บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1716 คนแก่ที่ไม่ให้ความร่วมมือ
หยวนชิงหลิงเห็นสวีอีนอนหลับอยู่บนเตียงอรหันต์ เจ้าห้าชู่เสียงหนึ่ง ลุกขึ้นจูงมือนางออกไป กดเสียงลงต่ำ “เราไปตำหนักด้านข้างกันเถอะ เขาเมาแล้ว ให้เขานอนสักพัก ”
“ได้!” หยวนชิงหลิงหัวเราะ หันกลับไปมองสวีอีอีกที อายุเท่าไรแล้ว? นอนยังน้ำลายยืดอยู่อีก
ทั้งสองถึงตำหนักด้านข้าง คนในวังรีบเปิดช่องตี้หลง (*ท่อไฟใต้ดิน เพิ่มความอบอุ่นในห้อง) ให้อบอุ่น แล้วยกซุปมาให้หยวนชิงหลิงขับไอหนาว
“ตรวจเสร็จแล้วหรือ? ให้ความร่วมมือดีไหม?” หยู่เหวินเห้าเอ่ยถาม
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า ยิ้มเจื่อนเอ่ย “จะให้ความร่วมได้อย่างไร? พระชายาเฟิงอันตะคอกจนเสียงจะแหบอยู่แล้ว พวกเขาก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะหัวหน้าองครักษ์เงาดำ เอาแต่สร้างความวุ่นวาย แค่วัดความดันเลือดเขาก็เอาแต่หนี บอกว่าวัดแล้วจะถูกห้ามกินเนื้อ”
“ฮ่าๆๆ วัดแล้วห้ามกินเนื้อ เช่นนี้เขาก็รู้อยู่แก่ใจ รู้ว่าตัวเองความดันสูง”
“จะไม่รู้ได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ก็เคยวัด ความดันเลือดค่อนข้างสูงไปหน่อย ให้เขาลดอาหารเนื้อลง กินผักให้มาก ตั้งแต่นั้นมาเจอข้าทีไรเขาก็เป็นหลบทุกที” หยวนชิงหลิงรู้สึกตลกมาก
“เช่นนั้นวันนี้เขาวัดแล้วหรือยัง?”
“ยัง หนีไปแล้ว อะไรก็ไม่ได้ทำทั้งนั้น พรุ่งนี้ต้องจับตัวเขาให้ได้เชียว” หยวนชิงหลิงเอ่ย
หยู่เหวินเห้าเอ่ย “พรุ่งนี้อย่างไรข้าก็ไม่มีงาน ข้าไปช่วยเจ้าจับแล้วกัน”
ความแฝงย่อมเพราะไม่อยากถูกทิ้งไว้อีก ไปจวนอ๋องซู่ทางนั้นคึกคัก มีคนมาก ตอนนี้เด็กๆ ไปเล่นสนุกตามจวนอ๋องชินต่างๆ ไม่คิดถึงเขาสักนิด
“วันนี้เบื่อมากหรือ?” หยวนชิงหลิงดื่มซุป พิงอยู่ข้างตัวเขา นวดข้อมือ จับคนจับจนปวดข้อมือไปหมดแล้ว
“ไม่ถือว่าน่าเบื่อ ดื่มเหล้ากับสวีอีก็อ่อนคลายอยู่มาก อีกอย่างก็ไม่ได้พูดกับเขานานแล้ว แต่พูดวันเดียวก็พอ หากยังต้องอยู่กับเขาอีกวัน ข้าได้บ้าแน่”
สวีอีจัดเป็นพวกที่หากไม่เห็นก็จะคิดถึง เห็นแล้วก็ให้รู้สึกหงุดหงิด
“ก็ได้ พรุ่งนี้พาเจ้าไปด้วย เจ้าไปจัดการหัวหน้าองครักษ์เงาดำ ” หยวนชิงหลิงหัวเราะ อยู่กับสวีอีบ่อยๆ ไม่ได้จริงๆ
ถ้าเทียบกับหัวหน้าองครักษ์เงาดำแล้ว สวีอีก็ถึงว่าเป็นคนปกติจริงๆ
นิสัยของหัวหน้าองครักษ์เงาดำ แหวกแนวไปไกลแสนแปดพันโยชน์ ไม่อาจรู้ได้จริงๆ ว่าปากเขาจะพูดอะไร
หยู่เหวินเห้าลูบหมัดลูบกำปั้น “ข้าจัดการเอง”
“วรยุทธ์เขาสูง แล้วยังลงมือจริงอีก เจ้าต้องระวังหน่อย” หยวนชิงหลิงกำชับ
“วางใจเถอะ ข้าต้องจับกุมเขามาได้แน่” หยู่เหวินเห้าหัวเราะพลางเอ่ย
รอดสักที
กระทั่งอะซี่พาลูกเข้าวัง ตีเขาตื่นแล้ว เขาถึงกลับห้องอย่างมึนๆ งงๆ
วันถัดมา ขณะที่สองสามีภรรยาออกเดินทางก็พาสวีอีไปด้วย ให้เขาไปช่วยงาน
จินตนาการมักสวยงามเสมอ แต่ความจริงก็โหดร้ายเสมอเช่นกัน
ก็แค่การตรวจร่างกาย ทำจนจวนอ๋องซู่ไก่เตลิดสุนัขวิ่งพล่าน
หากเป็นยามทำงาน องครักษ์ทั้งสามกลุ่มก็จะฟังคำสั่ง แต่เวลาส่วนตัวจวนอ๋องซู่ไม่มีกฎระเบียบ ไม่แบ่งนายหรือองครักษ์ เพราะล้วนผ่านความยากลำบากที่สุดมาด้วยกัน ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์นายกับองครักษ์เท่านั้น
ดังนั้น แม้อ๋องชินเฟิงอันและพระชายาจะบอกว่าทุกคนต้องตรวจร่างกาย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อฟังจริงจัง
พวกเขาไม่ได้หนีออกจากจวน เพราะช่วงปีใหม่ในจวนย่อมมีหมูเห็ดเป็ดไก่ไม่น้อย พวกเขาหากกินน้อยไปมื้อหนึ่งก็จะรู้สึกเสียเปรียบหนัก
หยู่เหวินเห้ารับผิดชอบจับหัวหน้าองครักษ์เงาดำโดยเฉพาะ
อย่าเห็นว่าเฒ่าทารกอายุเยอะ วรยุทธ์กลับเยี่ยมยอด ร่างกายพลิ้วไหว วิชาตัวเบาก็ดี เหาะพล่านทั่วจวน หยู่เหวินเห้าจับเขาได้หลายครั้ง แต่เขากลับหนีไปได้
หยู่เหวินเห้าจึงเกิดใจนึกสนุกขึ้นมา เริ่มเพิ่มความเร็ว ไม่ว่าหัวหน้าองครักษ์เงาดำจะหลบตรงไหน เขาก็ตามไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ทำจนหัวหน้าองครักษ์เงาดำแทบจะสติแตก ตะโกนโพล่งออกมา “กระหม่อมหนีมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ไปวัดความดันอะไรนั่นก็ต้องสูงแน่ ถึงตอนนั้นก็จะใช้เป็นข้ออ้างไม่ให้กระหม่อมกินเนื้ออีก ใจไม้ไส้ระกำยิ่งนัก!”
หยู่เหวินเห้าไม่สนใจว่าเขาจะพูดอะไร จับข้อมือเขาแล้วพาไปที่ชานเรือนหลัก