บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1666 ปัญญาอ่อน
คุณครูจางมองดูใบหน้าที่สง่างามของเขา เด็กที่งดงามมักจะทำให้คนใจอ่อน คุณครูจางคิดในใจว่ายังไงซะห้องหกก็อยู่ลำดับท้ายสุด สอบก็สอบเถอะ อย่างมากก็ถูกหัวเราะช่วงเวลาหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว
“งั้นก็เอาเถอะ พรุ่งนี้เธอก็เข้าสอบ แต่ว่านะ ก็ไม่ต้องไปสนใจคะแนนนี้มากเกินไปล่ะ ยังมีเวลาอีกหนึ่งปี ถ้าเธอมีความตั้งใจที่จะสอบเข้าโรงเรียนดีๆ ก็ยังต้องฮึดสู้และตามให้ทัน พยายามอย่างสุดๆ” คุณครูจางให้กำลังใจรอบหนึ่ง
หยู่เหวินหวงกล่าวด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น “ครูวางใจได้เลยครับ ผมจะไม่ทำให้ครูผิดหวังอย่างแน่นอน”
คุณครูจางยิ้ม “อืม งั้นก็ดี กลับไปเถอะ”
ใช่สิ ถึงจะผิดหวังอีกแล้วจะผิดหวังไปถึงไหนได้อีก? เดาถูกกี่ข้อก็ได้กี่ข้อละกัน
“ลาก่อนครับคุณครู!” หยู่เหวินหวงโค้งตัวเคารพอีกครั้ง
ในใจของคุณครูจางก็ยังหาการชดเชยได้หน่อย อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็มีมารยาทใช่รึเปล่า?
หลังจากเรียนด้วยตัวเองในตอนเย็นแล้ว หยู่เหวินหวงกลับถึงหอพัก หน้าประตูหอมีโทรศัพท์ เขาโทรศัพท์ไปหาที่บ้าน ทั้งบ้านของศาสตราจารย์หยวนล้วนกำลังฟัง ได้สอบถามถึงสถานการณ์อย่างมากมายและรวดเร็ว หยู่เหวินหวงกล่าวว่า “คุณครูชอบผมมากครับ เพื่อนร่วมชั้นก็ด้วย คืนนี้พวกเขายังได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับในหอให้ผมอีกด้วย พวกเขาดีกับผมเป็นอย่างมาก วางใจได้ครับ!”
“แบบนั้นก็ดี แบบนั้นก็ดีแล้ว!” แม่ของหยวนชิงหลิงกล่าวอย่างปลื้มใจอยู่ด้านข้างของโทรศัพท์
คะแนนของเด็กคนนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ห่วงเพียงอย่างเดียวก็คือเขาจะถูกเพื่อนนักเรียนรังแก ในเมื่อพวกเพื่อนนักเรียนชอบเขาขนาดนี้ แบบนั้นก็วางใจได้แล้ว
“พี่สี่โทรศัพท์กลับมารึยังครับ?” หยู่เหวินหวงเอ่ยถาม
“เพิ่งจะโทรมาเมื่อครู่ เขาบอกว่าพวกเพื่อนนักเรียนของเขาล้วนไม่มีเวลาว่างสนใจเขา ทุกคนล้วนยุ่งกับการเรียน เปิดไฟอ่านหนังสือในตอนกลางคืนกันอย่างขันแข็งน่ะ”
หยู่เหวินหวงอ๋อคำหนึ่ง ก็วางโทรศัพท์แล้ว
พี่สี่เข้าเรียนในห้องที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทุกคนล้วนสู้อย่างสุดกำลัง หวังว่าจะสามารถสอบเข้ามหาลัยที่มีชื่อเสียงได้
