บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1609 มีวิธี
หลังจากกลับไปแล้วก็โทรศัพท์หาหยางหรูไห่ทันที หยางหรูไห่ออกโรงเอง ส่งเฮลิคอปเตอร์มารับพวกเขาไปที่สถาบันวิจัย
ระหว่างทางเจ้าห้าหายใจลำบากและความดันต่ำลงมาก ดัชนีภาวะช็อกก็สูงจนน่าใจหาย หยวนชิงหลิงตื่นตระหนกตลอดเวลา ตุ้มๆ ต่อมๆ
นางลองใช้พลังของตัวเองตรวจสอบ แต่ราวกับมีบาเรียขวางกั้น ทำอย่างไรก็ตรวจสอบชัดเจนไม่ได้
“คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ ร้อนใจจะทำให้คุณควบคุมพลังไม่ได้นะคะ ฉันจะฉีดยาระงับให้คุณก่อน อย่าตรวจสอบอีกเลย หน้าคุณซีดหมดแล้ว” หยางหรูไห่พูดปลอบ
“ไม่ต้องค่ะ ฉันต้องรักษาพลังของตัวเองให้คงที่ จะฉีดไม่ได้” หยวนชิงหลิงห้ามไว้ทันที หากเวลานี้ยังจะระงับพลังของเธออีก เธอต้องเป็นบ้าแน่
“ได้ แต่คุณอย่าร้อนใจให้มากนะคะ เรามีหลายวิธี คุณวางใจเถอะค่ะ” หยางหรูไห่เตือนเสียงเบา
“วิธีอะไรคะ?” หยวนชิงหลิงเช็ดน้ำตา ตาแดงมองหยางหรูไห่ “ข้อมูลที่วิจัย เคยถูกฉีกไปใช่ใหม่คะ? เกิดปัญหาอะไรขึ้นคะ?”
“ตอนนี้ฉันกำลังตรวจสอบอยู่ค่ะ ผู้เชี่ยวชาญที่หายไปคนนั้น ตอนนี้ก็ยังหาไม่พบ สำหรับหน้าที่ถูกฉีกไปจะเป็นอะไรนั้น ฉันพอเดาออก เกี่ยวกับข้อมูลบางอย่างของยาที่ทำให้เซลล์กลายพันธุ์ ที่เธอฉีกหน้านี้ บางทีอาจเพราะเธอก็พบการกลายพันธุ์แล้วเหมือนกัน จากนั้นก็หายตัวไป”
หยวนชิงหลิงตะลึง “กลายพันธุ์? เป็นเพราะปริมาณการใช้หรือเพราะสาเหตุอะไรคะ?”
“ต้องไม่ใช่ปัญหาจากปริมาณแน่ คุณฉีดให้หยู่เหวินเห้าไปเท่าไรล่ะ?”
“แค่มากกว่าที่เราทดลองกับหนูขาวไปเท่าหนึ่ง!”
“งั้นก็ต้องไม่ใช่เรื่องปริมาณยาแน่ บางทีอาจมีสาเหตุอื่น ก่อนหน้านี้เขามีอาการอะไรไหมคะ? หรือว่าร่างกายเป็นอะไร?”หยวนชิงหลิงสะอึก “ก่อนที่จะรับยา…เขาเป็นไข้ค่ะ”
“เป็นไข้? เพราะติดเชื้อแบคทีเรียเหรอคะ? หรือว่าเคยถูกอะไรกัดมา?”
“คงไม่ใช่ค่ะ เขาแค่ตากฝนมา” หยวนชิงหลิงคิดอย่างว้าวุ่น “แต่ฉันก็ไม่มั่นใจ ช่วงนี้ฉันก็ยุ่งมาก ไม่ได้สนใจเขา ไม่รู้ว่าเขาบาดเจ็บหรือเปล่า”
สวีอีฟังพวกเธอคุยกันอยู่ข้างๆ ช่วงแรกฟังไม่เข้าใจ แต่ช่วงหลังฮองเฮาบอกว่าบาดเจ็บ เขาจึงเอ่ย “ถูกแมลงกัด นับว่าบาดเจ็บหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หยางหรูไห่กับหยวนชิงหลิงมองเขาพลัน “ถูกแมลงกัด? ถูกแมลงอะไรกัด?”
