอกสั่นขวัญแขวน และไม่กล้าไปไกล นั่งยองเฝ้าอยู่ข้างธรณีประตู
หยวนชิงหลิงใส่น้ำเกลือแบบปกติให้เจ้าห้า หยิบหูฟังแพทย์ฟังการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วนิดหน่อย ชีพจรก็เร็วมากด้วย ครั้นวัดความดันเลือด กลับค่อนข้างต่ำ
นางเฝ้าสังเกตความดันของเจ้าห้าเสมอ ก่อนหน้านี้ปกติมาก
การหายใจถี่ขึ้นเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด นางให้สูดออกซิเจน ยาฉุกเฉินก็เอาออกมาด้วย วางอะดรีนาลีนกับกลูโคคอร์ติคอยด์ไว้ที่เด่นชัดที่สุด
ยังติดตามความดันเลือดต่อ เริ่มลดลงแล้ว ลดลงเรื่อยๆ ดัชนีภาวะช็อกสูงมาก หยวนชิงหลิงเพิ่มอาหารเสริม ขยายปริมาณเลือด แล้วใช้อะดรีนาลีนกับกลูโคคอร์ติคอยด์ทำการรักษาฉุกเฉิน
ให้ยาไปสิบนาทียังไม่ได้ผล ทั้งดัชนีภาวะช็อกยังจะสูงขึ้นอีก หยวนชิงหลิงตื่นตระหนก หันกลับไปเรียกสวีอี “เร็ว! หาคนที่เมื่อก่อนถ่ายเลือดให้เจ้าห้าได้มาเร็ว!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีปากสั่น รีบวิ่งออกไป มู่หรูกงกงตกใจหนัก สองขาสั่นไม่หยุด และไม่กล้าเข้ามาด้วย ได้แต่ชะเง้อชะแง้มองจากข้างนอก
“เจ้าห้า ตื่นเร็ว ได้ยินข้าไหม?” เสียงของหยวนชิงหลิงสั่นเครือเล็กน้อย
“อือ…” หยู่เหวินเห้ายังคงตอบรับเสียงเบา แต่ลมหายใจเห็นชัดว่าลำบาก อ้าปากกว้างพยายามหายใจตลอด
“อย่าหลับ อย่าหลับ…” หยวนชิงหลิงเอ่ยเสียงดัง เพิ่มน้ำเกลือพลางให้อะดรีนาลีนกับกลูโคคอร์ติคอยด์ ใส่ยาในท่อหายใจ แล้วสวมออกซิเจนกลับเหมือนเดิม
“อือ…” เขายังตอบรับ แต่ปลายเสียงกลับหนักมากขึ้นเรื่อยๆ หยวนชิงหลิงหันหลังขวับเรียกมู่หรูกงกง “ไปเตรียมรถม้าก่อน ข้าจะไปเขาหมื่นพุทธ เดี๋ยวนี้!”
มู่หรูกงกงที่แตกตื่นไม่ได้สติหมุนตัวไปทันที ค่ำคืนดึกดื่น ตำหนักเซี่ยวเยว่ไม่มีการจัดเวรยาม ทำจนมู่หรูกงกงร้อนใจจะแย่ ครั้นถึงด้านนอกจึงจะเห็นทหารรักษาพระองค์ จึงรีบสั่งให้ทหารรักษาพระองค์เตรียมรถม้าทันที
เติมเลือดเพราะเกรงว่าจะเกิดภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดง แต่จะให้เลือดเลยไม่ได้ ต้องฟอกเลือดและรักษาโดยการเปลี่ยนพลาสมา ที่นี่มีเครื่องมือไม่พร้อม ดังนั้นต้องรีบไปทันที
ไม่นานรถม้าก็เตรียมเสร็จ หลังจากเติมเลือดแล้ว สวีอีก็ตามไปส่งที่เขาหมื่นพุทธ จากนั้นก็กำชับมู่หรูกงกง ให้เชิญโสวฝู่เหลิ่งเข้าวัง นางเขียนจดหมายไว้แล้ว ให้มอบให้เขา
ตลอดทางสถานการณ์ยังถือว่าปกติ ความดันไม่ได้ลดลงต่อ ดัชนีภาวะช็อกก็ค่อยๆ ลดลง แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างอันตรายอยู่
แม้สวีอีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่โดยรวมก็รู้ว่าเพราะใช้ยาผิดหรือเกินขนาดไป ฝ่าบาทมีอันตราย ดังนั้นตลอดทางจึงเร่งรถม้า ไม่กล้าผ่อนสักนิด
แต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรืออย่างไร มักรู้สึกว่าม้าวิ่งเร็วมาก ราวกับเหาะไปอย่างนั้น เขาก้มหน้ามองขาม้า ยังเหมือนกับลอยอยู่กลางอากาศอีกแน่ะ ม้าดูแตกตื่นเล็กน้อย แต่ก็เหมือนกับมีพลังบางอย่างลากให้พวกมันไปข้างหน้า
สวีอีขยี้ตา มองผิดไปหรือ?
มองผิดหรือไม่เขาไม่รู้ รู้แต่เพียงจะถึงเขาประเดี๋ยวนี้แล้ว ทั้งยังทะยานขึ้นเขา จากเมืองหลวงถึงเขาหมื่นพุทธ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้นก็ถึงทะเลสาบจิ้งแล้ว
“เจ้าตามมา เจ้าแบกเขาลงไป!” หยวนชิงหลิงช่วยพยุงเจ้าห้าขึ้น สวีอีโน้มเอวแบกเขา ไม่มีใจพูดเรื่องเมื่อครู่ที่ม้าลอยขึ้น ตามฮองเฮาอยู่ด้านหลังตามจังหวะกระทั่งถึงริมทะเลสาบจิ้ง
เวลานี้หยวนชิงหลิงไม่ต้องหาทางกลับบ้านด้วยความยากลำบากเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แวบเดียวนางก็มองเห็น ลากแขนเสื้อสวีอี “กระโดดตามข้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ พ่ะย่ะค่ะ!” สวีอีประคองฮ่องเต้ที่อยู่ด้านหลัง จิตใจว้าวุ่น “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทจะมิเป็นไรใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
“กระโดด!” หยวนชิงหลิงตะโกนไป ดึงเขากระโดด
ตูม! ผิวน้ำกลับคืนสู่ความเงียบ