เขาหมุนตัวเข้าหอพัก หกคนต่อหนึ่งหอพัก ไม่ใช่คู่แค้นก็จะไม่รวมตัวกัน หลี่เจี้ยนฮุยอยู่หอเดียวกับเขา เพื่อนร่วมโต๊ะหลี่จื่อเยว่ก็ด้วย ยังมีคนอื่นอีกสามคน ล้วนมีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นพิเศษกับหลี่เจี้ยนฮุย
พวกเขาก็ไม่ได้เรียกชื่อกัน เรียกฉายาของกันและกัน หลี่เจี้ยนฮุยชื่อต้าโถวฮุย(ฮุยหัวโต) หลี่จื่อเยว่คืออ้ายป่านเติ้ง(เก้าอี้เตี้ย) อีกสามคน คนหนึ่งชื่อปั๋วจื่อ(ไอ้เป๋) เขามีขาสั้นยาวไม่เท่ากันนิดหน่อย ดังนั้นจึงเรียกว่าปั๋วจื่อ(ไอ้เป๋)
คนหนึ่งชื่อขี้เหนียวหมิง ขึ้นชื่อเรื่องความขี้เหนียว
ยังมีอีกคนชื่อว่าเหยี่ยโซ่ว(สัตว์ป่า) ดูตัวใหญ่แข็งแรงบึกบึน ผิวคล้ำมาก เขาเป็นลูกครึ่งจีนแอฟริกา แต่เติบโตในประเทศจีนตั้งแต่เด็ก
หยู่เหวินหวงเดินไปหน้าเตียงของตัวเอง เพิ่งจะนั่งลง แต่กลับเห็นว่าที่นอนถูกเทไปด้วยแชมพูและเจลอาบน้ำทั้งหมด ไม่มีทางจะนอนได้โดยสิ้นเชิง
เขามองดูไม่กี่คนที่อยู่หอพักเดียวกันแวบหนึ่ง พวกเขาล้วนหัวเราะพูดคุยกันอยู่ ท่าทางเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง แต่บนใบหน้าล้วนแขวนไปด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“ฉันจะรู้ได้ไหมว่าเพราะอะไร?” หยู่เหวินหวงถาม
“โง่เง่า!” หลี่เจี้ยนฮุยลุกขึ้นผลักเขาเล็กน้อย “ยังจะถามว่าทำไมอีก อยากไปฟ้องล่ะสิ”
หยู่เหวินหวงถอยหลังก้าวหนึ่ง ทำให้มือที่ผลักของเขาวืดอยู่กลางอากาศ “ฉันไม่ได้อยากจะไปฟ้อง แต่พวกนายมุ่งเป้าไปที่คนผู้หนึ่ง ก็จะต้องมีเหตุผลใช่หรือไม่? ทำไมล่ะ? ก็เพราะว่าฉันมาใหม่งั้นหรือ?”
เหยี่ยโซ่วลูกครึ่งจีนแอฟริกาไขว่ห้างขึ้น กล่าวตอบ“ใครใช้ให้นายหน้าตาดูดีล่ะ? อู๋เจียฮุยยังได้พูดกับนายอีก ใครๆก็รู้ว่าต้าโถวฮุยชอบอู๋เจียฮุย”
หยู่เหวินหวงขมวดคิ้ว ปัญญาอ่อนจริงๆ
“หลี่เจี้ยนฮุย นายตามฉันออกมาหน่อย!” หยู่เหวินหวงกล่าว
“ต่อยกัน? ใครกลัวใครกัน?” หลี่เจี้ยนฮุยรีบลากข้อมือของเขาเดินออกไปทันที
เพื่อนร่วมชั้นไม่กี่คนด้านหลังส่งเสียงเอะอะโวยวายในพริบตา ต้องการดูไอ้หน้าตาดีถูกต่อย
เพิ่งจะเดินออกมาถึงระเบียงหอพัก หยู่เหวินหวงหมุนตัวอย่างฉับพลันทีหนึ่ง ก็กดด้านหลังคอของหลี่เจี้ยนฮุยไปทางกำแพงด้วยความรวดเร็ว หัวเข่ายันด้านหลังของเขาไว้ แล้วเกี่ยวขาข้างหนึ่งของเขาขึ้น ได้ยินเสียงอะไรกึกกึกสองที จากนั้นก็ปล่อยมือแล้วกลับหอไปทันที
แต่หลี่เจี้ยนฮุยกลับเหมือนโดนอะไรมัดไว้เช่นนั้น ก็ยังคงอยู่ในท่าทางนี้กระดิกไม่ได้ แม้แต่จะหันหน้ากลับมาก็ไม่ได้ แก้มแนบชิดติดผนัง แล้วก็ยืนอยู่เช่นนี้
“ฉันขยับตัวไม่ได้ ฉันขยับตัวไม่ได้แล้ว……” เขาตื่นตระหนกแล้ว ตะโกนร้องออกมา