“เออ…หลายคืนก่อนทรงไปว่ายน้ำที่ทะเลสาบ ตอนขึ้นฝั่งถูกแมลงกัดที่นิ้วพระบาทพ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นฝ่าบาทยังตรัสว่าเจ็บมาก แต่แช่น้ำครู่หนึ่งก็ไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงถอดรองเท้าและถุงเท้าเจ้าห้าออกทันที ตรงนิ้วเท้าซ้ายมีตุ่มแดงๆ เล็กๆ เม็ดหนึ่งจริงๆ อย่างกับถูกยุงกัด
“ใช่มดกัดหรือเปล่า?” หยวนชิงหลิงถาม
“น่าจะไม่ใช่มดพ่ะย่ะค่ะ แต่เราก็มองไม่เห็นว่าเป็นตัวอะไรกัด นี่สำคัญหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ปากของสวีอีเริ่มสั่นแล้ว ตลอดทางที่ผ่านมาเขาไม่กล้าพูด จิตใจตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนกับหยวนชิงหลิง
“ไว้กลับไปดูสิว่าจะถอนเหล็กในออกมาได้ไหม นอกจากตรงนี้แล้วยังมีแผลที่ไหนอีกคะ?” หยางหรูไห่ถาม
“เขาชอบฝึกยุทธ์ ผิวถลอกเป็นครั้งคราว” หยวนชิงหลิงเสียใจมาก ความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้ช่างทรมานจริงๆ
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งร้อนใจ ใกล้จะถึงแล้ว เรากลับไปตรวจสอบกันก่อนนะคะ” หยางหรูไห่กุมมือหยวนชิงหลิง พูดเสียงเบา
หยวนชิงหลิงพยักหน้าไปอย่างนั้น แต่ในใจกลับว้าวุ่นหนัก เพราะเธอรู้เรื่องมากมาย แต่กับไม่รู้อะไรในเรื่องนี้เลย โดยเฉพาะยังเป็นยาที่ตนรับการวิจัยอีก
เธอรู้สึกผิดปกติมาก
เมื่อกลับถึงห้องทดลอง ทีมผู้เชี่ยวชาญก็รออยู่ก่อนแล้ว ขณะที่หยู่เหวินเห้าย้ายเข้าไป ลมหายใจก็หยุดไปชั่วคราว ดังนั้นจึงทำการกู้ชีพทันที
หยวนชิงหลิงดูอยู่ข้างๆ ขาสั่นพั่บ เคยลิ้มรสชาติการเกือบสูญเสียเขามาแล้ว ชีวิตนี้ไม่อยากลิ้มรสนั้นอีก
หลังจากเจาะเลือดออกมาตรวจสอบ ก็ต้องวิเคราะห์หลายทาง
ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งของทีมแบคทีเรียไวรัสบอกว่าอาจเป็นเพราะติดเชื้อแบคทีเรีย แต่จะเป็นเชื้อแบคทีเรียอะไรนั้นยังต้องทำการเพาะเชื้อ และผลลัพธ์ก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้น
ไข้ยังสูงต่อเนื่อง หายใจลำบาก ถ้ายังไม่ทุเลาลงอีกต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
หยวนชิงหลินแทบจะใจสลาย แต่ลูกๆ ยังเหมือนไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่มีการสื่อสารทางจิตใดๆ กับนาง
นี่ก็เป็นเรื่องแปลกมากเหมือนกัน
แต่นี่ก็ทำให้หยวนชิงหลิงพออุ่นใจได้ เพราะลูกๆ ไม่รู้สึกถึงอันตรายของเจ้าห้า นั่นก็หมายถึงมีโอกาสสูงที่เจ้าห้าจะดีขึ้น
ถึงหยวนชิงหลิงจะไม่รู้ว่าอาศัยจิตในความสัมพันธ์ครอบครัวตัดสินได้หรือไม่ แต่เธอก็ไม่มีทางอื่น ได้แต่เชื่อมั่นถึงจะยืนหยัดต่อได้
กู้ชีพมาได้เป็นการชั่วคราว การหายใจมีแนวโน้มไปทางปกติ แต่ความดันยังไม่เพิ่ม ยังต้องเฝ้าระวังเข้ม
