บัลลังก์หมอยาเซียน / ยอดหมอยา ชายาอ๋องเจ้าเล่ห์ - บทที่ 1722 เซอร์ไพรส์ที่ลูกนำมาให้
เมื่อเธอกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้าน เธอไม่กลับไปนอนที่ห้อง แต่ไปเกาะคุณพ่อคุณแม่แจ นั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นแทน
อันที่จริงคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่ชอบดูละครเหมือนกัน แต่การที่ทั้งครอบครัวได้มานั่งกองนั่งเบียดรวมกันบนโซฟา มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและสบายใจมากจริง ๆ
พวกเขาต่างรู้ดีว่า วันเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับลูกสาวนั้นมักจะสั้นเสมอ ดังนั้น พวกเขาจึงใช้เวลาร่วมกันอย่างรู้คุณค่าและทะนุถนอมทุกวินาที
ที่บ้านจะเตรียมผลไม้สดเอาไว้มากมาย ทางนั้นไม่ว่าอะไรก็ดีทุกอย่าง เสียอยู่แค่ผลไม้มีไม่มากเท่าที่นี่ บวกกับสดใหม่กว่าทางนั้นมาก
ศาสตราจารย์หยวนปอกเปลือกส้มด้วยตัวเอง แล้ววางลงบนจานทีละชิ้น ๆ เป็นการบังคับกลาย ๆ ให้ลูกสาวกินให้หมด
นอกจากนี้ยังมีพุทราฤดูหนาว ซึ่งก็ต้องกินให้หมดเช่นกัน
“ยังอิ่มอยู่เลยอ่ะค่ะ” หยวนชิงหลิงเอนตัวไปพิงไหล่คุณแม่ พลางพูดอย่างออดอ้อน
“ต้องกินนะ วันนี้อากาศหนาว ส้มกับพุทราฤดูหนาวมีวิตามินซีสูง รีบกินเร็วเข้า” ศาสตราจารย์หยวนสั่งอย่างเข้มงวด
“มือหนูเหยียดไปไม่ถึงอ่ะ!”
“โตขนาดนี้แล้วยังจะอ้อนเป็นเด็ก ๆ อีก อายเขามั้ยเนี่ย? ” แม่หยวนหยิบส้มขึ้นมาด้วยมือตัวเอง แล้วเอามาป้อนให้ถึงปากของเธอ “กินซะ!”
หยวนชิงหลิงอ้าปากกัดส้มกลีบนั้น รสหวานอมเปรี้ยวกระจายอยู่ในปาก ช่างเหมือนกับอารมณ์ของเธอในตอนนี้จริง ๆ
เธอลุกขึ้นนั่ง มือยกถาดใส่ผลไม้ขึ้นมา แล้วป้อนส้มให้พ่อกับแม่คนละชิ้น ” พ่อกับแม่ก็ต้องกินเหมือนกันนะคะ!”
“ได้ ๆ !” ศาสตราจารย์หยวนกับแม่หยวนยิ้มยินดี ต่างพร้อมใจกันกินส้ม ส้มลูกหนึ่งเดิมทีก็มีอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น แน่นอนว่าถ้าคนกินหลายคนย่อมไม่พอ ทันใดนั้นศาสตราจารย์หยวนก็รีบปอกเปลือกส้มอีกครั้งอย่างมีความสุข
ช่วงเวลาบนโซฟาเหมือนจะเงียบสงบลงมาก ทำให้หยวนชิงหลิงยิ่งรู้สึกอาลัยอาวรณ์หนักกว่าเดิม ทุกครั้งที่กลับมา มักจะมีธุระที่ต้องรีบร้อนไปจัดการอยู่เสมอ น้อยมากจริง ๆ ที่จะมีเวลาได้นั่งดูทีวีเงียบ ๆ ด้วยกันแบบนี้
เธอตัดสินใจว่าถ้ากลับมาครั้งหน้า เธอจะไม่ทำอะไรอย่างอื่นเลย แค่จะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนพวกท่าน พาพวกท่านไปเที่ยว พาพวกท่านออกไปกินข้าว พาพวกท่านไปเดินเล่น ไปปีนเขา
ทำตัวเป็นลูกสาวที่กตัญญูสักครั้ง
หลังจากเพลิดเพลินกับความสุขในครอบครัวได้ครู่หนึ่ง พี่ชายก็กลับมา
“เป็นยังไงบ้างคะ?” หยวนชิงหลิงถามทันที
หยวนชิงโจวยิ้มจนกรามแข็งค้าง ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เอื้อมมือออกไปลูบหัวอีกฝ่าย “เฮ้อ ได้แต่ยิ้มรับแขกตลอดเลยน่ะสิ ยิ้มจนเหงือกแห้ง มีคนเข้ามาขอคำแนะนำเป็นพะเร้อเกวียนเลยล่ะ ถามว่าครอบครัวของเราวิธีการอบรมสั่งสอนลูก ๆ หลาน ๆ ยังไง ชื่นชมสรรเสริญเด็ก ๆ บ้านเราซะจนแทบจะลอยขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้าเหนือพิภพโลกาโน้นแน่ะ พี่ล่ะกลัวคำเยินยอนี้จะเป็นดาบสองคมย้อนกลับมาฆ่าเด็ก ๆ ซะจริง ๆ เลย ”
