บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1672 เขาไม่ย้ายห้อง
ในใจของคุณครูจางรู้สึกสับสน
เด็กคนนี้ไม่เพียงคะแนนดี ยังจิตใจละเอียดอ่อนอีก มีความสามารถในการสังเกตที่ยอดเยี่ยม หากว่าให้เวลาอีกหน่อย เด็กคนนี้จะมีอนาคตสดใสมากเพียงใดกัน
“นี่เป็นเรื่องของครู เธอไม่ต้องยุ่ง ในหนึ่งปีนี้ เธอต้องมีจิตใจแน่วแน่ไม่ว่อกแว่ก รักษาคะแนนที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ไว้ อนาคตในวันข้างหน้าของเธอจะไร้ข้อจำกัด ฉันเคยดูภูมิหลังครอบครัวของเธอ ก็ค่อนข้างไม่ราบรื่น เธอต้องพยายามมุมานะหน่อย”
หยู่เหวินหวงตะลึงเล็กน้อย ภูมิหลังของครอบครัวค่อนข้างไม่ราบรื่น? มองออกได้ยังไง?
แต่ก็ไม่ราบรื่นจริงๆ ในครอบครัวมีตำแหน่งฮ่องเต้ตำแหน่งเดียว ก็วนตกทอดมาไม่ถึงเขา
“อันที่จริงในบ้านก็ไม่ได้นับว่าไม่ราบรื่นครับ” หยู่เหวินหวงกล่าว
“อืม ครูไม่ได้มีความหมายนี้” คุณครูจางรู้สึกว่าสมองของตัวเองเลอะเลือนแล้ว จิตใจของเด็กที่อายุเท่านี้ละเอียดอ่อนเป็นที่สุด โดยเฉพาะเด็กที่ครอบครัวยากจน
หลังจากที่รู้คะแนนของเด็กคนนี้ เขาถามหัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษา เอาเอกสารของเขามาดู รู้ว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้อยู่ข้างกาย คุณตาคุณยายเป็นผู้ปกครอง และหลังจากที่คุณตาคุณยายถึงอายุเกษียณแล้วก็ยังออกมาทำงานอีก น่าจะเพราะต้องเลี้ยงเขา
ความจริงคิดดูก็รู้ หากว่าพ่อแม่ไม่สามารถเป็นผู้ปกครองได้ และต้องให้คุณตาคุณยายเป็นผู้ปกครอง แบบนั้นถ้าพ่อแม่ไม่ได้เข้าคุก ก็หายตัวไปหรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุแล้ว
โดยสรุปก็คือเด็กที่น่าสงสารคนหนึ่ง
คุณครูจางเก็บความคิดไว้ “เอาล่ะ ไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว เธอก็ไปเก็บของย้ายไปห้องหนึ่งละกัน ครูอวยพรจากใจจริงว่าเธอจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในอุดมคติได้ อนาคตวันข้างหน้าไร้ขีดจำกัด”
หยู่เหวินหวงกลับส่ายศีรษะ “คุณครูจางครับ ผมไม่อยากไปห้องหนึ่ง ผมอยากอยู่ที่ห้องหกครับ”
คุณครูจางตกตะลึง “เพราะอะไร?”
“ผมคิดว่าห้องหกก็ดีมากนะครับ”
คุณครูจางพูดให้คำแนะนำจากใจจริง“ไม่ เธอไปห้องหนึ่งจะดีกว่านะ ห้องหนึ่งมีบรรยากาศการเรียนที่ดี ไม่ถ่วงรั้งเธอ เธอเรียนอยู่ห้องหกมาสองสามวันแล้ว ก็รู้ว่าสภาพของห้องนี้แทบจะละทิ้งไปครึ่งหนึ่ง เธออยู่ที่ห้องหกไม่ได้ ครูกลัวว่าจะทำให้เธอเสียเวลา”
หยู่เหวินหวงกล่าวด้วยความมั่นใจ“ไม่ครับ คะแนนของผมไม่ว่าจะอยู่ห้องหกหรือห้องหนึ่ง ก็จะไม่ลดลง นอกจากว่าคุณครูไม่ต้องการผม ไม่อย่างนั้น ผมจะไม่ไปห้องหนึ่ง”
คุณครูจางรีบกล่าว“โง่หรือ ครูจะไม่ต้องการเธอได้ยังไง? ครูหวังว่าเธอจะอยู่ที่ห้องหกจะตายไป แต่ครูกลัวว่าจะถ่วงรั้งเธอไว้ เธอฟังครูนะ ไปห้องหนึ่งเถอะ”
หยู่เหวินหวงส่ายศีรษะ “ไม่ไปครับ หากว่าครูจะให้ผมไปห้องหนึ่งให้ได้ และไม่ยอมให้ผมอยู่ที่ห้องหก งั้นผมจะย้ายโรงเรียน”
คุณครูจางอึ้งไปแล้ว หากว่าเขาย้ายโรงเรียน ครูใหญ่จะต้องกลืนเขาทั้งเป็นแน่
“เธอเด็กคนนี้ ผู้คนมีแต่จะไปในที่ที่สูงกว่า ทำไมเธอถึงจะต้องอยู่ที่ห้องหกล่ะ? ไม่ใช่ว่าครูไม่ต้องการเธอ ก็ทำเพื่อให้เธอได้ดีนะ”
“ผมต้องการจะอยู่ที่ห้องหกครับ” หยู่เหวินหวงพูดจบ ยืนขึ้นโค้งทำความเคารพต่อคุณครูจาง “ก็ตัดสินใจเช่นนี้แล้วกันครับ”
คุณครูจางมองดูเขาโค้งทำความเคารพแล้วเดินไปด้านนอก เรียกไว้ก็เรียกไม่อยู่ ถอนหายใจต่อเนื่องกัน
แน่นอนว่าเขาปรารถนาที่จะเอาคนไว้ที่ห้องหกใจจะขาด แต่เพียงเกรงว่าจะทำให้เด็กเสียเวลา
นักเรียนที่คะแนนดีขนาดนี้ ถูกทำลายลงในมือของเขาแล้วจะทำอย่างไร?
เขารีบไปหาหัวหน้าระดับชั้นฟาง บอกความต้องการของหยู่เหวินหวง
หลังจากที่หัวหน้าระดับชั้นฟางฟังจบ ก็มองดูคุณครูจาง หัวเราะเบาๆ “คุณครูจาง ความจริงคุณอยากเก็บคนไว้ ก็บอกกับครูใหญ่ดีๆก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดกับนักเรียนเป็นการส่วนตัวในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องพูด”
คุณครูจางตะลึง “นี่หมายความว่าอะไร? ผมให้กำลังเขามาโดยตลอด หวังว่าจะให้เขาย้ายห้อง”
“ใช่หรือ?” หัวหน้าระดับชั้นฟางยังคงหัวเราะเบาๆ “เอาเถอะ ในเมื่อเป็นความต้องการของนักเรียนหยู่เหวินหวงเอง งั้นฉันจะพูดกับครูใหญ่”
พูดจบ เขาก็หมุนตัวจากไป สีหน้าในขณะที่หมุนตัวพริบตานั้นก็หนักหน่วงลงมาแล้ว
คุณครูจางเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็นทั้งหัว นี่คือเข้าใจผิดแล้วหรือ?