ผลทรวงอกก็ออกมาแล้ว ปอดอักเสบ ทั้งยังหนักมากด้วย แต่ดูจากสภาพปอดอักเสบมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว
หยวนชิงหลิงเอามือปิดหน้าร้องไห้โฮ
หยางหรูไห่พาเธอออกไป ชงกาแฟให้แก้วหนึ่ง ดูหน้าขาวซีดและตาที่บวมแดง กล่าวเสียงเบา “อย่าเสียใจ เขาไม่เป็นอะไรหรอก ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเรายังมีวิธีอื่น แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่ใช้วิธีนั้นง่ายๆ”
“วิธีอะไรคะ? ทำไมถึงใช้ไม่ได้?” หยวนชิงหลิงมองเธอ ดวงตามีความร้อนรน พูดด้วยความว้าวุ่น “ใช้กับเขาเถอะค่ะ ฉันต้องมั่นใจว่าเขาจะไม่เป็นไร ฉันต้องมั่นใจให้ได้ว่าเขาจะปลอดภัย”
“ได้ ได้ ได้ คุณอย่าเพิ่งใจร้อน หายใจลึกๆ ก่อนนะคะ”
“ฉันใจเย็นไม่ลง…” เสียงของหยวนชิงหลิงสะอื้น คัดจมูกหนัก เส้นผมยุ่งเหยิงทิ้งตัวลง ราวกับหญิงวิปลาสที่สติฟั่นเฟือน “คุณไม่รู้ว่าฉันรู้สึกผิดแค่ไหน ตำหนิตัวเองขนาดไหน ปอดเขาอักเสบมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ แต่ฉันกลับไม่รู้เลย”
“อาการแรกเริ่มของเขาน้อยมาก แม้แต่เขาก็คงไม่รู้ตัว นี่ไม่เกี่ยวกับคุณนะคะ คุณไม่ต้องตำหนิตัวเอง ถึงคุณจะเป็นภรรยาของเขา แต่คุณก็เป็นหมอด้วย เวลานี้ควรคิดแง่ดีมากกว่าใครๆ”
หยวนชิงหลิงจับมือเธอ “งั้นคุณต้องบอกฉัน ว่ามีวิธีอะไรที่ทำให้เขาดีขึ้นได้ คุณต้องให้ฉันรู้ว่าเขายังมีทางรอดจริงๆ ไม่ใช่คำพูดที่คุณคิดขึ้นมาปลอบฉัน”
หยางหรูไห่ดึงมือออกมาข้างหนึ่ง ตบหลังมือเธอเบาๆ มองเธอ “คุณก็รู้ว่าคนอย่างพวกเรา มากน้อยก็มีพลังวิเศษอยู่บ้าง หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งชื่อหลันอ้าวฐานะเขาพิเศษหน่อย ถ่ายไวรัสชนิดหนึ่งให้เขาได้ ทำให้เขาไม่แก่ไม่ตาย แต่ต่อไปเขาจะแปลกแยกกว่าคนธรรมดาเล็กน้อย”
หยวนชิงหลิงหน้าซีด “ไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหมคะ?”
หยางหรูไห่พูดเสียงเบา “เป็นแบบที่คุณคิดนั่นแหละค่ะ”
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ ไม่ได้!”
“นี่เป็นแผนที่แย่ที่สุด แต่ตอนนี้เรายังมีหวังกับเขา คุณก็รู้ ทีมผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยเขา เป็นยอดหัวกะทิของโลกนี้ พวกเขาต้องคิดหาวิธีได้แน่”
หยวนชิงหลิงว้าวุ่นไปหมด เธอจะปล่อยให้เจ้าห้าไปไม่ได้ แต่…เธอก็ไม่อยากให้เจ้าห้าเปลี่ยนไปเป็นคนแบบหลันอ้าวอย่างนั้น หรือกระทั่งเรียกได้ว่าไม่ใช่คน
“คุณพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ ฉันจะไปดูสักหน่อย จะให้เรียกครอบครัวคุณมาอยู่เป็นเพื่อนไหมคะ?” หยางหรูไห่กล่าว
“ไม่เป็นไรค่ะ อย่าให้พวกเขารู้ ฉันไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง” หยวนชิงหลิงสะอื้นพูด ถ้าให้พ่อแม่รู้ว่าเจ้าห้าเกิดเรื่อง พวกเขาต้องร้อนใจตายแน่
“ได้ค่ะ งั้นคุณก็ทำใจให้สบาย ต้องไม่เป็นไรแน่” หยางหรูไห่ตบบ่าเธอแล้วก็ออกไป