บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1698 จัดการเรื่องบ้านเสร็จแล้วเดินทางกลับ
- Home
- บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์
- บทที่ 1698 จัดการเรื่องบ้านเสร็จแล้วเดินทางกลับ
ฉีดยายับยั้งเสร็จ ก็ต้องเตรียมตัวกลับไปแล้ว
และก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องซื้อๆ ตอนนี้หยู่เหวินเห้าชอบกิจกรรมแบบนี้มาก เพราะเมื่อกลับไปแจกของขวัญ พวกเขาล้วนต่างตื่นตาตื่นใจ
แต่ว่าก่อนที่จะซื้อของขวัญ ยังต้องนัดโพ่ตี้อวี้ออกมาทานข้าว
รู้มาจากเซเว่นอัพว่า ตอนนี้เขาเป็นผู้บริหารโรงเรียน และยังเปิดโรงอาหาร ต้องขอบคุณสิ่งที่เขาทำเพื่อเซเว่นอัพ
เมื่อโทรศัพท์หาโพ่ตี้อวี้ ทางด้านนั้นเสียงดังอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรนะ? ทานข้าว? ข้ามีเวลากินข้าวเสียที่ไหน? เจ้าไม่นัดข้าล่วงหน้าหนึ่งเดือนข้าจะมีเวลาไปหาพวกเจ้าหรือ? ปิดเทอมก่อน ปิดเทอมค่อยมาอีก ทุกวันอาทิตย์หลังจากนี้ข้ามีนัดเต็มแล้ว”
“งั้นตอนกลางคืนล่ะ? ตอนกลางคืนออกมาทานมื้อดึก” หยวนชิงหลิงพูดขึ้น
“ทานมื้อดึก? ข้าแก่จนอายุมากขนาดนี้แล้วเจ้าจะให้ข้าทานมื้อดึก? เจ้าเป็นหมอ ไม่รู้ว่าทานมื้อดึกไม่ดีสำหรับร่างกายคนแก่หรือ? ไม่กินไม่กิน”
“ได้ งั้นมีของขวัญให้ท่านหนึ่งอย่าง ขอบคุณท่าน…..”
“เอาของขวัญวางไว้หน้าโรงเรียน ข้าเลิกงานแล้วค่อยไปเอา ไม่คุยกับเจ้าแล้ว กับข้าวของข้าจะไหม้แล้ว เจ้าเด็กพวกนี้ กินเยอะมาก หากกับข้าวไหม้ก็จะไม่พอกินกันแล้ว เดี๋ยวพวกเขาก็จะมาตักกับข้าวแล้ว ไม่พูดแล้ว”
แล้วมือถือก็ถูกตัดสาย
หยู่เหวินเห้าได้ยินเสียงตะโกนของเขาผ่านทางโทรศัพท์ จึงพูดขึ้นว่า “เขาต้องทำกับข้าวด้วยตนเองหรือ? เขาทำกับข้าวเป็นหรือ?”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เขาทำกับข้าวอย่างมีความสุขมาก นักเรียนที่โรงเรียนก็คงจะชอบเขามาก หาเจอความรู้สึกที่ได้รับการยอมรับแล้ว”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ยังมีความชอบแบบนี้ด้วยหรือ?”