“จริงเหรอคะ? แต่ตอนที่หนูไปที่นั่น ก็ไม่เห็นมีอะไรแบบนั้นเลยนะ” หยวนชิงหลิงรู้สึกแปลกใจมาก เพราะในชั้นเรียนจรวด เกรดของนักเรียนทุกคนล้วนดีมาก เดิมทีโรงเรียนของพวกเขาเป็นโรงเรียนที่เน้นให้ความสำคัญกับระดับมัธยมปลาย โดยพื้นฐานแล้วเรียกได้ว่าไม่มีคนที่เรียนแย่เลย
“จริง ๆ นะ พี่ไม่โกหกเธอหรอก” หยวนชิงโจวกำมือเป็นหมัดแล้วยกขึ้นมานวด ๆ ถู ๆ ที่แก้ม พ่อแม่พวกนั้นน่ากลัวจริง ๆ
“ก่อนหน้านี้ฉันเคยไปเข้าร่วมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรกับพ่อแม่ ผู้ปกครองคนอื่น ๆ แถมพวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทางแปลกใจกับคะแนนของโค้กเป็นพิเศษด้วย”
“หรือจะเป็นเพราะว่า โค้กชนะได้เหรียญทองคณิตศาสตร์โอลิมปิกสากลในภาคเรียนที่แล้วหรือเปล่า?” ศาสตราจารย์หยวนถาม
“ครับ มีคนบอกแบบนี้อยู่” หยวนชิงโจวตอบ
แต่หยวนชิงหลิงกลับเป็นฝ่ายตกตะลึงแทน “ได้เหรียญทอง? ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยล่ะ?”
“ไม่ได้บอกหรอกเหรอ?” แม่หยวนยิ้มแย้ม “ตัวเขาเองไม่ค่อยสนใจนักหรอก ในตอนนั้นเขากลับประเทศมาพร้อมกับเหรียญทอง เราบอกว่าต้องออกไปฉลองกันหน่อย เขากลับบอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องฉลองซักนิด”
หยวนชิงหลิงตกตะลึงพรึงเพริศมาก “สวรรค์ เขาน่าทึ่งเกินไปแล้ว เขาเพิ่งจะเรียนม.หก ทั้งยังไม่ได้ไปโรงเรียนมาหลายปีแล้วด้วย แถมผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ต่างก็มาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทั้งนั้นเลยด้วย สวรรค์โปรดแท้ ๆ”
หยวนชิงหลิงรู้ว่าพวกเขาฉลาด แล้วก็รู้ด้วยว่าพวกเขามีพลังเหนือธรรมชาติ แต่กลับไม่รู้ว่า IQ ของพวกเขาจะสูงมากขนาดนี้ นี่เรียกว่าเป็นอัจฉริยะเลยจริง ๆ
“พวกเราทุกคนต่างก็รู้ ต่างก็ประหลาดใจ แต่ตัวเขาเองดูจะไม่ค่อยสนใจอะไรนัก บอกแค่ว่าคว้ามาได้ง่าย ๆ”
หยวนชิงหลิงเดาะลิ้น ง่าย ๆ งั้นเหรอ ? สิ่งนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าง่ายเลยซักนิด
“หนูจะโทรหาเขา!” หยวนชิงหลิงปรายตามองดูเวลา ตอนนี้น่าจะยังไม่กลับหอพัก ยังโทรไปไม่ได้
ด้วยสภาวะอารมณ์ที่ยังตื่นเต้นมาก เหมือนกับพ่อแม่ทุกคน เมื่อไหร่ที่ลูกของตัวเองได้รับรางวัล มันจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นและภูมิใจมาก ถึงขั้นอยากจะกระโดดโลดเต้นขึ้นมาเลยจริง ๆ
รอจนถึงเวลาเลิกเรียน หยวนชิงหลิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วโทรไปที่หอพักของเขา รอจนโค้กมารับสาย เธอก็ถามอย่างตื่นเต้นว่า “โค้ก ลูกได้รางวัลทำไมไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะ? พ่อของลูกรู้เข้าจะต้องดีใจแทบตายแน่ ๆ เลย”
โค้กหัวเราะพลางพูดกับคนปลายสายว่า “แม่ครับ ในชีวิตผมทั้งชีวิต จะไม่ได้มีแค่เหรียญนี้เหรียญเดียว แล้วก็จะไม่แค่คว้าแชมป์จากรายการนี้รายการเดียวด้วย ดังนั้น มันไม่ได้คุ้มกับการเซอร์ไพรส์อะไรมากมายจริง ๆ นะ”
หยวนชิงหลิงตื่นเต้นซะจนอยากร้องไห้ออกมาให้ได้แล้ว ทำไมเขาถึงสงบจิตสงบใจได้ขนาดนี้นะ?