“หลายปีมานี้ถึงแม้เขาจะอยู่กับนายท่านใหญ่นายท่านสาม แต่ยังไงก็ไม่มีญาติพี่น้อง ตอนนี้เขาก็อยู่ที่นี่คนเดียว ต่อให้มีเพื่อนก็ชดเชยความรู้สึกเหงาในใจไม่ได้ อยู่กับพวกเด็กๆ เขารู้สึกมีความสุข งั้นก็เพียงพอแล้ว”
หยวนชิงหลิงขับรถเอาของขวัญไปไว้ที่ป้อมยามโรงเรียน ให้ยามเก็บไว้ให้กับผู้จัดการโพ่ จากนั้นก็พาเจ้าห้าไปช้อปปิ้ง
ในเมื่อคืนนี้นัดเจอโพ่ตี้อวี้ไม่ได้ จึงนัดเจอกับนักออกแบบ หลังจากบอกสิ่งที่ตนเองต้องการแล้ว ก็ให้พวกเขาไปออกแบบ ตอนที่ตกแต่งให้พี่ชายกับพ่อแม่มาช่วยดูก็พอ
เดิมพวกเขาอยากซื้อบ้านเพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันลำพังสองคน แต่เมื่อคิดถึงผู้อาวุโสทั้งสามอาจจะต้องมาอยู่ด้วย ดังนั้นตอนที่บอกถึงสไตล์ในการออกแบบ ก็มุ่งไปทางความคิดในสิ่งที่ผู้อาวุโสทั้งสามชอบ
สุดท้ายหลังจากคุยกันแล้วกว่าชั่วโมงครึ่ง นักออกแบบก็เข้าใจพร้อมพูดขึ้นว่า “ดังนั้น ต้องการออกแบบสไตล์จีนโบราณใช่ไหม?”
หยวนชิงหลิงอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “อ้อ ใช่”
ดูแบบเก่าแก่ก็ดี แบบนี้เมื่อพวกเขาออกไปเที่ยวแล้วกลับมาบ้าน ก็จะมีความรู้สึกคุ้นเคย
แต่เมื่อคิดดูอีกทีก็รู้สึกว่า หากเป็นแบบนี้ จะแตกต่างอะไรกับตอนที่พวกเขาอยู่จวนอ๋องซู่ล่ะ?
ในขณะที่ลังเล
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นว่า “ออกแบบแบบนี้ไปก่อน หากไม่ชอบ พวกเราค่อยซื้ออีกตึก”
นักออกแบบคิดในใจ อีกตึก? ร่ำรวยจริงๆ
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “อีกตึกเราไม่มีปัญญาซื้อ มากสุดก็สามารถซื้อได้อีกหลัง”
“บ้านของเรานับตามชุมชน บ้านเรือนในพื้นที่ทั้งหมด ล้วนเป็นของเรา ตึกหนึ่งของที่นี่ที่จริงก็พื้นที่ไม่มาก” หยู่เหวินเห้าเผยถึงความร่ำรวยอย่างลืมตัว
“คุณผู้ชายเป็นคนที่ไหนหรือ?” นักออกแบบถามขึ้น
“เมืองหลวง” หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น
นักออกแบบตกตะลึง สามารถซื้อทั้งชุมชนในเมืองหลวง จะมีเงินร่ำรวยมากมายขนาดไหน?
ขนาดโม้ยังสามารถโม้ได้ถึงขนาดนี้ คนอื่นจะไม่ตกตะลึงได้อย่างไร?
พรุ่งนี้พวกเขาก็จะกลับไปแล้ว ไม่มีเวลาทันได้เห็นภาพออกแบบแล้ว ดังนั้นหลังจากกลับไป ก็ให้พี่ชายช่วยออกความคิดเห็นบ้าง ไม่เหมาะสมตรงไหนก็เปลี่ยนแปลงเลย
หยวนชิงโจวฟังสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้วก็พูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ห้องรับแขกกับห้องนอนของพวกเขาให้เป็นแบบสไตล์จีน ห้องนอนของพวกเจ้าจะให้ออกแบบเป็นแบบไหน ออกแบบให้ทันสมัยหน่อยไหม?”
หยวนชิงหลิงรู้สึกค่อนข้างลำบากใจ ยังไงสามีของนางก็เป็นคนโบราณคนหนึ่ง จึงพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้ เอาเหมือนพวกเขาแหละ ในห้องของข้าต้องมีอ่างอาบน้ำ อันนี้ขาดไม่ได้”
เจ้าห้าชอบแช่อ่าง ตอนที่อยู่ในวังก็ชอบไปแช่บ่อน้ำพุร้อนอย่างมาก
เรื่องบ้าน ยกให้หยวนชิงโจวช่วยจัดการ บอกลาทุกคนแล้วก็เดินทางกลับบ้าน